หากจะไปเที่ยวอาซากุสะ ก็ควรรู้เรื่องนี้ไว้! ไฮไลท์และวิธีเพลิดเพลินไปกับวัดเซ็นโซจิ

  • 21 กันยายน 2018
  • 15 สิงหาคม 2023
  • 横山 ゆかり/ Yukari Yokoyama
  • Mon

หากจะไปเที่ยวอาซากุสะ ก็ควรรู้เรื่องนี้ไว้! ไฮไลท์และวิธีเพลิดเพลินไปกับวัดเซ็นโซจิ
ได้รับความอนุเคราะห์ภาพจาก: วัดเซ็นโซจิ

วัดเซ็นโซจิซึ่งทุกปีจะมีผู้คนประมาณ 30 ล้านคนมาเยี่ยมชมเพื่อสักการะและเที่ยวชม ก็เป็นหนึ่งในสถานที่ยอดนิยมที่สุดในโตเกียว ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกหน้าประตูคามินาริมง ช้อปปิ้งและทานอาหารที่ถนนนากามิเสะเป็นเรื่องน่าสนุกเพลิดเพลิน แต่วัดเซ็นโซจิก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายที่จะทำให้รู้สึกเสียดายหากรีบพอใจกับการเที่ยวแค่สองที่นั้นค่ะ

ครั้งนี้เราจะมาแนะนำวิธีเพลิดเพลินไปกับวัดเซ็นโซจิและวิธีสักการะ ไปเพลิดเพลินกับบริเวณวัดเซ็นโซจิให้เต็มที่กันคะ

วัดเซ็นโซจิ วัดที่เก่าแก่ที่สุดในโตเกียว คือ?

วัดเซ็นโซจิที่มีประวัติยาวนานเกือบ 1,400 ปี อยู่ห่างจากสถานีอาซากุสะโดยใช้เวลาเดินประมาณ 5 นาที มีสิ่งปลูกสร้างต่างๆ เช่นอุโบสถและประตูรวม 14 แห่งในพื้นที่รวมประมาณ 3,408 ตารางเมตร

เริ่มต้นในปี ค.ศ. 628 เมื่อชาวประมงสองคนพบรูปปั้นของพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ (聖観世音菩薩 / Sho Kanzeon Bosatsu เรียกสั้นๆ ว่า คันนอนซามะ) ในแม่น้ำมิยาโตะ (แม่น้ำสุมิดะในปัจจุบัน) ซึ่งเจ้าของที่ดินในสมัยนั้นได้อัญเชิญไปประดิษฐานอยู่ในที่พักส่วนตัวค่ะ

หลังจากนั้น คันนอนซามะได้ปรากฏในความฝันของพระสงฆ์ชื่อโชไคโชนิน (勝海上人 / Shokai Shonin) และบอกเขาว่าพระพุทธรูปหลักให้นำไปประดิษฐานอยู่ในตู้หิ้งพระ (厨子 / Zushi ภายในโกะคิวเด็น 御宮殿 หอพระประฐาน) ในฐานะพระพุทธรูปเก็บลับที่ไม่เปิดให้บุคคลทั่วไปเห็น ในปี 857 พระครูจิคาคุไดชิ เอ็นนิน (慈覚大師円仁 / Jikaku Daishi Ennin) ได้สร้างพระพุทธรูปพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ (御前本尊 / Gozen Honzon - พระพุทธรูปจำลองพระประธานด้านหน้า) ที่มีลักษณะเหมือนกับพระประธานทุกประการ และในปัจจุบัน พระพุทธรูปจำลองด้านหน้านี้จัดแสดงทุกเดือนธันวาคม

ในทางกลับกัน วัดวาอารามถูกทำลายและถูกไฟไหม้วอดวายหลายครั้ง รวมทั้งจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ อย่างไรก็ตาม แต่ละครั้งได้รับการสร้างขึ้นใหม่โดยบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์และผู้ศรัทธาค่ะ

