คุณทราบหรือไม่ว่าที่ญี่ปุ่นจัดงานเทศกาลเยอะแค่ไหน? ว่ากันว่ามีงานเทศกาลเยอะมากถึงกว่า 300,000 ประเภทเลยทีเดียว โดยงานเทศกาลในแต่ละฤดูกาล แต่ละพื้นที่ก็มีความหมายและรูปแบบการฉลองที่แตกต่างกันออกไป แต่สิ่งที่เหมือนกันในทุกเทศกาลคือผู้คนที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม เหงื่อ และบรรยากาศคึกคักอันอบอุ่น เทศกาลจึงไม่ได้เป็นเพียงพิธีกรรมทางศาสนาเท่านั้น แต่ยังเป็นประเพณีสำคัญที่สืบทอดสายใยและวัฒนธรรมของชุมชนอีกด้วย
สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้ว การได้มาเข้าร่วมงานเทศกาลญี่ปุ่นถือเป็นประสบการณ์ล้ำค่าที่จะช่วยให้สัมผัสถึงจิตวิญญาณและวัฒนธรรมดั้งเดิมของญี่ปุ่นได้โดยตรง ในครั้งนี้ เราได้รับโอกาสอันพิเศษในการเข้าร่วม “พิธีแห่กลองไทโกะเทศกาลฤดูใบไม้ร่วง” ที่จัดขึ้นบนเกาะโชโดะ จังหวัดคางาวะ พวกเราไม่ได้แค่ไปเพื่อชมและสนุกไปกับงานเทศกาลอย่างเดียว แต่ยังได้ร่วมเป็นหนึ่งในการแบกกลองไทโกะด้วย รับรองว่าประสบการณ์ครั้งนี้จะยังคงตราตรึงอยู่ในใจ แม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนแล้วก็ตาม
มาสัมผัสสายลมอ่อนโยนและช่วงเวลาแห่งการเยียวยาบนเกาะโชโดะในทะเลเซโตะ
เกาะโชโดะ จังหวัดคางาวะ ซึ่งตั้งอยู่ในทะเลเซโตะ เป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 19 ของญี่ปุ่น ลักษณะภูมิประเทศมีภูเขาจำนวนมากและชายฝั่งมีรูปร่างเว้าคดเคี้ยวไปมา เกาะแห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องทิวทัศน์ทะเลอันงดงามและสวนมะกอก ด้วยสภาพอากาศอบอุ่นและมีฝนตกไม่มาก ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่แรกในญี่ปุ่นที่ประสบความสำเร็จในการปลูกมะกอก
นอกจากนี้ เกาะนี้ยังมีอุตสาหกรรมดั้งเดิมที่ยังคงถูกสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน เช่น การทำโซเมนด้วยมือ (เทะโนเบะโซเมน) และการทำโชยุ ซึ่งยังคงเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมท้องถิ่นจนถึงทุกวันนี้ โชโดะเป็นเกาะที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ซึ่งผสมผสานธรรมชาติ วัฒนธรรม และประเพณีเข้ากันอย่างกลมกลืน และยังเป็นที่รู้จักในฐานะหนึ่งในสถานที่จัดงานศิลปะระดับโลก “เทศกาลศิลปะนานาชาติทะเลเซโตะ” อีกด้วย
ที่นี่จึงเป็นจุดหมายปลายทางในฝันสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวแบบสบายๆ ไม่เร่งรีบ หรือผู้ที่รักการเดินทางไปเยือนเกาะต่างๆ
ประเพณีสุดร้อนแรงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเกาะ “พิธีแห่กลองไทโกะเทศกาลฤดูใบไม้ร่วงแห่งเกาะโชโดะ”
