เกียวโต เมืองหลวงแห่งวัฒนธรรมอันดับหนึ่งของญี่ปุ่น

  • 9 เมษายน 2019
  • 7 เมษายน 2020
  • 小口 拓也/Takuya Koguchi

เกียวโต เมืองหลวงแห่งวัฒนธรรมอันดับหนึ่งของญี่ปุ่น

กรุงเกียวโต (京都府 / Kyoto-fu) เป็นจุดท่องเที่ยวชั้นนำของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในภูมิภาคคิงกิ (近畿地方 / Kinki Region) เป็นที่ที่คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับวัฒนธรรมญี่ปุ่นจากทิวทัศน์บ้านเรือนเก่าแก่ วัดวาอาราม เกอิชา และอาหารแบบเกียวโต มีจุดท่องเที่ยวที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกถึง 17 แห่งในจังหวัด นอกจากทรัพย์สินทางวัฒนธรรมแล้วก็ยังมีป่าไม้ พืชและสัตว์ต่าง ๆ มากมายด้วยค่ะ ทิวทัศน์อันงดงามของทรัพย์สินทางวัฒนธรรมกับธรรมชาตินั้นก็ควรค่าแก่การไปชมอย่างยิ่งค่ะ

อนึ่ง นครเกียวโต (京都市 / Kyoto-shi อำเภอ) และกรุงเกียวโต (จังหวัด) นั้นเป็นคนละส่วนกัน กรุงเกียวโตแบ่งออกเป็นห้าพื้นที่ และนครเกียวโตก็เป็นหนึ่งในนั้นค่ะ บทความนี้แนะนำส่วนของนครเกียวโตพร้อมกับกรุงเกียวโตทั้งจังหวัดค่ะ

เรื่องน่าทำในเกียวโต

เกี่ยวกับกรุงเกียวโต

เกี่ยวกับกรุงเกียวโต

พื้นที่ของกรุงเกียวโตกว่า 80% เป็นพื้นที่ภูเขาและเนินเขาค่ะ อย่างไรก็ตาม ที่นี่ก็ไม่มีภูเขาที่สูงระดับ 1,000 เมตรเลยสักลูก จึงมีลักษณะเป็นพื้นที่ค่อนข้างเปิดค่ะ หากแบ่งตามสภาพภูมิประเทศจะแบ่งได้เป็นตอนเหนือ ตอนกลาง และตอนใต้ค่ะ ทางตอนเหนือและตอนกลางเป็นภูมิประเทศแบบภูเขา และตอนใต้เป็นภูมิประเทศแบบแอ่งก้นกระทะค่ะ

อนึ่ง นครเกียวโตซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวหลักนั้นตั้งอยู่ทางตอนเหนือสุดของแอ่งก้นกระทะเกียวโตซึ่งล้อมรอบด้วยภูเขาทั้งสามด้าน ในตัวเมืองนั้นมีผังเมืองเป็นถนนตัดผ่านแบบตารางสี่เหลี่ยมที่ถูกทำขึ้นเมื่อประมาณศตวรรษที่ 8 ค่ะ

ประวัติศาสตร์ที่สำคัญของกรุงเกียวโต

กรุงเกียวโตเป็นเมืองเก่าแก่ที่เคยได้กลายเป็นเมืองหลวงในศตวรรษที่ 8 แม้ว่าศูนย์กลางการปกครองจะถูกย้ายมาอยู่ที่คามาคุระในศตวรรษที่ 12 ก็ตาม แต่ก็ยังได้รับการพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ ต่อมาในศตวรรษที่ 14 และ 19 ก็กลายเป็นศูนย์กลางทางการปกครองอีกครั้งและได้พัฒนากลายเป็นมหานครแบบทันสมัยในที่สุดค่ะ

อนึ่ง วัดวาอารามที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อมากมายหลายแห่งนั้นถูกสร้างขึ้นมานานนับตั้งแต่ศตวรรษที่ 8 เลยค่ะ วัดคิโยมิสุเดระ (清水寺 / Kiyomizudera วัดน้ำใส) วัดนินนาจิ (仁和寺 / Ninnaji) และอุโบสถโฮโอ อารามเบียวโดอิน (平等院鳳凰堂 / Byodo-in Hodo-do) ก็ถูกสร้างขึ้นตามลำดับค่ะ

ไปเที่ยวกรุงเกียวโต พักสักกี่คืนถึงจะคุ้ม?

กรุงเกียวโตแบ่งออกได้เป็นห้าพื้นที่ใหญ่ ๆ ดังนั้นจึงเป็นการดีที่จะเลือกจำนวนวันที่จะไปพักโดยพิจารณาตากจำนวนของพื้นที่ท่องเที่ยวและสถานที่ที่จะไปเยี่ยมชมค่ะ ข้อมูลเกี่ยวกับแต่ละพื้นที่ท่องเที่ยวนั้นเราได้เขียนอธิบายอยู่ข้างล่าง แต่ว่าการเที่ยวชมเพียงพื้นที่เดียวก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อยสองคืนสามวันเลยค่ะ นอกจากนี้ กรณีที่จะไปเที่ยวชมหลายพื้นที่ในทริปเดียวก็ควรกะเวลาไว้สัก 3 ถึง 4 คืนจะเป็นการดีกว่าค่ะ

ตัวอย่างเช่น ทางตอนเหนือสุดของกรุงเกียวโตคือพื้นที่ทังโกะ (丹後 / Tango) และทางตอนใต้สุดคือพื้นที่ยามะชิโระ (山城 / Yamashiro) ค่ะ จากสถานี Kumihama ในอำเภอเคียวทังโกะ (京丹後市 / Kyotango-shi) ทางตอนเหนือสุดของพื้นที่ทังโกะ ไปยังสถานี Uji ในอำเภออุจิ (宇治市 / Uji-shi) ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวหลักในพื้นที่ยามาชิโระ เวลาเดินทางระหว่างสองสถานีนั้นใช้เวลาเดินทางเที่ยวเดียวโดยรถไฟประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่งเลยค่ะ

เมื่อพิจารณาเวลาการเดินทางและเวลาที่ใช้ในสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละแห่งดูแล้วละก็ เราขอแนะนำให้เดินทางเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์หรือมากกว่านั้นสำหรับการไปเที่ยวกรุงเกียวโตให้ครบถ้วนและเพลิดเพลินอย่างเต็มที่ค่ะ