ไฮไลท์ต่างๆ ในบริเวณวัดเซ็นโซจิ

ไฮไลท์ต่างๆ ในบริเวณวัดเซ็นโซจิ
ได้รับความอนุเคราะห์ภาพจาก: วัดเซ็นโซจิ

วัดเซ็นโซจิมีงานศิลปะทางพุทธศาสนาที่น่าประทับใจมากมาย รวมถึงโคมไฟสีแดงขนาดใหญ่ที่มีคำว่า “雷門” (คามินาริมง) เขียนไว้ อุโบสถหลักและอุโบสถ-ศาลาอื่นๆ และพระพุทธรูป บางส่วนถูกกำหนดให้เป็นสถานที่ทัศนียภาพงดงามด้วยค่ะ

ไฮไลท์ของวัดเซ็นโซจิ 1. ประตูคามินาริมง

ไฮไลท์ของวัดเซ็นโซจิ 1. ประตูคามินาริมง
ได้รับความอนุเคราะห์ภาพจาก: วัดเซ็นโซจิ

คามินาริมง (雷門 / Kaminarimon) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของอาซากุสะและจุดถ่ายรูปยอดนิยมคือทางเข้าวัดเซ็นโซจิ ชื่ออย่างเป็นทางการ "ฟูไรจินมอน" (風雷神門 / Furaijinmon) มาจากเทพวายุ (風神 / ฟูจิน) และเทพอสุนี (雷神 / ไรจิน) ซึ่งประดิษฐานอยู่ที่ด้านซ้ายและขวาของประตูค่ะ

นับตั้งแต่ก่อตั้ง คามินาริมงได้พังและถูกสร้างใหม่ขึ้นหลายครั้ง เริ่มมีการสร้างโคมไฟอุทิศให้กับคามินาริมงหลังจากสร้างขึ้นใหม่ในปี 1795 เป็นต้นมาค่ะ

ประตูปัจจุบันถูกสร้างขึ้นใหม่ในปี 1960 และมีมังกรแกะสลักอยู่ที่ด้านล่างของโคมไฟขนาดใหญ่สูง 3.9 ม. หนัก 700 กก. ที่แขวนอยู่ตรงกลางประตูค่ะ

ไฮไลท์ของวัดเซ็นโซจิ 2. ประตูโฮโซมง

ไฮไลท์ของวัดเซ็นโซจิ 2. ประตูโฮโซมง
ได้รับความอนุเคราะห์ภาพจาก: วัดเซ็นโซจิ

หลังจากผ่านประตูคามินาริมงและเดินไปตามถนนนากามิเสะ คุณก็จะพบกับประตูโฮโซมง (宝蔵門 / Hozomon) ซึ่งมีโคมไฟขนาดใหญ่ที่มีคำว่า "โคะบุเนะมาจิ" (小舟町 / Kobunemachi) เขียนอยู่ เป็นประตูสองชั้นที่มีชื่อเรียกอีกอย่างว่าประตูนิโอมง (仁王門 / Niomon) เพราะมีรูปปั้นนิโอ (仁王) ประดิษฐานอยู่ที่ทั้งสองด้านซ้ายชวา เมื่อสร้างขึ้นใหม่ในปี ค.ศ. 1964 จึงเปลี่ยนชื่อเป็นโฮโซมง (宝蔵 / Hozo แปลว่าคลังเก็บสมบัติ) เนื่องจากทำหน้าที่เป็นทั้งคลังเก็บพระสูตรและเป็นหอเก็บพระไตรปิฎกและสมบัติของวัดไปพร้อมกันค่ะ

ที่ประตูโฮโซมงมีการจัดเก็บทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญของชาติ "เก็นบังอิซไซเคียว" (元版一切経 / Genban Issaikyo) และที่แขวนไว้ที่หลังประตูนี้คือรองเท้าฟางขนาดใหญ่ที่มีความยาว 4.5 ม. กว้าง 1.5 ม. และหนัก 500 กก. ว่ากันว่ารองเท้าฟางที่นิโอซามะสวมใส่นี้เป็นตัวแทนของพลังของนิโอซามะ และปีศาจร้ายก็จะตกใจจนหนีไปเองค่ะ

