【ปี 2025】คู่มือฉบับสมบูรณ์เกี่ยวกับเทศกาลฤดูใบไม้ร่วงในญี่ปุ่น! 10 เทศกาลแนะนำ พร้อมวิธีเพลิดเพลินให้สนุกยิ่งขึ้น

ภาพโดย: กองส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองคานุมะ

เมื่อพูดถึงฤดูใบไม้ร่วงในญี่ปุ่น แน่นอนว่าภาพของใบไม้เปลี่ยนสีอันงดงาม รสชาติของอาหารตามฤดูกาลที่แสนอร่อย... ก็ล้วนเป็นเสน่ห์ของฤดูใบไม้ร่วงนี้เช่นกัน แต่ครั้งนี้ เราขอแนะนำ “เทศกาลฤดูใบไม้ร่วง”

“กิจกรรมในฤดูใบไม้ร่วงของญี่ปุ่นมีอะไรบ้าง?” “มีงานเทศกาลแบบไหน?” “นักท่องเที่ยวสามารถเข้าร่วมได้ไหม?” “อยากสัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่นให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น!” ...หากคุณกำลังมีคำถามแบบนี้อยู่ เราขอแนะนำบทความพิเศษจาก FUN! JAPAN ที่จะอธิบายเสน่ห์ของเทศกาลฤดูใบไม้ร่วงในญี่ปุ่นอย่างละเอียด

บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ 10 เทศกาลฤดูใบไม้ร่วงที่น่าสนใจจากทั่วประเทศญี่ปุ่น เป็นไกด์แบบครบถ้วนที่จะทำให้คุณเพลิดเพลินกับเทศกาลฤดูใบไม้ร่วงได้อย่างมั่นใจ พร้อมทั้งจุดเด่นของแต่ละงาน วิธีเดินทาง และข้อมูลที่เป็นประโยชน์เมื่อไปเยือนจริง

*หากคุณซื้อสินค้าหรือจองบริการใด ๆ ที่แนะนำในบทความ ส่วนหนึ่งของรายได้จะมอบให้ FUN! JAPAN

เทศกาลฤดูใบไม้ร่วงคืออะไร? ประวัติและความหมาย

แก่นของเทศกาลในญี่ปุ่นคือ การขอบคุณและอธิษฐานต่อธรรมชาติและเทพเจ้าที่สถิตอยู่ในธรรมชาติ โดยเฉพาะเทศกาลฤดูใบไม้ร่วงนั้น เป็นกิจกรรมที่สำคัญอย่างยิ่งในช่วงฤดูนี้ เพื่อขอบคุณเทพเจ้าสำหรับผลผลิตที่เก็บเกี่ยวได้ในรอบปี

ที่มาของเทศกาลฤดูใบไม้ร่วงจะแตกต่างกันไปตามแต่ละพื้นที่ แต่หลายเทศกาลชื่อดังในยุคปัจจุบันนั้นมีต้นกำเนิดในช่วงยุคเอโดะ

ในงานเทศกาล จะมีการแห่ “มิโคชิ” (ศาลเจ้าขนาดเล็กเคลื่อนที่), รถแห่ขนาดใหญ่ที่เรียกว่า “ดาชิ”, รวมถึงแผงขายอาหารพื้นบ้านที่ตกทอดกันมาหลายรุ่น ยังมีการแสดง “คางุระ” (การรำถวายเทพเจ้า) ณ ศาลเจ้า หรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อื่น ๆ สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่แค่ความบันเทิงเท่านั้น แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการรวมพลังคนในท้องถิ่น และสืบสานสายใยของชุมชนต่อ ๆ กันไป เทศกาลฤดูใบไม้ร่วงจึงเป็นกิจกรรมสำคัญของฤดูใบไม้ร่วงที่ช่วยให้เรียนรู้วัฒนธรรมญี่ปุ่นได้อย่างลึกซึ้ง

ความแตกต่างจากเทศกาลฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน ความรู้สึกเฉพาะตัวของเทศกาลฤดูใบไม้ร่วง

เทศกาลในญี่ปุ่นมีเอกลักษณ์แตกต่างกันไปตามฤดูกาล

เทศกาลฤดูใบไม้ผลิ

เพื่อฉลองการเริ่มต้นของการเพาะปลูก และอธิษฐานให้ได้ผลผลิตดี

เทศกาลฤดูร้อน

จัดขึ้นเพื่อขอให้ปลอดภัยจากโรคระบาด ขอให้พ้นภัยจากพายุและแมลง และยังเกี่ยวข้องกับเทศกาลโอบง (Bon Festival) ที่รับอิทธิพลจากพุทธศาสนา มีบรรยากาศสนุกสนาน เช่น การจุดพลุ การเต้นบงโอโดริ ฯลฯ

