แนะนำการเดินทางด้วยรถไฟพาเที่ยวในคิวชู - Part 2

  • 6 กันยายน 2017
  • 14 สิงหาคม 2019
  • FUN! JAPAN Team

ตอนที่ 2: อัญมณีสามประการจาก Kumamoto ถึง Hitoyoshi/Yoshimatsu ด้วยรถไฟสามขบวน SL Hitoyoshi, Isaburo/Shinpei และ Kawasemi/Yamasemi

มาถึงตอนที่สองของซีรี่ย์รถไฟพาเที่ยวแล้วนะคะ ในตอนแรกเราได้แนะนำข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับการเดินทางด้วยรถไฟสายต่างๆในคิวชูไปแล้ว วันนี้เราจะเริ่มต้นเข้าสู่การเดินทางของจริงด้วยรถไฟ 3 ขบวนที่เชื่อมระหว่าง Kumamoto และ Yoshimatsu วิ่งยาวไปตามแม่น้ำKuma และเราจะขึ้นชินคันเซ็นที่วิ่งจาก Hakata ไป Kumamoto และรถไฟนำเที่ยวอีกขบวนจาก Yoshimatsu ไปยัง Kagoshima (ที่เราจะเล่าในตอนต่อไป)

SL Hitoyoshi

SL Hitoyoshi เป็นรถจักรไอน้ำที่ให้ความรู้สึกเหมือนขึ้นรถไฟไป ฮอกวอร์ตเลยหละค่ะ

20170906-15-1-kyushu-2
(Source: David Brossard@flickr)

รถไฟพลังงานไฟฟ้า

ในปัจจุบันเราใช้รถไฟที่เป็นไฟฟ้าหรือบางขบวนอาจใช้น้ำมันดีเซล แต่แน่นอนว่าไม่มีใครใช้ถ่านหินในการขับเคลื่อนรถไฟกันอีกต่อไปแล้ว เพื่อเป็นการรักษาสภาพแวดล้อมและประหยัดพลังงาน อย่างไรก็ตาม SL Hitoyoshi จึงเป็นรถไฟขบวนสุดท้ายที่เป็นรถไฟไอน้ำและยังใช้พลังงานจากถ่ายหินอยู่

20170906-15-2-kyushu-2

The Steam Locomotive

SL ที่คุณเห็นย่อมาจาก Steam Locomotive รถไฟรุ่นนี้ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยก่อนโชวะ ไทโช (1923) และให้บริการจนถึงปี 1976 (เท่ากับว่ารถไฟคันนี้ได้วิ่งรอบโลกไป 84 รอบแล้ว) ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง รถไฟขบวนนี้ได้ถูกนำไปจัดแสดงไว้ที่พิพิธภัณฑ์ใน Hitoyoshi จนกระทั่งได้กลับเข้ามาทำงานใหม่อีกครั้งในปี 1989 หากคุณมีโอกาสได้ไปเจอรถไฟขบวนนี้ อย่าลืมเข้าไปส่องวิธีการเติมถ่านของเขากันนะคะ
20170906-15-3-kyushu-2

ตู้โดยสาร

ถึงรถไฟจะมีอายุรุ่นคุณปู่แล้ว แต่ภายในนั้นกลับสวยงามทันสมัย มีการติดตั้งหลอดไฟฟ้าเพิ่มความสว่างไสวและมีเครื่องปรับอากาศเพื่อช่วยให้นั่งได้อย่างสบายและไร้กลิ่นควันจากการเผาไหม้ของถ่าน

20170906-15-4-kyushu-2

การตกแต่งภายในของรถไฟ

รถไฟขบวนนี้มีการตกแต่งภายในที่ต่างจากรถไฟขบวนอื่น ตู้โดยสารมีทั้งหมด 3 ตู้ โดยตู้แรกจะเป็นเลาจน์ และตู้สุดท้ายจะมีกระจกชมวิวบานใหญ่เหมาะแก่ผู้ที่อยากเก็บภาพสวยๆของทัศนียภาพระหว่างทาง

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย

หลายๆคนอาจจะคิดว่าถ้าอยากชมวิวสวยๆต้องนั่งตู้แรก แต่เราขอบอกเลยว่าตู้แรกจะติดกับ steam lomotive ซึ่งจะบังวิวหมดเลย ถ้าใครอยากเห็นวิวชัดๆเก็บภาพสวยๆ เราขอแนะนำให้นั่งตู้ท้ายสุดเลยค่ะ! 

