ความลับแห่งความงามของไฮเดรนเยีย ทิวทัศน์สีสดใสแห่งฤดูฝน

ฤดูฝนในญี่ปุ่นนั้นร้อนและชื้น แต่ก็โอบล้อมผู้คนไปด้วยความคาดหวัง เหตุผลก็คือ นี่เป็นช่วงที่ดอกไฮเดรนเยีย หรือที่ในภาษาญี่ปุ่นว่า "อะจิไซ" (アジサイ / Ajisai) บานสะพรั่งกันนั่นเองค่ะ ยิ่งฝนตก ดอกไฮเดรนเยียก็ยิ่งสดใส ในครั้งเราจะมานี้มาแนะนำดอกไม้น่ารัก ๆ อันนี้กันค่ะ!

เกี่ยวกับชื่อเรียก "อะจิไซ"

เกี่ยวกับชื่อเรียก อะจิไซ

อะจิไซ เขียนด้วยตัวคันจิว่า "紫陽花" นอกจากนี้ยังมีชื่ออื่น ๆ อีก เช่น "集真藍" (Atzusai อัตซึไซ แปลว่า กระจุกสีคราม) "七変化" (Nanahenge นานะเฮงเกะ แปลว่าเปลี่ยนเจ็ดครั้ง เพราะสีดอกเปลี่ยนไปตามกาลเวลา) "手毬花" (Temaribana เทมาริบานะ เพราะมีทรงกลมเหมือนลูกบอลเทมาริ)

สาเหตุของการเปลี่ยนสี

สาเหตุของการเปลี่ยนสี

คงจะไม่เป็นการกล่าวเกินจริงถ้าจะบอกว่า ไฮเดรนเยียเป็นกิ้งก่าคาเมเลี่ยนแห่งโลกดอกไม้ สีของดอกในต้นเดียวกันจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับความเป็นกรดและด่างของดิน โดยเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินในดินที่เป็นกรดและเป็นสีแดงในดินที่เป็นด่าง หากเป็นกลางก็จะเป็นสีม่วง ไฮเดรนเยียส่วนใหญ่ที่ไม่ได้ปลูกตามท้องถนนในญี่ปุ่นจะเป็นสีน้ำเงิน

สาเหตุของการเปลี่ยนสี

เมื่อเร็ว ๆ นี้ด้วยวิวัฒนาการของเทคโนโลยีการเพาะพันธุ์ จึงมีหลายพันธุ์ที่สามารถปลูกได้โดยสีไม่ได้รับผลกระทบจากความเป็นกรดของดิน ไฮเดรนเยียสีขาวบริสุทธิ์เป็นหนึ่งในผลการเพาะพันธุ์ดังกล่าวค่ะ

ไฮเดรนเยียญี่ปุ่นและไฮเดรนเยียตะวันตก

ไฮเดรนเยียทรงกลมมีชื่อว่า "繍球花" (Shukyuka ชูคิวกะ ดอกก้อนด้าย) เพราะมีลักษณะคล้าย "ลูกบอลก้อนด้าย" ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการสานสัมพันธ์ของจีน อันที่จริงแล้ว ไฮเดรนเยียที่คุณคุ้นเคยในญี่ปุ่นนั้นไม่ได้มีถิ่นกำเนิดในญี่ปุ่น แต่มาจากยุโรป เป็นพันธุ์ที่ได้รับความนิยมหลังจากปรับปรุงจากพันธุ์ญี่ปุ่นดั้งเดิม "ガクアジサイ" (Gaku Ajisai กาคุอะจิไซ) และนำเข้ากลับมายังประเทศญี่ปุ่นอีกครั้ง