ไฮไลท์ของวัดเซ็นโซจิ 3. อุโบสถหลัก

ไฮไลท์ของวัดเซ็นโซจิ 3. อุโบสถหลัก
ได้รับความอนุเคราะห์ภาพจาก: วัดเซ็นโซจิ

หลังจากเดินผ่านประตูโฮโซมงแล้ว คุณจะพบกับอุโบสถหลักที่ประดิษฐานพระพุทธรูปพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ซึ่งเป็นพระประธาน ภายในอุโบสถแบ่งออกเป็นวิหารด้านใน (ไนจิน) และวิหารด้านนอก (ไกจิน) * และตรงกลางของวิหารด้านในเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด ซึ่งก็คือโกะคิวเด็น (หอพระประธาน) สิ่งที่ประดิษฐานอยู่ในส่วนบนของโกะคิวเด็นก็คือพระประธาน พระพุทธรูปเก็บลับที่อยู่ในตู้หิ้งพระ โกมาเอดาจิโกฮนซน (御前立ご本尊 / Gomaedachi Gohonzon - พระประธานยืน) ประดิษฐานอยู่ที่ส่วนล่าง เป็นตัวแทนพระประธานหลักที่ให้บุคคลทั่วไปมองเห็นได้ค่ะ

ภายในอุโบสถตกแต่งด้วยอักษรวิจิตรและภาพวาดต่างๆ เช่น ภาพวาดบนเพดานสามภาพ "ภาพมังกร" (龍之図 / Ryu no Zu) "ภาพชาวสวรรค์" (天人之図 / Tenjin no Zu) และ "ภาพกลีบดอกไม้" (散華之図 / Sange no Zu) บนเร็นและเพดานของวิหารด้านนอก

ด้านหน้าห้องโถงใหญ่นี้มี “โอมิซุยะ” (お水舎 / Omizuya) ที่คุณสามารถชำระร่างกายให้บริสุทธิ์ก่อนเยี่ยมชมศาลเจ้า และ “โจโคโระ” (常香炉 / Jokoro - กระถางธูป) ที่คุณสามารถอาบร่างกายด้วยควันธูปเพื่อปัดเป่าวิญญาณชั่วร้าย นอกจากนี้ยังมีตำนานเล่าขานกันว่าควันจากกระถางธูปช่วยรักษาส่วนที่ไม่ดีของร่างกายด้วย

*内陣/Naijin/ไนจิน: วิหารด้านในส่วนกลางของห้องโถงใหญ่ 外陣/Gaijin/ไกจิน: ส่วนนอกของไนจิน

聯/Ren/เร็น: อักษรโคลงสลักที่แขวนอยู่บนเสาด้านซ้ายและขวาของบันไดทางขึ้นสู่ห้องโถงใหญ่และด้านนอก

ไฮไลท์ของวัดเซ็นโซจิ 4. เจดีย์ห้าชั้น

ไฮไลท์ของวัดเซ็นโซจิ 4. เจดีย์ห้าชั้น
ได้รับความอนุเคราะห์ภาพจาก: วัดเซ็นโซจิ

ตั้งอยู่ที่ฝั่งตะวันตกของประตูโฮโซมงและอุโบสถหลัก เจดีย์ห้าชั้นสีแดงสดใสโดดเด่นในบริเวณวัดเซ็นโซจิ เจดีย์ห้าชั้นในปัจจุบันสร้างขึ้นใหม่ในปี ค.ศ. 1973 โดยเป็นเจดีย์ที่สร้างบนยอดอาคารที่เป็นฐาน (塔院 / Toin - อารามหอ)

ความกว้างของหลังคาที่ยื่นออกมาทั้งห้าค่อยๆ แคบลงเมื่อชั้นมีความสูงมากขึ้น ทำให้เกิดภาพเงาที่สวยงามพร้อมกับเจดีย์และวงล้อ 9 ชั้นบนยอดหลังคา สิ่งที่ให้ความรู้สึกมีชีวิตชีวาคือความโค้งมนของชายคา ในตอนกลางคืน เจดีย์ห้าชั้นจะสว่างไสวไปพร้อมกับอุโบสถหลักและประตูโฮโซมง สร้างบรรยากาศที่น่าอัศจรรย์ค่ะ

ชั้นบนสุดของเจดีย์ห้าชั้นนี้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ (อัฐิของพระพุทธเจ้า) ซึ่งได้รับมาจากวัดอิสุระมุณิยะในศรีลังกาค่ะ

