【ซีรี่ส์ปราสาทขึ้นชื่อ】เสน่ห์ที่ก้าวข้ามกาลเวลา! หอปราการปราสาทที่ยังคงสภาพเดิมอยู่ 12 แห่งในญี่ปุ่น

  • 12 มิถุนายน 2021
  • Monique Lu
  • Mon

【ซีรี่ส์ปราสาทขึ้นชื่อ】เสน่ห์ที่ก้าวข้ามกาลเวลา! หอปราการปราสาทที่ยังคงสภาพเดิมอยู่ 12 แห่งในญี่ปุ่น

เวลาไปเที่ยวญี่ปุ่นกัน คงมีบางคนที่จัดเอาปราสาทต่าง ๆ ลงในตารางจุดท่องเที่ยวที่จะไปเยือนใช่ไหมคะ? เสน่ห์ของปราสาทก็คือ คุณสามารถเพลิดเพลินกับประวัติศาสตร์และทิวทัศน์ที่สวยงามไปพร้อมกับการเพลิดเพลินกับสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของญี่ปุ่นได้ ปราสาทนั้นกระจายอยู่ทั่วพื้นที่ต่าง ๆ ของญี่ปุ่น และสำหรับผู้ที่ชื่นชอบปราสาท นี่คือปราสาทที่หอปราการยังคงสภาพเช่นเดิมอยู่ทั้ง 12 แห่งที่คุณไม่ควรพลาด!

หอปราการปราสาทที่ยังคงสภาพเดิมอยู่ คืออะไร?

"หอปราการปราสาทที่ยังคงสภาพเดิมอยู่" เป็นหอปราการปราสาทที่สร้างขึ้นตั้งแต่ในสมัยเอโดะ (1603-1868) หรือเก่าแก่กว่านั้น และได้รับการอนุรักษ์คงสภาพเดิมไว้จนถึงปัจจุบัน มีปราสาททั้งหมด 12 แห่งทั่วประเทศญี่ปุ่นที่มีลักษณะดังกล่าว และเรียกรวมกันว่า "หอปราการปราสาทที่ยังคงสภาพเดิมอยู่" (หอปราการปราสาทสภาพเดิมทั้ง 12 แห่ง) ในฐานะที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันเก่าแก่และล้ำค่า ทั้งหมดก็ถูกกำหนดให้เป็น" สมบัติชาติ "และ" ทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญ" โดยภาครัฐ ปราสาทที่มีลักษณะดังกล่าวก็ได้แก่: "ปราสาทฮิโรซากิ" "ปราสาทมัตสึโมโตะ" "ปราสาทมารุโอกะ" "ปราสาทอินุยามะ" "ปราสาทฮิโกเนะ" "ปราสาทฮิเมจิ" "ปราสาทมัตสึเอะ" "ปราสาทบิทจูมัตสึยามะ" "ปราสาทมารุกาเมะ" "ปราสาทอิโยะมัตสึยามะ" "ปราสาทอุวะจิมะ" และ "ปราสาทโคจิ"

ปราสาทฮิโรซากิ จังหวัดอาโมโมริ

ปราสาทฮิโรซากิ จังหวัดอาโมโมริ

"ปราสาทฮิโรซากิ" ในอำเภอฮิโรซากิ จังหวัดอาโอโมริ เป็นปราสาทแบบบันไดบนเนินในที่ราบ ปราสาทถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1611 นอกจากหอปราการปราสาทรูปแบบหลังคา 5 ชั้นภายใน 6 ชั้นที่มุมตะวันตกเฉียงใต้ของวงล้อมกำแพงหลักแล้ว ก็ยังมีป้อมธนูแปดป้อมและประตูป้อมธนูจำนวนมากถูกสร้างขึ้นไว้ด้วย แต่หอปราการปราสาทเคยถูกทำลายโดยฟ้าผ่าในปี 1627 หอปราการปราสาทปัจจุบันถูกสร้างขึ้นใหม่ในปี 1810 เนื่องจากมีการสร้างป้อมธนูมุมกำแพงขึ้นใหม่ จึงมีลักษณะเป็นหอคอยอิสระประเภทหลังคา 3 ชั้นภายใน 3 ชั้น เรียกอีกชื่อว่า "ปราสาททาคาโอกะ" (Takaoka-jo) เพราะบริเวณที่ที่สร้างปราสาทขึ้นนั้นมีชื่อว่าทาคาโอกะ

ปราสาทมัตสึโมโตะ จังหวัดนางาโนะ (สมบัติชาติ)

ปราสาทมัตสึโมโตะ จังหวัดนางาโนะ (สมบัติชาติ)