พื้นที่ท่องเที่ยวในกรุงเกียวโต

พื้นที่ท่องเที่ยวในกรุงเกียวโต

พื้นที่ท่องเที่ยวของกรุงเกียวโตแบ่งออกเป็น 5 พื้นที่ดังต่อไปนี้ค่ะ แผนที่ท่องเที่ยวของแต่ละพื้นที่นั้นสามารถดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์การท่องเที่ยวของแต่ละอำเภอในกรุงเกียวโต

แผนที่ท่องเที่ยวในพื้นที่เกียวโตนั้นมีให้บริการที่ศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยวเกียวโตภายในอาคารสถานี Kyoto ค่ะ

พื้นที่ท่องเที่ยวจุดเด่น
ทังโกะ (อะมาโนะฮาชิดาเตะ และอื่น ๆ)
แหล่งวิวสวย แหล่งออนเซ็น
ชูตัน (ปราสาทฟุกุจิยามะ และอื่น ๆ)
มีแหล่งท่องเที่ยวมากมายซึ่งใช้ธรรมชาติให้เป็นประโยชน์
นันตัน (แม่น้ำโฮซุกาวะ และอื่น ๆ)
พื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติซึ่งอยู่ติดกับนครเกียวโต
นครเกียวโต (สถานี Kyoto และอื่น ๆ)
พื้นที่ที่มีมรดกโลกถึง 15 อย่าง
ยามาชิโระ (อุจิ และอื่น ๆ)
เมืองหลวงแห่งชาเขียว

ทังโกะ (อะมาโนะฮาชิดาเตะ)

ทังโกะ (อะมาโนะฮาชิดาเตะ)

ทังโกะ (丹後 / Tango) ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของกรุงเกียวโต พื้นที่นี้มีศูนย์กลางอยู่ที่อำเภอเคียวทังโกะ (京丹後市 / Kyotango-shi) ในคาบสมุทรทังโกะ (丹後半島 / Tango Peninsula) และมีชื่อเสียงในฐานะแหล่งชมวิวทิวทัศน์และแหล่งน้ำพุร้อนค่ะ

จุดที่น่าจับตามากที่สุดก็คือ อะมาโนะฮาชิดาเตะ (天橋立 / Amanohashidate สันดอนสะพานฟ้า) และทาเตะอิวะ (立岩 / Tateiwa หินตั้ง) อะมาโนะฮาชิดาเตะเป็นหนึ่งในสามทิวทัศน์งดงามแห่งญี่ปุ่น (日本三景 / Three Views of Japan) ค่ะ นอกจากนี้ ทาเตะอิวะยังเป็นแนวโขดหินชันตามธรรมชาติที่มีความสูงถึง 20 เมตรและถูกกำหนดให้เป็นจุดชมวิวขึ้นชื่ออีกด้วยค่ะ

ชูตัน (ฟุกุจิยามะ และอื่น ๆ)

ชูตัน (中丹 / Chutan) ตั้งอยู่ด้านล่างของทันโกะ ประกอบด้วยอำเภอฟุกุจิยามะ (福知山 / Fukuchiyama) อำเภอไมสึรุ (舞鶴 / Maizuru) และอำเภออายาเบะ (綾部 / Ayabe) ในพื้นที่แห่งนี้ที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติอย่างทะเลและภูเขา กิจกรรมต่าง ๆ เช่นการเดินป่าปีนเขา และการล่องเรือชมวิวก็เป็นที่นิยมมากค่ะ

นอกจากนี้ยังมีอาคารเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน เช่น ปราสาทฟุกุจิยามะ (福知山城 / Fukuchiyama-jo) และวัดอังโคคุจิ (安国寺 / Ankokuji) เป็นต้นค่ะ

นันตัน (แม่น้ำโฮซุกาวะ)

นันตัน (南丹 / Nantan) เป็นพื้นที่ที่อยู่ติดกับนครเกียวโต ในด้านสถานที่ท่องเที่ยว นอกจากจะมีทัศนียภาพทางธรรมชาติต่าง ๆ อย่างเช่นหุบเขาและป่าดึกดำบรรพ์แล้ว ก็ยังมีด้านอื่น ๆ อีกมากมาย เช่นศาลเจ้าและวัดวาอารามโบราณ เป็นต้น

อย่าลืมสัมผัสกับกิจกรรม ที่คุณจะสัมผัสได้ถึงธรรมชาติของเกียวโต อย่างเช่น การเล่นร่มร่อนพาราไกลดิ้ง การล่องแพ และอื่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การล่องลำน้ำโฮซุกาวะนั้นเป็นเส้นทางตามลำน้ำจากคาเมะโอกะ (亀岡 / Kameoka) ไปยังอาราชิยามะ (嵐山 / Arashiyama) ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของเกียวโต มีระยะทางถึง 16 กิโลเมตร และเต็มไปด้วยความน่าตื่นเต้นค่ะ

นอกจากนี้นันตันยังมีเมืองมิยามะ (美山町 / Miyama-cho) ซึ่งถูกเรียกว่า “เกียวโตอีกแห่ง” ค่ะ เมืองมิยามะเป็นพื้นที่ที่มีอาคารหลังคามุงจากตั้งเรียงรายกันคล้ายหมู่บ้านโบราณชิราคาวาโกะค่ะ คุณยังสามารถชมความงามตามธรรมชาติไปพร้อมกับการชมหลังคามุงจากได้ค่ะ

เผยความงามของหมู่บ้านมิยามะ หมู่บ้านชนบทแห่งเกียวโต
ฤดูหนาวของเมืองมิยามะในเกียวโต

นครเกียวโต (สถานี Kyoto และอื่น ๆ)

นครเกียวโต (สถานี Kyoto และอื่น ๆ)

นครเกียวโตตั้งอยู่ในใจกลางของกรุงเกียวโต พื้นที่นี้มีศูนย์กลางอยู่ที่สถานีเกียวโต มีจุดท่องเที่ยวมากมายเช่นสถานที่ท่องเที่ยวอันขึ้นชื่อซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกค่ะ

จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งคือบรรยากาศที่แตกต่างกันไปตามพื้นที่ท่องเที่ยวแม้จะอยู่ภายในเมืองค่ะ

