ในห้างสรรพสินค้าญี่ปุ่นมีร้านค้าประเภทใดบ้าง?

ในห้างสรรพสินค้าญี่ปุ่นมีร้านค้าประเภทใดบ้าง?

ในญี่ปุ่นมีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ซึ่งเรียกกันว่า "เฮียกกะเต็น" (百貨店 / Hyakkaten ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่) ซึ่งมีอยู่มากมายในเมืองใหญ่ ๆ ในญี่ปุ่น และเป็นสถานที่ยอดนิยมไม่เพียงเฉพาะในหมู่คนญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงในหมู่ชาวต่างชาติด้วยค่ะ คุณสามารถพบประสบการณ์ที่หลากหลายได้ เช่น การซื้อเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์อาหาร การรับประทานอาหารที่ร้านอาหาร และอื่น ๆ ค่ะ

ห้างสรรพสินค้าญี่ปุ่น เป็นอย่างไร?

ห้างสรรพสินค้าญี่ปุ่น เป็นอย่างไร?

ห้างสรรพสินค้าในญี่ปุ่นนั้น เป็นร้านค้าปลีกที่เริ่มต้นด้วยห้าง MITSUKOSHI ซึ่งเคยเป็นร้านกิโมโนในปีค.ศ. 1905 เป็นห้างร้านที่รวมรวมเอาร้านค้าอื่น ๆ เข้ามาเปิดเพื่อขายสินค้าที่หลากหลายภายในอาคารขนาดใหญ่แห่งเดียวค่ะ

ในญี่ปุ่นมีแหล่งช้อปปิ้งมากมายอย่างเช่น LaLaport และ AEON MALL แต่ที่เหล่านี้ก็ต่างจากห้างสรรพสินค้าค่ะ อนึ่ง ที่เหล่านี้จะเรียกกันว่าศูนย์การค้า (ショッピングセンター / Shopping Center) ค่ะ

ความแตกต่างระหว่างศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าก็คือถุงที่คุณได้รับจากการช้อปปิ้งค่ะ ห้างสรรพสินค้ามีถุงกระดาษลวดลายเฉพาะของห้าง แต่ศูนย์การค้ามีถุงที่แตกต่างกันไปตามร้านย่อยที่ซื้อค่ะ อย่างไรก็ตามทั้งสองก็มีส่วนที่เหมือนกันก็คือเป็นสถานที่ที่คุณสามารถไปทานอาหารและช้อปได้ทั่งคู่ค่ะ

ทำอะไรได้บ้างที่ห้างสรรพสินค้าญี่ปุ่น?

ทำอะไรได้บ้างที่ห้างสรรพสินค้าญี่ปุ่น?

ที่ห้างสรรพสินค้า คุณสามารถช้อปและทานอาหารได้เป็นหลักค่ะ มีสินค้าที่หลากหลายให้เลือกซื้อได้ เช่น เครื่องสำอาง สินค้าเบ็ดเตล็ดของญี่ปุ่น เสื้อผ้า เครื่องประดับ และเฟอร์นิเจอร์เป็นต้นค่ะ ในส่วนนี้เราจะไปรู้จักกับผลิตภัณฑ์และชั้นต่าง ๆ ที่แนะนำเป็นพิเศษกันค่ะ

ชั้นเครื่องสำอาง (化粧品フロア / Cosmetics Floor)

ชั้นเครื่องสำอางมักจะอยู่ที่ชั้นหนึ่งหรือชั้นใต้ดินของห้างสรรพสินค้าค่ะ แบรนด์ระดับโลกอย่าง CHANEL และ Dior และแบรนด์เครื่องสำอางญี่ปุ่นอย่าง SHISEIDO ต่างก็มีร้านตั้งอยู่ภายในชั้นนี้กันค่ะ