เทศกาลฤดูใบไม้ร่วง

จัดขึ้นเพื่อแสดงความยินดีและขอบคุณต่อผลผลิตที่เก็บเกี่ยวได้ในปีนั้น โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบท ศาลเจ้าและชุมชนท้องถิ่นจะจัดกิจกรรมเฉพาะตัว เช่น ขบวนมิโคชิ หรือการรำคางุระถวายเทพเจ้า

เหตุผลที่แนะนำเทศกาลฤดูใบไม้ร่วง

เข้ากับฤดูใบไม้เปลี่ยนสี

ชมใบไม้แดงสวย ๆ ในตอนกลางวัน แล้วดื่มด่ำกับโลกแห่งเทศกาลสุดลึกลับในยามค่ำคืน เป็นการผสมผสานระหว่างธรรมชาติอันงดงามและวัฒนธรรมดั้งเดิมได้อย่างลงตัว

อากาศสบาย

ฤดูใบไม้ร่วงฤดูซึ่งก่อนที่ความร้อนในฤดูร้อนจะบรรเทาลงและความหนาวเย็นในฤดูหนาวจะมาถึง เหมาะอย่างยิ่งสําหรับการเที่ยวชมกลางแจ้ง และสามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมฤดูใบไม้ร่วงในสภาพอากาศที่เย็นสบาย

สัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่นได้ลึกซึ้ง

นี่คือโอกาสอันยอดเยี่ยมที่จะได้ใกล้ชิดกับประเพณีและวัฒนธรรมที่ฝังรากในแต่ละภูมิภาค รวมถึงวิถีชีวิตและลมหายใจของผู้คนในท้องถิ่น เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นและเชื่อมโยงกับชุมชน หากได้ไปสัมผัสเทศกาลฤดูใบไม้ร่วงหลาย ๆ งาน จะยิ่งเข้าใจได้ว่าความเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละภูมิภาคฝังรากลึกเพียงใด

ดูดีมากบนโซเชียลมีเดีย

ผู้คนที่แต่งกายในชุดประจำถิ่น รถแห่ที่ตกแต่งอย่างประณีต แผงขายอาหาร และแสงโคมไฟยามค่ำคืนที่ส่องสว่างอย่างมีมนต์ขลัง เต็มไปด้วยช่วงเวลาที่อยากเก็บภาพหรือวิดีโอไว้แชร์ความตื่นเต้นลงบนโซเชียลมีเดีย

คัดสรรมาแล้ว! 10 เทศกาลฤดูใบไม้ร่วงในญี่ปุ่นที่สร้างความประทับใจทั้งชาวต่างชาติและชาวญี่ปุ่น

นี่คือ 10 เทศกาลฤดูใบไม้ร่วงที่มีเสน่ห์เฉพาะตัวและน่าประทับใจ ซึ่งนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติควรได้สัมผัส โปรดดูจุดเด่นของแต่ละเทศกาล และคำแนะนำในการเที่ยวให้สนุกยิ่งขึ้น

เทศกาลฤดูใบไม้ร่วงในญี่ปุ่น จัดเมื่อไหร่และที่ไหน?

เทศกาลฤดูใบไม้ร่วงจะจัดขึ้นตามสถานที่ต่าง ๆ ทั่วญี่ปุ่น ตั้งแต่เดือนกันยายนถึงพฤศจิกายน มีการจัดขึ้นในหลากหลายภูมิภาค ทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก

เทศกาลคิชิวาดะ ดันจิริ【เมืองคิชิวาดะ จังหวัดโอซาก้า】

เทศกาลคิชิวาดะ ดันจิริที่มีประวัติกว่า 300 ปีตั้งแต่ยุคกลางของสมัยเอโดะ มีชื่อเสียงด้านพลังและความเร็วอันน่าทึ่ง “ยาริมาวาชิ” หรือการหักเลี้ยวของรถแห่ขนาดหลายตันที่มุมถนนด้วยความเร็วสูง เป็นภาพที่ตื่นตาตื่นใจอย่างยิ่ง! เสียงกลองและขลุ่ยอันเร้าใจสะท้อนก้อง ปลุกเร้าความตื่นเต้นของผู้ชมจนถึงขีดสุด

