ฟุกุโอกะ “ประตูสู่เอเชีย” ทางตะวันตกของหมู่เกาะญี่ปุ่น

จังหวัดฟุกุโอกะ (福岡県 / Fukuoka) เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของภูมิภาคคิวชู ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของญี่ปุ่น ตั้งแต่สมัยโบราณมาแล้วก็ได้มีบทบาทสำคัญในฐานะฐานการค้ากับทางทวีปเอเชียแผ่นดินใหญ่ ในปัจจุบันก็ยังคงเป็นประตูเชื่อมระหว่างส่วนต่าง ๆ ของเอเชียกับญี่ปุ่น ด้วยแหล่งท่องเที่ยวมากมายและอาหารที่อุดมสมบูรณ์ ที่นี่จึงเป็นสถานที่ที่ควรค่าแก่การไปเที่ยวด้วยค่ะ

เกี่ยวกับฟุกุโอกะ

ฟุกุโอกะมีประชากรประมาณ 5.11 ล้านคน ซึ่งมากเป็นอันดับ 9 ในญี่ปุ่นค่ะ เนื่องจากอยู่ปลายน้ำของแม่น้ำหลายสาย ภูมิประเทศจึงมีลักษณะพิเศษเป็นที่ราบและมีพื้นที่ป่าน้อย มีชายแดนติดกับสามจังหวัด โดยบริเวณชายแดนเป็นพื้นที่ภูเขาค่ะ (ข้อมูล ณ เดือนมกราคม 2020)

ประวัติที่สำคัญของฟุกุโอกะ

จังหวัดฟุกุโอกะเป็นจุดติดต่อแลกเปลี่ยนกับจีนแผ่นดินใหญ่และคาบสมุทรเกาหลีมาตั้งแต่สมัยโบราณ ในยุคใหม่ ทางหลวงและการขนส่งทางน้ำไปยังส่วนต่าง ๆ ของเกาะคิวชูได้พัฒนาก้าวหน้ามากขึ้น จนกลายเป็นกุญแจสำคัญในการขนส่งของภูมิภาคคิวชูค่ะ ในยุคปัใหม่ การผลิตถ่านหินนำไปสู่อุตสาหกรรมอันเจริญรุ่งเรือง ซึ่งช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจของญี่ปุ่นให้ก้าวหน้าค่ะ

ปัจจุบัน ฟุกุโอกะเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวชั้นนำของญี่ปุ่นที่มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมากกว่า 3 ล้านคนค่ะ

ฟุกุโอกะเคยเกือบเป็นจุดที่จะมีการทิ้งระเบิดปรมาณู?

ตามจริงแล้ว ระเบิดปรมาณูนั้นไม่ได้ถูกทิ้งลงในจังหวัดฟุกุโอกะค่ะ แต่อย่างไรก็ตาม จังหวัดนี้เคยถูกพิจารณาในฐานะจุดที่จะทำการทิ้งระเบิดปรมาณูลงเช่นกัน ด้วยเหตุนี้ หลายเมืองจึงให้ความสำคัญกับการภาวนาเพื่อสันติภาพและประกาศตัวว่าเป็นเมืองแห่งความสงบค่ะ

ตารางเที่ยวในฟุกุโอกะ ไปเที่ยวแค่ไหนถึงจะดี?

แผนการเดินทางที่ดีที่สุดในฟุกุโอกะนั้นจะต่างกันไปขึ้นอยู่กับพื้นที่ที่คุณมุ่งจะไปเที่ยวค่ะ

ตัวอย่างเช่น จังหวัดฟุกุโอกะนั้นแบ่งออกเป็น 4 พื้นที่หลัก พื้นที่ทุกอันล้วนมีขนาดใหญ่และมีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย ดังนั้นจึงควรจองที่พักอย่างน้อย 1 วันสำหรับในแต่ละพื้นที่ หากคุณจะเดินทางไปทั่วทุกพื้นที่ในจังหวัด คุณก็ควรพักอย่างน้อย 4 คืนโดยคำนึงถึงเวลาให้เหลือเฟือไว้ก่อนค่ะ

ฟุกุโอกะมีเกาะห่างไกลนอกชายฝั่ง 8 เกาะ บนเกาะเหล่านี้ก็มีจุดชมวิวและแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์กระจายอยู่ด้วยค่ะ นอกจากนี้ยังมีเกาะที่มีชื่อเล่นว่า "เนโกะจิมะ” (猫島 / Nekojima เกาะแมว) และมีแมวจำนวนมากอาศัยอยู่บนเกาะค่ะ หากคุณต้องการเยี่ยมชมเกาะห่างไกลเหล่านี้ ก็เป็นความคิดที่ดีที่จะเพิ่มมวันลงในกำหนดการเดินทางปกติของคุณข้าไปอีก 1 วันค่ะ

เรื่องแสนสะดวกที่ควรรู้ไว้ก่อนจะไปเที่ยวฟุกุโอกะ

ในการพลิดเพลินกับการเที่ยวชมฟุกุโอกะอย่างเต็มที่ คุณก็ควรตรวจสอบแผนการท่องเที่ยวและข้อมูลการแลกเปลี่ยนสกุลเงินในจังหวัดฟุกุโอกะค่ะ

ไปรับแผนที่ท่องเที่ยวฟุกุโอกะได้ที่ไหน?