ไฮไลท์ของวัดเซ็นโซจิ 5. อารามเด็นโบอิน (สวนญี่ปุ่น)

ไฮไลท์ของวัดเซ็นโซจิ 5. อารามเด็นโบอิน (สวนญี่ปุ่น)
ได้รับความอนุเคราะห์ภาพจาก: วัดเซ็นโซจิ

ฮอนโบ* หรือกุฏิเจ้าอาวาสของวัดเซ็นโซจิ อารามเด็นโบอิน (伝法院 / Denboin) ตั้งอยู่บนถนนเด็นโบอินโดริทางฝั่งตะวันตกของถนนนากามิเสะโดริค่ะ สวนญี่ปุ่นที่กินพื้นที่ส่วนใหญ่ของวัดเป็นหนึ่งในสวนวัดที่เหลืออยู่ไม่กี่แห่งในโตเกียวที่สืบทอดมาตั้งแต่สมัยเอโดะตอนต้น สวนญี่ปุ่นแห่งนี้เป็นสวนเดินเล่นที่มีทางเดินเล็กๆ รอบสระขนาดใหญ่ซึ่งแบ่งออกเป็นสองส่วน และถูกกำหนดให้เป็นสถานที่ทัศนียภาพงดงามระดับชาติด้วยค่ะ

คุณสามารถเพลิดเพลินกับบรรยากาศของฤดูกาลทั้งสี่ได้และอาคารที่สามารถสัมผัสถึงประวัติศาสตร์อันยาวนานได้ เช่นศาลาต้อนรับและโถงทางเข้าซึ่งถูกกำหนดให้เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญระดับชาติ หอตำราขนาดใหญ่ หอตำราขนาดเล็ก หอตำราใหม่ และห้องครัวเป็นต้นค่ะ

น่าเสียดายที่ที่เหล่านี้ไม่เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชม แต่ก็มีการเปิดพิเศษเป็นครั้งคราว ดังนั้นหากคุณต้องการทราบว่าเปิดให้เข้าชมเมื่อใด โปรดตรวจสอบเว็บไซต์ทางการของวัดเซ็นโซจิค่ะ

*ฮอนโบ (本坊 / Honbo - กุฏิเจ้าอาวาส) เป็นสถานที่ที่เจ้าอาวาสอาศัยอยู่และทำงานต่างๆ ของวัด

อานิสงส์แห่งวัดเซ็นโซจิและวิธีสักการะ ไปขอให้ความปรารถนาของคุณเป็นจริงกัน!

อานิสงส์แห่งวัดเซ็นโซจิและวิธีสักการะ ไปขอให้ความปรารถนาของคุณเป็นจริงกัน!
ได้รับความอนุเคราะห์ภาพจาก: วัดเซ็นโซจิ

พระประธานของวัดเซ็นโซจิซึ่งได้รับการสนับสนุนจากศรัทธาของผู้คนคือพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ กล่าวกันว่าท่านจะเป็นพระพุทธเจ้าที่มีเมตตาอย่างหาที่สุดมิได้ อานิสงส์ของการไปสักการะบูชาคือสำเร็จสมความปรารถนา ว่ากันว่าความปรารถนาทั้งหมดจะเป็นจริง ดังนั้นเราจะแนะนำวิธีการเยี่ยมชมห้องโถงใหญ่ แวะมาไหว้พระขอพรให้สมหวังกันนะคะ

วิธีสักการะ

  1. คามินาริมง: ที่คามินาริมง ประตูหน้าวัด พนมมือและโค้งคำนับหนึ่งครั้ง แล้วเดินต่อไปที่นากามิเซะ
  2. โอมิซุยะ: ชำระล้างด้วยน้ำ ใช้กระบวยรองน้ำแล้วล้างมือซ้ายก่อน จากนั้นล้างมือขวา หลังจากบ้วนปากด้วยน้ำที่รองไว้ในมือซ้ายแล้ว ให้ล้างมือซ้ายและใช้น้ำที่เหลือล้างด้ามจับกระบวย
  3. กระถางธูปโจโคโระ: ถวายธูปหอมและชำระร่างกายด้วยควันจากกระถางธูป
  4. อุโบสถหลัก: 1. โค้งคำนับหนึ่งครั้งและใส่เงินในกล่องถวาย 2. พนมมือไหว้ โค้งคำนับหนึ่งครั้ง 3. โค้งคำนับเบาๆ อีกครั้ง
  5. คามินาริมง: เมื่อออกจากประตูหน้าวัด (ประตูคามินาริมง) ให้หันกลับไปที่อุโบสถหลักและโค้งคำนับหนึ่งครั้ง