💡คำแนะนำจาก FUN! JAPAN: หากต้องการชม “ยาริมาวาชิ” อย่างใกล้ชิด ให้ระวังพื้นที่อันตรายและอย่าเลยแนวกั้น ในช่วงระหว่างเทศกาล อย่าลืมลองชิม “มะเขือม่วงดองน้ำ” ของขึ้นชื่อแห่งเซ็นชู

เทศกาลคิชิวาดะ ดันจิริ

• วันและเวลา: [เทศกาลเดือนกันยายน] 13 กันยายน 2025 (เสาร์) 6:00~22:00, 14 กันยายน 2025 (อาทิตย์) 9:00~22:00 [เทศกาลเดือนตุลาคม] 11 ตุลาคม 2025 (อาทิตย์) 6:00~22:00, 12 ตุลาคม 2025 (อาทิตย์) 7:00~22:00
• การเดินทาง: [เทศกาลกันยายน] เดินไม่ไกลจากสถานี Kishiwada และ Haruki [เทศกาลตุลาคม] เดินไม่ไกลจากสถานี Higashi-Kishiwada, Shimomatsu และ Kumeda
• ค่าเข้าชม: ฟรี *มีที่นั่งเสียค่าใช้จ่ายโดยผู้จัดเอกชน
• เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ: ที่นี่

👉จองแพลนชมเทศกาลได้ที่ Kkday

เทศกาลศาลเจ้าสึรุโอกะ ฮะจิมังกู【เมืองคามาคุระ จังหวัดคานากาว่า】

เป็นเวลา 3 วันตั้งแต่วันที่ 14–16 กันยายนของทุกปี จะมีการจัดเทศกาลใหญ่ที่ศาลเจ้าสึรุโอกะ ฮะจิมังกู หนึ่งในศาลเจ้าประจำเมืองคามาคุระ ตามบันทึกประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น “อาสุมะ คะงะมิ” ซึ่งกล่าวถึงยุคคามาคุระ เทศกาลนี้เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 15 เดือน 8 ปี 1187 (สมัยบุงจิ ปีที่ 3) เป็นกิจกรรมที่มีต่อเนื่องมากว่า 800 ปี

ในวันสุดท้าย จะมีพิธี “ยาบุซาเมะ” การยิงธนูจากหลังม้าใส่เป้าระหว่างวิ่ง และขบวน “ชินโคไซ” ที่แบกมิโคชิเดินข้ามถนนวากะมิยะ บรรยากาศเต็มไปด้วยผู้ชมมากมาย

💡คำแนะนำจาก FUN! JAPAN: พิธียาบุซาเมะเป็นที่นิยมและคนแน่นมาก ในงานชินโคไซ การแสดงรำ “ยาโอโตเมะ” ใต้เสาโทริอิที่สองก็ห้ามพลาด รอบบริเวณยังมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย เช่น พระใหญ่แห่งคามาคุระ และวัดโฮโคคุจิที่มีป่าไผ่

เทศกาลศาลเจ้าสึรุโอกะ ฮะจิมังกู

• วันและเวลา: 14 (อาทิตย์) ~ 16 (อังคาร) กันยายน 2025
• สถานที่จัด: บริเวณศาลเจ้าสึรุโอกะ ฮะจิมังกู
• การเดินทาง: เดิน 10 นาทีจากสถานีคามาคุระ
• ค่าเข้าชม: ฟรี
• เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ: ที่นี่

เทศกาลนางาซากิคุนจิ【เมืองนางาซากิ จังหวัดนางาซากิ】

เป็นเทศกาลฤดูใบไม้ร่วงใหญ่ของศาลเจ้าสุวะ เทพผู้คุ้มครองเมืองนางาซากิ ซึ่งจัดขึ้นตั้งแต่ปี 1634 ในต้นสมัยเอโดะ จัดขึ้น 3 วันตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคมของทุกปี จุดเด่นคือการแสดงบูชา “โฮโน โอโดริ” ที่มีสีสันแบบต่างชาติซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของนางาซากิ ซึ่งได้รับอิทธิพลจากการค้ากับชาติตะวันตกในช่วงปิดประเทศ พื้นที่ในเมืองนางาซากิแบ่งออกเป็น 7 กลุ่ม แต่ละกลุ่มจะได้จัดแสดงโฮโน โอโดริ สลับกันทุก 7 ปี ทำให้การแสดงเปลี่ยนไปทุกปี การแสดงที่มีเอกลักษณ์ของแต่ละเขตเหมือนกับการชมภาพม้วนประวัติศาสตร์

