Supermomสุดยอดคุณแม่ญี่ปุ่น ต่างจากคุณแม่ที่เมืองไทยหรือไม่

คุณแม่ชาวญี่ปุ่นที่ทั้งทำงานนอกบ้านและทำงานบ้านเลี้ยงลูกด้วยนั้นมีอยู่มากมายทีเดียว วันนี้เราได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณแม่ท่านหนึ่ง ซึ่งจะมาเผยเรื่องราวของการเป็น Supermom นี้

วันหยุดสุดสัปดาห์จะหมดไปกับการทำอาหาร

ยกตัวอย่างเช่น สัปดาห์ที่แล้วฉันเตรียมจะทำกุ้งชุบแป้งทอดเมนูโปรดของเด็กๆ หากคุณเคยทำเมนูนี้มาก่อนจะพบว่า เป็นเมนูที่เตรียมยากและมีหลายขั้นตอน ทั้งผสมแป้ง ใส่ไข่ และทำให้เป็นเกร็ดขนมปัง อีกทั้งต้องคอยระวังไม่ให้เลอะเทอะ และต้องใช้เวลาในการทำความสะอาดหลังทำอาหารเสร็จแล้วด้วยนะคะ ฉันจึงใช้วิธีเตรียมให้เรียบร้อย แล้วใส่ถุงซิบล็อคแช่ช่องฟรีซไว้ พอจะใช้ก็แค่เอามาอุ่นและทอดตอนที่ลูกขอเมนูนี้เท่านั้นเองหละค่ะ

ทำอาหารในปริมาณมากๆ เก็บไว้กินได้หลายมื้อ

ในแต่ละสัปดาห์ฉันมักจะทำอาหารไว้ในปริมาณมากๆ เช่น แกงกะหรี่ หรือสตูว์เนื้อและแช่ตู้เย็นไว้ ภาพด้านบนคือผัดมะเขือเทศกับหัวหอมซึ่งเป็นเมนูที่เด็กๆชอบมาก เราก็จะแบ่งใส่ภาชนะขนาดต่างๆไว้ เมื่อถึงเวลาจะรับประทานก็แค่หยิบมแช่แข็ง วางบนข้าวเท่านั้นเองค่ะ จะแทนเปล่าๆ หรือจะทานเป็ยกับแกล้มก็ได้

เทคโนโลยีใหม่ในปัจจุบันก็ช่วยทุนแรงไปได้เยอะเลย

ของชวัญที่ดีที่สุดชิ้นหนึ่งคือหุ่นยนต์ดูดฝุ่นค่ะ ตอนแรกก็ไม่เคยคิดเลยว่ามันจะจำเป็น จนกระทั่งเพื่อนคนหนึ่งให้มาเพื่อเป็นของขวัญรับขวัญหลาน สุดท้ายจนตอนนี้ฉันขาดมันไม่ได้เลยหละค่ะตอนเช้าก่อนไปทำงานฉันจะเปิดเครื่องทิ้งไว้ ในตอนเย็นเมื่อกลับมาแล้วบ้านก้จะสะอาดเรียบร้อย แน่นอนว่าถ้าตอนลูกๆอยู่เปิดไว้ไม่ได้แน่นอน เพราะพวกแกจะเล่นกดปุ่มโน่นนี่และอาจกดปิดได้ เทคโนโลยีมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ถ้าเลือกใช้อย่างถูกต้องก็จะเป็นประโยชน์แก่เรามากเลยค่ะ

วิธีที่มีประสิทธิภาพในการซักเสื้อผ้า

ถ้า "ซักผ้า" "แขวน" และ "เก็บ" อยู่ในสถานที่ห่างไกลการย้ายผ้าไปมาเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก  นอกจากนี้ยังต้องปั่นผ้า รอที่จะพับแขวนเสื้อผ้าที่รออยู่ดังนั้นจึงขอแนะนำให้ใช้ชั้นแขวนผ้าที่เคลื่อนย้ายได้ 
ในวันที่อากาศแจ่มใสมีผู้คนจำนวนมากที่ต้องการซักผ้าแห้งหากเป็นไปได้  เมื่อตากผ้าแล้วหากสภาพอากาศไม่เป็นใจก็สามารถเคลื่อนย้ายได้จากระเบียงไปยังที่ตู้ก็ได้

ดูแลบ่อยในวันธรรมดาและจริงจังในช่วงสุดสัปดาห์

ฝุ่นและฝุ่นละอองเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นทุกวัน ขณะที่คุณไม่ว่างคุณอาจไม่มีแรงจูงใจในการทำความสะอาดอย่างจริงจัง แต่ฉันใช้เวลาประมาณ 5 นาทีทุกเช้าเพื่อทำความสะอาดกับสมาชิกทุกคนในครอบครัวโดยใช้ “quick wiper” หรือ "korokoro" ถ้าเป็นพื้นแล้วใช้ “quick wiper” ถ้าเป็นพรมแล้วใช้ "korokoro" การกระทำเหล่านี้ไม่เกี่ยวข้องกับการใช้ปลั๊กไฟ น้ำไม่ได้ใช้และมือ ไม่สกปรกแม้เด็ก ๆ ก็ะสามารถเพลิดเพลินกับการทำความสะอาดนี้ได้ ทำความสะอาดได้ง่ายทุกเช้าเพื่อให้คุณสามารถมีบ้านที่สะดวกสบาย

สุดท้ายฉันก็พบจุดสมดุลระหว่างการทำงานและครอบครัว แต่ฉันก็ยังไม่หยุดที่จะหาสิ่งต่างๆมาเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกและช่วยให้เราจัดการเรื่องต่างๆได้ดียิ่งขึ้น สิ่งสำคัญที่สุดคือเราควรวางแผนไว้ล่วงหน้าเพื่อความเป็นระบบและความสะดวก

ฉันก็อยากทราบเหมือนกันว่าคุณแม่ท่านอื่นๆมีวิธีการอะไรที่น่าสนใจบ้าง คุณแม่ๆสามารถแชร์ไอเดียได้เลยนะคะ