เรื่องราวลี้ลับและสยองขวัญ ตอนที่ 7: ตำนานการครองรักขององค์อิซานากิและองค์อิซานามิ

  • 26 กรกฎาคม 2018
  • 11 มิถุนายน 2020
  • Mon
  • Mon

เรื่องราวลี้ลับและสยองขวัญ ตอนที่ 7: ตำนานการครองรักขององค์อิซานากิและองค์อิซานามิ

ในตอนนี้ เราขอนำเรื่องเล่าอันเป็นปฐมตำนานของญี่ปุ่นที่เล่ากันปากต่อปากจากรุ่นสู่รุ่นจนได้รับการบันทึกลงในจารึกโบราณ (古事記 โคะจิกิ) และพงศาวดารญี่ปุ่น (日本書紀 นิฮอนโชกิ) ว่าด้วยเรื่องการให้กำเนิดหมู่เกาะญี่ปุ่นและการให้กำเนิดทวยเทพประจำที่นี่ รู้ไหมครับว่า แม้ว่าเทพทั้งหลายจะมีอายุยืนราวกับเป็นอมตะ แต่ก็มิได้อยู่ยงคงกระพันแต่อย่างใด มาดูกันเลยดีกว่าครับ!

บทความก่อนๆ

ตำนานเทพกรณัมญี่ปุ่น การถือกำเนิดของเทวโลก

ตำนานเทพกรณัมญี่ปุ่น การถือกำเนิดของเทวโลก

ก็ไม่ต่างกับตำนานเทพกรณัมของวัฒนธรรมอื่นๆ ญี่ปุ่นเองก็มีตำนานเทพปกรณัมการถือกำเนิดของจักรวาลเช่นกัน ในบันทึกจารึกโบราณได้กล่าวไว้ว่า จากสะสารที่ผสมปนเปกันไม่เป็นระเบียบจากการถือกำเนิดของจักรวาลที่ไม่ระบุที่มา อนุภาคที่มีมวลเบาละเอียดและอนุภาคแสงก็แยกตัวไปรวมอยู่เบื้องบนสะสารอื่นๆ กำเนิดเป็น “ที่ราบฟ้าสูง” (高天原 ทาคามากาฮาระ) หลังจากนั้นก็มีตัวตนปฐมภูมิปรากฏตัวขึ้นในดินแดนนี้

สำหรับญี่ปุ่นที่มีเทพหลายองค์ถือกำเนิดขึ้นเป็นคู่ เทพที่ถือกำเนิดโดยสันโดษจึงถูกเรียกว่า เทพสันโดษ (独神 ฮิโตริกามิ) ส่วนเทพที่ถือกำเนิดเป็นคู่ชายหญิงจะถูกเรียกว่า เทพแฝด (双神 นาราบิคามิ) แต่แรกมีเทพสามองค์กำเนิดขึ้นมาทีละองค์ เรียกทั้งสามรวมกันว่า สามเทพผู้สร้าง (造化三神 โซกะซันชิน)

และจากที่ราบฟ้าสูง ทาคามากาฮาระ มีเทพอีกสององค์ถือกำเนิดขึ้นจากวัตถุที่มีรูปลักษณ์คล้ายต้นอ้อตั้งตรงสูงเด่น โดยทั้งสองก็ถือกำเนิดคล้ายๆกับสามองค์ก่อน คือ ถือกำเนิดแบบโอปปาติกะ (ไม่ได้เกิดในตม ในไข่ หรือในครรภ์ เกิดมาอยู่ในวัยสมบูรณ์ทันที) ไม่มีเพศระบุตายตัว กำเนิดขึ้นโดยสันโดษ และซ่อนกายาหลังถือกำเนิด (ตั้งอยู่ในอรูปภูมิ) มีคำเรียกรวมกับอีกสามองค์ก่อนหน้ารวมกันว่า ทวยเทพต่างเทวภูมิ (別天津神 โคโตอะมัตสึคามิ) ในจารึกโบราณก็มิได้กล่าวถึงองค์เทพเหล่านี้เลยหลังจากนั้น อาจเป็นเพราะอยู่ในอรูปภูมิที่ไม่มายุ่งเกี่ยวกับรูปภูมิก็เป็นได้ครับ

