【รวมรวม 47 จังหวัดของญี่ปุ่น: อาโอโมริ】ชาวอาโอโมริมีน้ำอดน้ำทนและชอบกินหวาน! ลักษณะเฉพาะของชาวจังหวัดที่บ่มเพาะในพื้นที่ที่เคยมีหิมะมากที่สุดเป็นเช่นไร?

ญี่ปุ่นมีทั้งหมด 47 จังหวัด

เช่นเดียวกับที่ภูมิทัศน์เมือง กิจกรรม และของอร่อยก็แตกต่างกันไปตามภูมิภาค ลักษณะจำเพาะของคนในท้องถิ่นก็แตกต่างกันไป ในซีรี่ส์นี้ เราจะเจาะลึกถึงสถานการณ์ในท้องถิ่นของแต่ละจังหวัดโดยแนะนำเสน่ห์ของแต่ละจังหวัดและสิ่งที่มีอยู่ในท้องถิ่นมาให้ทราบกันค่ะ ในครั้งนี้เราจะมาโฟกัสกันที่จังหวัดอาโอโมริในภูมิภาคโทโฮคุ ด้วยสถานที่ท่องเที่ยวมากมายให้ชมและกิจกรรมให้ทำ เช่น สวนฮิโรซากิ ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องดอกซากุระ เทศกาลเนบุตะในฤดูร้อน ไปจนถึงลำธารโออิราเสะและทะเลสาบโทวาดะที่สวยงาม มาเรียนรู้เกี่ยวกับอาโอโมริดังกล่าวด้วยกันในบทความนี้ค่ะ!

"จปปาริ" (หัวแข็ง) เป็นคำสำเนียงสึการุ! ลักษณะของชาวจังหวัดแบ่งออกเป็นสามพื้นที่: สึการุ นัมบุ และชิโมคิตะ

จังหวัดอาโอโมริตั้งอยู่ทางตอนเหนือสุดของภูมิภาคโทโฮคุ แบ่งออกเป็น 3 พื้นที่คร่าว ๆ ได้แก่ พื้นที่ทางตะวันตก "สึการุ" รวมถึงอำเภออาโอโมริ พื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือ "ชิโมคิตะ" ซึ่งรวมถึงคาบสมุทรชิโมคิตะที่มีรูปร่างคล้ายขวาน และพื้นที่ทางใต้ "นันบุ" ซึ่งรวมถึงลำธารโออิราเสะและทะเลสาบโทวาดะ แต่ละพื้นที่ก็มีภาษาถิ่นและลักษณะเฉพาะของตนเองค่ะ

เนื่องจากอำเภอฮิโรซากิซึ่งเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในด้านการผลิตแอปเปิ้ลและเป็นที่ตั้งของสวนฮิโรซากิ หนึ่งในสามจุดชมซากุระที่สำคัญของญี่ปุ่น ก็อยู่ในพื้นที่ทางตะวันตกเช่นกัน ดังนั้นเวลาพูดถึง "ลักษณะเฉพาะของชาวจังหวัดอาโอโมริ" จึงเป็นที่เชื่อกันทั่วประเทศว่าคุณลักษณะหลายอย่างที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของผู้คนในพื้นที่สึการุนั้นเป็นจริงสำหรับชาวอาโอโมริไปทั้งหมด จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่คนในพื้นที่ชิโมคิตะและนันบุจะค้านว่า "ไม่จริง! ค่ะ"

ตัวอย่างเช่น คำว่า "จปปาริเซชิน" (じょっぱり精神 / Joppari seishin - 'ดื้อรั้น', 'หัวแข็ง') มักใช้เพื่ออธิบายลักษณะเฉพาะของชาวอาโอโมรินั้น ความจริงแล้ว "จปปาริ" เป็นคำในสำเนียงสึการุที่แปลว่าคนหัวรั้น และลักษณะเฉพาะของชาวสึการุก็คือ "จปปาริ" นั่นเองค่ะ

นอกจากนี้ ชาวสึการุยังกล่าวกันว่ามีลักษณะจำเพาะอย่าง "ชอบความฉูดฉาด" "ชอบดูแล" และ "ร่าเริง" ลักษณะเฉพาะดังกล่าวจะยิ่งน่าเชื่อถือเป็นพิเศษหากคุณพิจารณาเครื่องเล่นพิณสามสาย สึการุชามิเซ็น (津軽三味線 / Tsugaru shamisen) ซึ่งผสมผสานลักษณะของเครื่องสายและเครื่องเคาะเข้าด้วยกันและมีโทนเสียงที่ทรงพลัง กับความเอาจริงเอาจังที่มีต่องานเทศกาลที่จัดขึ้นในสถานที่ต่าง ๆ ในพื้นที่สึการุค่ะ!