ตัวอย่างเช่น คาวาระมาจิ (河原町 / Kawaramachi ย่านลานกว้างริมแม่น้ำ) เป็นย่านใจกลางเมืองที่ใหญ่ที่สุดในเกียวโต บริเวณนี้เป็นจุดศูนย์กลางการท่องเที่ยวอย่างเรื่องการช้อปปิ้งค่ะ

สำหรับที่อื่น ๆ ก็ได้แก่ กิออน (祇園 / Gion) และฮิกาชิยามะ (東山 / Higashiyama) ซึ่งก็เป็นสถานที่ชั้นนำของเกียวโตด้วยเช่นกัน มีทั้งทิวทัศน์อาคารบ้านเรือนเก่าแก่มากมายที่มีห้องแถวโบราณและร้านค้าแบบดั้งเดิมตั้งเรียงกัน และศาลเจ้ากับวัดวาอารามโบราณเช่นเจดีย์แห่งยาซากะ (八坂の塔 / Yasaka no To) และวัดน้ำใส คิโยมิสุเดระ (清水寺 / Kiyomizudera) เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมีอาราชิยามะ (嵐山 / Arashiyama) และคุรามะ (鞍馬 / Kurama) ซึ่งเหมาะสำหรับการเดินป่าปีนเขาค่ะ

ยามาชิโระ (อุจิ และอื่น ๆ)

ยามาชิโระ (山城 / Yamashiro) ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของกรุงเกียวโต เป็นพื้นที่ที่ประกอบด้วย 12 เขตเทศบาล มีชื่อเล่นว่า "เมืองหลวงแห่งชาเขียว” (お茶の京都 / Ocha no Kyoto) มีร้านค้าชื่อดังมากมายในพื้นที่แห่งนี้ซึ่งให้กำเนิดมีชาแบรนด์ญี่ปุ่น “อุจิชา” (宇治茶 / Ujicha) ค่ะ

นอกจากนี้ยังเป็นพื้นที่ที่มีศาลเจ้าและวัดวาอารามมากมายค่ะ หนึ่งในที่มีชื่อเสียงที่สุดในนั้นก็คือ อารามเบียวโดอิน (平等院 / Byodoin) ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกค่ะ ที่นี่คุณสามารถชื่นชมสมบัติชาติ “อุโบสถโฮโอ” (鳳凰堂 / Ho-O-do) และสวนในวัดได้ ค่ะ

ถ้ามาที่เกียวโตแล้ว ไปพักที่ไหนดี?

ถ้ามาที่เกียวโตแล้ว ไปพักที่ไหนดี?

กรุงเกียวโตมีที่พักมากมาย จุดเด่นนั้นก็แตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ โดยเฉพาะในนครเกียวโตที่มีโรงแรมหลากหลายประเภท ตั้งแต่โรงแรมหรูไปจนถึงโฮมสเตย์ค่ะ

พื้นที่ท่องเที่ยวจุดเด่น
ทังโกะ (อะมาโนะฮาชิดาเตะ และอื่น ๆ)
มีที่พักที่มีออนเซ็นด้วยมากมายหลายแห่ง
ชูตัน (ปราสาทฟุกุจิยามะ และอื่น ๆ)
มีโฮมสเตย์กระจายอยู่ทั่วพื้นที่
นันตัน (แม่น้ำโฮซุกาวะ และอื่น ๆ)
เต็มไปด้วยที่พักขนาดกะทัดรัด เช่น ที่พักแบบเน้นมื้ออาหาร และที่พักที่มีออนเซ็น
นครเกียวโต (สถานี Kyoto และอื่น ๆ)
มีโรงแรมเป็นจำนวนมาก
ยามาชิโระ (อุจิ และอื่น ๆ)
ที่พักราคาสมเหตุสมผลเช่นเรียวกังและโฮมสเตย์ตั้งกันเรียงราย

ที่พักราคาถูกกระจายอยู่รอบ ๆ สถานี Kyoto ในนครเกียวโตหรือในพื้นที่ยามาชิโระค่ะ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเกียวโตมีขนาดใหญ่มาก จึงเป็นความคิดที่ดีที่จะจำกัดการค้นหาที่พักให้แคบลงโดยเลือกที่พักในพื้นที่ท่องเที่ยวก่อนที่จะลองค้นหาช่วงราคาค่ะ

แหล่งน้ำพุร้อนอันขึ้นชื่อและเรียวกังที่สามารถไปแช่ออนเซ็นได้ในกรุงเกียวโต

แหล่งน้ำพุร้อนอันขึ้นชื่อและเรียวกังที่สามารถไปแช่ออนเซ็นได้ในกรุงเกียวโต

น้ำพุร้อนในกรุงเกียวโตนั้นก็มีหลายแห่งในนครเกียวโตและอำเภอเคียวตันโกฝั่งทะเลญี่ปุ่นค่ะ ในนครเกียวโตก็มีที่พักน้ำพุร้อนอยู่ใกล้กับอาราชิยามะทางฝั่งพื้นที่ภูเขาค่ะ ช่วงราคาที่พบได้มากที่สุดอยู่ในช่วง 20,000 ถึง 30,000 เยน (ข้อมูล ณ เดือนมกราคม 2020)

แหล่งน้ำพุร้อนจุดเด่น
เรียวกังหลัก
อาราชิยามะออนเซ็น
อยู่ใกล้กับย่านตัวเมืองของเกียวโต
โทเก็ตสึเต (渡月亭 / Togetsutei)
ยุโนะฮานะออนเซ็น
แหล่งน้ำพุร้อนทางตะวันตกเฉียงเหนือของนครเกียวโต ในพื้นที่ภูเขาของอำเภอคาเมะโอกะ
สุมิยะคิโฮอัน (すみや亀峰菴 / Sumiya Kiho-an)
ฮะมาโนะฮาชิดาเตะออนเซ็น
แหล่งน้ำพุร้อนในอะมาโนะฮาชิดาเตะ แหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อทางตอนเหนือของกรุงเกียวโต
อะมาโนะฮาชิดาเตะริคิว โฮชิโนะโอโตะ (天橋立離宮 星音 / Amanohashidate Villa Hishonooto)
คุมิโนะฮามะออนเซ็นเคียว
แหล่งน้ำพุร้อนที่อยู่ทางฝ่งทะเลในอำเภอเคียวตันโกะทางตอนเหนือของกรุงโตเกียว
เฮคิซุยเกียวเอ็น (碧翠御苑 / Hekisui Gyoen)
ไทสะออนเซ็นเคียว
แหล่งน้ำพุร้อนที่อยู่ริมทะเลอำเภอเคียวตันโกะ โด่งดังเรื่องปูไทสกานิ (間人ガニ / Taizagani)
ไทสะออนเซ็น สุมิเฮ (間人温泉 炭平 / Taizaonsen Sumihei)