มีแผ่นพับและแผนที่ท่องเที่ยวของฟุกุโอกะแจกจ่ายอยู่ที่ศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยว เช่น อำเภอเมืองฟุกุโอกะ สถานี Dazaifu ของ Nishitetsu และสถานี Kurume ของ JR และ Nishitetsu นอกจากนี้ ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวยังมี Wi-Fi ให้บริการ ดังนั้นจึงแนะนำให้รวบรวมข้อมูลกันที่นี่ก่อนปเที่ยวค่ะ

นอกจากนี้ ศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยวในพื้นที่ต่าง ๆ ของจังหวัดยังได้รับการรับรองจาก JNTO (องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น) และมีความน่าเชื่อถือสูงและมีข้อมูลมากมายหลายรูปแบบค่ะ

สถานที่รับฝากสัมภาระในฟุกุโอกะอยู่ตรงไหน?

หากคุณต้องการฝากกระเป๋าสัมภาระในฟุกุโอกะ ก็ควรไปใช้บริการตู้ล็อคเกอร์หยอดเหรียญและสถานที่รับฝากกระเป๋าสัมภาระค่ะ

สำหรับตู้ล็อคเกอร์หยอดเหรียญนั้นมีติดตั้งตามสถานีปลายทางและสถานีหลัก ๆ ในเมืองฟุกุโอกะค่ะ แต่อย่างไรก็ตาม ก็ควรระวังด้วยเนื่องจากจำนวนตู้ตามสถานีอื่น ๆ ที่ไม่ใช่สถานีปลายทางนั้นมีไม่มาก สถานีปลายทางก็ได้แก่ สถานี JR Kokura บริเวณรอบ ๆ สถานี Hakata ย่านเท็นจิน และสนามบินฟุกุโอกะค่ะ ค่าธรรมเนียมอยู่ที่ 300-400 เยนสำหรับตู้ขนาดเล็ก 500 เยนสำหรับตู้ขนาดกลาง 600-800 เยนสำหรับตู้ขนาดใหญ่ และ 1,000 เยนสำหรับตู้ขนาดใหญ่พิเศษค่ะ

• ตู้ล็อคเกอร์หยอดเหรียญ สถานี JR Kokura ประมาณ 460 ตู้
• ตู้ล็อคเกอร์หยอดเหรียญ สถานี Hakata ส่วนของ JR ส่วนของรถไฟใต้ดิน และสถานีขนส่งฮากาตะ (Hakata Bus Terminal) ประมาณ 1,900 ตู้
• ตู้ล็อคเกอร์หยอดเหรียญ สถานี Fukuoka (Tenjin) ของ Nishitetsu สถานีขนส่ง Nishitetsu Bus Terminal สถานีรถไฟใต้ดิน Tenjin สถานี Tenjin Minami ประมาณ 1,250 ตู้
• ตู้ล็อคเกอร์หยอดเหรียญ สนามบินฟุกุโอกะ ประมาณ 300 ตู้

นอกจากนี้ ยังมีสถานที่รับฝากกระเป๋าสัมภาระอีกมากมายในฮากาตะ (博多 / Hakata) เท็นจิน (天神 / Tenjin) และโคคุระ (小倉 / Kokura) โดยสถานที่รับฝากสัมภาระในทุกพื้นที่ก็อยู่ใกล้กับสถานีค่ะ

ที่สะดวกที่สุดก็คือการใช้บริการรับฝากกระเป๋าสัมภาระ "ecbo cloak” ค่ะ เนื่องจากสามารถจองล่วงหน้าได้ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องวิ่งหาสถานที่รับฝากกระเป๋าสัมภาระในฟุกุโอกะให้วุ่นวายค่ะ แน่นอนว่ายังมีร้านที่สามารถจองได้ในวันจริงเลยด้วย ดังนั้นแม้แต่คนที่ยังไม่ได้ตัดสินใจแผนการเดินทางไว้ก่อนก็สามารถไปใช้งานได้ค่ะ ราคาอยู่ที่ 700-900 เยน

เสน่ห์อย่างหนึ่งของ ecbo cloak ก็คือมีร้านในเครือมากมาย อย่างไรก็ตาม พวกร้านอาหารและร้านเสริมสวยนั้นสามารถรับฝากสัมภาระได้ในจำนวนที่ค่อนข้างจำกัด ดังนั้นการจองล่วงหน้าจึงปลอดภัยกว่าค่ะ

ข้างล่างนี้เป็นจุดที่มีสถานที่รับฝากกระเป๋าสัมภาระเป็นจำนวนมากค่ะ

• “เคาน์เตอร์ท่องเที่ยว” (旅行の窓口 / Ryoko no Madoguchi) สถานี Hakata
• ecbo cloak สาขา Residence Hotel Hakata Eki Minami Front
• ecbo cloak สาขา SPACE on the Station
• Sound Boogie สาขา Kokura

สถานที่รับแลกสกุลเงินในฟุกุโอกะ อยู่ที่ไหน?