ทุกปีตั้งแต่วันที่ 11-21 ตุลาคม พื้นที่ต่างๆ บนเกาะโชโดะจะจัดงานประเพณีเก่าแก่ “พิธีแห่กลองไทโกะเทศกาลฤดูใบไม้ร่วงแห่งเกาะโชโดะ” อย่างยิ่งใหญ่ ว่ากันว่าเป็นประเพณีที่เริ่มมาตั้งแต่สมัยเอโดะ ชาวเกาะจะร่วมกันอธิษฐานเพื่อขอให้พืชผลอุดมสมบูรณ์ พร้อมกับแห่กลองไทโกะที่ตกแต่งอย่างอลังการเพื่อถวายแด่เทพเจ้า เพื่อแสดงความขอบคุณและขอพรจากเทพเจ้า
กลองไทโกะที่มีน้ำหนักกว่า 2 ตัน จะถูกยกขึ้นพร้อมเสียงอันฮึกเหิมของผู้ร่วมขบวน และเคลื่อนขบวนไปยังสถานที่จัดงาน เมื่อกลองไทโกะจากแต่ละพื้นที่มารวมตัวกัน และอวดโฉมความงดงามสุดอลังการแล้ว ความร้อนแรงก็จะปะทุไปเที่ยวทั้งเกาะเลย ชั่วขณะที่หยาดเหงื่อและรอยยิ้มปรากฏขึ้นบนในหน้าของชาวเกาะ เรียกได้ว่าเป็น “ช่วงเวลาแห่งความเร่าร้อน” ที่ทำให้เทศกาลฤดูใบไม้ร่วงแห่งเกาะโชโดะเปล่งประกายมากยิ่งขึ้น
ศาลเจ้าโทมิโอกะฮาจิมัง เกาะโชโดะ — หนึ่งในศาลเจ้าขึ้นชื่อบนเกาะ
ครั้งนี้ เราได้เข้าร่วม “พิธีแห่กลองไทโกะเทศกาลฤดูใบไม้ร่วง” ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกวันที่ 15 ตุลาคม ณ ศาลเจ้าโทมิโอกะฮาจิมังในเมืองโทโนะโชบนเกาะโชโดะ ศาลเจ้าแห่งนี้ตั้งอยู่บนเนินเขาและเป็นที่ประดิษฐานเทพเจ้าผู้คุ้มครองเรื่องความรัก ความสัมพันธ์ที่ดี และความสงบสุขภายในครอบครัว อีกทั้งยังเป็นศาลเจ้าที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานซึ่งครบรอบ 1,100 ปีในปีนี้ด้วย ทำให้ และด้วยทำเลที่ตั้งอันยอดเยี่ยม ทำให้สามารถชมวิวทะเลเซโตะอันกว้างใหญ่ไพศาลได้แบบสุดสายตาจากศาลเจ้า เทศกาลในปี 2025 ซึ่งเป็นปีครบรอบ 1,100 ปีของศาลเจ้า จึงเต็มไปด้วยความร้อนแรงและความคึกคักมากเป็นพิเศษกว่าทุกปีที่ผ่านมา
บริเวณภายในศาลเจ้า ยังมี “ซะจิกิ” หรืออัฒจันทร์หินที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญของญี่ปุ่น สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยเอโดะโดยอาศัยความลาดชันของภูเขา ในปัจจุบันยังคงถูกใช้เป็นที่นั่งชมงานเทศกาล ซึ่งถือเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของวัฒนธรรมงานเทศกาลอันเป็นเอกลักษณ์ของเกาะโชโดะ
แบ่งปันประสบการณ์ร่วมเทศกาลพิธีแห่กลองไทโกะเทศกาลฤดูใบไม้ร่วง!
เตรียมตัวให้พร้อม แล้วกระโดดเข้าสู่เทศกาลกลองไทโกะสุดร้อนแรงกันเถอะ!
การเตรียมตัวสำหรับการไปชมเทศกาล และการเข้าร่วมแห่กลองไทโกะในขบวนจะต่างกันเล็กน้อย ในกรณีที่ไปชมเทศกาล เราแนะนำให้ตรวจสอบกำหนดการ และสถานที่จัดงานล่วงหน้าผ่านอินเทอร์เน็ต เพื่อวางแผนเส้นทางในวันจริงไว้ล่วงหน้า จะได้ไม่พลาดจุดไฮไลต์สำคัญ ถ้าต้องการถ่ายรูปหรือวิดีโอ สามารถถ่ายได้จากพื้นที่ที่กำหนดไว้สำหรับผู้ชมเท่านั้น และต้องไม่เดินเข้าไปในพื้นที่ขบวนแห่เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ การชมด้วยความเคารพต่อชาวเกาะและผู้เข้าร่วมงานถือเป็นมารยาทที่สำคัญอย่างยิ่ง