ในทางกลับกัน ชาวนัมบุมักจะเงียบและค่อนข้างขี้อาย แต่เมื่อเปิดใจให้ใครสักคนแล้ว ก็จะถือว่าคน ๆ นั้นเป็นเพื่อนคนสำคัญเลยค่ะ นอกจากนี้ ชาวสึการุนั้นมีจิตวิญญาณชอบความท้าทายอย่างมาก ในหลายกรณีก็เป็นฝ่ายเสนอตัวเข้าไปเองทั้งในด้านการทำงานและชีวิตส่วนตัว ในขณะที่ชาวนัมบุมักมีทัศนคติในการรอมากกว่าการเสนอตัวเข้าไปเอง โดยมักจะพยายามทำการต่าง ๆ โดยมองสถานการณ์และความสมดุลของคนรอบตัวก่อน ด้วยเหตุนี้ ชาวนัมบุจึงได้รับการกล่าวขานว่าทำธุรกิจเก่งมาเป้นเวลานาน เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ บริษัทที่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในอำเภอฮาชิโนเฮะ (ในพื้นที่นัมบุ) หลายแห่งได้ขยายสาขาไปสู่ส่วนต่าง ๆ ของภูมิภาคโทโฮคุ อย่างเช่น SUNDAY Co., Ltd. ซึ่งมีร้านสาขาถึง 112 แห่งใน 6 จังหวัดในภูมิภาคโทโฮคุ และ Universe Co. , Ltd. ซึ่งดำเนินธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตในอาโอโมริ อิวาเตะ และอาคิตะค่ะ

เมื่อคุณนึกถึงจังหวัดอาโอโมริ คุณอาจนึกถึงสึการุและนัมบุ แต่อย่าลืม "ชิโมคิตะ" ด้วยนะคะ ชาวชิโมคิตะมีทั้งบุคลิกแบบสึการุและบุคลิกที่เป็นมิตรแบบนัมบุ แม้ว่าพวกเขาจะร่าเริงและตื่นเต้นมากในการพบปะกับคนในท้องถิ่น แต่พวกเขาก็ค่อนข้างขี้อายและเงียบเมื่อพูดคุยกับคนอื่นที่ไม่ใช่คนรู้จักค่ะ

จังหวัดอาโอโมริเป็นจังหวัดที่ผลิตประธานบริษัทหญิงมากมาย! เป็นเพราะอายุขัยของผู้ชายสั้นหรือเปล่า?

ลักษณะจำเพาะอย่างหนึ่งของชาวอาโอโมริคือสถานะทางสังคมที่สูงของผู้หญิง ในความเป็นจริงแล้ว ตั้งแต่ปี 1990 ถึง 2010 อาโอโมริมีอัตราส่วนประธานบริษัทเพศหญิงในญี่ปุ่นสูงที่สุด ณ เดือนเมษายน 2021 อัตราส่วนของประธานบริษัทเพศหญิงของจังหวัดอาโมโมริคือ 10.9% ซึ่งเป็นอันดับ 3 รองจากโอกินาว่าที่มี 11.4% และโทคุชิมะที่มี 11.3%! ซึ่งก็อยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับมาตรฐานเฉลี่ยของทั้งประเทศที่ 8.1% (อ้างอิง: Teikoku Databank, “สัดส่วนของประธานบริษัทเพศหญิงแยกตามจังหวัดในปี 2021”)

ในจังหวัดที่มีประธานบริษัทหญิงหลายคนนี้ ผู้คนมักจะใช้วลีที่แสดงเจตจำนงอันแรงกล้าและการทำงานหนัก เช่น "สตรีสึการุพูดสิ่งที่คิดอย่างชัดเจน" และ "สตรีนัมบุนทำงานหนัก" อย่างไรก็ตาม ว่ากันว่าเปอร์เซ็นต์ที่สูงของประธานบริษัทเพศหญิงนี้เกี่ยวข้องกับอายุขัยที่สั้นของผู้ชายค่ะ

