5 เขตที่ดีที่สุดในโตเกียวที่คุณควรไปเยือน

อากิฮาบาระ

อากิฮาบาระ หรือ อากิบะ ถือเป็นสถานที่ยอดนิยมอย่างไม่อาจโต้แย้งได้ของเหล่าโอตาขุ โดยร้านส่วนมากเกือบทั้งหมดจะจำหน่ายสินค้าพวกอนิเมะ มังงะ วิดีโอเกม และสินค้าอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ที่นี่จึงถือเป็นสวนสนุกของพวกที่ชอบวัมนธรรมย่อยๆ เช่นนี้นั่นเอง ในส่วนของมังงะ ไม่เพียงแต่จะมีการ์ตูนดังอย่าง ฮันเตอร์ X ฮันเตอร์ สแลมดังก์ หรือนารูโตะ เท่านั้น แต่ยังมีมังงะเรื่องอื่นๆ อีกมากมาย ร้านแรกของการมาเยือนที่แห่งนี้ คงหนีไม่พ้นร้านมันดะระเกะ Mandarake, まんだらけ ซึ่งสามารถแปลได้ว่า “Full of Manga” หรือ เต็มไปด้วยมังงะ ไม่ใช่เพียงแค่นั้น พวกมังงะมือสอง สินค้าอนิเมะ หรือแม้แต่นิตยสารแปลกๆ ยังมีให้คุณค้นหาอีกมากมาย

นอกจากนี้ ขณะที่คุณเดินผ่านถนนเส้นต่างๆ ไม่ยากนักที่คุณจะได้เห็นกลุ่มผู้หญิงญี่ปุ่นสวมชุดสาวใช้และพยายามจะชักชวนให้คุณเข้าไปที่ร้าน “Maid Café” หากคุณมีความกล้าเพียงพอ คุณก็จะเดินตามพวกหล่อนเข้าไป และคุณก็จะได้พบภาพที่น่าตื่นตาที่ไม่เหมือนใครด้วยตัวของคุณเอง

การเดินทางจากชินจุกุ: สถานีอากิฮาบาระ ทางออก Electric town (สาย Chuo line หรือ Yamanote line).
ย่านอากิฮาบาระในช่วงกลางคืน

https://c2.staticflickr.com/4/3068/2971830393_8364e05eb0_b.jpg

มุมของมือสองในร้านมันดะระเกะ

https://c2.staticflickr.com/6/5069/5601775259_d47235e52a_b.jpg

อาซากุสะ

การเข้าใจประเพณีญี่ปุ่น อาจจะดูเป็นงานที่ต้องใช้ความพยายามอันเนื่องมาจากความซับซ้อน แต่มาลองกันดูค่ะ! โดยสิ่งแรกที่คุณควรทำคือการไปเยือนวัดที่ใหญ่ที่สุดในอาซากุสะ อย่างวัดเซนโซจิ การประดับประดาโดยไฟและกลิ่นของธูปบูชา ช่วยสร้างบรรยากาศของประเพณีในเขตพื้นที่นั้น แม้คุณอาจจะแค่ได้มีโอกาสเดินผ่าน หรือกระตือรือร้นที่จะเข้าไปชม คุณก็จะได้รับความเพลิดเพลิน เริ่มแรกเลยคือ Kaminarimon หรือประตูสายฟ้า ซึ่งสร้างขึ้นในปี 941 โดย Taira clan ซึ่งถือเป็นประตูทางเข้าหลัก และได้รับการพิทักษ์โดยเทพเจ้าทั้งสอง ได้แก่ Raijin คือเทพเจ้าแห่งแสงสว่าง และ Fujin คือเทพเจ้าแห่งสายลม ซึ่งทางเข้าที่ยิ่งใหญ่นี้จะนำทางท่านไปสู่อาคารหลัก และไม่ไกลจากกัน ประมาณเพียง 200 เมตร ก็จะมีถนนช้อปปิ้งที่ชื่อว่า Nakamise ซึ่งที่อาซากุสะนี้ยังถือเป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมสำหรับการซื้อของฝาก ในช่วงฤดูร้อนก็จะมีการจุดดอกไม้ไฟใกล้แม่น้ำสุมิดะ ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาที่เพอร์เฟคที่จะหลอมรวมและสร้างความเพลิดเพลินไปกับชาวญี่ปุ่น ที่จะออกมาสวมชุดยูกาตะ หรือชุดกิโมโน สำหรับในโอกาสเช่นนี้

คามินาริมง Kaminarimon หรือประตูสายฟ้า

https://c2.staticflickr.com/8/7742/17625161926_2fdb284730_b.jpg
https://c2.staticflickr.com/4/3539/3420842141_1e65e023c9_z.jpg?zz=1