ในญี่ปุ่น เครื่องสำอางที่ซื้อจากห้างสรรพสินค้ามักจะเรียกกันว่า เดปะคอส (デパコス / DEPAKOSU ซึ่งก็มาจาก Department Cosmetic นั่นเอง) ซึ่งหมายถึงแบรนด์เครื่องสำอางระดับสูงค่ะ แบรนด์เครื่องสำอางในห้างสรรพสินค้านั้นจะดำเนินการโดยพนักงานขายสินค้าเพื่อความงามที่มีความรู้เรื่องเครื่องสำอางอย่างดี ดังนั้นข้อเด่นอย่างหนึ่งก็คือสามารถรับคำปรึกษาและคำแนะนำเกี่ยวกับเครื่องสำอางที่เหมาะกับคุณได้ค่ะ

ชั้นผลิตภัณฑ์อาหาร (食品フロア / Food Floor)

ชั้นอาหารมักจะอยู่ที่ชั้นใต้ดินและนิยมเรียกกันว่า เดปะชิกะ (デパ地下 / Depa Chika ชั้นใต้ดินห้าง) แต่ละร้านจะเรียงรายกันอยู่บนชั้นนี้ชั้นเดียว ร้านค้าทั้งหมดมีการขายแบบเจอหน้าเจ้าของร้านโดยตรง และคุณสามารถสอบถามเกี่ยวกับรายละเอียดของผลิตภัณฑ์ได้ที่ร้านเลยค่ะ

สินค้าที่วางขายก็มีมากมาย ทั้งขนมญี่ปุ่นและตะวันตกหลากชนิด ไปจนถึงข้าวกล่องเบ็นโตะ (お弁当 / Obento) และกับข้าวค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผลิตภัณฑ์ที่แนะนำสำหรับซื้อไปเป็นของฝากของที่ระลึกอย่างขนมประจำภูมิภาคและผลิตภัณฑ์พิเศษระดับประเทศก็ไม่ควรพลาดค่ะ

สินค้าเบ็ดเตล็ดของญี่ปุ่น

ในห้างสรรพสินค้านั้นยังมีร้านค้าที่คุณสามารถซื้อสินค้าเบ็ดเตล็ดของญี่ปุ่นได้ด้วยค่ะ มีสินค้าเบ็ดเตล็ดของญี่ปุ่นมากมายที่แนะนำสำหรับซื้อไปเป็นของที่ระลึก เช่น ผ้าเช็ดมือญี่ปุ่นเทะนุกุอิ (手ぬぐい / Tenugui) ผ้าห่อของฟุโรชิกิ (風呂敷 / Furoshiki) และพัดแบบพับได้ (扇子 / Sensu) เป็นต้นค่ะ

นอกจากนี้ยังมีร้านค้าระดับสูงสำหรับเสื้อผ้าญี่ปุ่นอย่างชุดยูกาตะและชุดกิโมโนด้วย คุณจึงสามารถไปพบกับเสื้อผ้าญี่ปุ่นที่สวยงามเหล่านั้นได้ค่ะ

ร้านอาหาร

ทำอะไรได้บ้างที่ห้างสรรพสินค้าญี่ปุ่น?

ร้านอาหารมักจะรวมตัวกันที่ชั้นบนสุดของห้างสรรพสินค้า โดยมีทุกอย่างตั้งแต่อาหารญี่ปุ่นไปจนถึงอาหารตะวันตก มีร้านอาหารหลากหลายรูปแบบตั้งแต่ร้านสุดหรูหราไปจนถึงร้านอาหารทั่วไปค่ะ

นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารบางแห่งที่คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับวิวทิวทัศน์ที่สวยงามได้เพราะตั้งอยู่บนชั้นที่อยู่สูงมากค่ะ

ห้างสรรพสินค้าญี่ปุ่นมีบริการมากมายสำหรับผู้ที่มาเยือนญี่ปุ่น

ห้างสรรพสินค้าในญี่ปุ่นมีบริการสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในญี่ปุ่นเป็นพิเศษด้วยค่ะ แม้ว่ามันจะขึ้นอยู่กับห้างสรรพสินค้าแต่ละแห่ง แต่ในที่นี้เราจะแนะนำบริการน่าสนใจ 4 อย่างกันค่ะ