ตาม "แนวโน้มอายุขัยเฉลี่ย (ผู้ชาย)" ในตารางอายุขัยเฉลี่ยของจังหวัดที่รวบรวมทุก ๆ 5 ปีโดยกระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการ ตั้งแต่ปี 1965 ถึง 2015 อายุขัยเฉลี่ยของผู้ชายในอาโอโมรินั้นสั้นที่สุดในญี่ปุ่น และต่ำที่สุดสำหรับค่าเฉลี่ยของทั้งชายและหญิง จากข้อมูลปี 2015 อายุขัยเฉลี่ยของผู้ชายอยู่ที่ 78.67 ปี ซึ่งสั้นกว่าของผู้หญิงที่อายุ 85.93 ปีไปถึง 7.26 ปี เป็นผลให้มีสัดส่วนการสืบทอดกิจการในตระกูล โดยพ่อหรือสามีที่เป็นประธานบริษัทเสียชีวิต และลูกสาวหรือภรรยารับช่วงต่อ สูงกว่าจังหวัดอื่นค่ะ ตามข้อมูลของ "พื้นที่การแต่งตั้งสตรีขึ้นรับตำแหน่ง (โดยรวม ปี 2021)" ของ Teikoku Databank อัตราส่วนการสืบทอดกิจการในครอบครัวทั่วประเทศอยู่ที่ 50.8% ในขณะที่อาโอโมริอยู่ที่ 62.4% ซึ่งสูงกว่าทั้งประเทศมากกว่า 10% ค่ะ

เคยเป็นพื้นที่ที่มีหิมะตกหนักที่สุดในโลก!? สมบัติศักดิ์สิทธิ์สามอย่างประจำฤดูหนาวในอำเภออาโอโมริคืออะไร?

เคยเป็นพื้นที่ที่มีหิมะตกหนักที่สุดในโลก!? สมบัติศักดิ์สิทธิ์ 3 อย่างประจำฤดูหนาวในอำเภออาโอโมริคืออะไร?

ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2021 มีการวัดค่าปรืมาณหิมะที่มีความสูงมากกว่า 1 เมตร (สูง 111 ซม.) ซึ่งทำลายสถิติหิมะตกหนักในเดือนธันวาคมเป็นครั้งแรกในรอบ 37 ปี ในปีถัดมาในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2022 มีการวัดค่าปริมาณหิมะสูงถึง 146 ซม. ที่ทำลายสถิติอีกครั้งในอำเภออาโอโมริ! ในความเป็นจริงแล้ว จากการสำรวจพื้นที่ที่มีหิมะตกหนักโดยสื่อข้อมูลสภาพอากาศ "AccuWeather" ในสหรัฐอเมริกา พื้นที่บางส่วนของอาโอโมริเคยได้รับการจัดอันดับให้เป็นที่หนึ่งของโลกสำหรับ "ปริมาณหิมะประจำปีในเมืองที่มีประชากร 100,000 คนขึ้นไป" ค่ะ

หิมะที่ตกหนักอาจทำให้เกิดความไม่สะดวกเพียงเล็กน้อยสำหรับทริประยะสั้น แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับหิมะที่ทับถมกันบนหลังคามากกว่า 1 เมตรและมีกำแพงหิมะปรากฏขึ้นทั่วเมือง มันก็สามารถรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันได้เลยค่ะ

ด้วยเหตุผลนี้ ชาวเมืองอาโอโมริจึงมีสมบัติศักดิ์สิทธิ์สามชิ้นในบ้านเพื่อช่วยพวกเขาในฤดูหนาว เหล่านี้คือ "สโนว์ดัมป์" "แปรงหิมะ" และ "รองเท้าบูท" ค่ะ

สมบัติศักดิ์สิทธิ์สามอย่างสำหรับจังหวัดอาโอโมริเพื่อเอาชีวิตรอดในฤดูหนาว

① สโนว์ดัมป์

ในพื้นที่โทโฮคุ สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือเครื่องมือตักหิมะที่คุ้นเคย “สโนว์ดัมป์” (スノーダンプ / Snow Dump) ซึ่งเป็นคำอังกฤษแบบภาษาญี่ปุ่นสำหรับที่โกยหิมะแบบสองมือคล้ายรถเข็น เรียกอีกอย่างว่า "ที่โกยแม่บ้าน" (ママさんダンプ / Mama-san dump)

ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากว่ามักจะใช้เวลานานเกินไปในการกวาดหิมะด้วยพลั่วแบบธรรมดา ดังนั้นการใช้เท้าดันที่โกยหิมะลงในกองหิมะแล้วโกยหิมะขึ้นมาจึงสะดวกกว่าค่ะ ที่โกยหิมะนี้ใช้ทั้งร่างกายจึงสามารถกวาดหิมะจำนวนมากได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่าค่ะ

② แปรงหิมะ

"แปรงหิมะ" ที่ช่วยกำจัดหิมะที่สะสมอยู่บนรถเป็นหนึ่งในสิ่งของที่ต้องมีติดรถในช่วงฤดูหิมะในจังหวัดอาโอโมริ ซึ่งเป็นเมืองที่ต้องใช้รถยนต์กันมากค่ะ