ไฮเดรนเยียญี่ปุ่นและไฮเดรนเยียตะวันตก

รอบช่อดอกของ "กาคุอะจืไซ" ที่มีถิ่นกำเนิดในญี่ปุ่นนั้นจะมีดอกประดับที่มีกลีบเลี้ยงขนาดใหญ่เรียงรายอยู่ แถมตามชื่อแล้ว "ดอกประดับ" เป็นเพียงของประดับตกแต่งไม่มีก้านเกสรดอก ในทางกลับกัน "ดอกจริง" ที่ถูกล้อมรอบด้วยดอกประดับนั้นก็มีขนาดเล็ก แต่มีเกสรตัวผู้และเกสรตัวเมีย และสามารถผสมพันธุ์ภายในดอกตัวเองได้

ความงามที่มาพร้อม "พิษ"

ความงามที่มาพร้อมพิษ

ไฮเดรนเยียซึ่งเป็นพืชมีพิษนั้นก็มีความเป็นพิษแตกต่างกันไปตามพันธุ์ ดังนั้นคุณจึงไม่ควรนำมาทำดอกไม้ประดับตกแต่งโต๊ะอาหารเพียงเพราะหลงใหลในความงามของไฮเดรนเยียนะคะ!

อะจิไซฮานะโชซุ คืออะไร?

อะจิไซฮานะโชซุ คืออะไร?

"ฮานะโชซุ"" (花手水 / Hana Chouzu) ซึ่งเป็นการลอยดอกไม้สีสันสดใสในที่ล้างมิอโชซุฉะ (手水舎 / Chozusha) และพื้นที่น้ำตามศาลเจ้าและที่อื่น ๆ ก็กำลังเป็นที่ที่นิยมในญี่ปุ่นในปัจจุบันค่ะ ผู้บุกเบิกสิ่งนี้ก็อาจจะกล่าวได้ว่าเป็น "วัดโยโคคุจิ" (楊谷寺 / Yokokuji) ในเกียวโตค่ะ

ชื่อ "ฮานะโชซุ" เดิมทีหมายถึงการใช้ดอกไม้ทดแทนเวลาล้างมือนอกบ้าน แต่ที่วัดโยโคคุจิ ดอกไม้หลากสีสันถูกนำมาใช้ประดับโชซุฉะภายในบริเวณวัด เหตุผลหลักที่ฮานะโชซุใช้ดอกไฮเดรนเยียก็คือมันบานได้สวยงามยิ่งขึ้นเมื่อฝนตก และเนื่องจากผลกระทบทางภาพอันสวยงาม มันจึงกลายเป็นการตกแต่งที่มีสีสันที่สุดสำหรับโชซุฉะค่ะ

อย่างที่ได้บอกไปก่อนหน้านี้ ไฮเดรนเยียเป็นดอกไม้ที่มีพิษ ดังนั้นบางคนจึงกังวลว่าดอกไฮเดรนเยียอาจส่งผลเสียต่อฮานะโชซุที่ประดับด้วยดอกไฮเดรนเยีย อย่างไรก็ตาม น้ำของฮานะโชซุนั้นก็ไหลอย่างต่อเนื่องทำให้ความเป็นพิษของไฮเดรนเยียก็ถูกเจือจางลง นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ล้างมืออื่น ๆ ภายในวัดและสถานที่อื่น ๆ อีกด้วยค่ะ

ทำไมจึงปลูกไฮเดรนเยียตามศาลเจ้าและวัดญี่ปุ่น?

ทำไมจึงปลูกไฮเดรนเยียตามศาลเจ้าและวัดญี่ปุ่น?

