สำรวจความงามของวัดคินคาคุจิ ณ เกียวโต

  • 12 ตุลาคม 2018
  • 1 เมษายน 2020
  • FUN! JAPAN Team
  • Mon

วัดคินคาคุจิ (金閣寺 / Kinkakuji) หรืออีกชื่อที่โด่งดังคือ วัดพลับพลาทอง วัดคินคาคุจิตั้งอยู่ ณ ใจกลางของเมืองเกียวโต มีชื่อแบบเป็นทางการว่า โรคุออนจิ (鹿苑寺 / Rokuon-ji) เป็นวัดของพุทธศาสนา นิกายเซนชื่อดังแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น พลับพลาทองของวัดคินคาคุจิดึงดูดผู้แสวงบุญทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงนักเดินทางท่องเที่ยวจากทุกแห่งหน ให้มาชมความงามด้วยตาของตนเอง ในวันนี้เราจะมาเล่าให้ฟังว่าสถานที่แห่งนี้มีความน่าสนใจอะไรซ่อนอยู่อีกบ้าง

ความเป็นมาของวัดคินคาคุจิ

วัดคินคาคุจิสร้างแล้วเสร็จในปี 1397 แต่เดิมเป็นของรัฐบุรุษท้องถิ่นผู้มีอำนานนามว่า ไซออนจิ คินสึเนะ (西園寺公経 / SAIONJI Kintsune) ต่อมา โชกุนอะชิคากะ โยชิมิตสึ (足利義満 ASHIKAGA Yoshimitsu) ได้ขอซื้อต่อและปรับปรุงให้กลายเป็นวัดคินคาคุจิเฉกเช่นในปัจจุบัน

ในปี 1408 หลังจากที่โชกุนอะชิคากะ โยชิมิตสึ ได้เสียชีวิตลง วัดคินคาคุจิได้ถูกปรับมาเป็นวัดของนิกายรินไซ (臨済宗 / Rinzai-shu) ของพุทธศาสนาสายเซนเพื่อเชิดชูเกียรติของท่าน ถึงแม้ว่าสมัยก่อนบริเวณรอบๆ วัดจะมีอาคารอื่นๆ อีก แต่ก็ถูกเผาทำลายไปจนสิ้นในระหว่างสงครามโอนิน (応仁の乱 / Onin War) ในปี 1950 พลับพลาทองก็ถูกเผาทำลายโดยเณรรูปหนึ่ง และได้บูรณะขึ้นมาใหม่อีกครั้งในปี 1955

พลับพลาหลังนี้มีความสูงเท่ากับตึก 3 ชั้นและถูกบูรณะขึ้นใหม่ให้ใกล้เคียงกับของเดิมที่สุด ตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ได้มีการบูรณะเกิดขึ้นหลายครั้ง และมีการเพิ่มใบไม้สีทองลงไป ล่าสุดในปี 2003 ได้มีการบูรณะหลังคาขึ้นใหม่อีกครั้ง

ไฮไลท์ของวัดคินคาคุจิ

ตัวพลับพลามีการผสมผสานระหว่างสไตล์ ชินเดน (寝殿 / Shinden เรือนบรรทม) เซน (禅 / Zen ศาสนาพุทธสายฌาณ) และซามูไร โดยชั้นแรกมีชื่อว่า "อารามน้ำพระธรรม" (法水院 / The Chamber of Dharma Waters) โดยมีการตกแต่งสไตล์เรือนบรรทม ชั้นที่สองมีชื่อว่า "หอเสียงคลื่น" (潮音洞 / The Tower of Sound Waves) โดยจะมีการตกแต่งแบบบ้านของซามูไร และชั้นที่สาม "ยอดสูงสุด" (究竟頂 / Cupola of the Ultimate) จะมีการตกแต่งแบบพุทธศาสนานิกายเซน

รอบๆ พลับพลาทองจะมีสระน้ำ คุณอาจจะมองเห็นต้นอ้อยที่ขึ้นอยู่บนเกาะเล็กๆกลางน้ำ นอกจากนั้นที่นี่ยังล้อมรอบด้วยสวนสวย ๆ และอาคารอื่น ๆ อีกด้วย

วัดคินคาคุจิเป็นจุดหมายปลายทางของชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่นี่จะมีความสวยงาม แต่ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการมาที่นี่คือช่วงฤดูหนาว

ชมความงามอันแสนล้ำค่าในช่วงฤดูหนาว

ในช่วงฤดูหนาว เมืองเกียวโตจะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ ซึ่งสีขาวสะอาดของหิมะจะตัดกับสีทองอร่ามของพลับพลาทอง รับรองว่าที่นี่จะงดงามจะคุณลืมหายใจเลยทีเดียว

ในวันที่ลมไม่แรง คุณจะได้เห็นภาพสะท้อนของปราสาทสีทองในบ่อน้ำ เป็นหนึ่งในวิวที่สวยที่สุดของวัดคินคาคุจิที่ผู้คนนิยมเดินทางมาชมความงามด้วยตาตนเอง ดังนั้นหากจะมาที่นี่เราจะขอแนะนำให้คุณมาในช่วงฤดูหนาว และอย่าลืมพกกล้องถ่ายภาพมาด้วยนะคะ

การเดินทางจากสถานี Kyoto ไปยังวัดคินคาคุจิ

วิธีการเดินทางไปยังวัดที่ง่ายที่สุดจากสถานี Kyoto คือ ใช้บริการรถบัส Kyoto City Bus หมายเลข #205 ซึ่งจะออกจากท่ารถ B3 ที่นั่งจะมีบัสแบบบัสรอบเมือง (local service) และบัสด่วน (rapid service) แนะนำให้ขึ้นบัสแบบรอบเมือง เพราะบัสด่วนจะไม่จอดที่วัดคินคาคุจิ

นอกจากนั้นคุณยังสามารถใช้บริการรถบัสสาย #101 ซึ่งจะจอดที่วัดเช่นกัน นอกจากนั้นยังมีบริการประกาศเป็นภาษาอังกฤษและภาษษจีนอีกด้วย คุณสามารถขึ้นบัส #101 ได้ที่เทอมินัล B2 โดยการเดินทางจะใช้เวลาประมาณ 30 นาที

ช่วงเวลาเปิดให้เข้าชม

วัดคินคาคุจิและบริเวณรอบๆ จะเปิดให้เข้าชมในเวลา 9.00 – 17.00 น. ทุกวันไม่เว้นวันหยุด โดยจะเก็บค่าเข้าชมดังต่อไปนี้ ผู้ใหญ่ 400 เยน และเด็กนักเรียน 300 เยน

ข้อมูลสถานที่แนะนำ

  • สถานที่: Kinkakuji
  • ที่ตั้ง: 1 Kinkakujicho, Kita-ku, Kyoto-shi, Kyoto 603-8361
  • การเดินทาง: เดินทางด้วยรถบัสประมาณ 30 นาที จากสถานีขนส่ง Kyoto Station Bus Terminal ท่ารถ B2 รถบัสสาย #205, หรือท่ารถ B3 รถบัสสาย #101 

หัวข้อเรื่อง

Survey[แบบสอบถาม] กรุณาบอกเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในญี่ปุ่น







Recommend