ในส่วนนี้เราจะมาแนะนำเกี่ยวกับนครเกียวโตกันค่ะ

เรื่องแสนสะดวกที่ควรรู้ไว้ก่อนจะไปเที่ยวนครเกียวโต

เรื่องแสนสะดวกที่ควรรู้ไว้ก่อนจะไปเที่ยวนครเกียวโต

นครเกียวโตเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวมากมายค่ะ ดังนั้นจึงควรหาข้อมูลตามที่ศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยวไว้ก่อนที่คุณจะเริ่มออกไปเที่ยวค่ะ และควรตรวจสอบแผนที่รถไฟใต้ดินและสถานที่รับฝากกระเป๋าเดินทางเพื่อให้การเที่ยวในเกียวโตเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพราบรื่นยิ่งขึ้นค่ะ

อนึ่ง ร้านสะดวกซื้อ เซเว่น-อีเลฟเว่นและร้านสตาร์บัคทั้งหมดทุกสาขาในเขตนครเกียวโตนั้น เป็น "ศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยวย่านกลางเมืองเกียวโต" (京都まちなか観光案内所 / Kyoto Machinaka Tourist Information Center) ซึ่งให้บริการฟรีแนะนำข้อมูลจุดท่องเที่ยว ข้อมูลการจราจร แผนที่และอื่น ๆ รอบ ๆ ตัวร้านสาขานั้น ๆ ค่ะ

ดาวน์โหลดแผนที่รถไฟใต้ดินนครเกียวโตกันไว้ดีกว่า

ภายในเขตนครเกียวโตมีรถไฟใต้ดินและทางรถไฟที่วิ่งลงใต้ดินบางส่วนรวมทั้งหมด 4 สาย เพื่อที่จะไปยังจุดท่องเที่ยวแต่ละแห่งได้อย่างราบรื่น เราขอแนะนำให้ดาวน์โหลดแผนที่ล่วงหน้ากันค่ะ

อนึ่ง คุณสามารถดาวน์โหลดแผนที่รถไฟใต้ดินเกียวโตได้จากเว็บไซต์สำนักงานขนส่งนครเกียวโตได้ค่ะ

สถานที่รับฝากสัมภาระในเกียวโตอยู่ตรงไหน?

สถานีส่วนใหญ่ภายในกรุงเกียวโตนั้นมีตู้ล็อคเกอร์หยอดเหรียญค่ะ อย่างไรก็ตาม ตู้ล็อคเกอร์ที่สามารถเก็บกระเป๋าขนาดใหญ่ได้นั้นมีจำนวนค่อนข้างน้อย นอกจากนี้ เมื่อเที่ยวชมนอกเขตนครเกียวโตก็อาจหาตู้ล็อคเกอร์หยอดเหรียญและสถานที่รับฝากสัมภาระทางได้ยาก ดังนั้นจึงควรตรวจสอบข้อมูลล่วงหน้าค่ะ

อย่างไรก็ตาม ในนครเกียวโตมีหลายสถานที่ที่คุณสามารถไปฝากสัมภาระได้ค่ะ โดยเฉพาะในแถบสถานีเกียวโตก็มีมากเป็นพิเศษ ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างบางส่วนค่ะ

  • จุดรับฝากกระเป๋า สถานี JR Kyoto (Crosta Kyoto ทางออก Hachijo ฝั่งตะวันตก Japan Travel TiS สาขาทางออกทิศตะวันตกสถานีเกียวโต)
  • ที่ทำการไปรษณีย์กลางเกียวโต
  • ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวคันไซสาขาเกียวโต เกียวโตทาวเวอร์
  • ตู้ล็อคเกอร์หยอดเหรียญในสถานีเกียวโต (24 จุด รวมประมาณ 4,200 ตู้)

ค่าธรรมเนียมการใช้งานอยู่ที่ 300-700 เยนสำหรับตู้ล็อคเกอร์หยอดเหรียญและ 400-1,000 เยนสำหรับการฝากสัมภาระโดยตรงค่ะ (ข้อมูล ณ เดือนมกราคม 2020)

ลักษณะเด่นของเกียวโตในฤดูกาลทั้งสี่ - สภาพภูมิอากาศและสิ่งน่าสนใจ

ลักษณะเด่นของเกียวโตในฤดูกาลทั้งสี่ - สภาพภูมิอากาศและสิ่งน่าสนใจ

เกียวโตมีภูมิอากาศที่แตกต่างกันระหว่างตอนเหนือและตอนใต้ ลักษณะเฉพาะของตอนเหนือคือมีหิมะมากในฤดูหนาว ในทางตรงกันข้าม ส่วนทางตอนใต้มีอากาศร้อนในฤดูร้อนและหนาวในฤดูหนาว ลักษณะเด่นอีกอย่างก็คือคุณสามารถเห็นทิวทัศน์ที่แตกต่างกันไปตามฤดูกาลได้

ในส่วนนี้เราจะกล่าวถึงรายละเอียดสภาพภูมิอากาศของนครเกียวโตซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญกันค่ะ

ฤดูใบไม้ผลิในเกียวโต (มีนาคม-พฤษภาคม)

ฤดูใบไม้ผลิในเกียวโต (มีนาคม-พฤษภาคม)

ฤดูใบไม้ผลิมีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 14 องศาเซลเซียสค่ะ ในช่วงกลางวันมีอากาศค่อนข้างอบอุ่น แต่เนื่องจากช่วงเช้าและเย็นจะมีอากาศหนาวเย็นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเดือนมีนาคม จึงควรสวมเสื้อแขนยาวค่ะ

สิ่งน่าสนใจประจำฤดูใบไม้ผลิก็คงไม่พ้นดอกซากุระนั่นเองค่ะ ในที่ต่าง ๆ จะมีดอกซากุระบาน โดยจะบานเต็มที่ในเดือนเมษายนค่ะ ในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมจะมีการจัดงานซึ่งเป็นหนึ่งในสามเทศกาลใหญ่แห่งเกียวโตซึ่งมีชื่อว่า เทศกาลอาโออิ (葵祭 / Aoi Matsuri) ขึ้นค่ะ