หากคุณต้องการแลกเปลี่ยนสกุลเงินทันทีที่คุณมาถึงจังหวัดฟุกุโอกะ ก็ให้แวะใช้บริการเครื่องแลกเปลี่ยนสกุลเงินของธนาคารภายในสนามบินฟุกุโอกะ หรือร้านแลกสกุลเงินภายในศูนย์ข้อมูลประชาสัมพันธ์ค่ะ ทั้งสองตั้งอยู่ที่ชั้น 1 และชั้น 3 ของอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศค่ะ

หากคุณต้องการแลกเปลี่ยนสกุลเงินระหว่างที่ท่องเที่ยวอยู่ คุณสามารถไปใช้บริการตามธนาคาร สำนักงานแลกเปลี่ยนเงินตรา หรือร้านจำหน่ายตั๋วเงินสดได้อย่างสะดวกค่ะ สำหรับธนาคารก็มี Nishi-Nippon City Bank, Fukuoka Bank และ Japan Post Bank (Yucho) ค่ะ

หากคุณไม่คิดจะไปธนาคาร ก็ให้ไปแลกเปลี่ยนสกุลเงินที่ร้านรับแลกเปลี่ยนสกุลเงินอย่าง Travelex, Sakura Currency และ World Currency ค่ะ อนึ่ง คุณสามารถแลกเปลี่ยนเงินได้ที่ร้านจำหน่ายตั๋วเงินสด Daikokuya (大黒屋) ได้เช่นกันค่ะ

สภาพภูมิอากาศ อุณหภูมิ และสิ่งน่าสนใจตามฤดูกาลในฟุกุโอกะ

สภาพภูมิอากาศของจังหวัดฟุกุโอกะนั้นอยู่ในเขตอบอุ่น แต่พื้นที่ที่อยู่ติดกับทะเลญี่ปุ่นเช่นอำเภอเมืองฟุกุโอกะและอำเภอคิตะคิวชูซึ่งได้รับลมมรสุมจากทิศตะวันตกเฉียงเหนือในฤดูหนาว จึงมีบางวันที่อากาศหนาวจัดค่ะ

พื้นที่ส่วนที่ไม่ติดทะเลก็ถูกล้อมรอบด้วยภูเขา ดังนั้นจึงมีความแตกต่างของอุณหภูมิกันอย่างมาก อนึ่ง คุณสามารถตรวจสอบสภาพอากาศได้จากแอพพลิเคชั่นพยากรณ์อากาศ "WeatherJapan" โดยสมาคมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น หรือทางพยากรณ์อากาศในทีวีค่ะ

ฤดูใบไม้ผลิในฟุกุโอกะ (มีนาคม-พฤษภาคม)

ฤดูใบไม้ผลิในฟุกุโอกะเป็นฤดูที่อุณหภูมิผันผวนขึ้นลงตามสภาพอากาศ นอกจากนี้ยังเป็นฤดูกาลที่พายุทรายจะถูกลมตะวันตก (偏西風 / Henseifu) พัดเข้ามาจากทางแผ่นดินใหญ่ค่ะ

จุดเด่นของฤดูใบไม้ผลิก็แน่นอนว่าต้องเป็นดอกซากุระค่ะ ดอกซากุระจะบานเต็มตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน ส่วนสถานที่ชมดอกซากุระขึ้นชื่อก็คือสวนสาธารณะไมสึรุ (舞鶴 / Maizuru) ในอำเภอเมืองฟุกุโอกะ และสนามม้าสุกิ (杉の馬場 / Sugi no Baba) แห่งย่านอาคิสึกิ (秋月 / Akizuki) ในอำเภออาซาคุระ (朝倉市 / Asakura) เป็นต้นค่ะ

• 3 สถานที่ชมดอกซากุระขึ้นชื่อแห่งฟุกุโอกะ

ฤดูร้อนในฟุกุโอกะ (มิถุนายน-สิงหาคม)

ฟุกุโอกะจะเข้าสู่ช่วงฤดูฝนตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายนถึงกลางเดือนกรกฎาคม เมื่อฤดูฝนเริ่มซา ฟุกุโอกะก็จะถูกปกคลุมด้วยความกดอากาศสูง และมีอากาศร้อนขึ้น โดยวันที่อุณหภูมิสูงสุดก็ร้อนถึง 35 องศาหรือมากกว่านั้น และจะดำเนินต่อเนื่องไปเรื่อย ดังนั้นจึงแนะนำให้เตรียมตัวป้องกันความร้อนให้ดี เช่น หมวก แว่นกันแดด และผ้าเช็ดตัว

