แบ่งปันประสบการณ์เรียนภาษาญี่ปุ่นที่สถานบันภาษาและการใช้ชีวิตในญี่ปุ่น

ชื่อโรงเรียน สถานที่ ขนาด และข้อมูลทั่วไป

สถาบัน ABK ตั้งอยู่ที่ Bunkyo Ward โตเกียว ที่นี่จะเป็นแหล่งรวมสถานบันต่างๆมากมาย และยังเป็นบริเวณเดียวกับมหาวิทยาลัยโตเกียวอีกด้วย

ABK กรุ๊บ ก่อตั้งขึ้นในปี 1957 และสถาบัน ABK หรือที่มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า ABK学館日本語学校 (Asia Bunka Kaikan Gakkan Nihongo Gakkou หรือ Asia Culture Institute Japanese Language School) เพิ่งจะฉลองวันเกิดครบรอบ 5 ปีไปเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา เครื่องไม้เครื่องมือในการเรียนการสอนของที่นี่จึงยังใหม่และมีความทันสมัย รวมถึงคุณครูทุกท่านที่นี่ก็ตั้งใจสอนกันอย่างเต็มที่

สถาบันแห่งนี้มีนักเรียนประมาณ 240 คน โดยส่วนใหญ่จะเป็นนักเรียนที่มาจากประเทศในแถบเอเชีย เช่น จีน ไต้หวัน ฮ่องกง เวียดนาม ไทย มาเลเซีย และเกาหลี

ค่าใช้จ่ายในการเรียนและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ

ค่าเรียนจะอยู่ที่ 620,000เยน โดยจะไม่รวมค่าลงทะเบียน 20,000เยน และค่าแรกเข้า 80,000เยน หรือรวมๆแล้วจะอยู่ที่ 720,000เยน หรือราวๆ 220,000บาทไทยสำหรับการเรียน 1 ปี ซึ่งคุณจะได้เรียน 860ชั่วโมง อุปกรณ์การเรียน และการช่วยเหลือต่างๆ

ในแต่ละสัปดาห์จะมีอาจารย์ประมาณ 2-3 คนผลัดเวียนกันมาสอน เช่น Minaguchi-sensei จะสอนวันจันทร์ อังคาร และศุกร์ เป็นต้น ในระหว่างคาบเรียนจะมีเบรคสั้นๆให้นักเรียนได้พักบ้าง และอย่างที่ทุกคนคาดไว้คือเรื่องความตรงเวลา ถ้าคุณมาสายแม้แต่นาทีเดียว ก็จะถือว่าคุณมาสาย

นอกจากค่าเรียนแล้ว ก็ยังมีค่าที่พักที่เราจะต้องเสีย ฉันเลือกที่จะพักที่หอพักของโรงเรียน ซึ่งฉันสามารถเดินมาที่นี่อย่างสบายๆเพียง 15 นาทีเท่านั้นเอง เพื่อที่ฉันจะได้ประหยัดค่าเดินทางฝ ราคาของหอพักที่นี่คือประมาณ 50,000เยนรวมค่าไฟฟ้าและบริการอื่นๆ อย่างไรก็ตามราคาห้องก็ขึ้นกับแบบห้องและจำนวนห้องก็มีจำกัด นักเรียนหลายๆคนจึงเลือกที่จะไปเช่าที่อื่นมากกว่า เพราะพวกเขาจะสามารถแชร์ค่าห้องกับเพื่อนได้

ทำไมฉันถึงเลือกเรียนภาษาญี่ปุ่นที่นี่

เหตุผลแรกที่ฉันเลือกมาเรียนที่นี่คือ โรงเรียนแห่งนี้ตั้งอยู่ในโตเกียว รวมถึงมีนักเรียนจำนวนมากที่จบการศึกษาจากที่นี่และได้รับใบรับรอง JLPT รอบโรงเรียนมีระบบขนส่งและมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย นอกจากนั้นแล้วค่าเรียนยังสมเหตุสมผลอีกด้วย

อีกทั้งชั่วโมงเรียนของที่นี่สั้นกว่าที่อื่น นั่นหมายความว่าฉันจะได้มีเวลาไปเรียนในสิ่งที่ฉันสนใจเพิ่มเติมด้วยตัวเอง

