5 นิทานพื้นบ้านและตำนานญี่ปุ่นยอดนิยม

  • 28 กรกฎาคม 2021
  • Lily Baxter
  • Mon

5 นิทานพื้นบ้านและตำนานญี่ปุ่นยอดนิยม

นิทานพื้นบ้านและตำนานของญี่ปุ่นเต็มไปด้วยเรื่องราวของความรัก การทรยศหักหลัง และการต่อสู้ เป็นการผสมผสานที่น่าอัศจรรย์ระหว่างความเป็นจริงและจินตนาการ ในขณะที่นิทานพื้นบ้านมักอ้างถึงเรื่องราวที่สืบทอดมาหลายชั่วอายุคน แต่การผสมผสานตำนานและนิทานพื้นบ้านของญี่ปุ่นเป็นการผสมผสานระหว่างงานเขียน (เรียกว่า เรื่องเล่า โมโนกาตาริ 物語 monogatari) และนิทานที่เล่าสืบกันมา หลายเรื่องมีความเก่าแก่ย้อนไปถึงศตวรรษที่ 14 รวมถึงก่อนหน้านั้น ยานากิตะ คุนิโอะ นักเขียนและนักคิดพื้นบ้าน เป็นผู้บุกเบิกการรวบรวมนิทานเหล่านี้ โดยเลือกใช้คำว่า 昔話 mukashibanashi ซึ่งหมายถึงนิทานเมื่อนานมาแล้ว ซึ่งเขารู้สึกว่าใกล้เคียงกับนิทานญี่ปุ่นที่เขารวบรวมมามากกว่า

ในขณะที่องค์ประกอบหลายอย่างของนิทานยังคงเหมือนเดิม ตัวละครและแง่มุมต่าง ๆ จะเปลี่ยนไปตามภูมิภาค โกไดมุคาชิบานาชิ หรือ นิทานดังห้าเรื่อง ประกอบด้วย โมโมทาโร่ ซารุ-คานิ กัสเซ็น ฮานาซากะจี้ซัง คาจิคาจิยามะ และ ชิตะคิริสุสุเมะ เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องราวที่สำคัญและบางเรื่องก็เป็นที่รู้จักนอกประเทศญี่ปุ่น เราได้สำรวจนิทานพื้นบ้านญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดห้าเรื่องด้านล่าง โดยมีเรื่องราวที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักอีกห้าเรื่อง ที่นี่

1. Tsuru no Ongaeshi: นกกระเรียนตอบแทนคุณ

Tsuru no Ongaeshi: นกกระเรียนตอบแทนคุณ

นิทานญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เรื่องนี้มีคำสอนง่าย ๆ เกี่ยวกับความกตัญญูและการรักษาสัญญา และมีรูปแบบที่หลากหลายทั่วประเทศญี่ปุ่น เช่น ห่าน หอย ปลา และงู ที่จำแลงกายมาเป็นภรรยาที่มีทักษะและของขวัญที่แตกต่างกันไปตามประเภทของสัตว์สำหรับการตอบแทนคุณ ตัวละครและเรื่องราวยังปรากฏในรูปแบบวัฒนธรรมสมัยนิยมมากมาย รวมถึงใน Animal Crossing (ตัวละคร Gladys), One Piece, Legion และ Flying Witch เป็นต้น

เรื่องราวของการผิดคำสัญญา

ในเรื่องนี้ หนุ่มชาวนากำลังทำงานอยู่ในทุ่งนาในตอนที่เขาเจอนกกระเรียนตัวหนึ่งที่ถูกยิงโดยนักล่า เขาดึงลูกศรออกอย่างระมัดระวังและดูแลบาดแผลของเจ้านกจนสามารถปล่อยนกกระเรียนให้เป็นอิสระได้ นกกระเรียนบินรอบชาวนาสามครั้งก่อนจะบินจากไป มันได้กลับสู่ธรรมชาติแล้ว