ฤดูร้อนในเกียวโต (มิถุนายน-สิงหาคม)

ฤดูร้อนในเกียวโต (มิถุนายน-สิงหาคม)

ฤดูร้อนมีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 26 องศาเซลเซียสค่ะ อากาศในช่วงเช้าและเย็นไม่เย็นมาก การสวมเสื้อแขนสั้นก็พอเพียงค่ะ อย่างไรก็ตามฤดูกาลนี้มีปริมาณน้ำฝนมากกว่าฤดูอื่นค่ะ

เมืองเกียวโตในฤดูร้อนนั้นเต็มไปด้วยกิจกรรมอีเวนต์มากมาย ตัวอย่างเช่น เทศกาลกิออน (祇園祭 / Gion Matsuri) ซึ่งจัดขึ้นในเดือนกรกฎาคม และเทศกาลทานาบาตะและการจุดไฟส่งวิญญาณเกียวโตโกซังโอคุริบิ (京都五山送り火 / Kyoto Gozan Okuribi) จะจัดขึ้นในเดือนสิงหาคม นอกจากนี้ยังมีการเปิดชายหาดเล่นน้ำทะเลและการประกวดพลุดอกไม้ไฟด้วยค่ะ

ฤดูใบไม้ร่วงในเกียวโต (กันยายน-พฤศจิกายน)

ฤดูใบไม้ร่วงในเกียวโต (กันยายน-พฤศจิกายน)

ฤดูใบไม้ร่วงมีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 19 องศาเซลเซียส ช่วงเดือนกันยายนและตุลาคมค่อนข้างอบอุ่นและเย็นสบาย แต่ในเดือนพฤศจิกายนอุณหภูมิต่ำสุดอาจลดต่ำกว่า 10 องศ้เซลเซียส ดังนั้นการสวมเสื้อแขนยาวจึงเป็นการดีค่ะ

ฤดูใบไม้ร่วงเป็นฤดูกาลแห่งใบไม้เปลี่ยนสีค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนใบไม้เปลี่ยนสีจะอยู่ในช่วงที่สวยงามที่สุดและมีทิวทัศน์ที่งดงามแผ่กว้างให้ชมค่ะ สามารถชมใบไม้เปลี่ยนสีได้ทุกที่ แต่ในแถบซากาโนะและอาราชิยามะทางตะวันตกเฉียงเหนือของนครเกียวโตนั้นก็มีจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีมากเป็นพิเศษค่ะ

ฤดูหนาวในเกียวโต (ธันวาคม-กุมภาพันธ์)

ฤดูหนาวในเกียวโต (ธันวาคม-กุมภาพันธ์)

ฤดูหนาวมีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 7 องศาเซลเซียสค่ะ แม้ว่าจะไม่ต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง แต่ก็ควรเสื้อผ้าที่หนาไว้ก่อนเป็นค่ะ

ในฤดูหนาวก็มีเสน่ห์ด้วยการประดับไฟอิลลูมิเนชั่นและการส่องไฟยามค่ำคืนค่ะ โดยเฉพาะไฟประดับตามศาลเจ้า วัดวาอาราม และสถานที่ท่องเที่ยวในแถบฮิกาชิยามะ ซากะ และอาราชิยามะในเขตนครเกียวโตนั้นก็งดงามราวภาพมายาเลยค่ะ

อาหารและร้านอาหารในเกียวโต

อาหารและร้านอาหารในเกียวโต

ในกรุงเกียวโตนั้นก็มีอาหารญี่ปุ่นมากมายให้ไปรับประทานกันได้ค่ะ อาหารที่มีชื่อเสียงก็ได้แก่ อาหารเจแบบเซน (精進料理 / Shojin Ryori) เต้าหู้น้ำ ยูโดฟุ (湯豆腐 / Yudofu) และซูชิปลาซาบะ (さば寿司 / Saba Sushi) เป็นต้นค่ะ สถานที่ที่สามารถไปทานอาหารเหล่านี้ได้ก็มีหลายแห่ง แต่จะมีมากเป็นพิเศษตามย่านกิออนและตามริมแม่น้ำคาโมะค่ะ

ร้านซูชิในเกียวโต

หากคุณต้องการทานซูชิในเมืองเกียวโต ลองไปที่ร้านขายซูชิสายพานและที่นั่งเคาน์เตอร์ดูได้เลยค่ะ ตัวอย่างเช่น หากจะทานที่ร้านซูชิสายพาน ที่ร้าน "คุราซูชิ สาขานิโจ” (くら寿司 二条店 / Kurasushi Nijo Store) คุณสามารถรับประทานซูชิได้.oik8k0ko[t 100 ถึง 200 เยนgmjkoyho8jt

ในทางกลับกัน หากคุณต้องการทานซูชิในเมนูแบบคอร์สหรือแบบชุด เราขอแนะนำร้าน “กิออนซูชิ ทาดายาสุ” (祇園 鮨 忠保 / Gion Sushi Tadayasu) และร้าน “ซูชิ คาวาโนะ” (鮨 かわの / Sushi Kawano) ช่วงราคาเริ่มตั้งแต่ 5,000 ถึง 33,000 เยน (ข้อมูล ณ เดือนมกราคม 2020)

ในพื้นที่แถบทังโกะในกรุงกียวโตมีอาหารท้องถิ่นชื่อ "บาราซูชิ” (ばらずし / Barazushi) ค่ะ เป็นข้าวซูชิโรยหน้าด้วยปลาซาบะหมักจนได้รสหวานเผ็ดหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ โรยด้วยเห็ดชิตาเกะ ไข่เจียวหั่นฝอยคินชิทามาโกะ และขิงดองเบนิโชกะค่ะ เป็นซูชิแบบข้าวหน้าปลาดิบที่ต่างจากนิกิริซูชิ (ข้าวปั้นซูชิ) ที่พบเห็นทั่วไปในปัจจุบัน มีร้านค้าชื่อดังมากมายในพื้นที่แถบทังโกะเนื่องจากเป็นอาหารท้องถิ่นในแถบนี้ แต่จะมีร้านมากเป็นพิเศษในอำเภอเคียวตังโกะค่ะ ราคามีช่วงกว้างตั้งแต่ 500 ถึง 2,000 เยนค่ะ