มีเหตุผลหลายประการในการปลูกไฮเดรนเยียตามศาลเจ้าและวัดหลายแห่งค่ะ ประการแรก ศาลเจ้าและวัดต่าง ๆ ตั้งอยู่บนภูเขาที่รายล้อมไปด้วยสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่สว่างโดนแดดกึ่งร่มเงา และเย็นสบาย ซึ่งเป็นสถานที่ที่ดอกไฮเดรนเยียชอบในการเติบโต นอกจากนี้ ไฮเดรนเยียซึ่งปลูกง่ายบางครั้งถือเป็นเขตแดนด้วยค่ะ เรียกได้ว่าไม่ได้มีเพียงแต่ความสวยงามเท่านั้น แต่ยังอำนวยความสะดวกที่ไม่เหมือนใครด้วยค่ะ

อย่างไรก็ตาม อีกประการหนึ่งก็คือ ในญี่ปุ่นสมัยก่อนซึ่งเทคโนโลยีทางการแพทย์ยังล้าหลัง เวลาที่ดอกไฮเดรนเยียเบ่งบานก็เป็นช่วงเวลาที่โรคระบาดต่าง ๆ เกิดการระบาดขึ้นเช่นกัน จึงมีทฤษฎีว่าต้นกำเนิดของวัดไฮเดรนเยียคือการปลูกต้นไฮเดรนเยียรอบ ๆ สุสานฝังศพเพื่อรำลึกถึงผู้เสียชีวิตจากโรคระบาดด้วยค่ะ

สถานที่ขึ้นชื่อสำหรับดอกไฮเดรนเยีย

ไฮเดรนเยียในญี่ปุ่นเป็นดอกไม้ที่สามารถพบเห็นได้ทุกที่ แม้แต่ริมถนนก็ยังพบกระจุกดอกไฮเดรนเยียบานสะพรั่ง ด้วยเหตุนี้จึงมีศาลเจ้าและวัดหลายแห่งที่มีชื่อเสียงในเรื่องดอกไฮเดรนเยีย ตัวอย่างเช่น "อารามเมเก็ตสึอิน" (明月院 / Meigetsu-in) ใน Kamakura และ "วัดมิมุโรโทจิ" (三室戸寺 / Mimuroto-ji) ในเกียวโตค่ะ อย่างไรก็ดี การที่จะต้องจ่ายค่าเข้าชมทุกครั้งที่ไปศาลเจ้าหรือวัดก็คงไม่สะดวกสักเท่าไหร่ เพื่อให้สบายกระเป๋าของคุณ ครั้งนี้เราจึงอยากจะแนะนำให้คุณรู้จักกับจุดชมดอกไฮเดรนเยียที่ไม่ต้องเสียค่าเข้าชมกันค่ะ

โตเกียว: สวนสาธารณะอาสุกะยามะ

สถานที่ขึ้นชื่อสำหรับดอกไฮเดรนเยีย

สวนอาสุกะยามะ (飛鳥山公園 / Asukayama Koen) ซึ่งถูกกำหนดให้เป็นสวนสาธารณะแห่งแรก ๆ ของญี่ปุ่นร่วมกับสวนอุเอโนะนั้น เป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงสำหรับการชมดอกซากุระจากการปลูกต้นซากุระ 1270 ต้นในอาสุกะยามะโดย โทคุงาวะ โยชิมุเนะ (徳川吉宗 / TOKUGAWA Yoshimune) โชกุนคนที่แปดค่ะ ที่ "ถนนไฮเดรนเยีย" ภายในสวน หรือชื่ออย่างเป็นทางการก็คือ "อาสุกะโนะโคมิจิ" (飛鳥の小径 / Asuka no Komichi) ความยาวประมาณ 350 เมตร มีต้นไฮเดรนเยียประมาณ 10 ชนิด ปลูกประมาณ 1300 ต้น คุณสามารถไปถูกรายล้อมด้วยไฮเดรนเยียและชมดอกไฮเดรนเยียจากด้านบนขณะเดินไปตามเนินเขาที่อยู่ในเส้นทางค่ะ เนื่องจากมันถูกสร้างขึ้นตามรางรถไฟของ JR คุณจึงสามารถถ่ายภาพรถไฟและไฮเดรนเยียที่วิ่งเลียบถนนเส้นนี้ได้ด้วยค่ะ