💡คำแนะนำจาก FUN! JAPAN:: ที่นั่งชมใน “ลานชมคุนจิสวนกลาง” มีจำหน่ายเป็นตั๋ว แต่สามารถชมการแสดงบางส่วนได้ตาม “นิวะซากิมาวาริ” รอบเมือง ของกินขึ้นชื่อของนางาซากิอย่างคัสเทลล่าและจัมปงก็ไม่ควรพลาด

เทศกาลนางาซากิคุนจิ

• วันและเวลา: 7, 8, 9 ตุลาคมของทุกปี *เวลาขึ้นอยู่กับสถานที่และกิจกรรม
• การเดินทาง: ใจกลางเมืองนางาซากิ เดินทางได้ด้วยรถรางหรือรถบัส
• ค่าเข้าชม: [ลานชมคุนจิสวนกลาง] 4,500 เยน/คน (เด็ก 2 ปีขึ้นไป) ~ *มีหลายจุดให้ชมฟรี
• เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ: ที่นี่

👉จองแพลนชมเทศกาลได้ที่ Kkday

เทศกาลฮาจิมัง (เทศกาลฤดูใบไม้ร่วงทาคายามะ)【เมืองทาคายามะ จังหวัดกิฟุ】

หนึ่งใน 3 เทศกาลฮิกิยามะที่ยิ่งใหญ่ของญี่ปุ่น คือ เทศกาลทาคายามะ โดยจัดเทศกาลฤดูใบไม้ผลิในวันที่ 14–15 เมษายน และเทศกาลฤดูใบไม้ร่วงในวันที่ 9–10 ตุลาคม เรียกว่า “เทศกาลฮาจิมัง” ทิวทัศน์ของ “ยาไต” (*1) ที่งดงามถูกลากออกจากโรงเก็บยาไตในบริเวณศาลเจ้าซากุระยามะ ฮะจิมังกู ไปยังถนนสายหลักนั้นงดงามตระการตา! ในช่วงบ่ายของวันที่ 9 รถแห่ 4 คันจะเดินพาเหรดไปรอบพื้นที่จัดงาน

การแสดง “คาราคุริบูชิ” ที่มีตุ๊กตาเชิงกลเคลื่อนไหวบนรถแห่ จะจัดแสดงวันละ 2 รอบในทั้งสองวันที่ลานศาลเจ้าซากุระยามะ ฮาจิมังกู

ตอนกลางคืนของวันที่ 9 จะมี “เทศกาลยามค่ำคืน” ที่มีรถแห่ติดโคมไฟกว่า 100 ดวงเดินขบวนรอบเมือง ให้บรรยากาศชวนฝันอย่างมาก

*1 “ยาไต” ในที่นี้หมายถึงรถแห่ที่ตกแต่งอย่างงดงาม ไม่ใช่ร้านขายอาหารเคลื่อนที่

💡คำแนะนำจาก FUN! JAPAN: แนะนำให้เดินชม “สามย่านเมืองเก่า” ที่ยังคงสภาพดั้งเดิม และลองชิมของอร่อยในท้องถิ่น เช่น ซูชิเนื้อฮิดะ และดังโงะซอสหวาน

เทศกาลฮาจิมัง (เทศกาลฤดูใบไม้ร่วงทาคายามะ)

• วันและเวลา: 9–10 ตุลาคมของทุกปี *เวลาขึ้นอยู่กับสถานที่และกิจกรรม
• การเดินทาง: เดินจากสถานีทาคายามะ
• ค่าเข้าชม: ฟรี
• เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ: ที่นี่

เทศกาลใหญ่ซาวาระ【เมืองคาโทริ จังหวัดชิบะ】

"ซาวาระ โนะ ไทไซ" (เทศกาลใหญ่ซาวาระ) เป็นคำเรียกรวมของเทศกาลกิออนศาลเจ้ายาซากะที่จัดขึ้นทุกปีในวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์หลังจากวันที่ 10 กรกฎาคม ที่เมืองซาวาระ จังหวัดคาโทริ จังหวัดชิบะ และเทศกาลฤดูใบไม้ร่วงของศาลเจ้าสุวะที่จัดขึ้นในวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ของวันเสาร์ที่สองของเดือนตุลาคม ทั้งสองเทศกาลในฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วงนี้รวมเรียกว่า "เทศกาลใหญ่ซาวาระ"