แผนที่

สามารถชมภาพภายในรถไฟ SL Hitoyoshi ของ JR Kyushu ได้บน Google Map

 

ทัศนียภาพระหว่างทาง

รถไฟจะออกจากสถานี Shinyatsushiro (新八代) และวิ่งไปตามแม่น้ำ Kuma River (球磨川)

20170906-15-5-kyushu-2

รถไฟสีดำ แม่น้ำสีเขียวมรกต สะพายสีแดง ป่าสีเขียว และท้องฟ้าสีฟ้าสดใส

วิวสองของทางสวยมากกไก่ล้านตัวเลยหละค่ะ

20170906-15-6-kyushu-2

จุดถ่ายภาพ: สะพานข้ามแม่น้ำ Kuma สะพานแรก (球磨川第一橋梁)

จุดถ่ายภาพจุดแรกคือสะพานข้ามแม่น้ำ Kuma สะพานแรก (球磨川第一橋梁) และจุดที่ถ่ายภาพออกมาสวยที่สุดคือให้ไปยืนที่ตู้รถไฟตู้สุดท้ายค่ะ รถไฟขบวนนี้จะมาถึงสะพานนี้เวลา 11 โมงตรง สักประมาณ 10.45 ก็เตรียมตัวเคลื่อนย้ายไปรอที่ตู้สุดท้ายได้เลย

20170906-15-7-kyushu-2

เพลิดเพลินกับทัศนียภาพระหว่างทาง

ด้วยความที่เป็นรถจักรไอน้ำ ซึ่งจะเป็นรถไฟที่วิ่งช้ามากเมื่อเทียบกับรถไฟสมัยใหม่ทั่วไป จึงเป็นช่วงเวลาที่ดีที่คุณจะดื่มด่ำและเก็บภาพสวยๆระหว่างการเดินทางค่ะ

เด็ก

หากคุณพาลูกพาหลายร่วมเดินทางกับคุณครั้งนี้ด้วย หมดกังวลไปได้เลยค่ะ
บนรถไฟจะมีที่นั่งพิเศษสำหรับเด็ก จัดบริการที่เลานจ์ นอกจากนั้นยังมีบริการชุดพนักงานบนรถไฟให้เด็กๆใส่คอสเพลย์ถ่ายรูปได้อีกด้วยค่ะ

20170906-15-8-kyushu-2

เมนูอาหาร

รถไฟแบบ D&S ทุกขบวนจะมีบริการขายอาหารและเครื่องดื่มด้านบน สำหรับ SL Hitoyoshi นอกจากจะมีขนมขบเคี้ยว เครื่องดื่ม ของที่ระลึกแล้ว ยังมีอาหารกล่องบริการอีกด้วยนะคะ
อย่างแรก ที่นี่มีอาหารที่ห่อด้วยใบไม้ให้บริการ นั่นคือ เซ็ทของเนื้อม้าย่าง 馬刺しและไซเดอร์ (ทั้งหมดในราคา 1,430เยน) ซึ่งอาหารลักษณะนี้คืออาหารที่มีขายในรถไฟขบวนนี้มาตั้งแต่สมัยก่อนเลยหละค่ะ
นอกจากนั้นยังมี nishime 煮染め ไก่และผักที่เหยาะๆด้วยซอสถั่วเหลือง เป็นเมนูข้าวปั้น onigiri ที่เหมาะแก่การรับประทานบนรถไฟไปชมวิวไปมากเลยหละค่ะ

20170906-15-9-kyushu-2

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย

อย่าลืมว่าหากอยากจะท่องเที่ยวด้วย SL Hitoyoshi ต้องทำการจองล่วงหน้าก่อนนะคะ เพราะรถไฟขบวนนี้ให้บริการเพียงวันละ 1 เที่ยว และวิ่งเฉพาะวันเสาร์อาทิตย์และวันหยุดพิเศษเท่านั้นด้วย
หากคุณจองแล้วไม่ได้นั่งใกล้กับกลุ่มเพื่อนที่มาด้วยกัน ก็ไม่เป็นไรค่ะ เพราะเมื่อขึ้นไปด้านบนแล้วจะมีที่นั่งแบบ open seat ด้านบน แต่อย่างไรก็ตามต้องจองล่วงหน้าก่อน!

20170906-15-10-kyushu-2

สถานีเก่าๆ

อีกสิ่งที่น่าสนใจคือ รถไฟจะพาหยุดแป๊ปนึงเพื่อให้เราได้แวะชมสถานนีที่สวยๆ ซึ่งแต่ละที่จะมีเอกลักษณ์และความเก่า ถือว่าเป็น background ที่สวยมากเลยหละค่ะ เหมาะแก่การเก็บภาพไว้เยอะๆจริงๆ นอกจากนั้นบางที่ยังมีตลาดของชาวบ้านแถวนั้น คุณสามารถวิ่งไปซื้อของเล็กๆน้อยได้ด้วย

