“โตเกียว 2025 เดฟลิมปิก” (Tokyo 2025 Deaflympics) ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15 พฤศจิกายน ถึง 26 พฤศจิกายน 2025 (การแข่งขันฟุตบอลจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 14) เป็นเทศกาลกีฬาที่นักกีฬาที่มีความบกพร่องทางการได้ยินหรือได้ยินไม่ชัดจากทั่วโลกจะมารวมตัวกันและแข่งขันกันอย่างดุเดือดที่โตเกียว
แต่หลายคนอาจสงสัยว่า เดฟลิมปิกคืออะไร? สำหรับผู้ที่มีข้อสงสัยนี้ เราจะมาอธิบายประวัติของเดฟลิมปิก นักกีฬาที่น่าจับตามอง และวิธีการเชียร์ที่ควรรู้เมื่อไปชมการแข่งขัน
เดฟลิมปิกคืออะไร? แตกต่างจากพาราลิมปิกอย่างไร และคุณสมบัติผู้เข้าร่วม
“เดฟลิมปิก” เป็นคำที่ผสมระหว่าง Deaf กับ Olympic โดยคำว่า Deaf ในภาษาอังกฤษหมายถึง “หูหนวก” หรือ “ไม่ได้ยิน” ดังนั้น เดฟลิมปิกจึงเป็นโอลิมปิกระดับนานาชาติที่จัดขึ้นสำหรับผู้ที่มีความบกพร่องทางการได้ยินหรือได้ยินไม่ชัด
ผู้ที่สามารถเข้าร่วมเดฟลิมปิกได้ จะต้องเป็นผู้ที่มีความบกพร่องทางการได้ยินหรือหูหนวกที่มีการสูญเสียการได้ยินเกิน 55 เดซิเบล (เมื่อถอดอุปกรณ์ช่วยฟังหรือชิ้นส่วนภายนอกของประสาทหูเทียม) และต้องลงทะเบียนกับสมาคมกีฬาผู้บกพร่องทางการได้ยินของแต่ละประเทศ นอกจากนี้ เมื่อเข้าสู่สนามแข่งขัน แม้แต่ในช่วงฝึกซ้อม ก็ห้ามสวมใส่อุปกรณ์ช่วยฟังหรืออุปกรณ์เสริมใดๆ เด็ดขาด เพราะให้ความสำคัญกับการที่นักกีฬาทุกคนที่มีความบกพร่องทางการได้ยินจะได้แข่งขันกันอย่าง “เท่าเทียม”
ผู้ที่ดูแลการจัดงานเดฟลิมปิกคือ คณะกรรมการกีฬาผู้บกพร่องทางการได้ยินนานาชาติ (International Committee of Sports for the Deaf) ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 1924 เมื่อมีการจัดการแข่งขันครั้งแรก นับแต่นั้นมา ไม่เพียงแต่ดูแลเดฟลิมปิกเท่านั้น แต่ยังจัดการแข่งขันชิงแชมป์โลกสำหรับผู้บกพร่องทางการได้ยิน และส่งเสริมกีฬาสำหรับผู้บกพร่องทางการได้ยินในแต่ละประเทศด้วย ปัจจุบันมีประเทศสมาชิกถึง 104 ประเทศ
เช่นเดียวกับโอลิมปิก เดฟลิมปิกจะจัดขึ้นทุก 4 ปี โดยมีทั้งฤดูร้อนและฤดูหนาว การแข่งขันครั้งแรกจัดขึ้นที่ปารีส ประเทศฝรั่งเศส มีนักกีฬาจาก 9 ประเทศ รวม 148 คนเข้าร่วม ตั้งแต่นั้นมา จำนวนประเทศและนักกีฬาที่เข้าร่วมก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในการแข่งขันครั้งที่ 23 ที่เมืองซัมซุน ประเทศตุรกี ในปี 2017 มีนักกีฬาจาก 100 ประเทศ รวมประมาณ 3,100 คน ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุด
และในปีนี้ เดฟลิมปิกจะครบรอบ 100 ปี อีกทั้งยังจัดขึ้นที่ Tokyo Metropolitan เป็นครั้งแรกในญี่ปุ่น จึงคาดว่าจะได้รับความสนใจและความตื่นเต้นอย่างมาก
เบื้องหลังการก่อตั้งเดฟลิมปิก: เหตุใดจึงเป็นการแข่งขันที่แยกออกมา
แล้วเดฟลิมปิกเริ่มต้นขึ้นได้อย่างไร?
