สัมภาษณ์ Keigo ดีไซเนอร์ผู้อยู่เบื้องหลังแบรนด์ "CYANS SHAPE" กับเรื่องราวการพบเจอไม้เรซินและเหตุผลที่เลือกใช้ทะเลเป็นแรงบันดาลใจ

Keigo ดีไซเนอร์ผู้สร้างสรรค์แบรนด์ “CYANS SHAPE” กล่าวไว้ว่า “อยากให้ทุกคนได้สัมผัสถึงทะเลที่อยู่ในใจ ผ่านงานศิลปะของผม”

แบรนด์ “CYANS SHAPE” สร้างสรรค์ผลงานด้วยเทคนิคไม้เรซิน โดยนำความยิ่งใหญ่และความงดงามของธรรมชาติมาถ่ายทอดในรูปแบบของทะเล ผลงานแต่ละชิ้นล้วนเป็นงานแฮนด์เมดที่ไม่ซ้ำกันเลยแม้แต่ชิ้นเดียว เหมือนกับผืนทะเลที่เปลี่ยนสีสันและคลื่นลมอยู่ตลอดเวลา

ผลงานของ “CYANS SHAPE” ได้รับความสนใจอย่างมาก ทั้งในประเทศญี่ปุ่นและต่างประเทศ และเพื่อหาคำตอบว่าผลงานเหล่านี้ถือกำเนิดขึ้นได้อย่างไร เราจึงได้พูดคุยกับคุณ Keigo ซึ่งเพิ่งกลับจากการจัดงาน POP UP ที่เกียวโต เพื่อสอบถามถึงแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์งาน รวมถึงเสน่ห์ของไม้หายากซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของงานศิลปะเหล่านี้

ถ่ายทอดความยิ่งใหญ่และความงดงามของธรรมชาติ โดยใช้มหาสมุทรเป็นแรงบันดาลใจ

――ดูเหมือนว่างานอีเวนต์ที่เกียวโตจะประสบความสำเร็จอย่างมาก มีเรื่องราวการพบเจอลูกค้าที่น่าประทับใจเป็นพิเศษบ้างไหมครับ?

มีคนหนึ่งยืนนิ่งอยู่หน้าผลงานของผม เหมือนกับว่าเขาหลงใหลจนพูดไม่ออก ตอนที่ผมเห็นภาพนั้น ผมรู้สึกได้ทันทีว่า “สิ่งที่ต้องการสื่อออกไปได้ส่งไปถึงแล้ว” เขาได้รับอะไรบางอย่างจากผลงานและปล่อยให้จินตนาการโลดแล่นไปเอง ก่อนที่ผมจะทันได้อธิบายด้วยคำพูด มันเป็นช่วงเวลาที่น่าดีใจมาก และทำให้ผมตระหนักได้อีกครั้งว่า “ศิลปะไม่จำเป็นต้องใช้คำพูด”

อีกคู่หนึ่งที่ผมประทับใจมากคือคู่รักชาวอเมริกัน ตอนแรกพวกเขาซื้อพวงกุญแจไปชิ้นหนึ่ง แต่พอชอบมาก ๆ พวกเขาก็เดินกลับมาอีกครั้งเพื่อซื้อเพิ่มอีก 6 ชิ้นไปฝากเพื่อน ๆ หลังจากนั้นผมได้รับข้อความจากพวกเขาว่า “ผมชอบผลงานของคุณมากจริง ๆ ครั้งหน้าถ้ามีโอกาสได้เจอกันอีก ผมอยากจะแสดงความคิดเห็นเป็นภาษาญี่ปุ่นให้ได้ ผมจะเริ่มเรียนภาษาญี่ปุ่นนะ” คำพูดนั้นทำให้ผมรู้สึกดีใจมากครับ

――คุณคิดว่าอะไรที่ทำให้ลูกค้าหลงใหลในผลงานของคุณครับ?

แน่นอนว่าหลายคนหลงใหลในคอนเซ็ปต์ของทะเล แต่โดยส่วนตัวผมคิดว่าไม่ใช่แค่ “เพราะชอบทะเล” เท่านั้น แต่พวกเขายังหลงใหลในการผสมผสานระหว่างทะเลและพื้นดิน และโลกที่ผมสร้างสรรค์ขึ้นในงานมากกว่า ตัวอย่างเช่น มีหลายคนที่บอกว่า “ฉันไม่ได้เล่นกีฬาทางน้ำและไม่ได้ชอบทะเลเป็นพิเศษ แต่รู้สึกสนใจในผลงานของคุณ”