ข้อมูลสถานที่

  • ชื่อสถานที่: สวนสาธารณะอาสุกะยามะ (飛鳥山公園 / Asukayama Koen)
  • ที่ตั้ง: 1-1-3 Oji, Kita-ku, Tokyo
  • การเดินทาง: เดิน 1 นาทีจากทางออกทิศใต้ของสถานี "Oji" บนสาย JR Keihin Tohoku

โตเกียว: โอไดบะ

สถานที่ขึ้นชื่อสำหรับดอกไฮเดรนเยีย

นอกจากนี้ยังมีสถานที่ที่มีชื่อเสียงสำหรับดอกไฮเดรนเยียในโอไดบะ ย่านซึ่งมีแหล่งการค้ามากมายค่ะ กระจุกต้นไฮเดรนเยียกระจายอยู่ทั่วไปใน "สวนมิสุโนะฮิโรบะ" (水の広場公園 / Mizonohiroba Koen) ที่ทางออกทิศใต้ของสถานี "Aomi" บนสาย Yurikamome ค่ะ ที่ฝั่งตรงข้ามก็เป็น "สวน Symbol Promenade" (シンボルプロムナード公園) ซึ่งเป็นจุดท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงด้วยบันไดยาวที่ถูกขนาบข้างไปด้วยดอกไฮเดรนเยีย แนะนำให้ไปช้อปพร้อมชมดอกไฮเดรนเยียไปด้วยค่ะ

ข้อมูลสถานที่

  • ชื่อสถานที่: สวนสาธารณะมิสุโนะฮิโรบะ (水の広場公園 / Mizonohiroba Koen)
  • ที่ตั้ง: 1 ถึง 2, Aomi, Koto-ku, Tokyo และ 3, Ariake, Koto-ku, Tokyo
  • การเดินทาง: ทางออกทิศใต้ของสถานี "Aomi" บนสาย Yurikamome

ข้อมูลสถานที่

  • ชื่อสถานที่: Symbol Promenade Park (シンボルプロムナード公園)
  • ที่ตั้ง: 1 ถึง 2, Daiba, Minato-ku, Tokyo และ 1 ถึง 2, Aomi, Koto-ku, Tokyo และ 3, Ariake, Koto-ku, Tokyo
  • การเดินทาง: ลงที่สถานี "Odaiba Kaihin Koen" หรือสถานี "Tokyo Big Sight"

โอซาก้า: สวนยามาดะอิเกะ

เมื่อพูดถึง "สวนยามาดะอิเกะ" (山田池公園 / Yamadaike Koen) ในอำเภอฮิรากาตะ กรุงโอซาก้าแล้วละก็ ประวัติของสระยามาดะเกะ (山田池 / Yamada ike) ซึ่งเป็นศูนย์กลางของสวนแห่งนี้ ก็สามารถสืบย้อนไปถึง 1200 ปีที่แล้วค่ะ ปัจจุบันเป็นสวนสาธารณะที่มีพื้นที่กว้างขวาง สวนสาธารณะแบ่งออกเป็น 16 พื้นที่ เช่น สวนพืชน้ำ (aquatic flower garden) หุบเขาเมเปิ้ล (maple valle) สวนดอกไม้ยืนต้น (flowering trees garden) และลานชมวิว (observatory square) สวนยามาดะอิเกะที่รายล้อมไปด้วยดอกไฮเดรนเยียนานาพันธุ์และสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติอันเขียวชอุ่มเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่คนญี่ปุ่นต้องไปเยือนสักครั้งเลยค่ะ

ข้อมูลสถานที่

  • ชื่อสถานที่: สวนยามาดะอิเกะ (山田池公園 / Yamadaike Koen
  • ที่ตั้ง: 1-1 Yamadaikekoen, Hirakata-shi, Osaka
  • การเดินทาง: เดิน 10 นาทีจากสถานี "Fujisaka" บนสาย JR Gakken Toshi

หัวข้อเรื่อง

Survey[แบบสอบถาม] กรุณาบอกเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในญี่ปุ่น







Recommend