FUN! JAPAN PR

เคยไปกันหรือยังคะ แนะนำที่เด็ด คอร์สเที่ยวโทโฮคุหน้าหนาว ภาคแรก

  • 15 กันยายน 2017
  • FUN! JAPAN Team

20170911-18-01-tohoku-bus

สวัสดีค่ะทุกคน
เมื่อเดือนที่แล้วได้อ่านบทความครั้งแรกไปหรือยังคะ
คอร์สการเดินทางที่เราจะแนะนำกันในวันนี้จะเดินทางโดยรถบัสขึ้นได้ไม่จำกัดจำนวนครั้งตลอดช่วงเวลา 3 คืน 4 วัน
จองตั๋วรถบัสสุดคุ้มเที่ยวภูมิภาคโทโฮคุ Tohoku Highway Bus 
หากใช้ตั๋วนี้แล้วเพื่อนๆ สามารถเที่ยวภูมิภาคโทโฮคุได้ครบทุกที่เลย ราคาก็ถูกแล้วคุ้มสุดๆ ใช้ได้ไม่จำกัดจำนวนครั้งภายใน 4 วัน ราคาแค่ 10,000 เยน เองค่ะ! ลองเช็ควิธีการซื้อและวิธีการขึ้นรถบัสได้ที่ Japan Bus Online☞☞☞https://goo.gl/9v94ee

วันนี้ฉันจะแนะนำหลักสูตรสุดหรูแบบฝันที่จะไปทั่วจังหวัดมิยากิ→จังหวัดยะมะงะตะ→จังหวัดอิวาตะ→จังหวัดอาโอโมริไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ 4 จังหวัดในแต่ละวัน!
ใครอยากจะตามรอยคอร์สด้านบนก็สามารถไปกับทัวร์ของ JAPANiCANได้ค่ะ เพราะที่นี่จะมีให้ครบหมดทุกอย่างเลยทั้งที่พักและตั๋วรถบัสไม่จำกัดเที่ยว หรือใครอยากจะวางแพลนที่ตัวเองอยากไปก็ได้เช่นกันค่ะ♪

วันแรกของคอร์สจะเริ่มกันที่เมืองเซนได จังหวัดมิยางิ เมืองที่มีความงามของธรรมชาติและอาหารอร่อยมากมาย!

แนะนำว่าควรวางแผนให้มาถึงสถานีเซนไดในช่วงเช้า
หากใครมี JR Pass ใช้เดินทางจากสถานีโตเกียวด้วยรถไฟชินคันเซ็นก็ใช้เวลาเพียงชั่วโมงครึ่งเท่านั้น
หรือจะเดินทางโดยเครื่องบินมาลงที่สนามบินเซนไดได้โดยเครื่องบิน JAL ซึ่งมีโปรโมชั่นพิเศษ Japan Explorer Pass ราคา 5400 เยน!

วันนี้เราจะเที่ยวภายในเมืองเซนไดกันทั้งวันเลย
เริ่มที่แรก เราจะไปกันที่ Zuihoden

โดยจะใช้รถบัส Roopuru Sendai ค่ารถ 260 เยน นั่ง 5 นาทีก็ถึงแล้วค่ะ รถบัสสไตล์เรโทรแบบนี้ดูน่ารักดีใช่ไหมล่ะคะ แต่รถบัสนี้ไม่สามารถใช้ไฮเวย์บัสได้นะคะ ต้องระวัง

20170911-18-03-tohoku-bus

Zuihoden เป็นสถานที่ที่โชกุนผู้มีชื่อเสียงแห่งเมืองเซนได “ดาเตะ มาซามุเนะ” หลับใหลอยู่
สถาปัตยกรรมสีสันสดใสซึ่งแตกต่างจากที่อื่นๆ เราสามารถมาชมความงดงามของธรรมชาติตามฤดูกาลต่างๆ ได้ ทั้งหิมะ ซากุระ หรือแม้แต่ความเขียวชอุ่มในช่วงฤดูร้อน ไม่ว่าจะมาฤดูไหนก็สวยงามทุกฤดู

20170911-18-04-tohoku-bus

จากนั้นเราก็ใช้รถบัสเดิมขึ้นไปชมวิวเมืองเซนได ที่ปราสาทเซนได ถึงแม้จะเรียกว่าปราสาทแต่ก็เหลือเพียงร่องรอยฐานเดิมที่เคยเป็นปราสาทเท่านั้น