สำหรับกรณีที่เข้าร่วมเป็นผู้แบกกลองไทโกะในขบวนแห่ จะต้องระมัดระวังเรื่องการแต่งกายเป็นพิเศษ โดยทั่วไปกางเกงควรเป็นสีขาวหรือสำดำ เสื้อแนะนำให้เป็นแบบที่ขยับตัวได้สะดวก ระบายอากาศดี และซับเหงื่อได้ดี นอกจากนี้ “ฮัปปิ” (เสื้อคลุมในเทศกาลญี่ปุ่น) จะมีลวดลายแตกต่างกันตามแต่ละพื้นที่หรือกลุ่มอีกด้วย รองเท้าขอแนะนำให้สวมรองเท้ากีฬาเป็นหลัก ควรเตรียมผ้าขนหนูสำหรับเช็ดเหงื่อไปด้วย
ในบางพื้นที่ยังคงธรรมเนียมดั้งเดิมว่า “เฉพาะผู้ชายเท่านั้นที่สามารถร่วมแบกกลองไทโกะได้” ดังนั้น ขอแนะนำให้สอบถามคนท้องถิ่นล่วงหน้าก่อนเพื่อความสบายใจ
ผู้ร่วมขบวนทุกคนจะยกกลองไทโกะที่หนักกว่า 2 ตันขึ้นพร้อมกันตามจังหวะเสียงตะโกน “เอ ชะ ชะ เงะ!” ซึ่งต้องใช้ทั้งพละกำลังและความพร้อมเพรียงพร้อมๆ กัน หากรู้สึกว่าร่างกายใกล้ถึงขีดจำกัด หรือเริ่มตามจังหวะไม่ทัน ควรรีบออกมาจากใต้กลองไทโกะทันที เพื่อความปลอดภัยของตัวเองและผู้อื่น ความปลอดภัยถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการเข้าร่วมงานเทศกาล
ประสบการณ์ล้ำค่าที่จะกลายเป็นความทรงจำที่ไม่รู้ลืม — เตรียมตัวเข้าร่วมงานเทศกาลกับคนในท้องถิ่นก่อนวันงาน
ในช่วงบ่ายของวันก่อนงานเทศกาล เรายังได้รับคำอธิบายอย่างละเอียดจากหัวหน้าพิธีของศาลเจ้าโทมิโอกะฮาจิมัง ตั้งแต่ที่มาของงานเทศกาล ประวัติของศาลเจ้า และเส้นทางการเคลื่อนขบวนในวันจริง จากนั้นจะย้ายไปยังสถานที่ฝึกแบกกลองไทโกะครั้งแรกที่ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ชาวบ้านในพื้นที่เป็นกันเองมาก พวกเขาตั้งใจสอนทั้งเทคนิคการแบกกลองไทโกะและข้อควรระวังเพื่อป้องกันการบาดเจ็บเป็นอย่างมาก
เหตุผลที่ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุถูกเลือกให้เป็นจุดเริ่มต้นการแห่กลองไทโกะ ก็เพราะว่าผู้สูงอายุในศูนย์ส่วนมากไม่สามารถที่จะออกไปชมเทศกาลในวันจริงได้ด้วยตัวเอง ในอดีตพวกเขาเองก็เคยเป็นส่วนหนึ่งของงานเทศกาล และในวันนี้ หนุ่มสาวรุ่นใหม่จะเป็นคนแห่กลองไทโกะไปให้พวกเขาได้ชื่นชมถึงหน้าอาคาร เพื่อส่งต่อความรู้สึกว่า “เทศกาลนี้เป็นของทุกคนบนเกาะ” นั่นเอง
บรรยากาศตรงนั้นช่างน่าประทับใจสุดๆ เลย
นอกจากจะต้องตะโกนเสียงให้ฮึกเหิมระหว่างที่แห่กลองไทโกะแล้ว ยังมีระเบียบในเรื่องตำแหน่งการยืนด้วย ผู้ที่ตัวสูงจะยืนด้านหน้า ไล่เรียงตามส่วนสูงไปยังด้านหลัง ตรงกลางจะมี “ไซเรียวนิน” หรือผู้ควบคุมคอยถือไมโครโฟนเพื่อให้จังหวะและตรวจสอบทิศทางกับความสมดุลของกลองไทโกะตลอดเวลา