20170906-15-11-kyushu-2

รถไฟสายKawasemi/Yamasemi

มีรถไฟอีกสายหนึ่งที่วิ่งเส้นทางเดียวกันกับ SL Hitoyoshi นั่นคือ Kawasemi/Yamasemi ที่จะวิ่งจาก Kumamoto ไปยัง Hitoyoshi. โดยเพิ่งเปิดให้บริการปีนี้ เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมานั่นเอง
Kawasemi เป็นรถไฟสีฟ้า และ Yamasemi เป็นรถไฟสีเขียวมรกต ชื่อของรถไฟทั้งสองขบวนมีความหมายเดียวกันคือเป็นชื่อของนกชนิดหนึ่ง นั่นคือ นกกระเต็น (Kingfisher) นอกจากนั้นในภาษาญี่ปุ่น kawasemi มีความหมายว่า มรกต และ yamasemi มีความหมายว่า ภูเขามรกต
ในทริปนี้เราจะไม่ได้ใช้บริการรถไฟทั้ง 2 ขบวนนี้ เนื่องจากเราได้ขึ้น SL Hitoyoshi แทนแล้ว ว่ากันว่า Kawasemi/Yamasemi มีความหรูหราและตกแต่งสวยมากเลยหละค่ะ

20170906-15-12-kyushu-2

20170906-15-13-kyushu-2
ภาพรถไฟ Kawasemi จากด้านหน้าและรถไฟ Isaburo/Shinpei จากด้านข้าง

20170906-15-14-kyushu-2
ที่นั่งแบบบาร์ใน Kawasemi/Yamasemi

20170906-15-15-kyushu-2
ที่นั่งแบบโต๊ะใน Kawasemi/Yamasemi

20170906-15-16-kyushu-2

รถไฟ Isaburo/Shinpei

Isaburo/Shinpeiเป็นรถไฟที่เชื่อมระหว่าง Kumamoto และ Yoshimatsu ซึ่งเป็นรถไฟขบวนที่วิ่ง 2 ทาง:
● Isaburo (หรือ Isaburou) ให้บริการจาก Kumamoto/Hitoyoshi ไปยัง Yoshimatsu
● Shinpei (หรือ Shimpei) ให้บริการจาก Yoshimatsu ไปยัง Hitoyoshi/Kumamoto
ซึ่งเป็นการตั้งชื่อรถไฟตามผู้ที่รับผิดชอบดูแลการก่อสร้างรถไฟในขณะนั้น อันได้แก่ รัฐมนตรีกระทรวงการสื่อสารและรัฐมนตรีกระทรวงการรถไฟ

ในทริปนี้เราได้เดินทางส่วนใหญ่โดย SL Hitoyoshi และ Kawasemi/Yamasemi, เราเพียงแต่ได้นั่ง Isaburo จาก Hitoyoshi ไปยัง Yoshimatsu เท่านั้นเองค่ะ

20170906-15-17-kyushu-2

ชมวิวจากภูเขา Yatake (矢岳)

บนรถไฟยังมีส่วนที่เป็นที่นั่งบาร์ หรือที่เรียกว่า gallery seat ที่มีหน้าต่างบานใหญ่ให้คุณได้ชมวิวสวยๆของภูเขา Yatake (矢岳)

แผนที่

คุณสามารถชมภาพด้านในของรถไฟได้บน Google Map:
 

รถไฟสามหน้าต่างของญี่ปุ่น (日本三大車窓)

รถไฟสามหน้าต่างของญี่ปุ่นเริ่มให้บริการตั้งแต่ปี 1996 และมีตู้พิเศษที่ให้บริการตั้งแต่ปี 2004
รถไฟจะวิ่งผ่าน Okoba ไปยัง Yatake ระหว่างที่เดินทางผ่าน Hitiyoshi ไปยัง Yatake จะเป็นพื้นที่ที่มีความสูงต่ำต่างกันถึง 430.3 เมตร ซึ่งเป็นความสูงที่เท่ากับ Tokyo Tower เลยทีเดียว ทำให้ผู้โดยสารจะได้เห็นทัศนียภาพสวยๆระหว่างทาง
เมื่อถึงจุดชมวิวต่างๆ รถไฟจะวิ่งช้าลงเพื่อให้ผู้โดยสารดื่มดำกับทัศนียภาพ หากคุณจะจองรถไฟ Isaburo (vice versa) เราขอแนะนำให้จองที่นั่งทางซ้ายค่ะ

20170906-15-18-kyushu-2
สถานี Okoba 

Masaki真幸

และป้ายสุดท้ายคือเมือง Masaki 真幸 ที่มีความหมายว่า ความสุขที่แท้จริง ในภาษาญี่ปุ่น ว่ากันว่าสถานีนี้นำโชคลาภและความสุขมาให้ ที่ชานชาลาจะมีระฆังใบใหญ่ที่คุณสามารถไปสั่นระฆัง 3 ครั้ง เพื่อขอให้คุณมีความสุขตลอดไปได้

20170906-15-19-kyushu-2
ระฆังโชคลาภและนายสถานีผู้หญิงที่กำลังจับเวลา

20170906-15-20-kyushu-2

หัวข้อเรื่อง

Survey[แบบสอบถาม] กรุณาบอกเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในญี่ปุ่น







Recommend