งานประกวดพลุดอกไม้ไฟในฤดูร้อนก็มีมากมายค่ะ งานประกวดพลุดอกไม้ไฟนั้นจะจัดขึ้นในพื้นที่ต่าง ๆ และงานประกวดพลุดอกไม้ไฟชิคุโกกุกาวะ (筑後川 / Chikugogugawa) ในอำเภอคุรุเมะ (久留米市 / Kurume-shi) และงานประกวดพลุดอกไม้ไฟช่องแคบคันมง (関門海峡 / Kanmon Kyokai) ในอำเภอคิตะคิวชู (北九州市 / Kitakyushu-shi) ก็ยิ่งใหญ่อลังการเป็นพิเศษค่ะ

ฤดูใบไม้ร่วงในฟุกุโอกะ (กันยายน-พฤศจิกายน)

ในฟุกุโอกะนั้น เมื่อเข้าสู่เดือนกันยายนก็จะมีลมแรงและฝนตกมากขึ้นเนื่องจากพายุไต้ฝุ่น หลังจากนั้นสภาพภูมิอากาศจะเริ่มคงที่และท้องฟ้าสงบอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้เป็นฤดูที่เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวค่ะ

ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน คุณสามารถชมใบไม้เปลี่ยนสีได้ทุกท้องที่ทั่วจังหวัด ซึ่งในนั้น แถวต้นแลนง้อ (櫨並木 / Haze Namiki *ต้นฮาเสะ 櫨 / Japanese Wax ชื่อทางวิทยาศาสตร์ Toxicodendron succedaneum) ในอำเภอคุรุเมะ และพื้นที่ทั้งหมดของภูเขาฮิโกะซัง (英彦山 / Hikosan) ในอำเภอโซเอดะ (添田 / Soeda) ก็มีชื่อเสียงมากค่ะ

• ไปสัมผัสกับการชมใบไม้เปลี่ยนสีและเทศกาลที่มีเฉพาะที่ฟุกุโอกะในฤดูใบไม้ร่วงกันดีกว่า!

ฤดูหนาวในฟุกุโอกะ (ธันวาคม-กุมภาพันธ์)

ฟุกุโอกะในฤดูหนาวนั้นจะมีหลายวันที่ถูกปกคลุมด้วยความหนาวเย็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ฟุกุโอกะและพื้นที่คิตะคิวชูนั้น จะมีมรสุมตะวันตกเฉียงเหนือที่พัดเข้ามาในเดือนธันวาคมทำให้มีความหนาวเย็นรุนแรง

ฤดูหนาวเป็นฤดูของดอกบ๊วย สามารถพบดอกบ๊วยบานได้ในช่วงปลายเดือนมกราคม และดอกบ๊วยที่มีชื่อเสียงมากก็คือที่ศาลเจ้าดาไซฟุเท็นมังกู (太宰府天満宮 / Dazaifu Tenmangu) ซึ่งจะบานเต็มที่ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ค่ะ

• ไปเที่ยวฟุกุโอกะในฤดูหนาวที่เต็มไปด้วยเสน่ห์มากล้นกัน!

พื้นที่ท่องเที่ยวหลักในฟุกุโอกะ

พื้นที่ท่องเที่ยวของฟุกุโอกะนั้นแบ่งออกเป็น 4 ส่วน พื้นที่ท่องเที่ยวแต่ละแห่งมีลักษณะเฉพาะตัว และไม่ว่าพื้นที่ใดต่างก็มีเสน่ห์น่าสนใจค่ะ นี่คือสิ่งน่าสนใจบางส่วนแยกตามพื้นที่ค่ะ

ฟุกุโอกะ (อำเภอเมืองฟุกุโอกะ อำเภอดาไซฟุ อำเภออิโตชิมะ และอื่น ๆ)

พื้นที่ฟุกุโอกะ (福岡 / Fukuoka) ตั้งอยู่ทางตะวันตกของจังหวัดฟุกุโอกะ มีศูนย์กลางอยู่ที่เมืองใหญ่ต่าง ๆ เช่น อำเภอเมืองฟุกุโอกะ (福岡市 / Fukuoka-shi) อำเภอดาไซฟุ (太宰府市 / Dazaifu-shi) และอำเภออิโตชิมะ (糸島市 / Itoshima-shi) เป็นต้น เป็นฐานสำคัญในภูมิภาคคิวชูมาตั้งแต่สมัยโบราณ และในปัจจุบันก็ยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นศูนย์กลางของคิวชูค่ะ

ด้านสถานที่ท่องเที่ยวก็มีหลากหลายประเภท เช่นศาลเจ้าและวัดวาอาราม สาธารณูปการด้านการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และแหล่งบันเทิงเป็นต้น

ชิคุโฮ (อำเภออีสึกะ และอื่น ๆ)

พื้นที่ชิคุโฮ ( 筑豊 / Chikuho) ตั้งอยู่ทางตอนกลางของจังหวัดฟุกุโอกะ ครั้งหนึ่งเคยเป็นภูมิภาคที่เฟื่องฟูในอุตสาหกรรมถ่านหิน จุดท่องเที่ยวหลักก็คือซากของอาคารและเหมืองถ่านหินที่แสดงให้เห็นถึงถึงวัฒนธรรมในยุคนั้นค่ะ