20170911-18-05-tohoku-bus

นักรบผู้ยิ่งใหญ่แห่งยุคสมัยเซนโกคุ ก็คือ ท่านดาเตะ มาซามุเนะนั่นเองค่ะ
เมื่อเราขึ้นมาที่นี่ก็จะพบกับรูปปั้นของท่านซึ่งถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของเมืองเซนได และเป็นจุดชมวิวด้วย
20170911-18-06-tohoku-bus

มาถึงที่นี่แล้วก็อยากให้ลองเครื่องดื่มสุดอร่อยที่หาทานที่อื่นไม่ได้

20170911-18-07-tohoku-bus

นี่เลยค่ะ “ซุนดะเชค” เครื่องดื่มที่ใช้ถั่วแระเป็นส่วนผสม ตอนนี้กำลังได้รับความนิยมมากในญี่ปุ่น ต้องลองให้ได้นะคะ!
จากนั้นเราจะไปต่อกันที่ “มัตสึชิม่า” ไม่มีใครไม่รู้จักที่นี่ เพราะมัตสึชิม่าขึ้นชื่อว่าเป็นสถานที่ที่มีวิวสวยที่สุดหนึ่งในสามของญี่ปุ่นเลยทีเดียว
เมื่อเราชมวิวข้างบนปราสาทเซนไดเสร็จแล้วก็นั่งรถกลับมาที่สถานีเซนไดอีกครั้ง จากนั้นก็จะใช้รถไฟ JR ไปยังมัตสึชิม่าไคกัง ที่นี่มีบริการล่องเรือชมวิวสวยๆ ค่าเรือ 1500 เยน ใช้เวลา 50 นาที ที่นี่ก็เช่นกัน เราสามารถมาเที่ยวได้ทุกฤดูเพราะจะมีความงดงามแตกต่างกันออกไป
20170911-18-08-tohoku-bus

วันนี้เราก็เดินทางเหนื่อยกันมาทั้งวันแล้ว ก็ได้เวลาอาหารเย็นกันค่ะ
พูดถึงเมืองมัตสึชิม่า ต้องลองร้านที่ขายหอยนางรมย่างกันนะคะ เป็นของขึ้นชื่อของที่นี่เลย
หอยนางรมจะอร่อยมากในช่วงฤดูใบไม้ร่วง – ฤดูหนาว ในช่วงนี้เราก็จะได้ทานหอยสดใหม่ร้อนๆ หืมมม แค่พูดก็น้ำลายไหลแล้ว เราไปทานกันเลยค่ะ!

20170911-18-09-tohoku-bus

เมื่ออิ่มท้องแล้วเราก็เดินทางกลับไปที่สถานีเซนไดกัน เพราะจากนี้เราจะใช้รถบัสไฮเวย์นั่งไปยังสถานี Yamagata กันค่ะ ใช้เวลาเดินทางประมาณหนึ่งชั่วโมง พอถึงสถานียามากาตะแล้วก็จะนั่งรถบัสในเมืองอีก 40 นาที เดินทางไปยัง Zao กันต่อ โดยลงที่ป้ายรถบัสชื่อ Zao Onsen เราก็จะขึ้นกระเช้าลอยฟ้าเพื่อชมวิวอันงดงามของซาโอ โดยเฉพาะปีศาจหิมะในช่วงฤดูหนาว หรือความงามของใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง
20170911-18-10-tohoku-bus

คืนนี้เราจะเช็คอินกันที่โรงแรม Yamagata International Hotel ซึ่งอยู่ใกล้กับสถานียามากาตะเลย
มื้อเย็นวันนี้เราจะลองทาน “ฮิยาชินิคุโซบะ” โซบะเย็นท็อปปิ้งด้วยเนื้อไก่ ซึ่งเป็นอาหารชื่อดังของจังหวัดยามากาตะ