เริ่มต้นให้ยกกลองไทโกะสูงถึงระดับไหล่ และเมื่อถึงสัญญาณถัดไป ทุกคนจะยกขึ้นเหนือศีรษะพร้อมกัน เป็นจังหวะที่ต้องใช้ทั้งแรงกายและการประสานใจกันอย่างมาก ภาพตรงนั้นทั้งดูน่าเกรงขาม ทั้งสง่างาม และเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังกว่าและความประทับใจ
หลังจบการฝึก ระหว่างเดินกลับเรายังแวะตามร้านค้าและบริษัทบางแห่ง เพื่อตีกลองไทโกะประกาศและแสดงความขอบคุณต่อผู้สนับสนุน “กลองไทโกะทีมคามิโช” ชาวบ้านหลายบ้านก็เปิดประตูออกมาหน้าตายิ้มแย้ม โบกมือให้แม้จะไม่เคยรู้จักกันมาก่อนก็ตาม
วันจริงของพิธีแห่กลองไทโกะเทศกาลฤดูใบไม้ร่วง — ช่วงวินาทีที่กลองไทโกะถูกยกสูงขึ้นสู่ท้องฟ้า
ในที่สุดก็มาถึงวันที่ 15 ตุลาคม วันงานเทศกาลใหญ่ประจำปีของศาลเจ้าโทมิโอกะฮาจิมัง ก่อนเริ่มงาน ผู้เข้าร่วมทุกคนจะจิบสาเกศักดิ์สิทธิ์หรือ “โอมิกิ” คนละหนึ่งอึก เพื่อชำระล้างจิตใจให้บริสุทธิ์ แล้วจึงออกเดินทางพร้อมลากกลองไทโกะไปยังศาลเจ้า ระหว่างทางเราพบขบวนกลองไทโกะจากแต่ละพื้นที่ของเกาะเดินสวนกันไปมา สร้างเสียงกลองไทโกะและเสียงตะโกนดังสะท้อนกึกก้องไปทั่วทั้งเกาะโชโดะ
ทีมคามิโช (ทีมที่เราเข้าร่วม) จะแห่ “กลองไทโกะเล็ก” มุ่งหน้าไปยังศาลเจ้า บนแท่นกลองไทโกะมีเด็กๆ 4 คนนั่งอยู่และตีจังหวะด้วยสีหน้าอันมุ่งมั่น จังหวะที่เข้ากันอย่างลงตัวจะสะท้อนไปทั่ว ทำให้ทุกคนที่แห่กล่องรวมใจกันเป็นหนึ่งเดียว สร้างกำลังใจให้เดินขึ้นบันไดหินได้สำเร็จ ก่อนที่จะโค้งคำนับต่อหน้าเทพเจ้าที่ประตูศาลเจ้า
กลองไทโกะเล็กที่หนักประมาณ 1 ตัน จะถูกแบกลงเขาไปยังลานกว้าง โดยผู้แบกชุดเดียวกัน ซึ่งถือเป็นช่วงที่ระทึกมากที่สุด เพราะขั้นบันไดไม่เท่ากันและต้องก้าวอย่างพร้อมเพรียงทีละก้าว ท่ามกลางเสียงตะโกนดังก้องและเหงื่อที่ไหลท่วมตัว พอปล่อยกลองไทโกะวางลงได้อย่างปลอดภัย ความรู้สึกโล่งใจก็พุ่งวาบไปทั่วทั้งร่าง จนรู้สึกได้ว่า "นี่แหละคือเสน่ห์ที่แท้จริงของเทศกาล!"
หลังจากนั้น เหล่าเทพเจ้าทั้งสามองค์ที่ประดิษฐานอยู่ในศาลเจ้าจะถูกย้ายออกมาโดยผู้ชาย เพื่อนำไปประดิษฐานบนโอะมิโคชิ (ศาลเจ้าขนาดเล็กแบบหาม) อย่างระมัดระวัง จากนั้นแต่ละทีมจะช่วยกันแบกศาลเจ้า 3 หลังออกไปยังลานหน้าประตูศาลเจ้า ซึ่งมีผู้ชมจำนวนมากมารออยู่แล้ว โอะมิโคชิทั้งสามหลังจะวนรอบลานช้าๆ ท่ามกลางเสียงโห่ร้องและเสียงกลองไทโกะที่ดังประสานกัน เพื่อแสดงให้เห็นว่างานแห่กลองไทโกะกำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว
เมื่อโอะมิโคชิถูกประดิษฐานเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงคิวของการแสดงกลองไทโกะใหญ่ที่หนักราว 2 ตัน โดยจะมีผู้แบกกว่า 100 คน ทุกคนยกขึ้นสูงเหนือศีรษะพร้อมเสียงตะโกน “เอ ชะ ชะ เงะ!” ดังก้องไปทั่วบริเวณ ทำให้ทุกคนรู้สึกลุกฮือด้วยความตื่นเต้น กลองไทโกะใหญ่ทั้งสามกลองไทโกะต่างส่งเสียงขานรับกันอย่างทรงพลังราวกับกำลังประชันพลังกันอยู่ ความยิ่งใหญ่อลังการนี้น่าตะลึงมากๆ เลย
รอบๆ ลานมีร้านขายอาหารตั้งเรียงรายอยู่มากมาย และตรงกลางลานเป็นเวทีหลักสำหรับกลองไทโกะ
เปิดเวทีด้วย “กลองไทโกะจิ๋ว” ของเด็กๆ บนเกาะ ต่อด้วยการร่ายรำถวาย “อุรายาสุโนะไม” อันอ่อนช้อยโดยนักเรียนหญิงจากโรงเรียนมัธยมต้นเมืองโทโนะโช จากนั้นก็ถึงไฮไลต์ของงาน นั่นก็คือ กลองไทโกะใหญ่เจ็ดชุดที่มารวมตัวกันกลางลาน พร้อมตีกลองพร้อมกันอย่างกระหึ่ม และส่งเสียงตะโกนประสานกันอย่างเต็มพลัง เสียงตะโกน “เอ ชะ ชะ เงะ!” ของผู้แบกจำนวนหลายร้อยคนที่เหงื่อท่วมตัวและตะโกนจนเสียงแหบจะดังสะท้อนก้องไปทั่วลาน ฝุ่นทรายที่ฟุ้งขึ้นมาก็ยิ่งสร้างบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและความทรงพลัง เมื่อการแสดงของกลองไทโกะใหญ่สิ้นสุดลงแล้ว ก็จะถึงคิวคณะกลองไทโกะเล็กที่มาพร้อมกับเสียงตะโกนที่ดังสนั่นไปทั่วลาน สร้างบรรยากาศคึกคักสุดๆ
หลังจบงาน พวกเราและทีมคามิโชก็ช่วยกันลากกลองไทโกะทั้งเล็กและใหญ่กลับไปยังโรงเก็บกลองไทโกะ พอไปถึงโรงเก็บกลอง สมาชิกแต่ละคนก็จะช่วยกันถอดของตกแต่งและโครงไม้ออกอย่างรวดเร็ว ก่อนนำกลองไทโกะเข้าไปเก็บอย่างทะนุถนอม เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับงานเทศกาลในปีหน้า
หลังจากรับความร้อนแรงและความตื่นเต้นจากงานเทศกาลมายาวนานตลอดทั้งวัน สิ่งที่ทุกคนรอคอยก็คืองานเลี้ยงฉลอง! ที่อาคารชุมชนคามิโช จะมีอาหารและเครื่องดื่มจัดเตรียมไว้อย่างเต็มที่ เตรียมต้อนรับเหล่าผู้แบกกลองไทโกะที่กลับมาจากพิธี อาหารเหล่านี้ถูกจัดเตรียมโดยกลุ่มสตรีของชุมชนคามิโช ซึ่งลงมือเตรียมกันตั้งแต่เช้า เพื่อแสดงความขอบคุณและให้กำลังใจแก่ผู้กล้าที่ได้แบก “กลองไทโกะไปถวายเทพเจ้าเพื่ออธิษฐานขอให้พืชผลอุดมสมบูรณ์” การถวายกลองไทโกะแก่เทพเจ้าถือเป็นพิธีการที่สำคัญสำหรับผู้คนในท้องถิ่นเป็นอย่างมาก รู้สึกประทับใจมากๆ ตอนที่ทุกคนยกแก้วชนกันพร้อมด้วยเสียง “คัมไป!” พร้อมกัน สมาชิกแต่ละคนผลัดกันพูดคุยแบ่งปันความรู้สึก และขอบคุณซึ่งกันและกัน เสียงหัวเราะก็ดังไม่ขาดสาย
ทั้งๆ ที่นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เข้าร่วมพิธีแห่กลองไทโกะฤดูใบไม้ร่วมแห่งเกาะโชโดะ และไม่รู้จักใครบนเกาะนี้เลย แต่พอรู้ตัวอีกทีก็ได้รู้จักเพื่อนใหม่มากมายเลย ค่ำคืนนี้จะเป็นช่วงเวลาแสนพิเศษในชีวิตที่ไม่มีวันลืมได้เลย