③ รองเท้าหิมะ/รองเท้าบูท

ในช่วงฤดูหนาว ถนนในจังหวัดอาโอโมริมักถูกปกคลุมไปด้วยหิมะหรือน้ำแข็ง ทำให้รองเท้าบูทกันหิมะเป็นอีกสิ่งที่จำเป็น

หากคุณเดินโดยสวมแค่รองเท้าผ้าใบที่ไม่กันน้ำ มีความเสี่ยงที่ด้านในรองเท้าของคุณจะเปียกโชกไปด้วยหิมะที่ละลายก็มาก หรือคุณอาจลื่นไถลไปบนพื้นถนนที่เป็นน้ำแข็ง จึงขอแนะนำอย่างยิ่งหากคุณจะไปอาโอโมริในฤดูหนาว อย่าลืมนำรองเท้าพิเศษติดมาด้วยค่ะ

โอเซกิฮังเอยไข่ตุ๋นชาวังมุชิเอย... อาหารรสหวานของอาโอโมรินอกเหนือจากพายแอปเปิ้ล

อาหารที่รับประทานเพื่อฉลองโอกาสพิเศษต่าง ๆ ในจังหวัดอาโอโมริ อาหารรับรองมักจะมีรสหวาน ตัวอย่างเช่น "โอเซกิฮัง" คือข้าวเหนียวที่หุงด้วยถั่วอะซูกิและส่วนผสมอื่น ๆ ทำให้มีสีแดง

มีหลายทฤษฎีว่าทำไมการปรุงรสของอาหารต่าง ๆ จึงเน้นให้มีรสหวานค่ะ ทฤษฎีหนึ่งกล่าวว่าน้ำตาลซึ่งเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยราคาแพงในสมัยก่อน ถูกนำมาใช้เพื่อสร้างสรรค์อาหารที่แสดงถึงจิตวิญญาณของการเลี่ยงดูปูเสื่ออย่างจริงใจค่ะ ดังนั้นความใจดีของชาวอาโอโมริจึงเต็มไปด้วยรสหวานค่ะ

นอกจากโอเซกิฮังแล้ว อินาริซูชิและชาวังมุชิ (ไข่ตุ๋น) ก็มีรสหวานเช่นกัน อินาริซูชิของอาโอโมริเต็มไปด้วยขิงดองแดงและข้าวสีชมพู มีสีน่ารักที่เหมาะสำหรับการชมดอกซากุระ อาจเป็นเพราะลักษณะเฉพาะของจังหวัดที่ต้องการเพลิดเพลินไปกับรูปลักษณ์และรสชาติพร้อมกันด้วยก็เป็นได้ค่ะ

ชาวังมุชิแบบอาโอโมริใส่เกาลัดหวานแทนแปะก๊วยทั่วไป เนื่องจากน้ำเชื่อมที่มี 'kanroni' (甘露煮 - อาหารต้มรสหวาน) รวมอยู่ในขั้นตอนการปรุงด้วย มันจึงเหมือนของหวานมากกว่าอาหารคาวค่ะ อย่างไรก็ตาม มันยังมีส่วนผสมคาวทั่วไปอย่างเช่นไก่และเห็ดชิทาเกะ ดังนั้นจึงดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยถูกปากใครหลายคนที่มาจากนอกจังหวัดอาโอโมริค่ะ

บางคนอาจรู้สึกว่าอาหารรับรองที่ปรุงรสหวานนั้น "ไม่เหมาะกับฉัน" แต่จากมุมมองของชาวจังหวัดอาโอโมริแล้ว หากกินโอเซกิฮัง ชาวังมุชิ หรืออินาริซูชิที่ไม่หวานแล้ว ก็อาจจะรู้สึกเหมือนว่าขาดอะไรสักอย่างอย่าง เช่น "ไม่มีรสชาติเลย! " หรือ "รู้สึกเหมือนยังไม่ได้กินอะไรเลย!" ค่ะ

หากมีโอกาสมาเยือนอาโอโมริ คุณก็ควรไปลิ้มลองอาหารท้องถิ่นที่หาได้ยากในญี่ปุ่นซึ่งเต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งการเลี้ยงดูปูเสื่อของชาวอาโอโมริดูให้ได้ค่ะ!

"จปปาริ" (หัวแข็ง) เป็นคำสำเนียงสึการุ! ลักษณะของชาวจังหวัดแบ่งออกเป็นสามพื้นที่: สึการุ นัมบุ และชิโมคิตะ

จังหวัดอาโอโมริเป็นจังหวัดที่ผลิตประธานบริษัทหญิงมากมาย! เป็นเพราะอายุขัยของผู้ชายสั้นหรือเปล่า?