"ปราสาทมัตสึโมโตะ" ในอำเภอมัตสึโมโตะ จังหวัดนางาโนะ เป็นปราสาทสีดำสนิท หรือที่เรียกว่า "ปราสาทกาดำ" หรือ "อุโจ" (Ujo) ปราสาทถูกสร้างขึ้นในช่วงราว ๆ ปี ค. ศ. 1504 ในบรรดาหอปราการปราสาทหลายแห่งที่ยังคงสภาพเดิมอยู่ในญี่ปุ่นในปัจจุบัน มักจะเป็นหอปราการปราสาทสีขาวอย่างเช่นปราสาทฮิเมจิ แต่ปราสาทมัตสึโมโตะเป็นหอปราการปราสาทสีดำที่มีเพียงแห่งเดียวที่สร้างขึ้นอย่างดีสมัยก่อนยุทธการที่ทุ่งเซกิงาฮาระ และเป็นหอปราการปราสาทที่มีหลังคา 5 ชั้นแต่ภายในมีพื้น 6 ชั้นที่ยังคงสภาพเดิมอยู่ในญี่ปุ่นที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่นด้วย

ปราสาทมารุโอกะ จังหวัดฟุกุอิ

ปราสาทมารุโอกะ จังหวัดฟุกุอิ

ปราสาทมารุโอกะ จังหวัดฟุกุอิ

ปราสาทมารุโอกะ เป็นปราสาทบนเนินในที่ราบ มีรูปแบบสถาปัตยกรรมที่เก่าแก่ที่สุดในบรรดาหอปราการปราสาทที่ยังคงสภาพเดิมอยู่ ถูกสร้างขึ้นในปี 1576 ฐานกำแพงหินที่รองรับตัวปราสาทมารุโอกะนั้น ใช้วิธีการแบบเก่าแก่ที่เรียกกันว่า "การเรียงหินซ้อนแบบโนสึระ" และกล่าวกันว่ามีถึงจะมีภาพลักษณ์ที่เต็มไปด้วยช่องว่างระหว่างก้อนหินแต่ละก้อน แต่ก็มีการระบายน้ำที่ดี และไม่ต้องกังวลว่าจะพังเพราะฝนตกหนัก ยังเป็นที่รู้จักกันในนาม "คาสุมิกะโจ" (Kasumigajo ปราสาทในหมอก) เพราะตัวปราสาทที่ลอยเด่นอยู่เหนือแนวดอกซากุระบานซึ่งสะพรั่งในฤดูใบไม้ผลินั้นก็ดูงดงามราวกับภาพมายาค่ะ

ปราสาทอินุยามะ จังหวัดไอจิ (สมบัติชาติ)

ปราสาทอินุยามะ จังหวัดไอจิ (สมบัติชาติ)

ปราสาทอินุยามะ ตั้งอยู่ในอำเภออินุยามะ จังหวัดไอจิ สร้างขึ้นในปี 1537 และมีเพียงหอปราการปราสาทรูปแบบหอสังเกตการณ์เท่านั้นที่ยังคงสภาพเดิมอยู่ แต่มีชื่อเสียงในฐานะรูปแบบที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น มีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า "ปราสาทฮาคุเต" หรือ "ฮาคุเตโจ" (Hakutei-jo) นอกจากนี้ ลักษณะจำเพาะที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ของปราสาทอินุยามะก็คือ เป็นปราสาทที่อยู่ในความครอบครองของเอกชนมาเป็นเวลานานแล้ว แม้ว่าจะเป็นสมบัติชาติ แต่ก็เป็นปราสาทเดียวที่อยู่ในความครอบครองของเอกชน และยังคงเป็นทรัพย์สินของ "หอสมุดปราสาทอินุยามะฮาคุเต" แม้ในปัจจุบันค่ะ

ปราสาทฮิโกเนะ จังหวัดชิกะ (สมบัติชาติ)

ปราสาทฮิโกเนะ จังหวัดชิกะ (สมบัติชาติ)

ปราสาทฮิโกเนะเป็นปราสาทในอำเภอฮิโกเนะ จังหวัดชิกะ และมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า "ปราสาทเต่าทอง" หรือ "คองกิโจ" (Konki-jo) เนื่องจากสร้างบนภูเขาฮิโกเนะซึ่งมีชื่อเล่นว่าคองกิซัง (ภูเขาเต่าทอง) ปราสาทแห่งนี้สร้างขึ้นในปี 1604 และแล้วเสร็จในปี 1622 มีจุดเด่นตรงหน้าจั่วที่หลากหลายและการออกแบบรายละเอียดย่อย "Umaya" (โรงเลี้ยงม้า) ที่หลงเหลืออยู่ภายในปราสาทก็เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของปราสาทฮิโกเนะที่มีเพียงที่เดียวในบรรดาปราสาททั้งหมดในญี่ปุ่น และกล่าวกันว่าหายากมาก