กลองไทโกะคามิโนะอุระ กลองที่แล่นมาจากทะเล
วันที่ 16 ตุลาคม จะมีงานเทศกาลประจำปีของศาลเจ้าอิเคดะคาเมะยามะฮาจิมันกู เกาะโชโดะ จังหวะคางาวะ โดยมีไฮไลท์คือการแห่ขบวนผ่านทะเล กลองไทโกะของเขตคามิโนอุระจะถูกยกขึ้นเรือไม้แบบญี่ปุ่น และล่องออกจากอ่าวอิเคดะ ตอนที่นำกลองไทโกะขึ้นฝั่งนั้นดูน่าตื่นเต้นมาก เพราะเมื่อเรือถึงฝั่ง ผู้แบกกลองก็จะผลักกลองไทโกะขึ้นฝั่งด้วยแรงทั้งหมดที่มี และแบกตรงไปสู่ศาลเจ้า เป็นภาพที่ทรงพลังจนแทบหยุดหายใจเลยทีเดียว สมัยก่อนมีสามเขตที่ทำพิธีทางเรือเช่นนี้ แต่ทุกวันนี้มีเพียงเขตคามิโนอุระเท่านั้นที่ยังคงรักษาประเพณีนี้ไว้อยู่
นอกจากนี้ อีกหนึ่งเอกลักษณ์ของเขตนี้คือ การเอียงไทโกะให้เอียงไปทางซ้ายขวาจนเกือบติดพื้น ยิ่งไทโกะไดเอียงใกล้พื้นมากเท่าไร ก็จะยิ่งแสดงให้เห็นถึงทักษะและพละกำลังของผู้แบกได้อย่างชัดเจน พิธีแห่กลองไทโกะในเทศกาลฤดูใบไม้ร่วงของแต่ละพื้นที่บนเกาะโชโดะต่างก็มีเสน่ห์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนกัน การที่ชาวเกาะยังคงสืบสานประเพณีนี้ไว้ ทำให้สัมผัสได้ถึงความสามัคคี ความภาคภูมิใจ และจิตวิญญาณในวัฒนธรรมของคนญี่ปุ่นอย่างแท้จริง
หลังจากงานเทศกาลอันร้อนแรง — ออกเดินทางสู่สถานที่ท่องเที่ยวสุดผ่อนคลายบนเกาะโชโดะ
[สถานที่ท่องเที่ยว】 สวนมะกอกเกาะโชโดะ
นอกจากงานเทศกาลแล้ว ห้ามพลาดแวะไปเยือนแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมที่เป็นเอกลักษณ์ของเกาะโชโดะ โดยเฉพาะ “สวนมะกอกเกาะโชโดะ” ในปี 1908 ญี่ปุ่นได้เริ่มทดลองปลูกมะกอกใน 3 จังหวัด ได้แก่ มิเอะ คาโกชิมะ และคางาวะ แต่มีเพียงเขตนิชิมุระบนเกาะโชโดะเท่านั้นที่ประสบความสำเร็จ ประวัติศาสตร์การปลูกมะกอกของญี่ปุ่นได้เริ่มต้นขึ้นที่นี่
ภายในสวนยังมีต้นมะกอกที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่นซึ่งได้รับการดูแลรักษาไว้อย่างดี เมื่อเดินตามทางเดินในสวนมะกอกท่ามกลางธรรมชาติสีเขียวชะอุ่ม แล้วมองออกไปยังทะเลเซโตะจากยอดเนิน คุณจะได้เห็นทิวทัศน์สีสันงดงามของท้องฟ้า กังหันลมสีขาว และแนวต้นไม้สีเขียวไกลสุดลูกหูลูกตา หากคุณเห็นใครถือไม้กวาดกระโดดถ่ายรูปหน้ากังหันลมแล้วละก็ ไม่ต้องตกใจ เพราะที่นี่เป็นหนึ่งในสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ “แม่มดน้อยกิกิ” ฉบับคนแสดงนั่นเอง ภายในสวนยังมีสนามเด็กเล่น ร้านอาหาร และโรงงานสกัดน้ำมันมะกอก เหมาะเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนคลายที่ทุกคนในครอบครัวสามารถสนุกได้
[สถานที่ท่องเที่ยว] หมู่บ้านภาพยนตร์นิจูชิโนะฮิโตมิ
