FUN! JAPAN PR

Noboribetsu เพลิดเพลินกับน้ำพุร้อน สนุกสนานไปกับรถบักกี้ออฟโร้ด เรียนรู้สัมผัสวัฒนธรรมของชนชาวไอนุที่อุโปะโปยในโนโบริเบ็ตซึ

  • 27 มกราคม 2023
  • FUN! JAPAN Team

UPOPOY

โนโบริเบ็ตซึ เป็นเมืองหนึ่งที่อยู่ในจังหวัดฮอกไกโดซึ่งเป็นจังหวัดที่คนไทยหลายคนน่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดีเช่น ซัปโปโร แต่จริงๆ แล้วจังหวัดฮอกไกโดนั้นมีขนาดที่ใหญ่มาก วันนี้เลยอยากจะมาแนะนำเมืองโนโบริเบ็ตซึให้ทุกคนได้รู้จักกันค่ะ

Jigokudani (จิโกคุดานิ)

Jigokudani

เมืองนี้เป็นเมืองที่อยู่ตอนล่างของฮอกไกโด สามารถเดินทางจากสนามบินชิโทเสะไปยังสถานีโนโบริเบ็ตซึได้ด้วยรถไฟโดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง เมืองโนโบริเบ็ตซึเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่มีชื่อเสียงในเรื่องน้ำพุร้อน (ออนเซน) ของฮอกไกโด โดยมีแหล่งท่องเที่ยวที่ชื่อว่า Jigokudani (จิโกคุดานิ) ซึ่งเป็นจุดที่เรียกได้ว่าไม่มาที่นี่ก็เหมือนมาไม่ถึงโนโบริเบ็ทซึเลยค่ะ “จิโกคุดานิ” เป็นแหล่งรวมน้ำแร่ธรรมชาติจากหลายที่ โดยจะสังเกตุได้ว่าหินที่ตรงภูเขาจะมีสีแตกต่างกันไป ทั้งสีแดง สีเขียว สีขาว และสีเหลือง โดยสีที่แตกต่างกันนั้นเป็นเพราะแร่ธาตุที่แตกต่างกันตามธรรมชาติส่งผลให้สีของภูเขานั้นแตกต่างกัน

Jigokudani

“จิโกคุดานิ” แปลเป็นภาษาไทยได้ว่า “หุบเขานรก” ในเมืองนี้จะมีรูปปั้นยักษ์อยู่มากมาย แม้ว่ายักษ์อาจจะดูน่ากลัวก็ตามแต่ยักษ์ที่นี่เป็นยักษ์ที่ดีค่ะ ยังสามารถที่จะขอพรจากรูปปั้นยักษ์ในบางแห่งได้ด้วยค่ะ เช่นสามารถขอพรเกี่ยวกับเรื่องของการเรียน หรือขอให้สอบผ่านได้จากรูปปั้นยักษ์ในรูปนี้ได้ค่ะ

ในช่วงฤดูร้อนจะมีงานเทศกาลดอกไม้ไฟชื่อ “โอนิฮานาบิ (Oni Hanabi: Demons Fireworks)” ซึ่งจะจัดขึ้นช่วงหน้าร้อนของทุกปี จะมีคนใส่ชุดยักษ์พร้อมถือแท่งดอกไม้ไฟออกมาตรงบันไดด้านหน้าของจิโกคุดานิ จากนั้นจะมีการจุดดอกไม้ไฟ พร้อมกับการตีกลอง ถือว่าเป็นงานเทศกาลที่น่าตื่นตาตื่นใจมาก และช่วงเดือนสิงหาคมก็ยังมีเทศกาล “จิโกคุ มัตสึริ (Jigoku Matsuri: Hell Festival)” โดยจะมีการแห่เทพเจ้า “เอ็นมะไดโอ (Enmadaio)” ซึ่งถือว่าเป็นเทพเจ้ายักษ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดออกมาแห่ขบวนไปรอบๆ เมืองอีกด้วย

Jigokudani

ถึงแม้คุณไปเยือนเมืองนี้ตอนที่ไม่มีเทศกาลก็ตาม คุณก็สามารถไปดูเทพเจ้า “เอ็นมะไดโอ” เปลี่ยนหน้าได้ค่ะ หุ่นเทพเจ้านี้ปกติจะตั้งอยู่บนถนนในตัวเมืองโนโบริเบ็ทซึออนเซน โดยหุ่นเทพเจ้านี้จะเปลี่ยนหน้าจากหน้าปกติเป็นหน้ายักษ์ได้ด้วยค่ะ รอบการแสดงจะมีอยู่ทุกวัน เราสามารถไปรอชมได้ฟรีที่ด้านหน้าค่ะ