คิตะคิวชู (อำเภอคิตะคิวชู และอื่น ๆ)

พื้นที่คิตะคิวชู (北九州 / Kitakyushu) ตั้งอยู่ทางตะวันออกของจังหวัดฟุกุโอกะ เนื่องจากมีพรมแดนติดกับทางเกาะฮอนชู จึงเป็นเสมือนหน้าต่างติดต่อของเกาะคิวชูมาตั้งแต่สมัยโบราณ มีสถานที่ทางประวัติศาสตร์มากมาย เช่น โบราณสถานและทิวทัศน์อาคารบ้านเรือนโบราณซึ่งคงสภาพเดิมนับตั้งแต่ช่วงที่เริ่มพัฒนาขึ้นค่ะ

ชิคุโกะ (อำเภอคุรุเมะ และอื่น ๆ)

พื้นที่ชิคุโกะ (筑後 / Chikugo) หมายถึงพื้นที่ทางตอนใต้ของจังหวัดฟุกุโอกะ เป็นพื้นที่ที่ธรรมชาติยังคงสภาพดี อุตสาหกรรมการเกษตรและป่าไม้ก็เจริญเฟื่องฟูค่ะ นอกจากนี้ ภูมิประเทศยังไล่จากแถบภูเขาไปจนถึงชายฝั่ง จึงมีแหล่งท่องเที่ยวมากมายหลายรูปแบบค่ะ

อาหารและร้านอาหารในฟุกุโอกะ

อาหารขึ้นเสียงประจำฟุกุโอกะก็มีมากมาย เช่น ราเมนและเครื่องในหม้อไฟ มีร้านอาหารที่ได้รับการแนะนำโดยมิชลินประมาณ 280 รายการ รวมถึงที่เป็น Bib Gourmand และ Michelin Plate ในบรรดาร้านเหล่านั้น ร้านซูชิซาไก (鮨 さかい / Sushi Sakai) และร้านซูชิเกียวเต็น (鮨 行天 / Sushi Gyoten) ก็เป็นร้านค้าที่มีชื่อเสียงระดับสามดาวเลยค่ะ

ราเมนในฟุกุโอกะ

ฟุกุโอกะมีชื่อเสียงในเรื่องราเมนค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ฮากาตะราเมน (博多ラーメン / Hakata Ramen) ก็เป็นหนึ่งในราเมนชั้นนำในญี่ปุ่น นอกจากนี้ ราเมนท้องถิ่นเช่นคุรุเมะและคิตะคิวชูก็เป็นที่นิยมเช่นกันค่ะ

ราเมงในฟุกุโอกะรวมถึงราเมนท้องถิ่นด้วยนั้น มักใช้ซุปกระดูกหมูเป็นฐานค่ะ ความหนาบางของเส้นหมี่แตกต่างกันไปในแต่ละท้องที่ แต่ฮากาตะราเมนมีลักษณะพิเศษคือเป็นเส้นหมี่เส้นเรียวค่ะ

ร้านราเมนนั้นก็มีกระจายอยู่ทั่วประเทศค่ะ แต่ถ้าคุณอยากจะลองเปรียบเทียบรสชาติของราเมนหลาย ๆ อย่างในครั้งเดียว เราขอแนะนำ "ราเมนสเตเดี้ยม" (ラーメンスタジアム / Ramen Stadium) ใน Hakata Canal City ค่ะ มีร้านค้าราเมนอยู่ภายในหลายร้านให้คุณสามารถทานลองราเมนของคิวชูที่มีรสชาติแตกต่างกันเล็กน้อยได้ค่ะ

หม้อไฟเครื่องใน มตสึนาเบะ

มตสึนาเบะ (もつ鍋 / Motsu-nabe หม้อไฟเครื่องใน) เป็นอาหารแนวต้ม-ตุ๋นในหม้อไฟที่ทำจากด้วยเครื่องในวัว กุยช่าย และผักกาดขาว แม้จะเป็นเครื่องใน แต่ก็ไม่มีกลิ่นและมีเนื้อสัมผัสเวลาเคี้ยวที่เหนียวหนุบค่ะ

ร้านอาหารมตสึนาเบะที่ขึ้นชื่อก็คือ ร้าน “มตสึนาเบะ โชราคุ” (もつ鍋笑樂 / Motsunabe Shoraku) ค่ะ นอกจากนี้ ร้าน “มตสึชิเกะ” (もつ繁 / Motsutshige) ซึ่งถูกเลือกให้เป็น Bib Gourmand จาก Michelin ก็สามารถรับประทานมตสึสุกิยากิได้ค่ะ