ที่ทะอุระโคซึ่งอยู่เกือบสุดปลายเกาะโชโดะทางใต้มี “หมู่บ้านภาพยนตร์นิจูชิโนะฮิโตมิ (Twenty-Four Eyes Movie Village)” ซึ่งถูกสร้างขึ้นโดยนำสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง "นิจูชิโนะฮิโตมิ (Twenty-Four Eyes)” มาปรับปรุงให้กลายเป็นธีมพาร์คเกี่ยวกับภาพยนตร์และวรรณกรรมญี่ปุ่น
ภายในมีการจำลองอาคารโรงเรียนไม้และถนนร้านค้าในยุคโชวะตอนต้น แค่มาเดินเล่นสบายๆ ก็จะได้สัมผัสถึงบรรยากาศเรียบง่ายอบอุ่นในยุคไทโชถึงต้นยุคโชวะ นอกจากนี้ ยังมีจุดถ่ายรูปสวยๆ มากมาย โรงเรียน “มิซาคิโนะบุงเคียวโจ” และคาเฟ่ก็เป็นโซนยอดนิยมเช่นกัน คุณยังสามารถลิ้มลองอาหารที่ทำจากมะกอก หรือชุดอาหารกลางวันสไตล์โรงเรียนญี่ปุ่นโบราณได้อีกด้วย หมู่บ้านภาพยนตร์นิจูชิโนะฮิโตมิเป็นสถานที่พิเศษที่ผสมผสานภาพยนตร์และศิลปะเข้าด้วยกัน โอบกอดหัวใจของผู้มาเยือนอย่างอบอุ่น รับรองว่าที่นี่จะต้องกลายเป็นหนึ่งหน้าของการเดินทางที่จะคงอยู่ในความทรงจำไปอีกนานแน่นอน
【อาหาร】 “โคโยมิ” อาหารท้องถิ่นประยุกต์
”โคโยมิ อาหารท้องถิ่นประยุกต์” เป็นร้านอาหารที่ให้คุณได้ลิ้มรสวัฒนธรรมอาหารและวิถีชีวิตท้องถิ่นของเกาะโชโดะ ร้านนี้ได้แรงบันดาลใจจากชีวิตผู้เขียน"นิจูชิโนะฮิโตมิ" คุณซาคาเอะ ทสึโบอิ ที่มีบ้านเกิดอยู่ในเกาะโชโดะแห่งนี้ โดยร้านนี้ได้ถ่ายทอดเรื่องราวผ่านโชยุ เส้นโซเมงทำมือ น้ำมันงา มะกอก สึคุดานิ ประกอบไปกับอาหารทะเลสดและผักท้องถิ่น สร้างเมนูหลากหลายที่สะท้อนถึงรสชาติและภูมิปัญญาของเกาะโชโดะแห่งนี้
สามารถชมวิวทะเลเซโตะได้แบบสุดสายตา ท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบและอบอุ่นได้จากในร้านซึ่งดัดแปลงมาจากบ้านเก่า
วันนี้เราได้รับโอกาสพิเศษในการลิ้มลอง “มัตสึริซูชิ (ซูชิเทศกาล)” ซึ่งจะทานได้เฉพาะช่วงเทศกาลฤดูใบไม้ร่วงเท่านั้น วิธีทำก็น่าสนใจมาก ก่อนอื่นนำข้าวซูชิกับเครื่องต่างๆ อัดลงในพิมพ์ไม้ แล้ววางหินถ่วงน้ำหนักราว 20 กิโลทับทิ้งไว้ประมาณ 4 ชั่วโมง จะทำให้รสเข้ากันดีและได้รูปทรงสวยงาม เมื่อกัดคำแรก ความเปรี้ยวพอดีๆ และเนื้อสัมผัสที่ลงตัวก็จะกระจายไปทั่วปาก สัมผัสได้ถึงความตั้งใจและความพิถีพิถันของเชฟที่ใส่ใจในข้าวทุกเม็ด
[ที่พัก] ที่พักแนะนำบนเกาะโชโดะ!
- “โรงแรมโคคุไซโชโดะชิมะ (Shodoshima International Hotel)” โรงแรมที่อยู่ใกล้ถนนแองเจลโรดมากที่สุด
HP:https://www.shodoshima-kh.jp/en/ - 可一覽寒霞溪群山與瀨戶內海的「小豆島Bay Resort飯店」
HP: https://bayresort-shodoshima.jp/
👉小豆島相關文章:
- เกาะโชโดะชิมะ: แหล่งเพาะปลูกต้นมะกอกญี่ปุ่นและธรรมชาติที่สวยงาม
- ไปชมสวนมะกอกบนเกาะโชโดะชิมะในคากาว่ากัน!