เมื่อชาวนากลับบ้านในวันนั้น เขาได้รับการต้อนรับจากหญิงสาวสวยคนหนึ่งที่แนะนำให้พวกเขาแต่งงานกัน ด้วยความกังวลว่าเขาไม่สามารถดูแลครอบครัวด้วยรายได้ของชาวนาที่ยากไร้ได้ แต่เขาก็ถูกโน้มน้าวใจเมื่อเธอแสดงข้าวถุงเล็ก ๆ ที่เธอบอกว่าจะเลี้ยงพวกเขาทั้งสองให้ ทั้งคู่อยู่อย่างมีความสุข กระสอบข้าวเล็ก ๆ นั้นกลับไม่เคยลดน้อยลงเลย อยู่มาวันหนึ่ง ภรรยาคนสวยขังตัวเองอยู่ในห้องทอผ้าเล็ก ๆ โดยขอให้สามีอย่าเข้าไปจนกว่าเธอจะพร้อม เธอปรากฏตัวขึ้นหลังจากผ่านไปเจ็ดวันและผอมมาก เธอมอบเสื้อผ้าที่สวยงามให้เขาและขอให้เขาขายมันที่ตลาด เขาขายมันได้ในราคาสูง และพวกเขาก็มีชีวิตที่ดีขึ้น เมื่อเธอกลับเข้าไปในห้องเป็นครั้งที่สอง สามีพยายามควบคุมความอยากรู้ของเขา สงสัยว่าเธอจะทอผ้าได้อย่างไรโดยไม่ใช้ด้ายเลย เมื่อแอบมองเข้าไปก็เห็นว่าแท้จริงแล้ว นางคือนกกระเรียนที่ทอผ้าด้วยขนนกของเธอเอง เมื่อรู้ว่าเขาเห็นเธอแล้ว นกกระเรียนอธิบายว่าเธอมาเพื่อตอบแทนบุญคุณของเขา แต่ตอนนี้ต้องจากไป เพราะไม่สามารถอยู่เมื่อเขารู้ตัวตนที่แท้จริงของเธอแล้ว

2. Taketori Monogatari - เรื่องเล่าของคนตัดไผ่

Taketori Monogatari - เรื่องเล่าของคนตัดไผ่

เรื่องราวต้นกำเนิดของภูเขาฟูจิ เรื่องนี้มีชื่อเรียกอยู่สองชื่อ: Kaguya-hime no Monogatari (นิทานของเจ้าหญิงคางุยะ) ตามชื่อตัวเอก และยังเรียกอีกอย่างว่า Taketori Monogatari (นิทานคนตัดไผ่) ถือเป็นหนึ่งในนิทานงานเขียนแบบโมโนกาตาริที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังหลงเหลืออยู่ และมีการอ้างถึงในบทกวีตั้งแต่ศตวรรษที่ 10 มันถูกเปลี่ยนเป็นภาพยนตร์ของ Studio Ghibli และถูกใช้เป็นแรงบันดาลใจให้กับผลงานนับไม่ถ้วน รวมถึง Sailor Moon, Naruto, Fly me to the Moon และ Turn a Gundam

บทเรียนแห่งรักนิรันดร์

ในเรื่องนี้ คนตัดไผ่แก่ ๆ คนหนึ่งได้เห็นลำไผ่เรืองแสง จึงลองผ่าออก ก็พบว่ามีทารกขนาดเท่าหัวแม่มืออยู่ข้างใน เนื่องจากเขาและภรรยาไม่มีลูก พวกเขาจึงตัดสินใจเลี้ยงเด็กกำพร้าคนนี้ โดยตั้งชื่อเธอว่า Nayotake no Kaguya-hime ซึ่งหมายถึงเจ้าหญิงผู้เจิดจรัสแห่งไม้ไผ่อ่อน จากนั้นเป็นต้นมา คนตัดไผ่ก็พบก้อนทองคำในลำไม้ไผ่ทุกต้นที่เขาตัด