สิ่งที่ใช้ในการพิจารณา

หนึ่งสิ่งที่ฉันพบคือ การเรียนจะได้ผลมากขึ้นหากชั้นเรียนที่คุณเรียนไม่มีคนที่พูดภาษาเดียวกับคุณ เช่น อังกฤษ จีน หรือไทย เพราะเมื่อคุณพบว่าพวกเขาพูดภาษาเดียวกับคุณ สุดท้ายพวกคุณก็จะเม้ากันด้วยภาษาที่คุณพูดเป็นปกติโดยอัตโนมัติ

นอกจากนั้นแล้ว ถึงแม้ว่าโรงเรียนจะระบุว่าคอร์สเรียนครอบคลุมทั้งวิชาการ วัฒนธรรม และประสบการณ์ ชั่วโมงของการศึกษาประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของญี่ปุ่นยังไม่เพียงพอ อย่างไรก็ตาม ที่นี่มีห้องสมุดใกล้ๆที่คุณสามารถเข้าไปหาข้อมูลเพิ่มเติมได้หากคุณไม่รู้ว่าจะเริ่มศึกษาจากอะไร

ห้องสมุดใกล้ๆจะมีการจัดงานอีเว้นท์ต่างๆให้คุณได้เข้าร่วม โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

ห้องสมุด Sengoku และห้องสมุด Honkomagome เป็นที่ที่ดีในการเรียนภาษาญี่ปุ่นหรือมาเพื่อฝึกใช้ภาษา หรือถ้าภาษาคุณแข็งแรงขึ้นอีกสักหน่อยคุณสามารถเข้าไปหาความรู้เพิ่มเติมในโลกออนไลน์ได้อีกด้วย

หลังเข้าเรียน

การใช้ชีวิตในหอพักและโรงเรียนของฉันค่อนข้างราบรื่น เรียกว่าแทบจะไม่มีปัญหาในการสื่อสารเลยก็ว่าได้ และในแต่ละวันก็ผ่านไปอย่างสบายๆ นั่นอาจเป็นเพราะฉันเตรียมตัวมาตลอด 3 ปี ในการเรียนภาษาญี่ปุ่นและดูซีรีย์ญี่ปุ่นบ่อยๆ ซึ่งในซีรี่ย์เราก็จะได้เห็นมารยาทและวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่น

ทำไมฉันถึงคิดว่าโรงเรียนนี้เป็นตัวเลือกที่ดี

ฉันคิดว่าฉันเลือกโรงเรียนได้ดีเชียวหละ หนึ่งคือเวลาเรียนเหมาะสมและลงตัว อาจารย์ฟังความเห็นของนักเรียนต่อการเรียนการสอนในชั้นเรียน หอพักก็ใกล้ทั้งโรงเรียนและห้องสมุด ฉันรู้สึกว่ามันช่วยให้ประหยัดเวลาในการเดินทางไปมากเลยทีเดียว รวมไปถึงโรงเรียนก็อยู่ใกล้สถานีรถไฟ JR และใต้ดินด้วย

ฉันได้มีเพื่อนใหม่มากมาย ถึงแม้ว่าเพื่อนใหม่จะไม่ช่วยให้ฉันพัฒนาภาษาญี่ปุ่นเท่าไร เพราะพวกเราคุยกันเป็นภาษาจีนและอังกฤษซะเป็นส่วนใหญ่

การช่วยเหลืออื่นๆ (เช่น การหาที่พัก และการให้คำปรึกษาในการหางานแบบ Part-time)

โรงเรียนจะสามารถให้คำแนะนำในเรื่องการหางานและอาจารยประจำชั้นก็สามารถเป็นผู้ให้คำปรึกษาที่ดีด้วยเช่นกัน

ทุกๆเทอมจะมีการตรวจสุขภาพฟรี คุณสามารถปรึกษาคุณหมอเรื่องสุขภาพหรือเรื่องอาการที่คุณกังวลได้ และแน่นอนว่าคุณต้องพูดภาษาญี่ปุ่นกับคุณหมอนะคะ ให้ถือว่าคุณจะได้ฝึกภาษาไปในตัวก็แล้วกัน