ฮาราจูกุ

หลังจากที่เราอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบสังคมเมืองอันใหญ่โตมาสักหนึ่งถึงสองอาทิตย์ เราอาจจะคิดถึงความงามแบบธรรมชาติขึ้นมาบ้าง อย่างที่นี่ ด้วยการเป็นพื้นที่สีเขียวที่ใหญ่ที่สุดในโตเกียว นั่นคือสวนโยโยกิ ที่เป็นอีกทางเลือกที่ดีสำหรับการชาร์จพลังของคุณ คุณอาจจะคิดว่าพื้นที่ที่ยิ่งใหญ่แบบนี้น่าจะพบได้ในเมืองรอบนอก แต่จริงๆ แล้วมันตั้งอยู่ใจกลางกรุงโตเกียวเลยล่ะค่ะ ซึ่งอยู่ระหว่างเขต โยโยกิ ชินจุกุ ฮาราจุกุ และชิบุย่า นั่นเองค่ะ อย่างไรก็ตามการเข้าถึงที่ง่ายที่สุดก็คือการมากจาสถานีฮาราจุกุ เจอาร์ ทางออก Omotesando ค่ะ ซึ่งสวนนี้จะแบกออกเป็นสองส่วนนะคะ ส่วนที่ใหญ่ที่สุดจะเป็นพื้นที่สาธารณะ ที่อนุญาตให้ประชาชนเข้ามาปิคนิค เล่นกีฬา หรือมาเดินเล่นค่ะ ส่วนอีกด้านนึงก็จะค่อนข้างเป็นป่าโดยจะมีศาลเจ้าชื่อ Meiji jingo อยู่ตรงกลาง โดยศาลเจ้าแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ยุคเมจิ (1868 -1912)
โดยเป็นที่ทราบกับดีว่าพื้นที่บริเวณนี้มักจะใช้เป็นสถานที่จัดงานอีเวนท์หลากหลาย ข้ามถนนไปจนถึงใกล้กับ Yoyogi National Stadium นอกจากนี้หากคุณกลับไปทางสถานี ฮาราจุกุ เจอาร์ และถ้าตรงไปเรื่อยๆ คุณก็จะสามารถเดินทางไปถึงถนนโอโมเตะซันโดะ (Omotesando) ซึ่งเป็นย่านสำหรับของหรูหรา การไปเดินเที่ยวช้อปปิ้งหลังจากการไปเดินเล่นชมธรรมชาติถือเป็นอะไรที่ดีมากเลยนะคะ ฉันว่า

การเดินทางจากชินจุกุ: สถานีฮาราจุกุ (สาย Yamanote line)

สวนโยโยกิ

https://c1.staticflickr.com/3/2590/3711884067_036d0fa3b9_z.jpg?zz=1

ประตูด้านนอกของศาลเจ้าเมจิจินกุ

https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/2/21/Meiji-Jingu-Shrine-01.jpg

โอไดบะ

แม้ว่าในแผนที่ โตเกียวจะอยู่ใกล้กับทะเล แต่ในความเป็นจริงมันค่อนข้างยากที่จะเห็นทะเลเมื่อเดินทางไปที่โตเกียว และนี่ละค่ะ ที่ทำไมฉันต้องการจะแนะนำอ่าวโอไดบะ

ประการแรก เรามาพูดเรื่องการเดินทางไปที่นั่นกันค่ะ ซึ่งการจะเดินทางไปที่โอไดบะ แนะนำการใช้ โตเกียว โมโนเรล จาก Shimbashi ไปยัง Daiba โดยจะผ่านตึกสูงระฟ้าทั้งหลาย ก่อนที่จะผ่านไปยังสะพานสายรุ้ง (Rainbow Bridge) และฉันแนะนำให้คุณลงป้ายที่ 7 คือ สถานี Daiba เพราะว่าจะเป็นที่เมื่อมองตรงไปด้านหลังอ่าวจะเห็นสะพาน หลังจากเดินไปตามชายฝั่ง คุณอาจจะลองนั่งเรือหรือลองไปเดินช้อปปิ้ง เพราะที่นี่ก็มีช้อปปิ้งมอลล์อยู่มากมาย หากคุณเลือกที่จะเดินช้อปปิ้ง อย่าลืมไปเยี่ยมชมเทพีเสรีภาพ และหุ่นกันดั้มที่อยู่ใกล้ห้าง Tokyo City Plaza กันด้วยนะคะ

การเดินทางจากชินจุกุ: สถานีไดบะ (สาย Yamanote line และสาย Yurikamome – โมโนเรล)
https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/4/47/Yurikamome_shiodome.jpg

https://pixabay.com/p-1400095/?no_redirect

https://c4.staticflickr.com/2/1271/4689486371_cf46a37a6c_b.jpg

ชิบุย่า

คงไม่เป็นการยุติธรรมหากไม่ได้กล่าวถึงสถานที่ท่องเที่ยวแห่งอนาคตเช่นนี้ ใครที่ยังไม่เคยได้เห็นห้าแยกชิบุย่าที่เต็มไปด้วยตึกประดับไฟบ้างมั้ยคะ? คุณจะต้องลองการเดินผ่านคนจำนวนมากที่แยกนี้ดูสักครั้งในชีวิตนะคะ ถนนต่างๆ ของชิบุย่าจะเต็มไปด้วยทิวทัศน์อันหลากหลาย แต่สิ่งที่คุณจะเห็นซะเป็นส่วนมากคือร้านอาหาร บาร์ และคลับ ซึ่งที่นี่เป็นที่สำหรับโตเกียวไนท์ไลฟ์นั่นเองค่ะ นอกเหนือจากนั้นเหตุผลที่เราไม่เคยเบื่อสถานที่นี้เลยก็คือเป็นย่านที่ไม่เคยหลับใหล มีแสงไฟ และผู้คนทั้งกลางวันและกลางคืน ฉันคิดว่าชิบุย่าถือสถานที่ที่เพอร์เฟคที่สะท้องภาพความเป็นเมืองสมัยใหม่ของโตเกียว และด้วยเหตุผลทั้งหมด คุณควรจะแวะมาที่นี่

การเดินทางจากชินจุกุ: สถานีชิบุย่า (สาย Yamanote line).

https://c2.staticflickr.com/6/5753/21679304953_012bf53716_b.jpg

https://c2.staticflickr.com/6/5136/5526440595_84ab2e6c50_b.jpg Views of Shibuya crossing https://c2.staticflickr.com/4/3129/2394083506_4045f48502_z.jpg?zz=1