เมื่อเติบโตเป็นหญิงสาวสวย เจ้าหญิงก็ดึงดูดผู้ที่ใฝ่หานางเป็นคู่ครองเข้ามานับไม่ถ้วน รวมทั้งขุนนางห้าคน คางุยะรู้สึกไม่ประทับใจ จึงมอบหมายภารกิจที่เป็นไปไม่ได้ห้าประการ: ให้เอานำบาตรศิลาของพระพุทธเจ้า อัญมณีจากมังกร เสื้อคลุมหนังของหนูไฟจีน เปลือกหุ้มจากนกนางแอ่น และกิ่งไม้ประดับด้วยเพชรพลอยจากเกาะโฮไรในตำนานมาให้นาง ชายสามคนแอบโกงภารกิจ นำของปลอมมามอบให้ คนหนึ่งยอมแพ้ไป และอีกคนเสียชีวิตในระหว่างทำภารกิจนั้น เจ้าหญิงยังมิได้ทรงอภิเษกสมรส จนได้พบกับจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่น ผู้ซึ่งขอแต่งงานแต่ถูกปฏิเสธตลอดหลายปี แม้จะยังเขียนจดหมายติดต่อกันอยู่เรื่อย ๆ

คืนหนึ่งเมื่อชมดวงจันทร์ เจ้าหญิงเกิดความเศร้าโศกขึ้น และในที่สุดก็บอกพ่อแม่บึญธรรมของเธอว่าเธอไม่ได้มาจากโลกนี้ และต้องกลับไปหาผู้คนของเธอบนดวงจันทร์ เธอเขียนจดหมายฉบับสุดท้ายถึงจักรพรรดิและเสนอยาอายุวัฒนะที่จะมอบชีวิตนิรันดร์ให้ เธอกลับขึ้นไปบนดวงจันทร์ ลืมความสัมพันธ์ใด ๆ ที่มีต่อโลกไปสิ้น อย่างไรก็ตาม จักรพรรดิได้สั่งให้เจ้าหน้าที่เผาจดหมายตอบของเขาบนภูเขาที่สูงที่สุด โดยหวังว่าคำตอบของเขาจะไปถึงเจ้าหญิงได้ เขาปฏิเสธการดิ่มน้ำอมฤต ไม่ต้องการจะมีชีวิตอยู่โดยไม่มีเธอ

ว่ากันว่าพวกเขาเผาจดหมายบนภูเขาใหญ่นาม Suruga ซึ่งเป็นจังหวัดโบราณในภูมิภาคคันโต แต่ถัดมา ภูเขานี้ก็ได้ชื่อว่าฟุชิ (不死) ซึ่งหมายถึงความเป็นอมตะ ส่วนตัวอักษรคันจิ (富士山) สามารถแปลเป็นภูเขาที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยนักรบได้ โดยควันของภูเขาไฟถือเป็นการส่งข้อความสุดท้ายของจักรพรรดิสู่ดวงจันทร์

3. Momotaro - เด็กลูกท้อ

Momotaro - เด็กลูกท้อ

โมโมทาโร่อาจเป็นที่รู้จักมากที่สุดในบรรดานิทานของญี่ปุ่น โมโมทาโร่เป็นฮีโร่ยอดนิยมที่ผุดขึ้นมาท่ามกลางสถานการณ์ที่ไม่น่าเป็นไปได้ เขาถูกพบเห็นได้ทั่วประเทศญี่ปุ่น แต่ได้กลายเป็นมาสคอตของจังหวัดโอคายามะ เนื่องมาจากความรักที่เขามีต่อขนมคิบิดังโงะ