ถือเป็นหนึ่งในสามเทศกาลรถแห่ใหญ่ของภูมิภาคคันโต มีจุดเด่นคือหุ่นขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่บนรถแห่ หุ่นความสูง 4 เมตรที่มีต้นแบบจากบุคคลทางประวัติศาสตร์จะถูกลากไปรอบเมืองที่ยังคงบรรยากาศของ "โคเอโดะ" (เอโดะน้อย – เขตอาคารดั้งเดิมที่ได้รับการอนุรักษ์ระดับประเทศ)

💡คำแนะนำจาก FUN! JAPAN: คุณยังสามารถเพลิดเพลินกับการล่องเรือในแม่น้ำโอโนะได้อีกด้วย ขอแนะนำให้ลองชิมปลาไหลขึ้นชื่อ โซบะดำ และสาเกท้องถิ่น

เทศกาลใหญ่ซาวาระ

• วันและเวลา: [เทศกาลฤดูร้อน] 11 กรกฎาคม 2025 (วันศุกร์) ~ 13 กรกฎาคม 2025 (วันอาทิตย์) [เทศกาลฤดูใบไม้ร่วง] 10 ตุลาคม 2025 (วันศุกร์) ~ 12 ตุลาคม 2025 (วันอาทิตย์)
• การเดินทาง: เดินจากสถานีซาวาระ
• ค่าเข้าชม: ฟรี
• เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ: ที่นี่

เทศกาลฤดูใบไม้ร่วงคานุมะ【เมืองคานุมะ จังหวัดโทจิงิ】

เทศกาลฤดูใบไม้ร่วงคานุมะซึ่งมีประวัติศาสตร์กว่า 400 ปี ได้รับการกำหนดให้เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมพื้นบ้านที่จับต้องไม่ได้ที่สำคัญระดับชาติ และยังขึ้นทะเบียนเป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของ UNESCO อีกด้วย จัดขึ้นในวันเสาร์และอาทิตย์ที่สองของเดือนตุลาคมทุกปี รถแห่ที่มีการแกะสลักอย่างวิจิตรงดงามจากแต่ละเขตในเมืองจะมารวมตัวกันที่ศาลเจ้า ไฮไลท์ของงานคือ "บุสซึเกะ" ซึ่งเป็นการประชันเสียงดนตรีระหว่างรถแห่หลายคันที่ตั้งประจันหน้ากันบนถนน ซึ่งถือเป็นไฮไลต์ของเทศกาลนี้ อีกทั้งเสียงดนตรีและเสียงเชียร์ก็จะดังก้องทั่วทั้งเมือง

ในเวลากลางคืน โคมไฟจะถูกจุดประดับบนรถแห่ สร้างบรรยากาศที่สวยงามเหมือนฝัน

💡คำแนะนำจาก FUN! JAPAN: ตั้งแต่เวลาประมาณ 17:00 น. ของวันแรก รถแห่พร้อมโคมไฟจะกลับสู่เขตของตนพร้อมเสียงดนตรี ขบวนพาเหรดในวันที่สองตั้งแต่เวลา 14:00 น. ก็เป็นภาพที่ควรค่าแก่การชม แนะนำให้ลองชิมโซบะโฮมเมดท้องถิ่นด้วย

เทศกาลฤดูใบไม้ร่วงคานุมะ

• วันและเวลา: 11 ตุลาคม (เสาร์) และ 12 ตุลาคม (อาทิตย์) 2025
• การเดินทาง: มีรถชัทเทิลฟรีจากสถานีชิน-คานุมะในช่วงเทศกาล
• ราคา: ยังไม่กำหนดสำหรับที่นั่งแบบมีค่าใช้จ่าย *สามารถชมฟรีได้
• เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ: ที่นี่

เทศกลองไทโกะนิอิฮามะ【เมืองนิอิฮามะ จังหวัดเอฮิเมะ】

"เทศกลองไทโกะนิอิฮามะ" เป็นหนึ่งในสามเทศกาลใหญ่ของภูมิภาคชิโกกุ มีแท่นกลอง 54 แท่นประดับด้วยด้ายทองและเงินอย่างวิจิตรตระการตาทั่วทั้งเมือง การแสดงอย่าง "คาคิคุราบุ" ที่แสดงลักษณะเฉพาะของแต่ละเขตจะถูกนำเสนอ

