เรื่องราวลี้ลับและสยองขวัญ ตอนที่ 18: เรื่องสยองสั้นๆตามในเน็ตเกี่ยวกับ “เกมทดสอบความกล้า”

  • 1 พฤศจิกายน 2018
  • 7 กรกฎาคม 2020
  • Mon
  • Mon

เรื่องราวลี้ลับและสยองขวัญ ตอนที่ 18: เรื่องสยองสั้นๆตามในเน็ตเกี่ยวกับ “เกมทดสอบความกล้า”

เกมทดสอบความกล้าเป็นการละเล่นที่เล่นกันในหมู่วัยรุ่นญี่ปุ่น เพื่อให้ขนลุกคลายความร้อนในช่วงฤดูร้อน แต่บ่อยครั้งก็ไปเล่นบนสถานที่ที่มีผีสิงจริงๆ จนเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นครับ จริงหรือไม่ ก็มีเรื่องมาให้อ่านแล้ว เชิญอ่านได้ครับ ถ้าคุณกล้าพอ!

"เกมทดสอบความกล้า" คืออะไร

ในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า 肝試し หรือ "คิโมดาเมชิ" ซึ่งมาจากคำว่า 肝 (คิโมะ “ตับ” แต่ยังสามารถหมายถึงกึ๋นหรือใจที่กล้าสู้เรื่องน่าหวาดเสียวได้ด้วย) และ 試し (ทาเมชิ “ทดสอบ” หรือ “ลอง”) มักจะจัดเป็นกิจกรรมโรงเรียน เช่นในช่วงเข้าค่ายฤดูร้อนหรือการติวที่โรงเรียน หรือกิจกรรมชมรมต่างๆ บ้างก็เล่นกันในหมู่เพื่อนเพื่อความสนุก แต่บางคนก็ใช้เป็นเกมลองของเพื่อไปยังสถานที่ร้างหรือที่ที่มีผีจริงๆเพื่อพบเจอเหตุการณ์พิลึกหรือถ่ายภาพวิญญาณ

แต่ไม่ว่าจะไปด้วยเหตุผลอะไรที่ทำให้พวกเขาไปเล่นเกมวัดใจกันมาก็ตาม คนเหล่านี้ก็ได้เจอสิ่งที่ต้องการ และสิ่งที่ไม่คาดคิดอีกด้วย…

ระวังสุนัขจิ้งจอกไว้ให้ดี

ระวังสุนัขจิ้งจอกไว้ให้ดี

ผมกับเพื่อนรวมสี่คนได้เดินทางไปเล่นเกมทดสอบความกล้ากันที่ศาลเจ้าบนเขากลางป่าลึกตอนตีหนึ่ง โดยคุยกันประมาณว่า จะแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มละสองคน กลุ่มหนึ่งรอที่ทางเข้าเส้นทางเดินป่า อีกกลุ่มเดินเข้าป่าไปที่ศาลเจ้าก่อน

กติกามีอยู่ว่า ภายในศาลเจ้าจะมีหน้ากากจิ้งจอกอยู่สองอัน แต่ละกลุ่มต้องให้คนในกลุ่มหนึ่งคนสวมหน้ากากและกลับลงมาที่ทางเข้า หากมีอะไรเกิดขึ้นให้ติดต่อกันทางโทรศัพท์ ส่วนกลุ่มไหนมีใครเผลอส่งเสียงแตกตื่นหรือแหกปากร้องก็ถือว่าแพ้

กลุ่มแรกไปที่ศาลเจ้าและกลับลงมาทำสีหน้าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ถึงตากลุ่มผม ผมไปที่ศาลเจ้า เปิดประตูศาล หยิบหน้ากากออกมาสวม ตอนนั้นก็ไม่ได้รู้สึกเอะใจอะไร…

ระวังสุนัขจิ้งจอกไว้ให้ดี

พอกลับลงมาถึงทางเข้าเส้นทางเดินป่า พอผมจะถอดหน้ากากออก กลับถอดไม่ออกขึ้นมาซะงั้น

ตอนนั้นผมแตกตื่น รีบพยายามถอดสุดชีวิต จนในที่สุดหน้ากากก็หลุดออกมาได้ด้วยวิธีอะไรก็ไม่แน่ใจ พอผมส่องไฟก็เห็นเพื่อสามคนมองหน้าผมด้วยสีหน้าไม่ดี

"เฮ้ย เป็นไรป่าว?" เพื่อนๆถาม ผมรู้สึกเหมือนมีอะไรติดที่หน้าผม พอลองเอามีจับไปดู ก็รู้สึกเหมือนของเหลวเหนอะๆ…

ซึ่งก็คือเลือด

ผมไปล้างหน้าที่แม่น้ำใกล้ๆ จากนั้นเราก็แยกย้ายกันกลับบ้าน

ในวันถัดมา ผมยังรู้สึกคาใจ เลยว่าจะไปดูหน้ากากจิ้งจอกที่ศาลเจ้าอีกครั้งว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่ก็ต้องประหลาดใจที่ไม่พบศาลเจ้าในจุดที่ควรจะมี แน่นอนว่าผมลองหาดูทั่วรวมถึงในบริเวณใกล้เคียงด้วย…

เกิดอะไรขึ้นกับศาลเจ้าแห่งนั้นกันแน่?