เรื่องราวของเด็กชายผู้ต่อสู้กับเหล่าปีศาจ

เมื่อหญิงชราไปซักเสื้อผ้าในแม่น้ำ เธอเห็นลูกท้อยักษ์ลอยมาทางเธอ จึงรีบคว้ามันเอาไว้ เมื่อนำมันกลับบ้านให้สามีของเธอ คู่รักที่ไม่มีบุตรก็ต้องตกใจเมื่อผ่าลูกท้อดู ซึ่งเผยให้เห็นเด็กชายตัวเล็ก ๆ เด็กอธิบายว่าเขาถูกส่งมาจากพระเจ้าให้เป็นลูกชายของพวกเขา พวกเขาจึงตั้งชื่อให้ว่าโมโมทาโร่ (เด็กชายลูกท้อ) หลายปีต่อมา ตอนที่เขายังเป็นวัยรุ่น โมโมทาโร่ได้ขออนุญาตพ่อของเขาให้ออกจากบ้านไปต่อสู้กับกลุ่มปีศาจโอนื และได้รับอนุญาตให้ออกเดินทาง ระหว่างการเดินทาง เขามีสุนัข ลิง และไก่ฟ้าที่สัญญาว่าจะช่วยเขาเพื่อแลกกับคิบิดังโงะที่แม่ของเขาให้ไว้ใช้ในการเดินทาง แม้จะมีการทะเลาะกันบ้างในตอนแรก แต่ในไม่ช้า เหล่าสัตว์ทั้งสามก็เริ่มปรองดองกันหลังจากคำวิงวอนจากโมโมทาโร่และเดินหน้าไปยังรังปีศาจ

ขณะที่พวกเขาสอดแนมปราสาทจากเรือ ไก่ฟ้าถูกส่งไปเพื่อหันเหความสนใจของปีศาจ ขณะที่โมโมทาโร่ ลิง และสุนัขแอบเข้าไปในอุโมงค์ พวกเขาจู่โจมพวกปิศาจด้วยกำลังราว 100 คน สังหารทุกตนยกเว้นจอมปีศาจโอนิ ผู้วิงวอนขอความเมตตา โมโมทาโร่ฝากจอมปีศาจไว้ในความดูแลของเจ้าลิง จากนั้นได้รวบรวมสมบัติของปีศาจ ปลดปล่อยเหยื่อทุกคนเป็นอิสระ และกลับบ้านเพื่อไปใช้ชีวิตกับพ่อแม่ของเขา

4. Tanabata - ค่ำคืนของวันที่เจ็ด

Tanabata - ค่ำคืนของวันที่เจ็ด

งานทานาบาตะจะเฉลิมฉลองด้วยกระดาษแขวนประดับในฤดูร้อนแต่ละปี เป็นงานเฉลิมฉลองของคู่รักแห่งโชคชะตาและคำอธิษฐานที่เต็มไปด้วยความหวัง มีการเฉลิมฉลองในวันที่ 7 ของเดือนจันทรคติที่ 7 ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนมาเป็นวันที่ 7 กรกฎาคมตามปฏิทินสุริยคติ แต่ในบางที่จะจัดขึ้นในวันที่ 7 สิงหาคมอ้างอิงจากการเลื่อนเดือนในปฏิทินจันทรคติจีน ผู้คนเขียนคำอธิษฐานลงบนกระดาษแผ่นเล็ก ๆ แล้วผูกไว้กับต้นไผ่ จากนั้นก็ใส่เรือล่องไปตามแม่น้ำหรือเผาเป็นเครื่องเซ่นไหว้