ภาษามือสากลและข้อมูลทางสายตา: กติกาและการจัดการแข่งขันเฉพาะของเดฟลิมปิก
ในปี 1989 เมื่อคณะกรรมการพาราลิมปิกสากล (International Paralympic Committee) ก่อตั้งขึ้น คณะกรรมการกีฬาผู้บกพร่องทางการได้ยินนานาชาติก็เป็นสมาชิกด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ในปี 1995 คณะกรรมการกีฬาผู้บกพร่องทางการได้ยินนานาชาติได้แยกตัวออกมา เหตุผลก็คือ เพื่อรักษาความเป็นเอกลักษณ์ของเดฟลิมปิกนั่นเอง
สิ่งที่คณะกรรมการกีฬานานาชาติของผู้บกพร่องทางการได้ยิน (International Committee of Sports for the Deaf) มุ่งเน้นมีดังนี้
- การสื่อสารทั้งหมดในงานแข่งขันจะใช้ภาษามือสากล
 - สัญญาณเริ่มต้นหรือเสียงของกรรมการจะถูกเปลี่ยนเป็นข้อมูลทางสายตา
 - นอกเหนือจากนี้ จะดำเนินการตามกติกาเดียวกับโอลิมปิก
 
นอกจากนี้ พาราลิมปิกเริ่มต้นจากแนวคิดที่ให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูสมรรถภาพ แต่เดฟลิมปิกเริ่มต้นจากแนวคิดที่เน้นการทำลายสถิติในหมู่ผู้บกพร่องทางการได้ยินและผู้มีปัญหาทางการได้ยิน อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันทั้งสองฝ่ายได้เปลี่ยนแนวคิดมาให้ความสำคัญกับ “ความเป็นเลิศในการแข่งขัน” โดยยอมรับการมีอยู่ของความพิการ
【กีฬาที่มองเห็นด้วยตา】แสงและธงมือคือสัญญาณ! ไอเดียที่นำมาใช้ในกีฬาของเดฟลิมปิก
  ความแตกต่างที่สำคัญระหว่างโอลิมปิกและพาราลิมปิกก็คือ การประยุกต์ใช้ “ข้อมูลทางสายตา” อย่างสร้างสรรค์
ตัวอย่างเช่น สัญญาณเสียงเริ่มต้นในการวิ่งระยะสั้น นักกีฬาผู้บกพร่องทางการได้ยินจะไม่ได้ยินเสียงนั้น จึงใช้ไฟสัญญาณเริ่มต้นกระพริบแทน เพื่อแจ้งจุดเริ่มต้นด้วยแสง ไฟสัญญาณเริ่มต้นนี้ไม่ได้ใช้เฉพาะในกรีฑาเท่านั้น แต่ยังใช้ในบาสเกตบอล แฮนด์บอล ว่ายน้ำ และกีฬาอื่น ๆ อีกมากมาย
นอกจากนี้ ในกีฬาฟุตบอลหรือรักบี้ กรรมการจะเป่านกหวีดเป็นครั้งคราว เพื่อให้นักกีฬาผู้บกพร่องทางการได้ยินสังเกตเห็น กรรมการจะยกมือหรือธงขึ้นพร้อมกับเป่านกหวีด เพื่อแจ้งเป็นข้อมูลทางสายตา “ใช้ตาแทนหู” นี่คือจุดเด่นสำคัญของเดฟลิมปิก
แนะนำตัวนักกีฬาน่าจับตามอง! โอเรียนเทียริง ซึจิ ฮารุกะ: ท้าทายป่าของโตเกียวด้วยแผนที่และไหวพริบ
  ในการแข่งขัน Tokyo 2025 Deaflympics มีนักกีฬาที่น่าจับตามองเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก ในบทความนี้ขอแนะนำ “ซึจิ ฮารุกะ" (辻悠佳 / TSUJI Haruka) นักกีฬาโอเรียนเทียริง ซึ่งปัจจุบันทำงานเป็นพนักงานผู้ท้าทาย (Challenged Employee) ที่บริษัท JTB Corporation
โอเรียนเทียริงคืออะไร? เสน่ห์ของการวิ่งท่ามกลางธรรมชาติด้วยแผนที่และเข็มทิศ
  หลายคนอาจไม่คุ้นเคยกับชื่อกีฬานี้ ซึจิ ฮารุกะ อธิบายเกี่ยวกับกีฬานี้ไว้ดังนี้