เทวโลกเจ็ดรุ่น

แม้ว่าจารึกโบราณจะกล่าวถึงองค์เทพทั้งห้าที่เรียกกันว่า โคโตอะมัตสึคามิ (ทวยเทพต่างเทวภูมิ) พงศาวดารญี่ปุ่นกลับไม่ได้กล่าวถึงองค์เทพเหล่านั้นแต่อย่างใด และถือว่าเหล่าเทพที่เรียกกันว่า “คามิโยะนานะโยะ” (神世七代 เทวโลกเจ็ดรุ่น) เป็นเหล่าทวยเทพองค์แรกๆประจำแดนสวรรค์แทน ซึ่งเทวโลกเจ็ดรุ่นนี้ก็ปรากฏในบันทึกจารึกโบราณเช่นกัน โดยสองรุ่นแรกก็ถือกำเนิดขึ้นคล้ายปฐมเทพทั้งห้า คือ เกิดแบบโอปปาติกะ ไม่มีเพศ กำเนิดขึ้นโดยสันโดษ (独神 ฮิโตริกามิ) และอยู่ในอรูปภูมิไร้กาย แม้ว่าจะไม่ได้ปรากฏในบันทึกทั้งสอง แต่หลายคนเชื่อว่า เทพเหล่านี้กำเนิดขึ้นในสวรรค์เหนือโลกมนุษย์ในช่วงที่โลกเพิ่งก่อตัว โดยทั้งสององค์ที่ว่าคือ

  • คุนิโนะโทโคทาจิโนะคามิ (国之常立神 องค์เทพผู้สถิตประจำดินแดน)
  • โทโยคุโมโนโนะคามิ (豊雲野神 องค์เทพแห่งทุ่งเมฆาอันอุดม)

ส่วนอีกห้ารุ่นถัดมาถือกำเนิดขึ้นเป็นคู่เทวา-เทวี โดยองค์เทวาและเทวีรุ่นสุดท้ายก็คือ องค์อิซานากิ (伊邪那岐神 อิซานากิโนะคามิ) และองค์อิซานามิ (伊邪那美神 อิซานามิโนะคามิ) เชื่อกันว่า องค์คุนิโนะโทโคทาจิโนะคามิได้เรียกเทพทั้งสองให้ถือกำเนิดขึ้นเพื่อให้ไปสร้างแผ่นดินในแดนตะวันออก บางแหล่งข้อมูลก็เชื่อว่า พระนามขององค์เทพทั้งสองมาจากคำว่า อิซานาอุ (誘う เชื้อเชิญ อันเชิญ) แล้วเพิ่มคำต่อท้ายเพื่อระบุเพศ เป็น -กิ สำหรับเทวาเพศชาย และ -มิ สำหรับเทวาเพศหญิง (มีเทพอีกหลายองค์ที่กำเนิดจากทั้งคู่ที่ใช้วิธีตั้งชื่อคล้ายคลึงกันครับ)

กำเนิดหมู่เกาะญี่ปุ่น

กำเนิดหมู่เกาะญี่ปุ่น
ทัศนียภาพเกาะฮอนชูจากยอดเขาฟูจิ

ทั้งสองได้รับมอบง้าวนากินาตะพิเศษ (長刀 ง้าวลักษณะคล้ายดาบที่มีด้ามยาวเหมือนด้ามหอก) อันมีนามว่า อาเมะโนะนุโบโกะ (天沼矛 หอกมณีสวรรค์) เพื่อนำไปใช้ในภารกิจ ทั้งคู่เดินทางไปยังสะพานระหว่างสวรรค์และโลก ใช้ง้าวกวนน้ำทะเลที่เป็นโคลนเบื้องล่าง แบ่งดินกับน้ำออกจากกัน และ ณ จุดที่น้ำทะเลหยดลงจากปลายง้าวที่ยกขึ้นมา ก็เกิดเป็นเกาะที่มีนามว่า “โอโนโกโระ” (淤能碁呂島 ตามในจารึกโบราณ หรือ 磤馭慮島 ตามในพงศาวดารญี่ปุ่น อ่านว่าโอโนโกโระชิมะ เกาะที่กำเนิดขึ้นเอง) แต่ง้าวนี้สามารถใช้สร้างเกาะได้เพียงครั้งเดียว ทั้งสองจึงลงมายังโลกมนุษย์ สร้างวิหารบนเกาะชื่อ ยาฮิโรโดโนะ (八尋殿 อาศรมกว้างแปดวา) โดยมีเสาหลักภายในที่ชื่อว่า อาเมะโนะมิฮาชิระ (天御柱 เสาค้ำฟ้า) ทั้งคู่ได้ตกหลุมรักและแต่งงานกัน ณ ที่เกาะแห่งนี้ หลังสำรวจร่างกายของตน ทั้งคู่เชื่อว่า การร่วมรักของทั้งคู่จะช่วยสร้างแผ่นดินที่เหลือได้