แท่นกลองที่มีความสูงประมาณ 5.5 เมตร และหนักประมาณ 3 ตัน ถูกหามยกสูงเหนือศีรษะโดยผู้แบกกว่า 150 คน เป็นภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจ

💡คำแนะนำจาก FUN! JAPAN: โดยเฉพาะ "โยเสะไทโกะ" ที่จัดที่สนามยามาเนะ ในเมืองนิอิฮามะ เป็นจุดพีคของเทศกาล ขอแนะนำอาหารท้องถิ่นชื่อ "ซันกิ" ซึ่งเป็นไก่ทอดขึ้นชื่อ

เทศกลองไทโกะนิอิฮามะ

• วันและเวลา: 15 ตุลาคม (พุธ) ~ 18 ตุลาคม (เสาร์) 2025
• การเดินทาง: มีรถชัทเทิลฟรีจากสถานีนิอิฮามะในช่วงเทศกาล *อาจมีการเปลี่ยนแปลงในแต่ละปี
• ค่าเข้าชม: ฟรี
• เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ: ที่นี่

เทศกาลจิได【เมืองเกียวโต จังหวัดเกียวโต】

"เทศกาลจิได" ซึ่งเริ่มจัดขึ้นเพื่อรำลึกถึงครบรอบ 1100 ปีของการย้ายเมืองหลวงมายังเฮอังเคียว มีจุดเด่นคือขบวนพาเหรดใหญ่ที่งดงามซึ่งจำลองภาพประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นให้เห็นตรงหน้า ตั้งแต่ยุคเมจิไปจนถึงยุคเฮอัง มีการสวมชุดเครื่องแต่งกายของแต่ละยุคอย่างสมจริงโดยอิงจากการศึกษาทางประวัติศาสตร์อย่างละเอียด มีผู้ร่วมขบวนประมาณ 2,000 คน แห่เป็นระยะทางประมาณ 2 กม.ผ่านเมืองเกียวโต

ทุกคนสามารถรับชมได้อย่างอิสระ แต่เราขอแนะนําที่นั่งมีค่าใช้จ่ายที่ช่วยให้คุณมองเห็นได้อย่างสะดวกสบายในตําแหน่งที่มองเห็นได้ง่าย

💡คำแนะนำจาก FUN! JAPAN: ขบวนแห่ออกเดินทางจากพระราชวังเกียวโตตอนเที่ยง และถึงศาลเจ้าเฮอันในช่วงบ่าย การเดินทางสะดวกจากตัวเมืองเกียวโต สามารถเที่ยวชมมรดกโลกใกล้เคียง ลิ้มรสอาหารเกียวโต และขนมญี่ปุ่น เช่น มัทฉะ ได้ด้วย

เทศกาลจิได

• วันที่และเวลา: 22 ตุลาคม 2025
• สถานที่จัด: ศาลเจ้าเฮอัน ~ พระราชวังจักรพรรดิเกียวโต
• การเดินทาง: [ศาลเจ้าเฮอัน] เดิน 10 นาทีจากสถานีฮิงาชิยามะ [พระราชวังเกียวโต] เดิน 5 นาทีจากสถานีอิมาเดกาวะ
• ค่าเข้าชม: [ที่นั่งมีค่าใช้จ่าย] 4,000 เยน~ *มีจุดชมฟรี
• เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ: ที่นี่

👉 คลิกที่นี่เพื่อซื้อที่นั่งมีค่าใช้จ่าย

คารัตสึคุนจิ【เมืองคารัตสึ จังหวัดซากะ】

"คารัตสึคุนจิ" เป็นเทศกาลฤดูใบไม้ร่วงของศาลเจ้าคารัตสึที่จัดขึ้นในเมืองคารัตสึ จังหวัดซากะ ระหว่างวันที่ 2 – 4 พฤศจิกายนของทุกปี มีจุดเริ่มต้นราวสมัยคัมบุง (1661–1673) ในยุคเอโดะ และขึ้นทะเบียนเป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของ UNESCO

รถแห่ขนาดใหญ่ (ฮิกิยามะ) หนัก 2~5 ตัน จะถูกแห่ไปรอบ ๆ บริเวณปราสาทคารัตสึพร้อมเสียงขลุ่ยและกลอง มีทั้งหมด 14 คันที่ตกแต่งอย่างวิจิตร เช่น สิงโตแดง เต่า อุราชิมะ ทาโร่ และปลาหางแดง พร้อมเสียงตะโกน "เอนยะ เอนยะ" และ "โยอิสะ โยอิสะ"