ปราสาทฮิเมจิ จังหวัดเฮียวโกะ (สมบัติชาติ)

ปราสาทฮิเมจิ จังหวัดเฮียวโกะ (สมบัติชาติ)

ในบรรดาปราสาทอันเป็นสมบัติชาติทั้ง 5 แห่งนั้น มีเพียงแห่งเดียวที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมโดยองค์การยูเนสโก นั่นก็คือ ปราสาทฮิเมจิในอำเภอฮิเมจิ จังหวัดเฮียวโกะ สร้างขึ้นในปี 1346 เป็นหอปราการปราสาทที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และผนังของหอคอยปราสาททาสีด้วยปูนปลาสเตอร์สีขาว ดูราวกับนกกระยางสีขาวกางปีกกว้างน่าชม จนถูกเรียกด้วยชื่อเล่นว่า "ปราสาทนกกระยางขาว" หรือ "ชิราซากิโจ" (Shirasagi-jo) ด้วยค่ะ

ปราสาทมัตสึเอะ จังหวัดชิมาเนะ (สมบัติชาติ)

ปราสาทมัตสึเอะ จังหวัดชิมาเนะ (สมบัติชาติ)

ปราสาทมัตสึเอะเป็นปราสาทที่ตั้งอยู่ในอำเภอมัตสึเอะ จังหวัดชิมาเนะ มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 400 ปี เป็นหนึ่งในปราสาทที่มีชื่อเสียงที่สุดในภูมิภาคซานอิน สร้างขึ้นในปีค. ศ. 1611 เป็นหอปราการปราสาทรูปแบบตามตำราเพียงแห่งเดียวที่คงสภาพเดิมตั้งแต่สมัยก่อน หอปราการปราสาทตามตำราคือหอปราการปราสาทแบบที่หอสังเกตการณ์ด้านบนมีมุมมอง 360 องศาจากหอปราการปราสาทนั่นเองค่ะ รูปร่างหลังคาของหอคอยปราสาทมีลักษณะคล้ายนกหัวโต (Chidori) ที่กางปีก จึงเรียกอีกชื่อหนึ่งกันว่า "ปราสาทนกหัวโต" หรือ "ชิโดริโจ" (Chidori-jo) ค่ะ

ปราสาทบิตจูมัตสึยามะ จังหวัดโอคายามะ

ปราสาทบิตจูมัตสึยามะ จังหวัดโอคายามะ

ปราสาทบิตจูมัตสึยามะ ตั้งอยู่ที่ระดับความสูง 430 เมตร เป็นปราสาทบนภูเขาแห่งเดียวในญี่ปุ่นที่ยังคงมีหอปราการปราสาทที่คงสภาพเดิม และตัวปราสาทที่ลอยอยู่ในทะเลหมอกในช่วงระหว่างฤดูใบไม้ร่วงถึงฤดูหนาวนั้นก็สร้างชื่อเสียงในฐานะ "ปราสาทภูเขาลอยฟ้า" สร้างขึ้นในปี 1240 และตั้งอยู่ในอำเภอทาคาฮาชิ จังหวัดโอคายามะ มีชื่อเรียกอื่นว่า "ปราสาททาคาฮาชิ" (Takahashi-jo) หอปราการปราสาทเป็นแบบหลังคา 2 ชั้น มีชั้นภายใน 2 ชั้น มีความสูงประมาณ 11 เมตร ทำให้เป็นหอปราการที่เล็กที่สุดในบรรดาปราสาทที่ยังมีหอปราการคงสภาพเดิมอยู่

ปราสาทมารุกาเมะ จังหวัดคากาว่า

ปราสาทมารุกาเมะ จังหวัดคากาว่า

ปราสาทมารุกาเมะ ตั้งอยู่ในอำเภอมารุกาเมะ จังหวัดคากาวะ เป็นปราสาทบนเนินในที่ราบที่สร้างขึ้นบนภูเขาคาเมยามะที่มีระดับความสูงประมาณ 66 เมตร และยังเป็นที่รู้จักกันในนาม "ปราสาทคาเมยามะ" (Kameyama-jo) ฐานกำแพงหินอิชิกาคิที่เรียงหินทับซ้อนกันจากบริเวณคูชั้นในไปถึงหอปราการปราสาทก็ทำให้เกิดเส้นโค้งที่มีลักษณะเฉพาะและสวยงามที่เรียกว่า "เนินพัด" มีชื่อเสียงในฐานะ "ปราสาทขึ้นชื่อเรื่องฐานกำแพงหิน" ด้วยฐานกำแพงหินที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น สร้างขึ้นในปี 1660 สามารถมองไปเห็นถึงงแถบสะพานเซโตะโอฮาชิ (Seto Ohashi) ได้