บุตรธิดาแรกของเทพ

พิธีสมรสและร่วมรักของทั้งคู่ดำเนินขึ้นโดยองค์อิซานากิและองค์อิซานามิจะเดินวนรอบเสาค้ำฟ้าคนละทาง ไปพบกันที่กลางทางอีกด้านหนึ่งของเสา กล่าวคำทักทายแล้วร่วมรักกัน ซึ่งในคราแรกได้ให้กำเนิดทารกสองคน คือ ฮิรุโกะ (蛭子 เด็กทาก เพศชาย) และอาวะชิมะ (淡島 เกาะซีด เพศหญิง) ซึ่งก็ผิดจากเทพองค์ก่อนๆตรงที่ไม่ได้ถือกำเนิดมาแบบโอปปาติกะแต่เกิดจากครรภ์แทน แถมทั้งยังมีรูปร่างผิดปกติจนไม่สามารถจะนับเป็นเทพได้ ทั้งนี้ พิธีกรรมนั้นก็มีขึ้นเพื่อให้กำเนิดแผ่นดิน หาใช้เพื่อให้กำเนิดบุตรธิดาไม่

บางบันทึกกล่าวว่า ฮิรุโกะเกิดมาโดยไม่มีกระดูกหรือขา ซึ่งเป็นเหตุให้ได้ชื่อว่าเด็กทาก ทั้งฮิรุโกะและอาวะชิมะถูกนำไปใส่เรือคล้ายแปลลอยออกสู่ท้องทะเลไป ปัจจุบันเชื่อกันว่า ฮิรุโกะได้เอาชนะอุปสรรคและความยากลำบากต่างๆจนกลายเป็นเทพเต็มตัวที่มีนามว่า เอบิสึ ซึ่งเป็นเทพสัญชาติญี่ปุ่นองค์เดียวในเจ็ดเทพเจ้านำโชค (七福神 ชิจิฟุคุชิน)

กำเนิดแผ่นดิน

ด้วยความเศร้าโศกในเรื่องวิปริตที่เกิดขึ้น องค์อิซานากิและองค์อิซานามิก็ได้นำเรื่องไปทูนถามเทพองค์อื่นๆในแดนที่ราบฟ้าสูง ทาคามากาฮาระ เพื่อหาสาเหตุของเรื่องดังกล่าว เมื่อได้ฟังรายละเอียดเรื่องของทั้งคู่ เทพองค์อื่นๆก็สรุปว่า เป็นเพราะองค์อิซานามิได้กล่าวทักทายองค์อิซานากิก่อนเมื่อพบกันกลางทางระหว่างเดินเวียนเสา ครั้นเมื่อทั้งคู่กลับมาประกอบพิธีใหม่อย่างถูกต้องอีกครั้ง ก็ได้ให้กำเนิดเกาะขึ้นมาแทนทารก ทั้งคู่ให้กำเนิดเกาะใหญ่แห่งญี่ปุ่นทั้งแปดเกาะ (大八洲 โอยาชิมะ) โดยเกาะที่ทั้งคู่ให้กำเนิดเป็นเกาะแรก เชื่อว่าคือเกาะอาวาจิชิมะ (淡路島) ในจังหวัดเฮียวโงะ ส่วนเกาะสุดท้ายในแปดเกาะนั้นก็คือเกาะยามาโตะ (ภายหลังมีชื่อว่า เกาะฮอนชู) ทั้งนี้ หมู่เกาะโอกินาว่า เกาะฮอกไกโด และหมู่เกาะฉิชิมะนั้นไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของญี่ปุ่นในยุคการสร้างแผนดินนี้