(*2) ฮิกิยามะคืออุปกรณ์ตกแต่งขนาดใหญ่ที่ใช้ลากในเทศกาล ขึ้นอยู่กับภูมิภาค อาจเรียกต่างกันเช่น ดาชิ หรือ ยาไต

💡คำแนะนำจาก FUN! JAPAN: วันที่ 3 พฤศจิกายน รถแห่จะรวมตัวกันที่ชายหาดฝั่งตะวันตกและถูกลากเข้าและออก ที่เที่ยวใกล้เคียง เช่น ปราสาทคารัตสึ และเรนโบว์มัตสึบาระก็น่าสนใจ อาหารทะเลเช่นปลาหมึกโยบุโกะ และเนื้อวัวซางะก็ไม่ควรพลาด

คารัตสึคุนจิ

• วันและเวลา: 2 – 4 พฤศจิกายน 2025
• การเดินทาง: เดินจากสถานีคารัตสึภายใน 30 นาที
• ค่าเข้าชม: ฟรี
• เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ: ที่นี่

พันตุปุนาฮา【มิยาโกะจิมะ จังหวัดโอกินาว่า】

"พันตุปุนาฮา" จัดขึ้นบนเกาะมิยาโกะจิมะ จังหวัดโอกินาว่า ในเดือน 9 ตามปฏิทินจันทรคติ (ประมาณเดือนตุลาคม) เทพเจ้าสามองค์ที่สวมหน้ากากและทาตัวด้วยโคลนจะออกมา เพื่ออวยพรให้โชคดีและสุขภาพแข็งแรงโดยการทาโคลนใส่บ้านและผู้คน เชื่อกันว่าโคลนนี้มีพลังในการปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย ร่วมกับงานประเพณีอื่นอีก 9 แห่ง เช่น นามะเฮเงะในจังหวัดอากิตะ ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของ UNESCO ในปี 2018 ภายใต้ชื่อ "ไรโฮชิน เทพเจ้าสวมหน้ากากที่มาเยือนในพิธีกรรม"

💡คำแนะนำจาก FUN! JAPAN: สถานที่จัดคืองานอยู่ในเขตชิมะจิริ ขณะนี้วันเวลาและสถานที่จัดงานไม่เปิดเผย ทำให้เป็นพิธีศักดิ์สิทธิ์สำหรับชาวท้องถิ่น ชายหาดที่สวยงามและธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ก็น่าท่องเที่ยวเช่นกัน หากคุณสนใจ "พันตุปุนาฮา" ลองเปิดประสบการณ์นี้ดูไหม?

พันตุปุนาฮา

• วันและเวลา: ไม่เปิดเผย
• การเดินทาง: แท็กซี่หรือรถบัสจากสนามบินมิยาโกะ
• ค่าเข้าชม: ฟรี
• เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ: ที่นี่

จุดสำคัญและข้อควรระวังในการเพลิดเพลินกับเทศกาลฤดูใบไม้ร่วง

นี่คือจุดสำคัญและข้อควรระวังที่ควรรู้ เพื่อให้คุณสามารถเพลิดเพลินกับเทศกาลฤดูใบไม้ร่วงของญี่ปุ่นได้อย่างเต็มที่

เครื่องแต่งกายและของใช้ที่ควรเตรียม

สถานที่จัดงานเทศกาลมักจะต้องเดินเป็นระยะทางไกล จึงควรสวมรองเท้าที่เดินสบายและสะดวกสบาย อากาศจะเริ่มเย็นโดยเฉพาะในช่วงเย็น ควรเตรียมเสื้อผ้ากันหนาวที่สามารถใส่ซ้อนกันได้ อย่าลืมพกร่มพับและเสื้อกันฝนเผื่อฝนตกฉับพลัน เครื่องให้ความร้อนสำหรับกันหนาว และแบตเตอรี่สำรองสำหรับโทรศัพท์มือถือเพื่อไม่ให้แบตหมดระหว่างถ่ายรูป หน้ากากอนามัยก็มีประโยชน์ในกรณีต้องเจอฝูงชนหรือป้องกันฝุ่น

มารยาทและทัศนคติในการร่วมงาน

เทศกาลเป็นกิจกรรมดั้งเดิมที่ชาวท้องถิ่นให้ความสำคัญ ควรปฏิบัติตามมารยาทต่าง ๆ ดังต่อไปนี้เพื่อให้เพลิดเพลินได้อย่างสบายใจ

