
ในช่วงเวลาสิบกว่าปีที่ผ่านมา ประเทศญี่ปุ่นกำลังประสบปัญหาสถานที่สำหรับเด็กเล็กมีไม่เพียงพอตามความต้องการ ซึ่งกำลังเป็นประเด็นที่ยังไม่มีมาตรการแก้ปัญหาที่ชัดเจน สำหรับคุณแม่เวิร์คกิ้งมัมแล้ว เมื่อใกล้ครบกำหนดวันลาการก็จะต้องเตรียมหาสถานที่ที่จะรับเลี้ยงลูกสุดที่รักของตน นั่นก็คือ daycare หรือ nursery center หรือสถานรับเลี้ยงเด็กนั่นเอง วันนี้จึงขอนำเสนอเกร็ดความรู้น่าสนใจว่าที่ญี่ปุ่นเขาดูแลเด็กๆกันอย่างไร

ข้อแตกต่างระหว่างโรงเรียน Kindergarten(โรงเรียนอนุบาล) และ Nursery Centers
ทั้งสองสถานที่เป็นที่สำหรับให้เด็กๆได้มาใช้เวลากับคุณครูและเพื่อนๆ แต่หากศึกษาถึงกฏและข้อบังคับต่างๆแล้ว เราจะพบว่าทั้งสองสถานที่นี้แตกต่างกันอย่างมากทั้งในแง่ของระบบและนโยบาย
Nursery center
จะรับเลี้ยงและดูแลเด็กเล็กที่ทั้งคุณพ่อและคุณแม่ต้องไปทำงาน ผู้ปกครองสามารถเลือกได้ทั้งของเอกชนและที่มีบริการประจำจังหวัดหรือเมือง สำหรับ Nursery Center ของเอกชนนั้นจะมีการแข่งขันกันสูงเชียวค่ะ
kindergartens (โรงเรียนอนุบาล)
ในทางกลับกัน kindergartens (โรงเรียนอนุบาล) จะเน้นทางวิชาการและรับเด็กในช่วงอายุเดียวกัน โดยจะมีการแบ่งเป็นวิชาๆ เช่น ภาษาญี่ปุ่น คณิตศาสตร์ และการเขียน รวมถึงวิชาพลศึกษา เพื่อเป็นการส่งเสริมให้เด็กๆได้ขยับ เคลื่อนไหวร่างกายได้อย่างสมวัย ในปัจจุบันในหลายๆโรงเรียนได้มีการบรรจุการเรียนการสอนภาษาอังกฤษไว้ในหลักสูตรอีกด้วย
ครอบครัวชาวญี่ปุ่นจะได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาล ตั้งแต่ 3,000 เยนจนถึง 30,000เยน ขึ้นกับรายได้ของแต่ละครอบครัวและอายุของเด็ก อีกทั้งยังขึ้นอยู่กับงบประมาณของแต่ละเมืองอีกด้วย

ช่วงเวลาที่ไปโรงเรียนก็ต่างกัน
nursery center เป็นสถานที่รับเลี้ยงเด็กๆในช่วงเวลาที่ผู้ปกครองไปทำงาน ดังนั้น nursery center หลายๆที่จึงเปิดให้บริการตั้งแต่ 8 โมงเช้าจนถึงสองทุ่ม
ซึ่ง nursery center จะดูแลตั้งแต่อาหารการกิน การเล่น ตลอดจนการนอนหลับพักผ่อนระหว่างวัน แต่สำหรับโรงเรียนอนุบาล จะให้บริการในช่วงเวลาที่สั้นกว่า นั่นคือ 9โมงเช้าจนถึงบ่ายสอง อีกทั้งยังมีการหยุดปิดเทอมในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนอีกด้วย ในปัจจุบันโรงเรียนอนุบาลส่วนใหญ่เริ่มเสริมชั่วโมงพิเศษที่จะมีการเก็บค่าบริการเพิ่ม เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ปกครองที่ไม่มีเวลา
สำหรับคุณแม่ที่ต้องทำงานข้างนอกจะ nursery center ก็จะป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า สำหรับคุณแม่บ้านที่เลี้ยงลูกเต็มเวลานั้นก็จะเลือกแบบ Kindergarten หรือโรงเรียนอนุบาลนั่นเอง อย่างไรก็ตามในปัจจุบันสถานที่สำหรับเด็กเพิ่มตัวเลือกที่หลากหลายมากขึ้น จึงตอบสนองความต้องการของคุณพ่อคุณแม่ได้เป็นอย่างดีทีเดียวค่ะ
Comments