ร้านราเมนในเกียวโต

ราเมนของกรุงเกียวโตเป็นที่รู้จักกันดีไปทั่วญี่ปุ่นในนาม "เกียวโตราเมน” ลักษณะจำเพาะก็คือมีซุปที่ใช้รสโชยุที่เข้มข้นหรือรสซุปไก่ที่จัดจ้านเป็นต้นค่ะ

ชื่อสถานที่จุดเด่น
MENBAKA Kyoto Fire Ramen
ราเมนไฟแดงที่โด่งดังที่ใช้ต้นหอมคุโจของเกียวโตอย่างจุใจไม่ยั้งมือ
Shinpukusaikan Honten
ต้นกำเนิดของเกียวโตราเมน ขึ้นชื่อเรื่องโซบะจีนรสซีอิ๊ว
Honke Daiichiasahi Honten
หมูย่างและเส้นหมี่ที่เข้ากับซุปรสโชยุก็อร่อยลงตัวมาก
Masutani
ลักษณะเด่นคือซุปโชยุไก่ตุ๋นและเส้นหมี่ที่เรียวเล็ก

แม้จะมีพื้นฐานเป็นรสชาติที่เข้มข้นเหมือนกัน แต่ความหนาของเส้นหมี่และส่วนผสมที่ใช้ก็แตกต่างกันไป ดังนั้นถ้าคุณมีเวลาพอ การไปลองทานเปรียบเทียบก็น่าสนใจไม่น้อยเลยค่ะ ช่วงราคาของราเมนหนึ่งชามคือ 600-2,000 เยน (ข้อมูล ณ เดือนมกราคม 2020)

ภัตตาคารระดับมิชลินในเกียวโต

มีร้านอาหารประมาณ 200 ร้านในกรุงเกียวโตที่ถูกแนะนำในมิชลินไกด์รวมถึงที่ถูกแนะนำในหนังสือคู่มือแนะนำสุดยอดร้านอาหาร Bib Gourmand ค่ะ ในบรรดาร้านระดับมิชลินเหล่านั้น ร้านเฮียวเต (瓢亭 / Hyotei) เป็นร้านอาหารแบบไคเซกิเก่าแก่ที่มีประวัติการเปิดร้านมานานถึง 400 ปี สำหรับอาหารตะวันตกนั้นเราแนะนำร้าน Restaurant Hiramatsu Kodaiji (レストランひらまつ高台寺) และ Ristorante Chimera (リストランテ キメラ) ค่ะ

ร้านอาหารญี่ปุ่นอย่างอุด้ง ชุดอาหาร ฯลฯ ในเกียวโต

นครเกียวโตมีร้านอาหารญี่ปุ่นมากมาย มีร้านแฟรนไชส์เพียงไม่กี่ร้าน คุณจึงสามารถทานอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ของเกียวโตได้ค่ะ

หากจะทานอุด้ง เราแนะนำร้าน Yamamoto Menzou (山元麺蔵) หากจะทานอาหารเกียวโตก็แนะนำร้าน Gohandokoro Yaosada (ごはん処 矢尾定) และร้าน Kyosaimi Nomura (京菜味 のむら) ค่ะ ควรเตรียมงบประมาณไว้สัก 900 ถึง 1,300 เยนค่ะ (ข้อมูล ณ เดือนมกราคม 2020)

ร้านกาแฟและคาเฟ่ในเกียวโต

ในเกียวโตมีร้านกาแฟและคาเฟ่มากมายที่คุณสามารถไปทานขนมญี่ปุ่นได้ค่ะ

สิ่งที่น่าสนใจเป็นพิเศษในนั้นก็คือ ร้านสาขาของ”สตาร์บัคส์” ที่มีอยู่ทั่วประเทศ “สตาร์บัคส์คอฟฟี่ ร้านน้ำชาสาขาเกียวโตนิเนยาซากะชายะ” (スターバックスコーヒー 京都二寧坂ヤサカ茶屋店 / Starbucks Coffee Kyoto Ninenzaka Yasaka Chaya branch) ค่ะ ที่นี่คุณสามารถทานกาแฟและเค้กภายในร้านได้เหมือนสาขาอื่น ๆ แต่สาขานี่ก็มีการตกแต่งภายนอกที่แปลกตาโดยใช้บรรยากาศของเมืองเกียวโตให้เป็นประโยชน์จนเหมือนร้านน้ำชาสมัยโบราณเลยค่ะ

นอกจากนี้การตกแต่งภายในก็มีเสน่ห์เช่นเดียวกับภายนอก โดยมีการใช้ห้องรับแขกแบบซาชิกิ (座敷 / Zashikiแบบนั่งพื้นบนเสื่อทาทามิ) ที่สามารถนั่งจิบกาแฟได้ค่ะ

สำหรับร้านอื่น ๆ เราขอแนะนำ Gion Hitsuji Cafe (祇をん ひつじカフェ) ที่ซึ่งคุณสามารถดื่มกาแฟในพื้นที่ที่เงียบสงบซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเกียวโตค่ะ

ร้านอาหารแปลก ๆ ในเกียวโต

เมื่อคุณมาถึงเกียวโตแล้ว อย่าไปเยือนเพียงแค่ร้านอาหารมาตรฐานเท่านั้นนะคะ ต้องลองไปยังร้านที่มีความแปลกแหวกแนวดูด้วยค่ะ

ชื่อสถานที่ช่วงราคา
Issen Yoshoku (壹錢洋食)
210-800 เยน
Shishin Samurai Restaurant (士心 サムライレストラン)
1,200-10,000 เยน
Omurice KichiKichi (ザ・洋食屋キチキチ)
1,500-3,250 เยน

Issen Yoshoku (壹錢洋食) เป็นร้านขายเครื่องปั้นที่กลายมาเป็นร้านต้นตำหรับโอโคโนมิยากิค่ะ หุ่นที่พบได้ทั้งในและนอกร้านก็เป็นผลงานต้นฉบับของทางร้านค่ะ

ในทางกลับกัน ภัตตาคาร Shishin Samurai Restaurant (士心 サムライレストラン) ซึ่งมีชุดเกราะและดาบจัดแสดงภายในร้านก็ให้บริการอาหารที่จัดราวกับเป็นอาหารสำหรับขุนศึกเลยค่ะ