ปราสาทอิโยะมัตสึยามะ จังหวัดเอฮิเมะ

ปราสาทอิโยะมัตสึยามะ จังหวัดเอฮิเมะ

ปราสาทอิโยะมัตสึยามะ เป็นปราสาทขึ้นชื่อที่สร้างขึ้นบนยอดเขาคัตสึยามะ อยู่บริเวณเกือบถึงใจกลางอำเภอมัตสึยามะในจังหวัดเอฮิเมะ หากพูดถึงปราสาทมัตสึยามะลอย ๆ โดยทั่วไปแล้วจะหมายถึงปราสาทอิโยะมัตสึยามะ แต่บางครั้งก็เรียกว่า "ปราสาทอิโยะมัตสึยามะ" เพื่อให้เกิดความแตกต่างจากปราสาทบิตจูมัตสึยามะในจังหวัดโอคายามะ ปราสาทแห่งนี้สร้างขึ้นในปี 1602 และใช้เวลากว่าจะแล้วเสร็จมากกว่า 20 ปี มีชื่อเรียกอื่นว่า "ปราสาทคัตสึยามะ" (Katsuyama-jo)

ปราสาทอุวะจิมะ จังหวัดเอฮิเมะ

ปราสาทอุวะจิมะ จังหวัดเอฮิเมะ

ปราสาทบนเนินกลางที่ราบ ตั้งอยู่บนเนินเขาสูง 80 เมตร ณ ใจกลางอำเภออุวะจิมะ สร้างขึ้นระหว่างปี 1596 ถึง 1601 หน้าจั่วและหน้าต่างของปราสาทถูกจัดเรียงอย่างสมมาตรทำให้ได้สัดส่วนที่ดี เมื่อมองจากด้านบนจะมีลักษณะเป็นปราสาทห้าเหลี่ยมที่มีด้านไม่เท่ากัน เป็นปราสาทที่สง่างามด้วยบรรยากาศของปราสาทเก่าแก่ มีต้นไม้ขนาดใหญ๋ยักษ์และพืชหายากมากมาย จึงรายล้อมไปด้วยพืชพรรณรวมประมาณ 400 ชนิด ชื่ออื่น ๆ ได้แก่ ปราสาทสึรุชิมะ (Tsurushima-jo) ปราสาทอิตะชิมะ (Itashima-jo) และ ปราสาทมารุคุชิ (Marukushi-jo)

ปราสาทโคจิ จังหวัดโคจิ

ปราสาทโคจิ จังหวัดโคจิ

ปราสาทโคจิมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 400 ปี ยังเป็นที่รู้จักกันในนาม ปราสาทนกเหยี่ยว "ทาคาโจ" (Taka-jo) การก่อสร้างเริ่มขึ้นในปี 1601 และแล้วเสร็จในปี 1611 แม้จะเผชิญปัญหาน้ำท่วมหลายต่อหลายครั้ง เสน่ห์สำคัญที่สุดก็คือ ทั้งหอปราการปราสาทและตำหนักยังคงสภาพดีมาจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ ปราสาทที่ยังมีวงล้อมกำแพงหลักครบสมบูรณ์อยู่ในบรรดา 12 หอปราการปราสาทที่ยังคงสภาพเดิมอยู่ ก็คือปราสาทโคจิที่เดียวเท่านั้น วงล้อมกำแพงหลักเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของปราสาทที่เอาไว้สร้างหอปราการและตำหนักของปราสาท นอกจากนี้ยังมีชื่อเสียงในฐานะปราสาทที่หายากในญี่ปุ่น ซึ่งเป็นที่เดียวที่คุณสามารถถ่ายติดประตูใหญ่และหอปราการปราสาทไว้ในภาพเดียวกันได้

ในครั้งนี้เราได้แนะนำหอปราการปราสาทที่ยังคงสภาพเดิมอยู่ทั้ง 12 แห่งในญี่ปุ่นกันไปทีเดียวรวดเลยนะคะ แต่จริง ๆ แล้วยังมีปราสาทอีกหลายแห่งที่คุณสามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์อันตระการตาที่แตกต่างกันไปตามฤดูกาลเช่นดอกซากุระและใบไม้เปลี่ยนสีได้ด้วยค่ะ ถ้าอยากจะไปเที่ยวปราสาทหรืออยากไปเที่ยวญี่ปุ่นในรูปแบบที่ต่างไปจากปกติ เชิญแวะเยี่ยมชมปราสาทที่เราแนะนำในครั้งนี้ดูนะคะ

หัวข้อเรื่อง

Survey[แบบสอบถาม] กรุณาบอกเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในญี่ปุ่น







Recommend