“เป็นกีฬาที่ใช้แผนที่และเข็มทิศเป็นตัวช่วย วิ่งไปในสนามที่เป็นป่าหรือสวนสาธารณะ โดยต้องวิ่งผ่านจุดเช็คพอยท์ตามลำดับเพื่อไปยังเส้นชัย กีฬาโอเรียนเทียริงไม่ได้ใช้แค่พละกำลัง แต่ต้องอ่านภูมิประเทศและคิดหาเส้นทางที่เหมาะสมที่สุดอยู่ตลอดเวลา จึงต้องใช้ไหวพริบด้วย”
แค่สนามแข่งขันอยู่ท่ามกลางธรรมชาติก็รู้ได้เลยว่าเป็นกีฬาที่โหดไม่น้อย ที่จริงแล้ว ซึจิ ฮารุกะ เองก็เคยเกือบจะล้มเลิกกลางคันมาแล้ว
“ตอนที่ลงแข่งในรายการ B Class (ระดับกลาง) ที่อิซุ โอชิมะ ก็เกือบถึงเส้นชัยแต่หาตำแหน่งไม่เจอ ทำให้หมดเวลาและถูกตัดสิทธิ์ ในกีฬาว่ายน้ำที่เคยเล่นจนถึงอายุ 20 ปี จะมีจุดเริ่มต้นและแตะเส้นชัยอย่างชัดเจน แต่โอเรียนเทียริงต้องวิ่งผ่านทุกจุดเช็คพอยท์และเข้าเส้นชัยให้ทันเวลา แถมยังต้องวางแผนเส้นทางเองทั้งหมด เจอความแตกต่างขนาดนี้ ตอนนั้นรู้สึกท้อใจมาก”
ความล้มเหลวและความประทับใจ: เหตุผลที่ซึจิ ฮารุกะ หลงใหลในโอเรียนเทียริง
การแข่งขันที่มีความเข้มงวดเช่นนี้ คุณสึจิได้พบกับมันได้อย่างไร
“ก่อนหน้านี้ฉันชอบปีนเขาและวิ่งเทรลอยู่แล้ว วันหนึ่งมีคนรู้จักเห็นฉันทำกิจกรรมเหล่านั้นแล้วบอกว่า ‘คุณน่าจะเหมาะกับการแข่งโอเรียนเทียริงนะ’ นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้น ตอนแรกฉันก็ไม่ได้สนใจนัก แต่ด้วยความอยากรู้อยากลองจึงตัดสินใจลองดู”
เมื่อได้ก้าวเข้าสู่โลกของโอเรียนเทียริง คุณสึจิก็รู้สึกประทับใจอย่างมาก
“แม้จะวิ่งจนเปื้อนโคลนเพราะฝนตก แต่เหล่านักกีฬาก็ยังพยายามอย่างเต็มที่ ฉันรู้สึกประทับใจว่า ‘นี่คือกีฬาที่ทุกคนทุ่มเทขนาดนี้เลยเหรอ’ เป็นความรู้สึกที่ไม่ค่อยได้เห็นในเทรลรันนิ่ง จึงรู้สึกดึงดูดใจมาก”
หลังจากเริ่มต้นอย่างจริงจังได้ 1 ปี คุณทสึจิก็สามารถคว้ารางวัลในการแข่งขันภายในประเทศ และยิ่งหลงใหลในโอเรียนเทียริงมากขึ้นเรื่อย ๆ
มุ่งมั่นล้างตา! ความท้าทายและความตั้งใจใน Tokyo 2025 Deaflympics
ขณะที่การจัดงาน Tokyo 2025 Deaflympics กำลังใกล้เข้ามา คุณทสึจิก็ยิ่งมีไฟในการแข่งขันมากขึ้นทุกวัน
“อิซุ โอชิมะ ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่จัดงานของ Tokyo 2025 Deaflympics นั้น ถือว่าเป็นสนามแข่งขันที่ยากที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น ปกติในป่าทั่วไปจะสามารถมองเห็นสันเขาและลำธารได้ชัดเจน แต่ที่ อิซุ โอชิมะ จะมีภูมิประเทศแบบ ‘Urasabaku’ (ทะเลทรายห่างไกล) ที่มีลักษณะเฉพาะ ทำให้ยากต่อการระบุตำแหน่งของตัวเองมาก ที่นี่ยังเป็นสถานที่ที่ฉันเคยล้มเหลวมาก่อนด้วย จึงยิ่งมีไฟอยากล้างตาให้ได้”
นักกีฬาโอเรียนเทียหญิงดาวรุ่งคนนี้จะสร้างผลงานอะไรในเวที Deaflympics ที่โตเกียวกันบ้าง น่าติดตามเป็นอย่างยิ่ง
【ซายน์เยล】 “เชียร์ด้วยสายตา” มารู้จักซายน์เอลที่มีพื้นฐานจากภาษามือกันเถอะ!