ส่วนร้าน Omurice KichiKichi (ザ・洋食屋キチキチ) มีครัวแบบเปิดซึ่งคุณสามารถชมการทำข้าวไข่เจียวแบบสด ๆ ได้ค่ะ (ข้อมูล ณ เดือนมกราคม 2020)

จุดทานอาหารเช้าที่แนะนำในเกียวโต

สำหรับการทานอาหารเช้าในเกียวโต เราขอแนะนำอาหารจำพวกแพนเค้ก อาหารเช้าแบบญี่ปุ่น และบุฟเฟ่ต์ค่ะ สำหรับอาหารเช้าแบบญี่ปุ่น ร้าน “ทัน” (丹 / Tan) และร้าน “คิชิน” (喜心 / Kishin) ก็เป็นที่นิยมมาก สำหรับอาหารตะวันตกเช่นแพนเค้ก ร้าน “Okaffe Kyoto” (おかふぇ きょうと) และ “Cafe & Pantry Matsunosuke” (Cafe & Pantry 松之助) เป็นที่นิยมมากค่ะ

ส่วนสำหรับบุฟเฟ่ต์อาหารเช้า ร้านที่อยู่ภายในโรงแรมก็น่าสนใจค่ะ

ของว่าง-ของหวานขึ้นชื่อของเกียวโต

กรุงเกียวโตมีชื่อเสียงเรื่องขนมชาเขียวมัทฉะค่ะ ซึ่งก็ไม่ได้นำมาใช้กับแค่เพียงขนมญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ยังใช้กับขนมตะวันตกต่าง ๆ ด้วยค่ะ ตัวอย่างเช่น ร้าน "สะเรียว สึจิริ” (茶寮都路里 / Saryo Tsujiri) สามารถทำพาร์เฟ่ต์แบบให้คุณกำหนดเองโดยใช้เค้กคาสเทลล่าและช็อคโกแลตที่ใช้ผงชาเขียวมัทฉะประกอบได้ค่ะ

นอกจากนี้ ร้าน “กิออนโคอิชิ คันมิโดโคโระ (祇園小石 甘味処 / Gankoishi Kanmidokoro) นอกจากผงชาเขียวมัทฉะแล้วก็ยังให้บริการขนมญี่ปุ่นรสหวานอื่น ๆ เช่นอันมิสึอีกด้วย ราคาอยู่ที่ประมาณ 630-1,500 เยนค่ะ (ข้อมูล ณ เดือนมกราคม 2020)

โรงแรมในเกียวโต

โรงแรมในเกียวโต

ในเกียวโตมีตั้งแต่โรงแรม 5 ดาวที่ถูกแนะนำในคู่มือมิชลินไกด์ ไปจนถึงโรงแรมแคปซูลค่ะ นี่คือโรงแรมที่แนะนำสำหรับแต่ละระดับค่ะ

โรงแรม 5 ดาวและ 4 ดาวในเกียวโต

โรงแรมระดับ 5 ดาวและ 4 ดาวจำนวนมากภายในกรุงเกียวโตนั้น จะตั้งอยู่ในเขตฮิกาชิยามะของนครเกียวโตที่มีบรรยากาศสงบและอยู่ห่างจากความวุ่นวายใจกลางเมืองค่ะ ช่วงราคาค่อนข้างกว้าง ตั้งแต่ 10,000 เยนไปจนถึง 90,000 เยนค่ะ (ข้อมูล ณ เดือนมกราคม 2020)

ชื่อสถานที่จุดเด่น
Kyoto Hotel Okura
โรงแรมคุณภาพสูงที่ถูกแนะนำไว้ในมิชลินไกด์
Kyoto Century Hotel
ทำเลสะดวกเพราะอยู่ใกล้กับสถานี Kyoto
The Ritz-Carlton Kyoto
มีกิจกรรมสำหรับแขกผู้เข้าพักมากมาย
Hyatt Regency Kyoto
ห้องพักที่เพรียบพร้อมด้วยฟังค์ชั่นการใช้งานแต่ให้ความรู้สึกแบบญี่ปุ่น
Four Seasons Hotel Kyoto
มีสวนญี่ปุ่นเก่าแก่อายุราว 800 ปี
The Westin Miyako Hotel Kyoto
อยู่ใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวในฮิกาชิยามะ
ART MON ZEN KYOTO
โรงแรมศิลปะที่จัดทำขึ้นโดยตัวแทนจำหน่ายผลงานศิลปะ

โรงแรมราคาประหยัดในเกียวโต

โรงแรมราคาประหยัดในนครเกียวโตนั้นตั้งอยู่ในทำเลที่สะดวกต่อการเดินทางและใช้งานง่าย มีโรงแรมที่มีความพิถีพิถันและเป็นเอกลักษณ์มากมาย ช่วงที่พบได้บ่อยที่สุดคือประมาณ 8,000 ถึง 12,000 เยน (ข้อมูล ณ เดือนมกราคม 2020)

ชื่อสถานที่จุดเด่น
Hotel Granvia Kyoto
ทัวร์พิเศษที่จัดโดยโรงแรมนั้นเป็นที่นิยมมาก
Kyoto Granbell Hotel
สามารถชมการแสดงของเหล่าไมโกะได้
Kyoto Tokyu Hotel
สะดวกแก่การไปเที่ยวทางฝั่งตะวันตกของสถานี
Tokyo Brighton Hotel
โรงแรมที่อยู่ ณ “ใจกลางเกียวโต”
Cross Hotel Kyoto
ทำเลเยี่ยมใกล้แหล่งท่องเที่ยว
Solaria Nishitetsu Hotel Kyoto Premium
สามารถมองข้ามฝั่งแม่ร้ำคาโมะได้จากในห้องพัก
The Celestine Kyoto Gion
ห้องพักที่พิถีพิถันเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวก

โรงแรมแคปซูลในเกียวโต

นครเกียวโตเต็มไปด้วยโรงแรมแคปซูลที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวค่ะ มีหลายแห่งในแถบคาวาระมาจิจึงสะดวกในการไปเที่ยวค่ะ ช่วงราคาอยู่ที่ประมาณ 2,200-5,000 เยน (ข้อมูล ณ เดือนมกราคม 2020)