ผมคิดว่าปฏิกิริยาเหล่านี้เกิดขึ้นได้เพราะผมใช้ “ไม้หายาก” ซึ่งเป็นไม้จริงเป็นวัสดุหลัก งานศิลปะที่ใช้วัสดุธรรมชาติมากกว่าครึ่งหนึ่งนั้นค่อนข้างหายาก และถึงแม้จะมีผลงานที่เกี่ยวกับทะเลอยู่มากมายในโลก แต่การที่พวกเขาบอกว่า “นี่คือการตีความที่ไม่เคยเห็นมาก่อน” แสดงว่าผมสามารถถ่ายทอดโลกในแบบของผม ที่ไม่ได้จำกัดแค่ทะเล แต่รวมถึงความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติได้เป็นอย่างดีครับ

ตกหลุมรักในความงามของไม้หายาก

――ได้ยินมาว่าคุณเริ่มสร้างสรรค์ผลงานตั้งแต่อยู่มหาวิทยาลัย ช่วยเล่าถึงจุดเริ่มต้นให้ฟังหน่อยครับ

จุดเริ่มต้นคือตอนที่ผมคิดว่า “ไม่มีของตกแต่งบ้านในธีมทะเลที่ผมอยากได้เลย” ผลงานเกี่ยวกับทะเลที่วางขายส่วนใหญ่จะให้ความรู้สึกป๊อป ๆ มากเกินไปใช่ไหมครับ? ส่วนตัวผมอยากได้อะไรที่ดูสุขุมกว่านั้น และผมคิดว่า “การตีความเรื่องทะเลมันมีได้หลากหลายกว่านี้อีกนะ” ตอนนั้นคือปี 2020 สมัยที่ผมเรียนอยู่ปี 3

ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น ผมก็ได้พบกับโลกของ ‘Wood Resin’ (ไม้เรซิน) ซึ่งเป็นงานที่ผสมผสานระหว่างไม้และเรซิน ผมตกใจในความสวยงามของ “ไม้หายาก” มาก ๆ และรู้สึกหลงใหลในความเท่ของมัน

แต่เดิมผมชอบเล่นเซิร์ฟมาก และเคยฝันอยากจะเป็น Shaper (ช่างทำกระดานโต้คลื่น) Shaper มีหลากหลายประเภท ทั้งแบบที่เน้นการแข่งขันและแบบคลาสสิกที่ยังคงใช้มือแกะสลักกระดาน ผมหลงใหลในช่างทำกระดานแบบคลาสสิก และในขณะที่ผมกำลังดูวิดีโอการทำงานของพวกเขา ผมก็เจอวิดีโอของงานไม้เรซินโดยบังเอิญ และในตอนนั้นเอง ภาพของผลงานก็ผุดขึ้นมาในหัวของผมอย่างชัดเจน

ผมคิดว่าถ้าผมผสมผสานวัฒนธรรมเซิร์ฟ, เสน่ห์ของไม้หายาก และธีมทะเลเข้าด้วยกัน ผมอาจจะทำอะไรบางอย่างในวงการนี้ได้ ซึ่งตอนนั้นยังไม่มีใครบุกเบิกอย่างจริงจัง นั่นจึงเป็นเหมือนการท้าทายอย่างหนึ่ง แต่เมื่อความรู้สึกและสัญชาตญาณผสานเข้าด้วยกัน ผมก็เริ่มตัดไม้และลองผิดลองถูกโดยไม่รู้ตัว

――ก่อนหน้านั้นคุณไม่เคยมีประสบการณ์ด้านงานฝีมือมาก่อนเลยใช่ไหมครับ?

ไม่เลยครับ ไม่มีประสบการณ์เลย พ่อของผมก็เป็นนักโต้คลื่น ผมเลยใช้ชีวิตช่วงก่อนโควิด-19 ด้วยการเดินทางไปตามที่ต่าง ๆ ทั้งในและนอกประเทศเพื่อไล่ล่าหาคลื่น

ดังนั้นตอนแรกผมก็ล้มเหลวอยู่บ่อยครั้ง ตอนที่ทำอยู่ที่บ้าน ผมเคยทำแก้วที่มีเรซินหกจนแข็งเป็นก้อน ทำให้พ่อแม่โมโหก็มี (หัวเราะ) ผมไม่รู้แหล่งที่ซื้อไม้หายาก เลยไปหาซื้อตามร้าน Home Center แต่ไม้ที่ได้มาก็ไม่เหมือนกับที่เห็นใน Instagram ของต่างประเทศเลย ตอนนั้นผมไม่รู้จริง ๆ ว่า “ต้องไปซื้อที่ไหนนะ?”