ผมก็ยังสงสัยอยู่จนถึงทุกวันนี้

จากผู้ใช้ Yamata no Orochi บนเว็บเรื่องสยอง Sakebigoe (เสียงหวีดร้อง)

---------------------------

ตามความเชื่อของญี่ปุ่น สุนัขจิ้งจอกเป็นโยไคที่ชอบหลอกผู้คน สามารถจำแลงกายหรือสร้างภาพมายาหลอกตาคนได้ และยังมีบางส่วนเป็นผู้ส่งสารของเทพต่างๆ เช่นศาลเจ้าอินาริต่างๆที่บูชาเทพจิ้งจอกให้เป็นผู้ส่งสารของเทพอินาริ เทพแห่งรวงข้าว แต่กรณีนี้ ถ้าจะบอกว่าโดนกลุ่มแรกแกล้ง แล้วศาลเจ้าที่หายไปในชั่วข้ามคืนนี่จะอธิบายยังไง… เอาไว้ไปคิดดูเองเล่นๆสนุกๆนะครับ หึหึหึ

รักษามารยาทให้ดี อย่าไปลบหลู่ผีเข้าหล่ะ

นี่เป็นเรื่องราวของเด็กม.ปลายกลุ่มหนึ่ง นักเรียนม.ปลายสามคนได้ไปลองของกันที่โรงพยาบาลร้างที่หมู่นี้ร่ำลือกันว่ามี"[ผี] ปรากฏตัว”

ในกลุ่มมีคนถือกล้องวิดีโอและเดินเข้าไปในโรงพยาบาลอย่างกล้าๆกลัวๆ

"ขอรบกวนด้วยนะคร้าาาบ" (お邪魔します "โอจามะชิมัส" คำที่ใช้ก่อนเข้าบ้านหรือห้องคนอื่น)

ทั้งสามเดินลึกเข้าสู่ภายในโรงพยาบาล ได้ไปพบห้องผ่าตัด และเจอบันทึกการรักษาพยาบาล (karte หรือ カルテ ในภาษาญี่ปุ่น)

ทั้งสามเก็บบันทึกเป็นของที่ระลึกโดยนำใส่กระเป๋า และมุ่งหน้าไปยังทางออกโรงพยาบาล

"ขอโทษที่มารบกวนนะคร้าาาบ" (お邪魔しました “โอจามะชิมาชิตะ” คำที่ใช้เวลาจะออกจากบ้านหรือห้องคนอื่น)

ทั้งสามอดใจรอดูวิดีโอไม่ไหว รีบไปรวมตัวกันที่ห้องเจ้าของกล้องเพื่อดู โดยต่อวิดีโอเข้ากับโทรทัศน์ ดูผ่านหน้าจอซึ่งฉายภาพโรงพยาบาลแต่ไกล

"ขอรบกวนด้วยนะคร้าาาบ"

นั่นคือตอนที่กำลังจะเข้าไปยังภายในตัวโรงพยาบาล และในตอนนั้นเอง

"ยินดีต้อนรับค่ะ" (いらっしゃいませ “อิรัชไชมะเสะ”)

ทั้งสามคนมองหน้ากันอย่างงงงวย

ได้ยินกันอย่างชัดเจน เป็นเสียงผู้หญิงที่ไม่ได้ยินตอนไปลองของ

ตัวกล้องยังฉายภาพเดินลึกเข้าไปในตัวอาคารต่อเรื่อยๆ

"ก็ไม่ได้โทรมอะไรอย่างที่คิดนะ"

"ขอบคุณค่ะ"

"คิดว่าคงไม่มีอะไรหรอกมั้ง"

"ก็ไม่เชิงหรอกค่ะ"

ยิ่งดูทั้งสามเริ่มมีสีหน้าซีดเผือก

แน่นอนว่าไม่ได้หูฝาดไปเองแน่ มีเสียงผู้หญิงพูดบันทึกลงในวิดีโอด้วยอย่างชัดเจน

หน้าจอเริ่มสว่างขึ้นเรื่อยๆเมื่อกล้องวิดีโอมุ่งหน้าสู่ทางออกโรงพยาบาล

"ขอโทษที่มารบกวนนะคร้าาาบ"

"เดี๋ยวก่อนค่ะ"

เสียงที่ได้ยินต่างจากเสียงที่พูดก่อนหน้า ดูเศร้า อารมณ์เสีย เป็นเสียงทุ่มต่ำ ฟังดูไม่เป็นมิตรเท่าใดนัก

ในตอนนั้นเอง เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น

ทั้งสามมองหน้ากันสักครู่และลองรับสายดู

เสียงจากปลายสายเป็นเสียงเดียวกับที่ได้ยินในวิดีโอไม่ผิดเพี้ยน

"สวัสดีค่ะ โทรมาจากโรงพยาบาลXXXXค่ะ ไม่ทราบว่าพอจะนำบันทึกการรักษาพยาบาลที่พกกลับบ้านไปกลับมาคืนได้ไหมคะ?…"

จากผู้ใช้ Yozakura no Ayakashi บนเว็บเรื่องสยอง Sakebigoe (เสียงหวีดร้อง)

---------------------------

มารยาทดีก็มีแต่คนเอ็นดู แต่อย่าเผลอไปหยิบฉวยของของคนอื่นกลับมาหล่ะ โดยเฉพาะในกรณีที่คุณไม่สามารถได้ยินเสียงอนุญาตของพวกเขาได้!

บทความก่อนๆ

หัวข้อเรื่อง

Survey[แบบสอบถาม] กรุณาบอกเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในญี่ปุ่น







Recommend