หม้อไฟไก่ตุ๋นน้ำ มิสุทากิ

มิสุทากิ (水炊き / Mizutaki) เป็นอาหารแนวต้ม-ตุ๋นในหม้อไฟที่ตุ๋นไก่พร้อมผักและเครื่องอื่น ๆ ค่ะ มีลักษณะเป็นซุปไก่สีขาวข้นค่ะ

ร้านค้าที่คุณสามารถทานมิสุทากิได้ก็มีกระจายอยู่ทั่วทั้งจังหวัดค่ะ แต่ร้าน "มิสุทากินากาโนะ" (水たき長野 / Mizutaki Nagano) ก็มีชื่อเสียงเป็นพิเศษค่ะ ร้านนี้เป็นร้านเฉพาะทางที่เน้นอาหารมิสุทากิเป็นหลักซึ่งได้รับการคัดสรรให้เป็น Michelin Plate ค่ะ คุณสามารถเพลิดเพลินกับการทานอาหารที่ทำจากไก่คุณภาพดีในราคาที่เหมาะสมค่ะฃ

ไข่ปลาหมักรสเผ็ด คาราชิเมนไตโกะ

คาราชิเมนไตโกะ (辛子明太子 / Karashi Mentaiko) เป็นของที่ระลึกสุดคลาสสิคจากฟุกุโอกะ ไข่ปลาอลาสก้าพอลล็อค (スケトウダラ / Alaska Pollock) จะถูกนำมาดองในเครื่องปรุงรสเผ็ด ได้รสเผ็ดค่ะ

ถ้าหากคุณต้องการซื้อเป็นของที่ระลึกแล้วละก็ ให้ไปที่ร้าน “ยามายะ” (やまや / Yamaya) ในทางกลับกัน หากคุณต้องการลองทางที่ร้านเลยทันที เราขอแนะนำร้าน “ฮากาตะ มตสึนาเบะ ยามายะ” (博多もつ鍋 やまや / Hakata Motsunabe Yamaya) แทนค่ะ ที่นี่คุณสามารถทานอาหารที่ใช้เมนไตโกะ และอาหารกลางวันที่สามารถเติมข้าวและเมนไตโกะได้ไม่อั้นได้ค่ะ

ร้านรถเข็นแผงลอย ยะไต ในฟุกุโอกะ

มีร้านอาหารรถเข็นแผงลอยอยู่ประมาณ 100 ร้านในฟุกุโอกะ และจะปรากฏตัวตามริมถนนในย่านเท็นจินและนากาสุ (中州 / Nakasu เมื่อเข้าสู่ช่วงเย็น มีหลากหลายประเภทเช่นราเมน โอเด้ง ยากิโทริ และเทมปุระ

ในบรรดาร้ายยะไตนี้ ร้าน “ฮากาตะยะไต นากาสุจูบัง” (博多屋台 中洲十番 / Hakata Yatai Nakasu Juban) ก็รองรับการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตและมีเมนูหลายภาษา ทำให้สะดวกสำหรับชาวต่างชาติในการมาใช้บริการค่ะ

นอกจากนี้ตั๋วลดราคาที่คุณสามารถรับเครื่องดื่มหนึ่งรายการ + เมนูแนะนำ 1 อย่างได้ที่ร้านยะไต 13 ร้าน เรียกว่า "ตั๋วยะไต" (屋台きっぷ / Yatai Ticket) ซึ่งมีจำหน่ายที่ศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยวเช่นที่สถานี JR Hakata และ Tenjin Lion Plaza (ข้อมูล ณ เดือนมกราคม 2020)

ถ้ามาที่ฟุกุโอกะแล้ว ไปพักที่ไหนดี?

การเลือกที่พักในจังหวัดฟุกุโอกะนั้น ควรเลือกตามที่ที่จะไปเยี่ยมชมค่ะ ตัวอย่างเช่น พื้นที่ฟุกุโอกะและพื้นที่ชิคุโกะนั้นสามารถเข้าถึงระหว่างกันได้อย่างง่ายดาย และพื้นที่ชิคุโฮนั้นก็สามารถเข้าถึงได้สะดวกจากพื้นที่คิตะคิวชูค่ะ

นอกจากนี้ เสน่ห์อีกอย่างที่น่าสนใจก็คือลักษณะจำเพาะของโรงแรมจะแตกต่างกันไปตามพื้นที่ค่ะ หากคุณพักสัก 2-3 คืน เราขอแนะนำให้คุณพักในพื้นที่ต่าง ๆ แทนที่จะพักต่อที่เดียวหลาย ๆ คืนค่ะ

เมื่อพิจารณาถึงสภาพการเข้าถึงและความหนาแน่นของที่พักแล้ว ก็เป็นความคิดที่ดีที่จะค้นหาที่พักในใจกลางอำเภอเมืองฟุกุโอกะค่ะ ในทางตรงกันข้าม พื้นที่ชิคุโกะนั้นก็ยอดเยี่ยมหากคุณคำนึงเรื่องความเงียบสงบและสาธารณูปการต่าง ๆ อย่างเช่นน้ำพุร้อนในโรงแรมเป็นสำคัญค่ะ