แต่ถึงอย่างนั้น ภาพของผลงานในหัวของผมก็ยังคงชัดเจน ผมจึงพยายามคิดหาวิธีแก้ปัญหาและลองทำไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งผ่านไปประมาณ 6 เดือน ผลงานของผมก็เริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา

――คอนเซ็ปต์ของงานคือ “การถ่ายทอดทะเลที่เคยมีอยู่ ณ ที่แห่งนั้น” ทำไมถึงไม่วาดภาพทะเลในสถานที่ที่เจาะจงครับ?

ผมคิดว่าผลงานของผมเกิดจากการผสมผสานเศษเสี้ยวของภาพวิวทิวทัศน์ที่ผมเคยได้พบเจอระหว่างการเดินทางและในชีวิตประจำวัน แต่ถ้าผมกำหนดว่า “นี่คือที่นี่” มันจะเหมือนเป็นการจำกัดจินตนาการของผู้ที่ชมงาน บางคนอาจจะนึกถึงความทรงจำระหว่างการเดินทาง ขณะที่บางคนอาจจะบอกว่า “คล้ายกับทะเลที่ปู่ผู้ล่วงลับชอบเลย” ผมอยากปล่อยให้มันเป็นเรื่องของความรู้สึกและจินตนาการของผู้ที่ชมงานครับ

นอกจากนี้ สำหรับคนในท้องถิ่นแล้ว ทะเลเป็นสิ่งที่พิเศษมากใช่ไหมครับ? ผมคิดว่ามันคงจะดูไม่ให้เกียรติถ้าผมนำชื่อทะเลเหล่านั้นมาใช้กับผลงานของผมตามอำเภอใจ แต่ละคนที่รู้จักทะเลนั้นต่างก็มีความรู้สึกต่อทะเลนั้นในแบบของตัวเอง ผมอยากจะเคารพความรู้สึกเหล่านั้น จึงไม่วาดภาพทะเลในสถานที่ที่เจาะจงครับ

เผชิญหน้ากับการสร้างสรรค์ด้วยความมุ่งมั่นว่า "ห้ามล้มเหลวเด็ดขาด"

――คุณมีจุดมุ่งหมายในการสร้างสรรค์ผลงานอย่างไรบ้างครับ?

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ “ห้ามพลาดเด็ดขาด” ครับ ผมเคยใช้ไม้ที่มีอายุ 500 ปี, 1,000 ปี หรือบางครั้งก็ 2,500 ปีในการทำผลงานของผม ไม้หายากเหล่านี้สะท้อนถึงพลังและประวัติศาสตร์ของธรรมชาติที่สั่งสมมาเป็นเวลายาวนาน

ตัวอย่างเช่น ส่วนนี้ของไม้ ปกติแล้วลายและรูปทรงของไม้จะไม่เป็นแบบนี้ แต่มันอาจจะเกิดจากการกลายพันธุ์ หรืออาจเป็นปฏิกิริยาป้องกันตัวเองจากแมลงกินไม้ก็ได้ ถึงแม้จะยังไม่มีการอธิบายทางวิทยาศาสตร์ แต่ผมคิดว่ารูปทรงนี้เป็นคำตอบของการต่อสู้เพื่อความอยู่รอดในสภาพแวดล้อมของมัน

นอกจากนี้ ไม้ที่เพิ่งถูกตัดจะยังมีความชื้นอยู่ จึงไม่สามารถนำมาใช้ได้ทันที เพราะเมื่อนำไปแปรรูปมันอาจจะแตกหรือบิดเบี้ยวได้ ดังนั้น ผู้จัดหาไม้หายากจะใช้เวลาถึง 2-3 ปีในการทำให้ไม้แห้งสนิท เมื่อผ่านกระบวนการนั้นแล้ว ไม้ถึงจะพร้อมให้เรานำไปใช้งานได้ ก่อนที่วัสดุจะมาถึงมือผม มันได้ผ่านมือของคนหลายคนและใช้เวลามาอย่างยาวนานแล้วครับ

ด้วยเหตุนี้เอง ผมจึงรู้สึกว่าตัวเองมีหน้าที่ในการใช้ไม้เหล่านั้นให้เกิดประโยชน์สูงสุด การจัดวางไม้เพียงชิ้นเดียวสามารถเปลี่ยนอารมณ์ของผลงานได้ทั้งหมด ดังนั้น ผมจึงให้ความสำคัญกับการพบเจอครั้งเดียวในชีวิต และตั้งเป้าที่จะสร้างผลงานให้ได้ 100 คะแนน, 150 คะแนนอยู่เสมอ ผมเผชิญหน้ากับมันด้วยความมุ่งมั่นว่า “ห้ามพลาดเด็ดขาด”

――คุณสร้างสรรค์ผลงานทั้งหมดด้วยตัวคนเดียวเลยหรือเปล่าครับ?