สำหรับใครที่เพิ่งจะได้ชม Deaflympics เป็นครั้งแรกในงานนี้ ก็มีวิธีเชียร์รูปแบบใหม่ที่อยากให้ทุกคนได้รู้จัก นั่นคือ “ซายน์เยล” (Sign Yell)
โดยทั่วไป การเชียร์กีฬาในสนามมักจะใช้เสียงเป็นหลัก แต่แบบนั้นจะไม่สามารถส่งถึงนักกีฬาผู้บกพร่องทางการได้ยินได้ จึงได้มีการพัฒนา “ซายน์เยล” ขึ้นมา โดยอาศัยประสบการณ์ทางร่างกายของผู้ที่ใช้สายตาในการรับรู้โลก และมีพื้นฐานจากภาษามือญี่ปุ่น สมาชิกที่เป็นผู้พิการทางการได้ยินร่วมกับนักกีฬาผู้บกพร่องทางการได้ยินได้ร่วมกันพัฒนาขึ้นมา รับรองว่าในระหว่างชมการแข่งขันจะสามารถส่งกำลังใจถึงนักกีฬาได้แน่นอน โอกาสนี้อย่าลืมเรียนรู้กันไว้
*ชื่ออย่าง “ไปเลย!” ไม่ได้มีความหมายตรงกับภาษามือญี่ปุ่นโดยตรง
“GO! (ไปเลย!)” ท่าเชียร์ภาษามือ
- โบกมือทั้งสองข้างแรง ๆ ข้างศีรษะ 2-3 ครั้ง เป็นท่าภาษามือที่แปลว่า “ปรบมือ”
 - เหวี่ยงมือทั้งสองไปข้างหน้าอย่างแรง
 
“Grab the Medal! (ภาษาไทย คว้าเหรียญมาให้ได้!)” ท่าภาษามือ
- ใช้นิ้วโป้งกับนิ้วชี้ทั้งสองข้างทำเป็นรูปสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัดหน้าหน้าอก แล้วขยายออกในแนวทแยงขึ้นลง เป็นสัญลักษณ์ของหมู่เกาะญี่ปุ่น
 - กางแขนซ้ายออกแล้วยกมือซ้ายขึ้นเหนืออก จากนั้นทำมือขวาเป็นวงกลม แล้วยกมือขวาขึ้นพร้อมกับสะบัดเหมือนดอกไม้ไฟ เป็นภาพพระอาทิตย์ขึ้นจากพื้นดิน
 - เปลี่ยนมือขวาที่เป็นวงกลมเป็นกำปั้น แล้วเหวี่ยงลงเฉียงซ้าย เป็นท่าคว้าเหรียญ
 
“ซายน์เนม” ชื่อภาษามือ ของคุณสึจิ
สำหรับผู้ที่มีความบกพร่องทางการได้ยินหรือหูหนวก จะมีสิ่งที่เรียกว่า “ไซน์เนม” (Sign Name) ซึ่งเปรียบเสมือนกับชื่อเล่นในภาษาญี่ปุ่นปกติที่เราออกเสียงนั่นเอง โดยจะเน้นตัวอักษรหนึ่งในชื่อ หรือหยิบยกจุดเด่นของบุคคลนั้นขึ้นมา เพื่อใช้แทนตัวบุคคลนั้นอย่างกระชับ
นักกีฬาผู้บกพร่องทางการได้ยินแต่ละคนก็จะมีไซน์เนมของตัวเองเช่นกัน ที่นี่ขอให้จดจำไซน์เนมของนักกีฬาสึจิ (Tsuji) ไว้ด้วย
- ยกนิ้วโป้งและนิ้วก้อยขึ้น ทำเป็นสัญลักษณ์ตัว “Y” ของอักษรภาษาอังกฤษ
 - ขยับมือที่ทำท่าในข้อ 1 จากด้านในออกไปด้านนอก โดยวาดเป็นเส้นโค้งคล้ายภูเขา ให้นึกภาพว่า Y กำลังปีนขึ้นภูเขา
 