- ร่องเขาคังคะเคบนเกาะโชโะชิมะ หนึ่งในสามร่องเขางดงามแห่งญี่ปุ่น
- คากาว่า คู่มือแนะนำการท่องเที่ยวจังหวัดแนวหน้าแห่งเกาะชิโกกุ ประเทศญี่ปุ่น
วิธีเดินทางไปเกาะโชโดะ
หากต้องการเดินทางไปเกาะโชโดะ วิธีที่สะดวกที่สุดคือ เริ่มจากสนามบินทาคามัตสึในจังหวัดคางาวะ เมื่อถึงสนามบินแล้ว คุณสามารถเลือกเส้นทางได้ 2 แบบดังนี้
เส้นทางที่ 1 จากสนามบินทาคามัตสึ → ท่าเรือทาคามัตสึ → (เรือเฟอร์รี่หรือเรือด่วน) → ท่าเรือโทโนะโช เกาะโชโดะ
นั่งรถบัสลิมูซีนจากสนามบินไปยัง “ท่าเรือทาคามัตสึ” ใช้เวลาประมาณ 40 นาที หลังจากนั้นก็สามารถเลือกขึ้นเรือเฟอร์รี่ ไปยังท่าเรือโทโนะโช (ประมาณ 60 นาที) หรือ เรือด่วน (ประมาณ 35 นาที) ได้ เส้นทางนี้เป็นเส้นทางหลักที่มีคนใช้บริการเยอะเพราะมีรอบเรือเยอะ
เส้นทางที่ 2 จากสนามบินทาคามัตสึ → สถานีทาคามัตสึ → ท่าเรือทาคามัตสึตะวันออก → (เรือเฟอร์รี่) → ท่าเรือซากาเทะ เกาะโชโดะ
หากต้องการไปเยือนตอนใต้ของเกาะโชโดะ เราขอแนะนำเส้นทางนี้ เริ่มจากนั่งรถบัสลิมูซีนจากสนามบินไปยัง “สถานีทาคามัตสึ” จากนั้นต่อรถบัสหรือแท็กซี่ไปยัง “ท่าเรือทาคามัตสึตะวันออก” และขึ้นเรือเฟอร์รี่ไปยังท่าเรือซากาเทะ โดยจะใช้เวลาประมาณ 70 นาที เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเที่ยวจุดท่องเที่ยวฝั่งใต้ของเกาะ
ไม่ว่าจะเลือกเส้นทางใด คุณก็สามารถเพลิดเพลินกับวิวทะเลเซโตะอันสวยงามระหว่างล่องเรือและสัมผัสบรรยากาศความเงียบสงบของเกาะโชโดะได้ ถ้าโชคดีคุณอาจจะได้เห็นหมูป่าว่ายน้ำจากบนเรือด้วย!
👉ดูข้อมูลการเดินทางไปยังเกาะโชโดะแบบอื่นๆ ได้ที่นี่
การเข้าร่วมงานเทศกาลญี่ปุ่น ไม่ได้เพียงจะได้สัมผัสถึงความคึกคักและพลังอันล้นหลาม แต่ยังทำให้รู้สึกถึงความผูกพันและวัฒนธรรมดั้งเดิมที่คนญี่ปุ่นรักษาไว้เป็นเวลายาวนาน เกาะโชโดะเป็นสถานที่ที่คุณสามารถสัมผัสถึงความอบอุ่นของผู้คนและวัฒนธรรมเหล่านั้นได้อย่างลึกซึ้ง ไม่ว่าจะเป็นงานเทศกาลฤดูใบไม้ร่วงที่มีการแห่กลองไทโกะสุดตระการตา สวนมะกอกอันเงียบสงบ ไปจนถึงหมู่บ้านภาพยนตร์สุดคลาสสิก ทุกอย่างบนเกาะเต็มไปด้วยเรื่องราวมากมาย หลังจากที่ได้ไปเข้าร่วมงานเทศกาลด้วยตัวเองแล้ว รู้สึกเหมือนจิตใจและร่างกายถูกชำระล้าง ราวกับได้เกิดใหม่อีกครั้งเลย ถ้าอยากสัมผัสเสน่ห์แท้ๆ ของญี่ปุ่น ต้องห้ามพลาดเกาะโชโดะเลย
👉บทความที่เกี่ยวช้องกับเทศกาล
- 【ฤดูหนาวปี 2025-2026 】30 เทศกาลหิมะและเทศกาลฤดูหนาวที่แนะนําในญี่ปุ่น: สรุปวันที่จัดงานและไฮไลท์
- 【ปี 2025】คู่มือฉบับสมบูรณ์เกี่ยวกับเทศกาลฤดูใบไม้ร่วงในญี่ปุ่น! 10 เทศกาลแนะนำ พร้อมวิธีเพลิดเพลินให้สนุกยิ่งขึ้น
- 【เทศกาลญี่ปุ่น】ธรรมเนียมตามฤดูกาลที่เติมสีสันให้หน้าร้อน – คู่มือกิจกรรมที่เป็นเอกลักษณ์และดั้งเดิม
- "เทศกาลแปลกๆ"! 5 เทศกาลที่ไม่เหมือนใครทั่วญี่ปุ่น
Comments