
นาบิ ทาจิมะ เป็นคุณยายอายุ 117 ปีกับอีก 100 กว่าวัน คุณยายเกิดในปี 1900 ที่หรือมีชีวิตอยู่มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 คุณยายคือผู้สูงอายุที่มีอายุมากที่สุดในโลกและในประวัติศาสตร์เอเชียอีกด้วย
ช่วงอายุเฉลี่ยของชาวญี่ปุ่นที่มีการบันทึกมาตั้งแต่ปี 1986 คือ คน 1 ใน 2,000 คนจะมีอายุยืนยาวเกินกว่า 100 ปี มากกว่าประเทศอื่นๆเสียอีก
ชาวญี่ปุ่นจึงได้รับสมญานามว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการมีอายุที่ยืนยาวอย่างไม่ต้องมีข้อสงสัยเลยทีเดียว
ในวันนี้เราจึงนำบทความดีๆเรื่องการรับประทานอาหารของชาวญี่ปุ่นที่ช่วยป้องกันโรคหัวใจ ช่วยให้สมองเฉียบคม และมีชีวิตที่ยืนยาว
วันละ 3 เวลาดีต่อสุขภาพ

อาหารญี่ปุ่นหรือ washoku เป็นที่ถูกใจของผู้คนทั่วโลก ไม่เพียงเพราะรสชาติที่อร่อยเท่านั้น แต่ยังเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพอีกด้วย
ชาวญี่ปุ่นรับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูง ไขมันอิ่มตัวและน้ำตาลต่ำ อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ
ชาวญี่ปุ่นมีคำพูดติดปากที่ว่า hara-hachi-bun-me หรือกินให้อิ่มเพียง 80% เท่านั้น
วัฒนธรรมการรับประทานอาหารของชาวญี่ปุ่นจึงช่วยป้องกันพวกเขาจากโรคอ้อน และโรคภัยต่างๆ
มาดูกันดีกว่าว่า ชาวญี่ปุ่นรับประทานอาหารอะไรบ้าง
เมนูปลา ที่อยู่คู่ประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน

มีงานวิจัยศึกษาว่าการรับประทานปลาให้ได้ 80 กรัมต่อว่าจะช่วยให้มีอายุยืน อย่างไรก็ตามชาวอเมริกันทานปลาเพียงสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งเท่านั้น
เนื้อปลามีไขมันต่ำ และประกอบไปด้วยโอเมก้า 3 วิตามิน Dและ B12 แคลเซียม เหล็ก แมกนีเซียม และโพแทสเซียม ที่ช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจ ช่วยให้สมองสดใส และลงความเสี่ยงของโรคที่เกิดทางจิตใจ
งานวิจัยจาก University of Pittsburgh ตีพิมพ์ในปี 2008 เปิดเผยว่าการรับประทานปลาของชาวญี่ปุ่นยังช่วยป้องกันโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือดอีกด้วย
ซอสถั่วเหลือง; ซอสมิโสะ ซอสโชยุ เต้าหู้ และเมนูถั่วเหลืองอื่นๆ

อีกหนึ่งซอสเคียงคู่มื้ออร่อยของชาวญี่ปุ่นคือ ถั่วเหลือง ที่อุดมไปด้วยโปรตีน แคลเซียม เหล็ก และไฟเบอร์
การรับประทานถั่วเหลืองจะช่วยบำรุงหัวใจให้แข็งแรง ช่วยลดคลอเลสโตรอลและป้องกันมะเร็งเต้านม ชาวญี่ปุ่นนิยมทานถั่วเหลืองคู่กับทุกมื้ออาหาร เช่น โทฟุ นัตโตะ มิโสะ และซอสถั่วเหลือง
อาหารเปี่ยมคุณภาพชนิดอื่นๆ
ชาวญี่ปุ่นรักการรับประทานของหมัก เพื่อช่วยในการทำงานของรรบบย่อยอาหาร อาหารหมักยิดนิยม ได้แก่ มิโสะ ซอสถั่วเหลือง ผักดอง ปลาดอง และนัตโตะ
สำหรับเมนูเครื่องดื่ม ชาวญี่ปุ่นเลือกดื่มชามากกว่าเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลอย่างโซดา ชาเขียวอุดมไปด้วยสาร antioxidant ที่จะช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นมะเร็ง ช่วยชะลอโรคความจำเสื่อม และช่วยในการเผาผลาญไขมัน
นอกจากวัตถุดิบแล้ว การปรุงอาหารก็มีส่วนสำคัญในการรักษาสุขภาพที่ดี
การปรุงอาหารก็มีผลต่อความอร่อย

อาหารที่ผ่านการปรุงมากเกินไปก็จะลดคุณค่าของอาหารลง แต่ชาวญี่ปุ่นมีวัฒนธรรมการรับประทานอาหารแบบดิบ เช่น ซูชิและชาชิมิที่เป็นเมนูยอดฮิต นอกจากนั้นยังมีเมนู ไก่ดิบและเนื้อม้าดิบอีกด้วย
เมนูซุป เช่น มิโสะ โซบะ และราเมนก็เป็นอีกหนึ่งเมนูที่เป็นที่ชื่นชอบของชาวญี่ปุ่นทุกเพศ ทุกวัย สารอาหารจากผักและเนื้อสัตว์ก็ยังคงลอยอยู่ในซุปไม่หายไปไหน
ซอสต่างๆและซอสหมักก็ทำมาจากซอสถั่วเหลือง จะไม่ค่อยมีเมนูที่ทำจากครีม เนย และชีสเท่าใดนัก
นอกจากเมนูหลักแล้ว ของหวานก็ดีต่อสุขภาพไม่แพ้กัน
ขนมยามว่างก็เป็นแบบหวานน้อย
ชาวญี่ปุ่นรับประทานขนมที่มีรสหวานและเค็มเป็นของว่างไม่ต่างจากประเทศอื่น แต่ความหวานของอาหารนั้นจะหวานน้อยกว่าทางฝั่งยุโรป มีงานวิจัยเปรียบเทียบออกมาว่าชาวญี่ปุ่นรับประทานน้ำตาลเพียง 22 กิโลกรัมต่อปี ซึ่งน้อยกว่าชาวอเมริกันที่รับประทานถึง 71กิโลกรัมต่อปีเลยทีเดียว
เลือกเมนูที่ดีต่อสุขภาพกันดีกว่า
หากคุณสามารถนำความรู้ที่ได้จากบทความนี้ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันก็จะสามารถมีสุขภาพดีและมีอายุยืนยาวได้แบบชาวญี่ปุ่นแน่นนอน ว่าแต่ คุณชอบรับประทานอาหารญี่ปุ่นเมนูอะไรคะ
Comments