ข้อมูลที่พักในฟุกุโอกะ

ในฟุกุโอกะ ที่พักนั้นจะกระจุกตัวอยู่ในเขตตัวเมืองใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ฟุกุโอกะซึ่งมีจำนวนที่พักเกินกว่าครึ่งของจำนวนที่พักทั้งจังหวัดค่ะ โรงแรมที่มีราคาประหยัดก็มีหลายแห่ง นอกจากนี้ยังสะดวกสำหรับการท่องเที่ยวเพราะกระจุกตัวกันมากในพื้นที่ตัวเมืองและอยู่ใกล้กับสถานีที่ใกล้ที่สุดจากแหล่งท่องเที่ยว อนึ่ง สนามบินฟุกุโอกะยังตั้งอยู่ในใจกลางเมืองและต้องเดินทางด้วยเวลา 5 นาทีโดยรถไฟใต้ดินไปยังฮากาตะ ดังนั้นจึงไม่มีโรงแรมใกล้สนามบินค่ะ

โรงแรมหรูอย่างโรงแรม 5 ดาวในฟุกุโอกะ

ฟุกุโอกะมีโรงแรมขนาดใหญ่อย่างเช่น Grand Hyatt และ Hilton เป็นต้นค่ะ Grand Hyatt Fukuoka ตั้งอยู่ใน Canal City Hakata และเหมาะสำหรับการท่องเที่ยวและช้อปปิ้งอย่างมาก ส่วน Hilton Fukuoka Sea Hawk ตั้งอยู่ริมทะเลในพื้นที่โมโมจิ ดังนั้นคุณสามารถสัมผัสบรรยากาศของรีสอร์ทได้แม้จะอยู่ในเมืองค่ะ

โรงแรมแคปซูลในฟุกุโอกะ

โรงแรมแคปซูลในจังหวัดฟุกุโอกะนั้นตั้งอยู่ในเมืองฟุกุโอกะและอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟ จึงสะดวกในการใช้เป็นฐานที่พักระหว่างการท่องเที่ยวค่ะ มีโรงแรมที่มีการอัปเกรดตามราคา เช่น ห้องพักที่กว้างขวางขึ้นและบุฟเฟต์ขนมที่ทานได้ไม่อั้นค่ะ ช่วงราคาที่พบบ่อยที่สุดอยู่ที่ประมาณ 3,000-4,000 เยน (ข้อมูล ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2020)

โฮมสเตย์และโฮสเทลในฟุกุโอกะ

โฮมสเตย์และโฮสเทลในฟุกุโอกะนั้นจะกระจุกตัวกันอยู่ในอำเภอเมืองฟุกุโอกะ พื้นที่ที่มีจำนวนมากเป็นพิเศษคือระหว่างสถานี JR Hakata และสถานี Nishitetsu Fukuoka (Tenjin) ช่วงราคาที่พบบ่อยที่สุดคือที่ประมาณ 1,500-2,500 เยนสำหรับโฮสเทลและเกสต์เฮาส์ และประมาณ 4,000-6,000 เยนสำหรับโฮมสเตย์ค่ะ

นอกจากนี้ยังมีบ้านเช่าหลายแห่งในอำเภอเมืองฟุกุโอกะโดยเฉพาะรอบ ๆ พื้นที่เท็นจินค่ะ ในคิตะคิวชูมีประมาณ 110 แห่ง และใกล้ ๆ คุรุเมะและโอมาตะ (大牟田 / Omata) ก็มีประมาณ 100 แห่งค่ะ ช่วงราคาที่พบบ่อยที่สุดอยู่ที่ประมาณ 3,000-4,000 เยน (ข้อมูล ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2020)

เลิฟโฮเต็ลในฟุกุโอกะ

ในฟุกุโอกะมีเลิฟโฮเต็ลหลายแห่งที่อยู่ใกล้กับย่านเท็นจินในอำเภอเมืองฟุกุโอกะ และใกล้กับโคคุระในคิตะคิวชู และในอำเภอคุรุเมะเป้นต้นค่ะ โรงแรมทั้งหมดอยู่ค่อนข้างไกลจากสถานีดังนั้นคุณจึงสามารถผ่อนคลายและพักในที่ที่เงียบสงบได้ ช่วงราคาที่พบบ่อยที่สุดอยู่ที่ประมาณ 4,000-6,000 เยน (ข้อมูล ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2020)

แหล่งน้ำพุร้อนอันขึ้นชื่อและเรียวกังที่สามารถไปแช่ออนเซ็นได้ในฟุกุโอกะ

แหล่งน้ำพุร้อนในฟุกุโอกะนั้นก็กระจายตัวอยู่ตามที่ต่าง ๆ ตั้งแต่ริมทะเลไปจนถึงภูเขาลึกค่ะ มีออนเซ็นมากมายที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน นอกจากนี้ยังมีออนเซ็นใกล้กับตัวเมืองที่มีบรรยากาศสงบด้วยค่ะ