ใช่ครับ ทุกอย่างทำคนเดียวหมดเลย ในขณะที่ผมเทเรซินลงไป สีและรูปทรงจะถูกกำหนดตายตัวทันที และไม่สามารถแก้ไขได้อีก นอกจากนี้ หากมองข้ามรอยขีดข่วนเล็ก ๆ ไปเพียงนิดเดียว ก็อาจทำให้ผลงานทั้งหมดขุ่นมัวในขั้นตอนสุดท้ายได้ ดังนั้น ผมจำเป็นต้องสลับระหว่างบทบาทของ ‘ดีไซเนอร์’ และ ‘ช่างฝีมือ’ ในการสร้างสรรค์ผลงาน

ในอนาคตผมก็อยากจะฝึกสอนช่างฝีมือเหมือนกัน แต่ตอนนี้ยังเป็นเรื่องยากอยู่ครับ

ถ้าจะให้พูดถึงขั้นตอนการทำงานคร่าว ๆ ก็คือ ผมจะเตรียมกล่องไม้ จากนั้นจัดวางไม้ แล้วจึงเทเรซินที่ผสมสีแล้วลงไป ผมจะเทเรซินทับกันหลาย ๆ ชั้นเพื่อสร้างสีสัน, ความโปร่งใส, และความลึกของน้ำทะเล เพื่อให้ผลงานมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น

การทำงานคนเดียวมีข้อจำกัด และผมก็รู้สึกเสียใจที่ทำให้ลูกค้าต้องรอคอย แต่สิ่งที่ทำให้ผมยังคงทำต่อไปได้ คือการได้จัดงาน POP UP และงานอีเวนต์ต่าง ๆ การที่ลูกค้าได้สัมผัสผลงานด้วยมือตัวเองและยืนมองมันด้วยความรู้สึกดื่มด่ำ ทำให้ผมรู้สึกว่านี่คือสิ่งที่คุ้มค่ามากที่สุดครับ

――สุดท้ายนี้ เป้าหมายในอนาคตของคุณคืออะไรครับ?

ผมอยากจะจัดงาน POP UP หรือนิทรรศการเดี่ยวในต่างประเทศครับ ผมอยากให้ทุกคนไม่ว่าจะเป็นคนชาติไหนหรือมีพรมแดนอยู่ตรงไหนได้สัมผัสและแบ่งปันคุณค่าที่ว่า “ทะเลมันดีจังเลยนะ” ผ่านผลงานของผมครับ และการที่ผู้คนสามารถเข้าถึงความรู้สึกนั้นได้ ถือเป็นความสุขที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในฐานะผู้สร้างสรรค์งานครับ

นอกจากนี้ ผมกำลังคิดที่จะเดินทางไปยังแหล่งกำเนิดของไม้และลองสร้างสรรค์ผลงานที่นั่นเลย เพราะจริง ๆ แล้วมีไม้หลายชนิดที่ไม่สามารถนำเข้าประเทศญี่ปุ่นได้เนื่องจากข้อบังคับ แต่ถ้าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการแปรรูปแล้วก็จะไม่มีปัญหา ผมอยากจะลองท้าทายสิ่งเหล่านั้นดูครับ

ผมจะยังคงสร้างสรรค์ผลงานต่อไปเพื่อให้ผู้คนได้พบเจอกับผลงานของผมมากขึ้นเรื่อย ๆ นี่ไม่ใช่ความฝันว่า “ถ้าทำได้ก็จะดี” แต่ผมตั้งใจว่าจะต้องทำให้สำเร็จให้ได้ครับ

ประวัติ: เกี่ยวกับ Keigo
Keigo เกิดในปี 1998 จบการศึกษาจากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยคันไซ ในระหว่างเรียนมหาวิทยาลัยเขาได้เริ่มสร้างสรรค์ของตกแต่งบ้านด้วยตัวเอง ซึ่งนั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาทุ่มเทให้กับงานศิลปะ หลังจากนั้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2021 เขาได้เปิดแบรนด์ CYANS SHAPE โดยใส่ใจในทุกรายละเอียด ตั้งแต่การเลือกวัสดุไปจนถึงขั้นตอนการตกแต่งชิ้นงาน เพื่อให้ผลงานแต่ละชิ้นมีเอกลักษณ์และรูปทรงที่โดดเด่น เขาใช้ไม้จากญี่ปุ่นและไม้จากทั่วทุกมุมโลกในการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะในธีม “ทะเลที่เคยมีอยู่ ณ ที่แห่งนั้น” โดยมีเป้าหมายที่จะสร้างสรรค์ของตกแต่งบ้านที่นำสีสันและความสงบมาสู่พื้นที่ในชีวิตประจำวัน

• เว็บไซต์ทางการ: https://cyansshape.theshop.jp/