20170911-18-11-tohoku-bus

วันที่ 2 เราจะเดินทางไปกันที่จังหวัดอิวาเตะ♪

เมื่อทานอาหารเช้าเสร็จก็เช็คเอ้าท์แล้วเดินทางกันต่อเลย เราจะขึ้นรถไฟจากสถานียามากาตะโดยจะไป “ยามะเดระ” ที่มีชื่อเสียง โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที
วัดยามะเดระซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ประจำจังหวัด เราต้องเดินขึ้นบันไดหินกว่า 1015 ขั้นเพื่อไปถึงข้างบน ขึ้นไปแล้วจะบอกว่าวิวสวยจับใจหายเหนื่อยเลยค่ะ
20170911-18-12-tohoku-bus

ไหว้พระขอพระกันเสร็จแล้ว เราก็จะใช้รถบัสของเมืองยามากาตะนั่งไปลงที่ป้าย Kajokoen เพื่อไปชมปราสาทยามากาตะ ซึ่งสถานที่แห่งนี้ได้รับเลือกให้เป็นปราสาทที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ 1 ใน 100 ของญี่ปุ่น และยังเป็นจุดชมดอกซากุระที่มีชื่อเสียง
20170911-18-13-tohoku-bus

นอกจากฤดูใบไม้ผลิ ที่นี่ก็สามารถมาเที่ยวได้ทุกฤดู ชมความงามของปราสาทและธรรมชาติเข้ากันอย่างลงตัว

จากนั้นเราก็จะเดินทางไปยังจังหวัดอิวาเตะกันค่ะ
โดยนั่งรถไฮเวย์บัสจากสถานียามากาตะกลับไปยังสถานีเซนได เมื่อถึงสถานีเซนไดแล้วเราก็จะเปลี่ยนรถบัสเพื่อต่อไปยังสถานีโมริโอกะ
ก่อนเปลี่ยนรถไปยังโมริโอกะ ก็ขอแวะเติมพลังกันก่อน เดินขึ้นไปที่ชั้น 3 ของสถานีเซนได เราก็จะเจอร้านกิวตันเรียงรายอยู่ 4 ร้าน เพื่อนๆ รู้จักกิวตันกันไหมคะ กัวตันก็คือลิ้นวัวย่างนั่นเอง ที่เซนไดนั้นขึ้นขื่อมากจึงอยากให้เพื่อนๆ ลองทานกันดูค่ะ หรือใครอยากจะทานซูชิก็มีให้เลือกทานที่ชั้นเดียวกัน
20170911-18-14-tohoku-bus

หนังท้องตึงหนังตาก็เริ่มหย่อนแล้ว เราก็ขึ้นรถบัสไปยังโมริโอกะ ระหว่างเดินทางก็จะได้หลับสบาย
เมื่อมาถึงสถานีโมริโอกะ โรงแรมที่เราจะพักวันนี้อยู่ติดกับสถานีรถไฟเลยค่ะ เรามาเช็คอินที่นี่กัน Hotel Metropolitan Morioka
พักเหนื่อยกันสักแป๊บแล้วออกไปเดินเล่นกันค่ะ เดินไปประมาณ 10 นาที ก็จะเจอกับสวนสาธารณะที่มีซากปราสาทโมริโอกะ ที่นี่จะประดับไฟเป็นประจำทุกปี ในเดือนธ.ค. – มี.ค. อาจจะหนาวหน่อยแต่รับรองว่าถ้าได้มาในยามค่ำคืนจะสวยและโรแมนติกมากๆ ค่ะ
20170911-18-15-tohoku-bus

จากนั้นเราก็จะไปหาอาหารเย็นทานกันใกล้ๆ สถานีโมริโอกะ อาหารขึ้นชื่อของที่นี่ก็ต้องเป็น โมริโอกะเรเมน หรือ ชาบูชาบูเมน จะทานอะไรดีน้า หมี่เย็นอร่อยสดชื่นก็น่ากิน ชาบูชาบูเมนแบบน้ำเข้มข้นก็น่าอร่อย เพื่อนๆ ต้องมาลองเองนะคะ!

20170911-18-16-tohoku-bus

จบการเดินทางของวันที่ 2 ขอตัวไปพักผ่อนก่อนนะคะ
การเดินทางต่อวันที่ 3 จะลงอัพเดทกันอีกครั้งในวันที่ 18 ก.ย. ไว้มาติดตามอ่านต่อนะคะ ครั้งหน้าเราจะพาไปเที่ยวจังหวัดอาโอโมริกันค่ะ
หากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมก็เช็คที่นี่ได้ ♪

หัวข้อเรื่อง

Recommend