นอกจากอุโบสถหลักแล้ว วัดเซ็นโซจิยังมีหอศาลาและอุโบสถอีกหลายแห่ง และคุณสามารถคาดหวังอานิสงส์จากการสักการะบูชาที่แตกต่างกันได้จากแต่ละแห่งค่ะ ลองไปเยี่ยมชมหลังจากสักการะอุโบสถหลักกันดูนะคะ

  • โยโงโด (影向堂 / Yogodo): ค้าขายรุ่งเรืองและโชคลาภทางการเงิน
  • ยาคุชิโด (薬師堂 / Yakushido): หายจากโรคภัยและสุขภาพแข็งแรง
  • อาวาชิมะโด (淡島堂 / Awashimado): ให้ผลที่เกี่ยวข้องกับผู้หญิง เช่น การมีบุตร คลอดปลอดภัย การฟื้นตัวจากโรคทางนรีเวช และความก้าวหน้าทางการตัดเย็บ เป็นต้น
  • เซนิซึกะจิโซโด (銭塚地蔵堂 / Zenizuka Jizodo): ค้าขายรุ่งเรือง หากถวายเกลือแล้วอธิษฐานก็จะได้อานิสงส์ด้านโชคลาภทางการเงินด้วย
  • ชินโงะโด (鎮護堂 / Chingodo): การป้องกันอัคคีภัยและการโจรกรรม ความก้าวหน้าทางศิลปะต่างๆ
  • คุเมะโนะเฮไนโด (久米平内堂 / Kumenoheinaido): การผูกดวงและการพบเจอที่ดี

ไหนๆ ก็มาถึงวัดเซ็นโซจิแล้ว ก็ควรซื้อโอมิคุจิ โกะชุอิน และโอมาโมริ!

หลังจากเยี่ยมชมอุโบสถหลักและอาคารอื่นๆ ที่วัดเซ็นโซจิแล้ว ก็ถึงเวลาเสี่ยงเซียมซีที่เรียกว่าโอมิคุจิซึ่งมีการเขียนคำแนะนำที่ดี รับชูอินและเช่าเครื่องรางโอมาโมริกลับบ้านด้วยค่ะ

โอมิคุจิ

โอมิคุจิ วัดเซ็นโซจิ
ได้รับความอนุเคราะห์ภาพจาก: วัดเซ็นโซจิ

สามารถไปเสี่ยงเซียมซีหรือโอมิคุจิได้ในสถานที่ต่างๆ ในบริเวณวัดค่ะ มีข่าวลือว่าโอมิคุจิที่วัดเซ็นโซจินั้น หลายอันก็เป็นโชคร้าย แต่ที่ผู้คนรู้สึกเช่นนั้นก็เพราะอัตราส่วนไม่ได้เปลี่ยนแปลงตั้งแต่สมัยโบราณ ในโอมิคุจิที่เรียกว่าคันนอนเฮียคุรุ (観音百籤 / Kannon Hyakuru - ร้อยคำทายทักของเจ้าแม่กวนอิม) ซึ่งใช้ที่วัดเซ็นโซจินั้น กล่าวกันว่าแม้โชคร้ายหรือเคียว (凶 / Kyo) จะออกมา หากคุณอดทนและอย่างศรัทธา ก็จะกลายเป็นโชคดีได้ และแม้ว่าคุณจะเสี่ยงได้โชคดีมากหรือไดคิจิ (大吉 / Daikichi) ปรากฏการณ์แบบตรงกันข้ามก็อาจเกิดขึ้นได้เช่นกัน ดังนั้น ขอแนะนำให้คุณเสี่ยงทายโอมิคุจิเพื่อรับฟังคำแนะนำที่มีให้ แทนที่จะยึดติดอยู่กับโชคในคำทำนายทายทักค่ะ