คำนึงถึงชาวบ้านในพื้นที่

ควรระมัดระวังไม่รบกวนการดำเนินชีวิตของชาวบ้าน เช่น ห้ามเข้าไปในพื้นที่ส่วนบุคคล หลีกเลี่ยงการพูดเสียงดังหรือส่งเสียงรบกวน

ข้อควรระวังเมื่อถ่ายภาพ

หากต้องการถ่ายภาพบุคคลระยะใกล้ ควรคำนึงถึงสิทธิภาพลักษณ์ (portrait rights) และขออนุญาตก่อน หรือถ่ายโดยไม่ให้เห็นใบหน้าชัดเจน หลีกเลี่ยงการใช้แฟลชเพื่อไม่ให้รบกวนบรรยากาศและความคืบหน้าของพิธี

ปฏิบัติตามกฎและคำแนะนำของงานเทศกาล

ควรปฏิบัติตามข้อจำกัดด้านการจราจร พื้นที่ห้ามเข้า และคำแนะนำด้านความปลอดภัย โดยเฉพาะในเทศกาลที่มีความดุดัน ควรหลีกเลี่ยงบริเวณที่อาจเกิดอันตราย

นำขยะกลับบ้าน

เพื่อรักษาทัศนียภาพและสิ่งแวดล้อมให้สวยงาม ควรทิ้งขยะในจุดที่จัดไว้ หรือหากไม่มีให้เก็บกลับบ้าน

การเดินทางและที่พัก

ในช่วงเทศกาลขนาดใหญ่ พื้นที่รอบงานมักจะรถติดมาก และหาที่จอดรถได้ยาก จึงแนะนำให้ใช้ระบบขนส่งสาธารณะ (รถไฟและรถบัส) มากที่สุด ที่พักใกล้สถานที่จัดงานเทศกาลจะถูกจองเต็มเร็วมาก ดังนั้นเมื่อวางแผนการเดินทางได้แล้ว ควรรีบจองล่วงหน้า นอกจากนี้ เทศกาลบางแห่งอาจมีการจำกัดการจราจร ควรตรวจสอบเว็บไซต์ทางการล่วงหน้า

เพลิดเพลินกับอาหารจากร้านแผงลอยในงานเทศกาล!

เมื่อพูดถึงเทศกาลในญี่ปุ่น หนึ่งในความสนุกคือการได้ลองอาหารอร่อยที่ขายตามแผงลอยตามงานเทศกาลต่าง ๆ ! นอกจากอาหารบีเกรดแบบคลาสสิก เช่น ทาโกะยากิ โอโคโนมิยากิ และยากิโซบะ แล้ว ของหวานอย่างแอปเปิ้ลเคลือบน้ำตาลและสายไหมก็ได้รับความนิยมเช่นกัน บางพื้นที่อาจมีแผงลอยที่ขายอาหารท้องถิ่นหรือของขึ้นชื่อประจำภูมิภาคด้วย ลองมองหาอาหารพิเศษที่มีเฉพาะในท้องถิ่นเพื่อเพิ่มความสนุกให้กับเทศกาล

👉 ร้านแผงลอยคืออะไร? เจาะลึกตั้งแต่อาหารเด็ดประจำงานเทศกาล ไปจนถึงของกินสุดปังลงโซเชียลและเกมสนุก ๆ ที่ต้องลอง!

👉 เทศกาลฤดูร้อนของญี่ปุ่นที่เหมาะสำหรับลง SNS แนะนำอาหารและเกมยอดฮิตจากร้านแผงลอย

เยี่ยมชมเทศกาลฤดูใบไม้ร่วง เพื่อสัมผัสวัฒนธรรมดั้งเดิมของญี่ปุ่นอย่างลึกซึ้ง

เทศกาลฤดูใบไม้ร่วงในญี่ปุ่นไม่ใช่แค่กิจกรรมตามฤดูกาลเท่านั้น แต่เป็น “มรดกที่มีชีวิต” ที่แฝงไปด้วยความขอบคุณและสายสัมพันธ์ของผู้คนในชุมชน รวมถึงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมายาวนานนับศตวรรษ เป็นโอกาสอันล้ำค่าที่จะได้สัมผัสจิตวิญญาณและความหลงใหลของญี่ปุ่นอย่างลึกซึ้ง แตกต่างจากความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสี

ฤดูใบไม้ร่วงนี้ ลองออกเดินทางตามหัวใจ เพื่อสัมผัสประเพณีและความหลงใหลของญี่ปุ่นดูไหม?