เรื่องราวของคู่รักข้ามดวงดาว

ประเพณีมีต้นกำเนิดมาจากตำนานจีนที่เข้ามายังญี่ปุ่นในศตวรรษที่ 8 เจ้าหญิงที่มีนามว่า โอริฮิเมะ ผู้นั่งอยู่ริมอามาโนะกาวะ (แม่น้ำสวรรค์) หรือทางช้างเผือก จะทำหน้าที่ทอเสื้อผ้าที่สวยงาม และวันหนึ่ง พ่อของเธอจัดให้เธอพบกับชาวสวนนาม ฮิโกโบชิ จากอีกฟากหนึ่งของแม่น้ำสวรรค์ ทั้งคู่ตกหลุมรักกันจนละเลยงานของตน - ทำให้ เท็นเท พ่อของเจ้าหญิงโกรธมาก แยกพวกเขาไปยังอีกฟากหนึ่งของแม่น้ำอีกครั้ง พระองค์ทรงสั่งให้พวกเขาไม่พบกันอีก หลังจากลูกสาวอ้อนวอนอ้อนวอน เทพเท็นเทก็อนุญาตให้พบกันปีละครั้งในวันที่ 7 ของเดือนที่ 7

ในวันที่รอคอยมานานของการพบกันครั้งแรก ทั้งคู่พบว่าไม่มีสะพาน และน้ำตาอันเศร้าโศกของโอริฮิเมะได้เรียกฝูงนกกางเขนที่ให้สัญญาว่าจะปรากฏตัวขึ้นเพื่อเป็นสะพานให้โดยใช้ปีกของพวกเขาสร้างมันขึ้น ฝนในวันทานาบาตะเรียกว่าน้ำตาของโอริฮิเมะ เพราะมันหมายความว่านกเหล่านั้นไม่สามารถขึ้นเหนือน้ำที่กำลังขึ้นได้ และพวกเขาจะต้องรอวันที่จะได้พบกันไปอีกหนึ่งปี

5. Kintaro: เด็กทองคำ

Kintaro: เด็กทองคำ

คินทาโร่ เด็กชายทองคำของญี่ปุ่น เป็นเด็กฮีโร่ที่มีความแข็งแกร่งอย่างน่าทึ่ง มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับสัตว์ต่าง ๆ และเป็นนักรบเมื่อเติบใหญ่ขึ้น เชื่อกันว่ามีพื้นฐานมาจากบุคคลจริงจากคานากาว่า ตัวละครนี้มักถูกนำมาแสดงในโรงละครญี่ปุ่น และตอนนี้ก็ปรากฏตัวในอนิเมะ มังงะ และวิดีโอเกมมากมาย ในวันเด็กชาย (วันหยุดตามประเพณีของญี่ปุ่น) พ่อแม่จะวางหุ่น คินทาโร่ ด้วยความหวังว่าลูกชายจะแข็งแรงและกล้าหาญเช่นเขา

การผจญภัยของคินทาโร่

นิทานคินทาโร่มีหลายเวอร์ชั่น แต่ทั้งหมดมีจุดเริ่มต้นที่คล้ายคลึงกัน คือเขาใช้ชีวิตในวัยเด็กของเขาในป่า บางเวอร์ชั่นก็ว่าเขาถูกแม่ทอดทิ้ง บ้างก็ว่าเลี้ยงดูโดยแม่ หรือถูกทิ้งให้ดูแลตนเองหลังจากการตายของแม่ ในไม่ช้าเขาก็พัฒนาความใกล้ชิดกับป่า เชี่ยวชาญการใช้ชีวิตกับภูเขาคินโทกิและภูเขาอาชิการะ คินทาโร่ถือขวาน สวมเอี๊ยมสีแดงพร้อมตัวอักษรคันจิว่า "ทอง" และมีใบหน้าที่อ้วนท้วนพร้อมทรงผมที่จดจำได้ในทันที วิ่งเล่นอยู่ในป่า นิทานเล่าถึงความสามารถของเขาในการผูกมิตรกับสัตว์ ปราบปีศาจและเล่นซูโม่กับหมี (ชนะทุกครั้ง แน่นอน) เมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ เขาเปลี่ยนชื่อและกลายเป็นผู้นำนักรบของซามูไรในท้องถิ่นหลังจากถูกพบเห็นตอนกำลังโค่นต้นไม้ในป่า

หัวข้อเรื่อง

Survey[แบบสอบถาม] กรุณาบอกเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในญี่ปุ่น







Recommend