ข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทางในจังหวัดฟุกุโอกะ

การคมนาคมในจังหวัดฟุกุโอกะมีหลายวิธีการเดินทางให้เลือกใช้ค่ะ ความสะดวกสบายในการเดินทางก็จะแตกต่างกันไปตามท้องที่ปลายทาง ดังนั้นควรเลือกใช้ให้เหมาะสมตามต้องการค่ะ

การเดินทางภายในจังหวัดฟุกุโอกะนั้น ใช้รถไฟใต้ดินและรถบัสกันดีกว่า

จังหวัดฟุกุโอกะมีบริการรถบัสมากมาย มีรถโดยสารความเร็วสูงขึ้นทางหลวงจากอำเภอเมืองฟุกุโอกะไปยังหลายทิศทาง และรถโดยสารสาธารณะไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ก็กำลังพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ ค่ะ

นอกจากนี้ การเดินทางในอำเภอเมืองฟุกุโอกะยังสะดวกด้วยรถไฟใต้ดินค่ะ โดยวิ่งเชื่อมต่อระหว่างย่านตัวเมืองใหญ่ต่าง ๆ และสามารถเข้าถึงได้ง่ายจากสนามบินและรถไฟชินคันเซ็นค่ะ

นอกจากนี้แต่ละบริษัทขนส่งยังจำหน่ายตั๋วหนึ่งวันที่ได้สุดคุ้ม อย่างเช่น ตั๋วหนึ่งวันสำหรับการนั่งรถไฟและรถโดยสารของบริษัทรถไฟญี่ปุ่นตะวันตก (西日本鉄道 / Nishi Nippon Tetsudo นิยมย่อกันว่า นิชิเท็ตสึ 西鉄 Nishitetsu) แบบไม่อั้น ราคาอยู่ที่ 600 เยน (ข้อมูล ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2020)

เวลาเดินทางสำหรับการไปยังพื้นที่หลักอื่น ๆ ภายในจังหวัดฟุกุโอกะ

ฐานการเดินทางหลักของจังหวัดฟุกุโอกะก็คืออำเภอเมืองฟุกุโอกะซึ่งเป็นที่ตั้งของสนามบินฟุกุโอกะนั่นเองค่ะ เวลาที่ใช้ในการเดินทางจากสนามบินฟุกุโอกะไปยังส่วนต่าง ๆ ของจังหวัดมีดังนี้ค่ะ

ข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทางไปยังฟุกุโอกะ

สำหรับการเดินทางจากทั้งในและนอกญี่ปุ่นไปยังฟุกุโอกะนั้น สามารถเข้าถึงได้ทางอากาศและทางรถไฟชินคันเซ็นค่ะ เราได้สรุปข้อมูลไว้ข้างล่างค่ะ

ข้อมูลเที่ยวบินไปยังฟุกุโอกะ

การบินจากแต่ละพื้นที่ในญี่ปุ่นไปยังฟุกุโอกะนั้นก็แสนสะดวกค่ะ มีเที่ยวบิน 55 เที่ยวต่อวันจากโตเกียว (สนามบินฮาเนดะ) 12 เที่ยวต่อวันจากสนามบินนาริตะ 10 เที่ยวต่อวันจากสนามบินนานาชาติโอซาก้า (สนามบินอิตามิ) และ 5 เที่ยวต่อวันจากสนามบินคันไซค่ะ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 10 นาทีถึง 2 ชั่วโมง 30 นาทีจากโตเกียวและประมาณ 1 ชั่วโมงถึง 1.5 ชั่วโมงจากทางฝั่งคันไซค่ะ

นอกจากนี้ เที่ยวบินระหว่างประเทศก็ยังมีเข้ามาจากทุกส่วนของเอเชีย จึงนิยมเรียกกันว่าเป็นประตูสู่เอเชียค่ะ จากไต้หวันมีเที่ยวบิน 6 เที่ยวต่อวันจากไทเป และ 1 เที่ยวต่อวันจากเกาสง นอกจากนี้ จากกรุงเทพฯ ในประเทศไทยยังมีเที่ยวบิน 2 เที่ยวทุกวันที่สนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมือง และอีก 1 เที่ยวต่อวันจากกัวลาลัมเปอร์ในมาเลเซียค่ะ (ข้อมูล ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2020)

การเดินทางไปยังฟุกุโอกะ (ชินคันเซ็น)

สำหรับการเดินทางไปยังฟุกุโอกะนั้นก็ยังสามารถทำได้ด้วยรถไฟความเร็วสูงชินคันเซ็นค่ะ สามารถใช้ชินคันเซ็นไปลงที่ที่สถานี JR Hakata ซึ่งเป็นสถานีปลายทางในฟุกุโอกะได้ค่ะ ใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมงผ่านทาง Tokaido Shinkansen และ Sanyo Shinkansen จากสถานี JR Tokyo และประมาณ 2 ชั่วโมง 40 นาทีจากสถานี JR Shin-Osaka ซึ่งอยู่ระหว่างทางจากโตเกียวค่ะ