โกะชุอิน

โกะชุอิน วัดเซ็นโซจิ
ได้รับความอนุเคราะห์ภาพจาก: วัดเซ็นโซจิ

โกะชุอินคือตราประทับหรือรอยประทับที่ประทับเป็นหลักฐานว่าคุณได้ไปสักการะสถานที่นั้นแล้ว ที่วัดเซ็นโซจิก็สามารถไปซื้อได้ที่โยโงโดค่ะ คุณสามารถซื้อโกะชุอินขององค์พระประธานและโกะชุอินของไดโคคุเท็น (ท้าวมหากาฬ) ซึ่งเป็นหนึ่งในเจ็ดเทพแห่งโชคลาภค่ะ โกะชุอินขององค์พระประธานเขียนด้วยคำว่า "聖観世音菩薩" โกะชุอินของไดโคคุเท็น คือ "大黒天" และทั้งสองจะเขียนวันที่ไปสักการะไว้ด้วยหมึกค่ะ

โอมาโมริ

โอมาโมริ วัดเซ็นโซจิ
ได้รับความอนุเคราะห์ภาพจาก: วัดเซ็นโซจิ

โอมาโมริสามารถหาเช่าได้ตามสถานที่ต่างๆ ภายในบริเวณวัดเช่นเดียวกับโอมิคุจิค่ะ เนื่องจากวัดเซ็นโซจิให้อานิสงส์ที่หลากหลาย จึงมีเครื่องรางหลายประเภท เช่น เปิดดวง โชคลาภการเงิน การผูกดวง และหายจากโรคภัย ในบรรดาโอมาโมริมาตรฐานและเป็นที่นิยม "คินรินมาโมริ" (金鱗守 / Kinrin Mamori - เครื่องรางเกล็ดทอง) กล่าวกันว่าสามารถปัดเป่าเคราะห์ร้าย ปัดเป่าฟ้าร้องฟ้าผ่า และสัญจรปลอดภัย รูปพระประธานมี 2 แบบ คือ พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ และรูปพระประธานผู้พิทักษ์ที่เกี่ยวข้องกับสิบสองนักษัตรค่ะ ซึ่งทั้งสองแบบออกแบบด้วยเกล็ดมังกรทองอันเป็นที่มาของชื่อเครื่องรางนั่นเองค่ะ

กิจกรรม/เทศกาลที่จัดขึ้นที่วัดเซ็นโซจิ

พิธีสวดมนต์ใหญ่รับปีใหม่/ฮัตสึโมเดะ (วันปีใหม่ - 7 มกราคม)

กิจกรรม/เทศกาลที่จัดขึ้นที่วัดเซ็นโซจิ พิธีสวดมนต์ใหญ่รับปีใหม่/ฮัตสึโมเดะ (วันปีใหม่ - 7 มกราคม)
ได้รับความอนุเคราะห์ภาพจาก: วัดเซ็นโซจิ

ที่วัดเซ็นโซจิ มีการตีระฆังปีใหม่ตอนเที่ยงคืนเพื่อต้อนรับปีใหม่ ผู้ศรัทธา 108 คนจะผลัดกันลั่นระฆังตามลำดับ ปกติวัดจะเปิดตั้งแต่ 06.00-17.00 น. แต่วันส่งท้ายปีเก่าจะเปิด 06.30-19.00 น. และวันปีใหม่จะเปิดตั้งแต่เที่ยงคืนถึง 20.00 น. ผู้คนจำนวนมากมาสักการะพร้อมกับฟังเสียงระฆังรับปีใหม่ค่ะ

ในเวลาเดียวกัน ตั้งแต่วันปีใหม่ถึงวันที่ 7 มกราคม พิธีสวดมนต์ใหญ่รับปีใหม่จะจัดขึ้นที่หน้าหอพระประธานในวิหารด้านในของห้องโถงใหญ่ ในพิธีสวดมนต์ใหญ่รับปีใหม่ การ์ดคำอธิษฐานที่มอบให้แก่ผู้ศรัทธาจะเรียงกันและพระสงฆ์จะร่วมกันสวดมนตร์ค่ะ