อย่างแรกก็คือการบริการยกเว้นภาษีค่ะ มีเคาน์เตอร์เฉพาะติดตั้งไว้เพื่อให้ง่ายต่อการไปรับบริการลดหย่อนภาษีค่ะ

อย่างที่สองก็คือบริการส่งพัสดุค่ะ นี่คือบริการยอดนิยมซึ่งจะจัดส่งสินค้าที่ซื้อจากห้างสรรพสินค้าไปยังที่พักของคุณภายในวันเดียวกันค่ะ ว่ากันว่าจะมีโรงแรมอีกหลายแห่งที่จะกลายเป็นคู่สัญญากับทางห้างสำหรับบริการนี้ในอนาคตอีกด้วยค่ะ

อย่างที่สามก็คือการแปลด้วยแท็บเล็ตค่ะ มีการนำการแปลด้วยแท็บเล็ตมาใช้เพื่อให้สามารถสื่อสารได้อย่างราบรื่นซึ่งมักจะเป็นปัญหาเมื่อทำการซื้อค่ะ

อย่างที่สี่ก็คือบริการช่วยเหลือด้านการช้อปปิ้งค่ะ พนักงานที่สามารถพูดภาษาอังกฤษและภาษาจีนได้จะคอยช่วยคุณในเรื่องช้อปปิ้งค่ะ เป็นการสร้างสภาพแวดล้อมที่ชาวต่างชาติที่มาเยือนญี่ปุ่นสามารถซื้อสินค้าได้อย่างสะดวกง่ายดายมากยิ่งขึ้นค่ะ

ห้างสรรพสินค้าในญี่ปุ่นที่แนะนำ

มีห้างสรรพสินค้ามากมายใกล้สถานีต่าง ๆ ในเมืองใหญ่อย่างโตเกียวและโอซาก้าค่ะ

ตัวอย่างเช่นในโตเกียวมีห้างสรรพสินค้าถึง 24 แห่งในย่านกินซ่า ชินจุกุ นิฮอนบาชิ สถานีโตเกียว อิเคะบุคุโระ และอื่น ๆ ส่วนในจังหวัดโอซาก้ามีห้างสรรพสินค้าประมาณ 20 แห่ง ส่วนใหญ่อยู่ในย่านอุเมดะและชินไซบาชิค่ะ (ข้อมูล ณ เดือนตุลาคม 2019)

ห้างสรรพสินค้าที่เราแนะนำคือ ห้าง MITSUKOSHI ห้าง ISETAN และห้าง Takashimaya ค่ะ

MITSUKOSHI เป็นห้างสรรพสินค้าที่เป็นเหมือนตัวแทนของประเทศญี่ปุ่น และมีบรรยากาศที่ผ่อนคลาย ร้านค้าหลักของทั้งห้าง Takashimaya และห้าง MITSUKOSHI ตั้งอยู่ในนิฮอนบาชิ ซึ่งทั้งสองแห่งก็ยังเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญของญี่ปุ่นด้วยค่ะ

ISETAN เป็นห้างสรรพสินค้าที่ไม่เพียงแค่ขยายสาขาไปทั่วประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงต่างประเทศด้วย และมีร้านค้าแฟชั่นมากมายที่รวมเอาเทรนด์ล่าสุดมาใช้ค่ะ ถุงกระดาษที่มีลายสก็อตก็เป็นลักษณะเด่นนอย่างหนึ่งค่ะ

ส่วน Takashimaya เป็นห้างสรรพสินค้าหรูหราที่เป็นที่นิยมของคนรุ่นใหม่ค่ะ

หัวข้อเรื่อง

Survey[แบบสอบถาม] กรุณาบอกเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในญี่ปุ่น







Recommend