ไซน์เนมนี้นำตัว “ゆ” (ยู) ในชื่อของนักกีฬาสึจิ ยูกะ มาแทนด้วยตัว “Y” ของภาษาอังกฤษ และผสมกับความชื่นชอบในการปีนเขาของเธอ หากพบเจอนักกีฬาสึจิก็ลองใช้ไซน์เนมนี้เพื่อส่งแรงใจให้เธอดูนะ
อย่าลืมเช็ค “ไซน์เยล” อื่น ๆ ด้วย
ช่อง YouTube อย่างเป็นทางการของ Sport TOKYO Information ก็มีวิดีโอเผยแพร่อยู่เช่นกัน
นอกจาก “GO! (ไปเลย!)” “Grab the Medal! (คว้าเหรียญมาให้ได้!)” ยังมีไซน์เยลอื่นๆ อีกมากมาย แนะนำให้ลองเช็คและฝึกซ้อมไว้ก่อนการแข่งขัน
เคล็ดลับการชม! จุดเด่นที่ช่วยเพิ่มความประทับใจในเดฟลิมปิก
การได้ยินมีบทบาทสำคัญในการ “รักษาสมดุลของร่างกาย” ดังนั้นสำหรับการเล่นกีฬา การได้ยินจึงสำคัญมาก อย่างไรก็ตาม นักกีฬาผู้บกพร่องทางการได้ยินที่ไม่ได้ยินหรือได้ยินไม่ชัดก็ยังสามารถแสดงศักยภาพได้อย่างยอดเยี่ยม สิ่งที่เห็นได้ชัดคือ นักกีฬาทุกคนต่างพยายามอย่างหนักมาโดยตลอด เมื่อได้เห็นนักกีฬาวิ่งอย่างสง่างามในสนามกว้าง อาจสัมผัสได้ถึงความพยายามที่อยู่เบื้องหลังนั้น
นอกจากนี้ ในกีฬาประเภททีมอย่างฟุตบอล บาสเกตบอล หรือวอลเลย์บอล มักจะมีการตะโกนสื่อสารกันระหว่างนักกีฬา แต่สำหรับนักกีฬาผู้บกพร่องทางการได้ยิน พวกเขาไม่สามารถสื่อสารด้วยเสียงได้ แล้วจะทำอย่างไร? พวกเขาจะส่งสัญญาณด้วยการสบตากับเพื่อนร่วมทีม หรือใช้ภาษามือและแฮนด์ซายน์ในการสื่อสาร หากลองสังเกตดูว่า “อ้อ ตอนนี้ส่งสัญญาณขอพาสแล้ว!” ก็จะช่วยให้เข้าใจโลกของผู้ที่ใช้สายตาในการรับรู้มากขึ้น
【ชมฟรี】Tokyo 2025 Deaflympics ข้อมูลการชมและเว็บไซต์ทางการ
Tokyo 2025 Deaflympics เป็นการแข่งขันที่ไม่ต้องลงทะเบียนล่วงหน้า ใคร ๆ ก็สามารถเข้าชมได้ฟรี กำหนดการแข่งขันและเวลาเปิดสนามได้ประกาศไว้แล้ว ดังนั้นแนะนำให้เตรียมตารางเวลาไว้ล่วงหน้า แล้วไปเชียร์นักกีฬาผู้บกพร่องทางการได้ยินกันในวันจริง
Tokyo 2025 Deaflympics เว็บไซต์ทางการ 👉ที่นี่
แหล่งที่มา:
JTBeing “JTB社員らしく「挑戦し続ける」チャレンジド社員が、地図とコンパスで切り拓く未来”, เผยแพร่เมื่อ 1 พฤษภาคม 2025
        
    
        
        
        
        
        
        
Comments