โดยปกติแล้ววัดเซ็นโซจิจะคับคั่งไปด้วยนักท่องเที่ยวและผู้มาสักการะแม้แต่ในวันธรรมดา แต่ในวันปีใหม่กลับมีผู้คนพลุกพล่านมากกว่าปกติ ช่วงเวลาที่คึกคักที่สุดคือระหว่างเที่ยงคืนถึง 03:00 น. หลังจากนั้นจะค่อนข้างโล่งจนถึงประมาณ 06.00 น. แต่หลัง 10.00 น. จะมีคนหนาแน่นเท่ากับช่วงพีค ดังนั้นขอแนะนำให้ไปสักการะศาลเจ้าในช่วงเช้าตรู่หรือหลัง 17.00 น. ในวันปีใหม่ค่ะ

ชิมันโรคุเซ็นนิจิ / ตลาดโฮซุกิ (กรกฎาคม)

กิจกรรม/เทศกาลที่จัดขึ้นที่วัดเซ็นโซจิ ชิมันโรคุเซ็นนิจิ / ตลาดโฮซุกิ (กรกฎาคม)
ได้รับความอนุเคราะห์ภาพจาก: วัดเซ็นโซจิ

สิ่งประจำฤดูร้อนของวัดเซ็นโซจิก็คือ "ชิมันโรคุเซ็นนิจิ และ ตลาดโฮซุกิ" (四万六千日・ほおずき市) ในวันที่ 9 และ 10 กรกฎาคม บริเวณวัดเซ็นโซจิจะจัดงานตลาดโฮซุกิ ชื่อชิมันโรคุเซ็นนิจิ (四万六千日 / Shimanrokusen-nichi แปลว่า 46,000 วัน) มาจากความเชื่อที่ว่าหากคุณไปเยี่ยมชมศาลเจ้าในวันนี้ คุณจะได้รับผลบุญเทียบเท่าการทำความดี* 46,000 วัน (1 ช่วงชีวิตมนุษย์) เลยค่ะ

ประมาณปี ค.ศ. 1764 ถึง ค.ศ. 1772 ตลาดโฮซุกิเริ่มจัดขึ้นในเทศกาลชิมันโรคุเซ็นนิจิ ได้รับอิทธิพลจากตลาดโฮซุกิที่จัดขึ้นในงานชิมันโรคุเซ็นนิจิที่ศาลเจ้าอาตาโงะในจังหวัดชิบะค่ะ จึงเริ่มมีการจัดขึ้นที่วัดเซ็นโซจิเช่นกัน ในเวลานั้นโฮซุกิถูกใช้เป็นสมุนไพร และผลของเทศกาลนี้ทำให้เทศกาลชิมันโรคุเซ็นนิจิที่วัดเซ็นโซจิมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น และยังคงดำเนินต่อไปจนถึงทุกวันนี้ ในวันนี้จะมีการตั้งกระดิ่งลมและแผงขายต่างๆ และคุณสามารถเพลิดเพลินกับบรรยากาศของเอโดะได้มากกว่าปกติค่ะ

* 功徳 / Kudoku / คุโดคุ: การทำความดี กล่าวกันว่าสามารถรับอานิสงส์ได้ด้วยการสะสมบุญ

ข้อมูลสถานที่

  • ชื่อ: วัดเซ็นโซจิ (浅草寺 / Senso-ji)
  • ที่ตั้ง: 2-3-1 Asakusa, Taito-ku, Tokyo
  • การเดินทาง: เดินประมาณ 5 นาทีจากสถานี Asakusa ของ Tobu Skytree Line, Tokyo Metro, Tsukuba Express, และ Toei Subway
  • เวลาทำการ: พื้นที่วัด: ตลอด 24 ชั่วโมง อุโบสถหลัก: 6:00-17:00 น. (ตุลาคม-มีนาคม: 6:30-17:00 น.)
  • ค่าเข้าชม: ฟรี
  • โฮมเพจ: https://www.senso-ji.jp/

หัวข้อเรื่อง

Survey[แบบสอบถาม] กรุณาบอกเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในญี่ปุ่น







Recommend