กำเนิดเหล่าทวยเทพ

ครั้นมีแผ่นดินแล้ว องค์อิซานากิและองค์อิซานามิก็หันมาให้กำเนิดเทพและเทวาเทวีองค์ต่างๆต่อ โดยทุกองค์กำเนิดแบบกึ่งโอปปาติกะ คือกำเนิดออกจากครรภ์แต่อยู่ในวัยสมบูรณ์ทันที บางองค์ก็ไม่ได้มีเพศ คล้ายกับเทพสันโดษ ฮิโตริกามิ ในยุคก่อนกำเนิดแผ่นดิน จนถึงเทพองค์ที่ 17 ในครรภ์ขององค์อิซานามิ องค์ฮิโนะคากุทสึจิ (火之迦具土神 ฮิโนะคากุทสึจิโนะคามิ อัคนีเทพอิทธิฤทธิ์เจิดจรัส) ได้ถือกำเนิดมาพร้อมเปลวไฟ จนทำให้องค์อิซานามิผู้เป็นมารดามอดม้วยมรณา โดยระหว่างที่ทุรนทุรายกับเพลิงที่แผดเผา ของเหลวที่ไหลออกมาจากองค์อิซานามิก็ได้ถือกำเนิดกลายเป็นเทพอีก 6 องค์ ส่วนองค์อิซานากิที่ร่ำไห้กับความตายของคู่ครอง น้ำตาที่หลั่งก็ถือกำเนิดเทพอีกหนึ่งองค์

หลังร่ำไห้ไว้อาลัยเสร็จ องค์อิซานากิก็นำร่างขององค์อิซานามิไปฝังไว้ที่ภูเขาฮิบะ (比婆山) หลังจากนั้นความโศกเศร้าก็เปลี่ยนเป็นโทสะ นำดาบอาเมะโนะโอะฮาบะริ (天之尾羽張 ดาบติดขนหางสวรรค์) มาตัดเศียรขององค์คากุทสึจิ และแบ่งร่างส่วนที่เหลือให้ขาดจากกันทั้งสิ้นรวมแปดส่วน จากโลหิตขององค์คากุทสึจิก็มีเทพแปดองค์ถือกำเนิดขึ้น รวมไปถึงเทพแห่งท้องทะเลและเทพแห่งฝน ส่วนร่างกายทั้งแปดส่วนก็ถือกำเนิดเป็นเทพอีกแปดองค์ ในบางตำนานกล่าวว่าร่างกายทั้งแปดส่วนกลายเป็นภูเขาไฟทั้งแปดแห่งครับ ว่ากันว่า การกำเนิดขององค์คากุทสึจินับเป็นจุดจบการสร้างแผ่นดินและเป็นจุดเริ่มต้นของวัฏจักรความเป็น-ความตายของญี่ปุ่นกันครับ

ลงสู่โลกแห่งความตาย

ลงสู่โลกแห่งความตาย

องค์อิซานากิตัดสินใจจะนำพาตัวคนรักกลับสู่โลกสามัญ แต่เพื่อการนั้น องค์อิซานากิก็ต้องเดินทางสู่โลกเบื้องล่าง ที่ไม่ใช่เพียงเบื้องล่างของแดนสวรรค์เท่านั้น แต่ยังอยู่ใต้โลกมนุษย์ลงไปอีก ดินแดนแห่งความตาย โยมิโนะคุนิ (黄泉の国) ภพภูมิที่ถือกำเนิดจากอนุภาคที่หนักกว่าอนุภาคแสงที่ก่อตัวเป็นที่ราบฟ้าสูง ทาคามากาฮาระ หนักยิ่งกว่าสะสารที่ก่อตัวเป้นโลกมนุษย์ โลกแห่งผู้วายชนม์นั่นเอง

ในตอนหน้า เราจะติดตามองค์อิซานากิไปยังโลกเบื้องล่างกันครับ อ้อ ไม่ได้ตามลงไปจริงๆนะครับ ติดตามแค่เนื้อเรื่องครับ องค์อิซานากิต้องเผชิญความสยองของโลกมืดนั้นอย่างไรบ้าง ต้องคำสาปใดกลับมายังโลกมนุษย์บ้าง... คอยติดตามกันในตอนต่อไปนะครับ!

หัวข้อเรื่อง

Survey[แบบสอบถาม] กรุณาบอกเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในญี่ปุ่น







Recommend