

เราทั้ง 4 คนอยากจะลองนั่งเรือล่องแม่น้ำ Yanagawa กันดูสักครั้ง จึงเดินข้ามแม่น้ำไปบูทจำหน่ายตั๋วที่อยู่อีกฟากหนึ่งของสะพาน มีบริษัทที่ให้บริการถึง 4 แบรนด์ให้เลือกด้วยกัน แต่เราก็ขอเลือกบริษัทที่ออกไวที่สุด ซึ่งมีราคา 1,600เยนต่อเที่ยว โชคดีที่เราปริ้นท์ส่วนลด 10%มาจากอินเทอร์เน็ต จึงเหลือแค่คนละ 1,440เยนค่ะ
เรามีเวลารอเรือประมาณ 1 ชั่วโมงพวกเราใช้เวลานี้เดินเล่นรอบๆและเข้าห้องน้ำห้องท่าให้เรียบร้อย เราเตรียมขึ้นเรือก่อนเวลา 30 นาที แต่ก็ก็ต้องแอบตกใจเพราะตอนนั้นมีคนมายืนต่อคิวรอขึ้นเรือแถวยาวเหยียด เราคิดว่าเวลา 2 ชั่วโมงน้อยไปสำหรับการล่องเรือชมทัศนียภาพตามแม่น้ำ เพราะเราจะต้องลงเรือที่อีกฝั่งของแม่น้ำ แล้วจะต้องขึ้นรถบัสเพื่อกลับมาที่สถานีอีกครั้ง
สำหรับใครที่วางแผนว่าจะล่องเรือ ขอให้เตรียมทากันแดดไปให้แน่นๆเลยเพราะแดดจะแรงมากจริงๆ หรือเพื่อนๆสามารถหาซื้อหมวกพื้นเมืองญี่ปุ่นได้ในราคาเพียง 100เยน

วิวสองข้างทางไม่ทำให้พวกเราผิดหวังจริงๆ กัปตันพายเรือก็เทพมาก ยืนพายเรืออยู่ท้ายเรือได้อย่างทะมัดทะแมง

ตอนล่องแม่น้ำเหมือนกับอยู่ในเกมที่เราจะต้องผ่านสะพานที่มีความสูงความกว้างต่างๆกันไป

ล่องไปเรื่อยๆ ก็มีร้านค้าแบบ drive-through ด้วยนะคะ กัปตันถามพวกเราว่าอยากซื้ออะไรมั้ย ถ้าใครสนใจจะซื้อของก็ยกมือบอกได้เลย กัปปันก็จะพายเรือไปใกล้ๆร้าน

ระหว่างทาง กัปตันก็จะเล่าเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และตึกแต่ละตึกที่เราผ่าน ก่อนถึงฝั่งประมาณ 10นาที ก็มีเริ่มขับร้องเพลงท้องถิ่นให้ลูกเรือฟัง เสียงนุ่มๆแต่ดังกังวาลของกัปตันเข้ากับบรรยากาศตอนนั้นนมากๆ ตรงที่ท่าเรือขากลับจะมีร้านขายของที่ระลึก พิพิธภัณฑ์ และอาหารท้องถิ่นรอต้อนรับนักท่องเที่ยวอยู่มากมายเลยค่ะ

เวลาของรถshuttle busและรถบัสธรรมดาใช้เวลานานกว่าจะออก ซึ่งพวกเราต้องรอมากกว่า 30 นาที ดังนั้นเราจึงตัดสินใจเดินกลับสถานีแทนค่ะ ระหว่างทางก็ได้เห็นวิวของเมืองYanagawa สวยงามมากค่ะ
สถานที่ต่อไปคือสวน Enmei แถวสถานี Oomuta ที่ใช้เวลาเดินทางจากที่นี่ 15นาที และเดินต่ออีกประมาณ 15 นาที สวนแห่งนี้มีซากุระด้วย แต่ไม่มากเท่าไร พวกเราใช้เวลาตรงนี้ไม่นานมาก ก็เดินทางไปสู้จุดหมายสุดท้ายของวันนี้ค่ะ

จุดหมายปลายทางสุดท้ายคือ DazaifuTenmangu ที่สถานี Dazaifu ซึ่งใช้เวลาเดินทางถึง 1 ชั่วโมงจากสวนเมื่อกี้นี้ แต่ก็เป็นหนึ่งชั่วโมงที่สนุกสนาน พวกเราได้พูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องราวกันตลอดการเดินทาง

ที่นี่ก็มีลักษณะเช่นเดียวกับศาลเจ้าอื่นๆ ที่จะมีทางเดินยาวทอดไปสู่ด้านในศาลเจ้า ซึ่งตลอดข้างทางจะมีร้านค้าขายของที่ระลึกและอาหารชนิดต่างๆ ที่น่าสนใจคือสตาร์บักส์ที่ตั้งอยู่ที่นี่ก็ยังมีการตกแต่งด้วยไม้เพื่อให้เข้ากับสถานที่ด้วย
นี่เป็นครั้งแรกที่เราได้มาที่นี่ ซึ่งก็ยังไม่ค่อยรู้ว่าของขึ้นชื่อแถวนี้คืออะไร แต่หลายๆร้านจะขาย Umegaemochi เป็นเหมือนขนมพื้นเมืองที่ทำมาจากเค้กข้าวข้างในใส่ใส้ถั่ว azuki ก็เลยคิดว่า นี่ต้องเป็นของดีของเด็ดของแถบนี้แน่ๆ เลยลองซื้อชิมชิ้นหนึ่ง ร้อนๆเลยหละค่ะ อร่อยมากๆ

ศาลเจ้าแห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ในด้านการเรียน ตอนเดินเข้าไปรู้สึกได้ถึงความขลังจากสะพานสีแดงสดใส และบรรยากาศน่ารักสบายๆ


Comments