ชื่อสถานที่จุดเด่น
Smart Stay SHIZUKU
แสนสบายด้วยฟูกนอนสูตรต้นตำหรับของโรงแรม
GLANSIT KYOTO KAWARAMACHI
สะดวกแก่การท่องเที่ยวด้วยทำเลใกล้ย่านกิออนและนิชิกิโคจิ
9h nine hours Kyoto
มีจุดเด่นเป็นแคปซูลที่ดูล้ำสมัย
Comicap Kyoto สาขา Shinkyogoku
สามารถอ่านหนังสือการ์ตูนที่มีนับหมื่นเล่มได้แบบไม่อั้น
Centurion Cabin & Spa
พักในบรรยากาศนักออกแบบสไตล์ญี่ปุ่น
Capsule Resort Kyoto Square
มีแคปซูลแบบเตียงยาวให้บริการ
Capsule Ryokan Kyoto
โรงแรมยอดนิยมสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องการจอง

Airbnb และโฮสเทลในเกียวโต

ในนครเกียวโตมีบ้านเช่าหลายแห่งจากสถานีไล่ไปตามถนนคาราสุมะโดริ (烏丸通 / Karasuma-dori) ค่ะ ช่วงราคาที่พบบ่อยที่สุดคือประมาณ 2,000-3,000 เยนซึ่งก็สมเหตุสมผลค่ะ ด้านโฮสเทลก็มีมากมาย เช่น "Ryokan HOSTEL Gion”, “Kyoto Morris Hostel” และ "Hostel Grids Kyoto” ช่วงราคาที่พบบ่อยที่สุดคือประมาณ 2,000-4,000 เยนค่ะ (ข้อมูล ณ เดือนมกราคม 2020)

โรงแรมที่มีเอกลักษณ์แปลกตาในเกียวโต

เกียวโตมีโรงแรมที่มีเอกลักษณ์มากมาย มีการเตรียมห้องพักที่มีคอนเซปท์หลากหลายด้วยค่ะ

ชื่อสถานที่จุดเด่น
Hotel Gracery Kyoto Sanjo
มีห้องที่จัดตามคอนเซปท์คาบุกิ
Hotel Anteroom Kyoto
มีห้องพักคอนเซปท์ที่ศิลปินมากมายหลายหน้าได้มาช่วยตกแต่ง
MIMARU KYOTO
มีห้องพักตามคอนเซปท์โปเกม่อน

เลิฟโฮเต็ลในเกียวโต

ในกรุงเกียวโตมีเลิฟโฮเต็ลมากกว่า 80 แห่ง ส่วนใหญ่อยู่ในเขตฟุชิมิทางใต้ของสถานี Kyoto ค่ะ ราคาอยู่ในช่วงตั้งแต่ 4,000 ถึง 30,000 เยน สาธารณูปการครบครันและสิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วนก็เป็นเสน่ห์สำคัญค่ะ (ข้อมูล ณ เดือนมกราคม 2020)

ข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทางในเกียวโต

เราได้รวบรวมข้อมูลการเข้าถึงระหว่างกรุงเกียวโตไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ไว้ตามนี้ค่ะ

วิธีการเดินทางไปยังเกียวโต

ถ้าคุณจะเดินทางไปยังกรุงเกียวโต (นครเกียวโต) การไปลงที่สนามบินนานาชาติคันไซก็สะดวกมากค่ะ จากสนามบินคันไซ ใช้รถบัสรับส่งของสนามบินคันไซ คุณจะมาถึงสถานี JR Kyoto ในเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาทีค่ะ

การเดินทางภายในเกียวโตนั้นใช้รถบัสหรือรถไฟจะสะดวกมาก! แต่ก็คนแน่นมากด้วย

ในเขตนครเกียวโตนั้น สถานที่ท่องเที่ยวจะกระจายอยู่ตามแต่ละพื้นที่ ดังนั้นจึงขอแนะนำให้ใช้ระบบขนส่งสาธารณะค่ะ

อย่างไรก็ตาม บริการอาจมีคนแน่นแออัดมาก ดังนั้นจึงเป็นการดีที่จะเปลี่ยนสายรถไฟและรถบัสบ่อย ๆ ในกรณีดังกล่าวก็ควรซื้อตั๋วแบบบัตรผ่านหนึ่งวันค่ะ

ค่าโดยสารอยู่ที่ 900 เยนสำหรับตั๋วแบบบัตรผ่านหนึ่งวัน และ 1,700 เยนสำหรับตั๋วแบบบัตรผ่านสองวันค่ะ

นอกจากนี้ หากคุณต้องการใช้ไม่ใช่เพียงแค่รถไฟใต้ดินเท่านั้นแต่รวมถึงรถไฟ JR ด้วยก็ให้เลือก“ Kyoto JR Pass” จะดีกว่าค่ะ สามารถขึ้นรถไฟใต้ดินเทศบาลนครเกียวโต รถไฟ JR West รถไฟ Hankyu รถไฟ Keihan และรถไฟ Arashiden ภายในพื้นที่ในเขตนครที่กำหนดได้ไม่อั้นหนึ่งวันในราคา 1,300 เยนค่ะ โปรดทราบไว้ว่า ตั๋วนี้ไม่สามารถใช้ขึ้นรถบัสแบบไม่อั้นได้ค่ะ (ข้อมูล ณ วเดือนมกราคม 2020)

รวมตั๋วรถไฟและรถบัสญี่ปุ่นสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ【ฉบับพื้นที่คันไซ】

การเดินทางจากเกียวโตไปยังสถานีหลักและแหล่งท่องเที่ยวหลักอื่น ๆ ทั่วประเทศ

การเดินทางจากสถานีเกียวโตไปยังแหล่งท่องเที่ยวสำคัญทั่วประเทศ ดูได้จากข้างล่างค่ะ

ชื่อสถานีหลักวิธีการเดินทาง
เวลาเดินทาง
โตเกียว
JR Tokaido Shinkansen
ประมาณ 2 ชั่วโมง 20 นาที
โอซาก้า
JR Tokaido Shinkansen
ประมาณ 13 นาที
นาระ
รถไฟ JR สาย Nara
ประมาณ 1 ชั่วโมง 1 นาที
ฮิโรชิม่า
JR Tokaido Shinkansen
ประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที
สนามบินคันไซ
รถบัสขนส่งสนามบินคันไซ
ประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที

หัวข้อเรื่อง

Survey[แบบสอบถาม] กรุณาบอกเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในญี่ปุ่น







Recommend