Jigokudani

ในช่วงตอนปลายของยุคเมจิมีสงครามระหว่างรัสเซียกับญี่ปุ่น มีทหารที่ผ่านสงครามและมีอาการบาดเจ็บมาพักรักษาตัวที่ โนโบริเบ็ตซึแห่งนี้ เพราะเชื่อว่าออนเซนของที่นี่นั้นดีต่อสุขภาพ และช่วยฟื้นฟูร่างกายได้ จากชื่อเสียงของออนเซนที่ดีต่อร่างกาย ทำให้ในปัจจุบันมีโรงแรมและเรียวกังตั้งอยู่มากมายค่ะ

Jigokudani

นอกจากที่นี่จะขึ้นชื่อเรื่องออนเซนแล้วอาหารก็ยังอร่อยค่ะ เพราะว่าเมืองนี้นั้นอยู่ใกล้กับทะเลทำให้มีทั้งปลา ปู และหอยที่สดใหม่ค่ะ อีกทั้งเมืองนี้ยังขึ้นชื่อเรื่อง “เนื้อกวาง” จากธรรมชาติ ดังนั้นร้านอาหารบางแห่งที่เมืองนี้จึงมีเมนูที่ทำจากเนื้อกวางขายด้วยค่ะ

Jigokudani
Jigokudani
Jigokudani


Unseen Natural Footbath “แช่เท้าในน้ำร้อนจากแม่น้ำโอยุนุมะ (Oyunuma River)”

Oyunuma River

เดินเท้ามาประมาณ 20 นาทีจากตัวเมืองโนโบริเบ็ตซึออนเซน จะมีแหล่งน้ำแร่ธรรมชาติริมธารเล็กๆ กลางหุบเขาที่เราสามารถจะเอาเท้าไปลงแช่ในลำธารได้ อุณหภูมิของน้ำขึ้นอยู่กับแต่ละฤดูกาล แต่น้ำจะไม่ร้อนมากทำให้สามารถแช่ได้เลยค่ะ โดยจะมีเบาะเตรียมไว้ให้สำหรับรองนั่งด้วยค่ะ การแช่เท้าแบบนี้เรียกเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า “อาชิยุ” และมีเพียงไม่กี่สถานที่ในญี่ปุ่นที่สามารถแช่น้ำแร่แบบธรรมชาติท่ามกลางป่าได้เช่นนี้

Oyunuma River

ระหว่างทางเดินไปนั้นจะมีวิวต้นไม้ที่สวยงามแตกต่างกันไปในแต่ละฤดู ในฤดูหนาวหิมะจะตกปกคลุมไปด้วยสีขาวสวยสะอาดตา ส่วนฤดูร้อนก็จะมีใบไม้เขียวชอุ่มและได้กลิ่นไอของป่าไม้ ดังนั้นการจะมาเยี่ยมเยือนที่นี่บอกเลยว่าสามารถมาได้ทุกฤดูกาล

Oyunuma River


Noboribetsu Offroad Park ขับรถบักกี้บนหิมะ

Noboribetsu Offroad Park

กิจกรรมสำหรับคนรักความตื่นเต้น เพียงขับรถมาจากตัวเมืองโนโบริเบ็ตซึเพียง 10 นาทีเท่านั้นคุณก็จะสามารถสัมผัสประสบการณ์การขับรถบักกี้บนหิมะได้ค่ะ สำหรับคนที่ไม่เคยขับมาก่อนก็ไม่ต้องกังวลนะคะ เพราะเขามีครูคอยสอนให้ค่ะ รถที่นี่จะมี 2 แบบ คือรถแบบบั้กกี้ที่มี 4 ล้อ กับสโนว์โมบิลค่ะ หากคุณไปในช่วงที่หิมะตกไม่มากก็จะได้ขับรถบักกี้ค่ะ

Noboribetsu Offroad Park

รถบักกี้เป็นรถที่คล้ายมอเตอร์ไซค์แต่มี 4 ล้อ การขับจึงไม่ยากนัก แต่ก็ต้องมีการเรียนรู้การบังคับรถก่อนที่จะไปขับจริงในสนามค่ะ คอรส์ของการขับจะมี 3 คอร์ส เรียงลำดับไปตามระดับความยาก ราคาสำหรับการขับรถบักกี้จะมีตั้งแต่ 1,500 -7,000 เยน ส่วนสโนว์โมบิลจะมีราคาตั้งแต่ 1,500-12,000 เยน ขึ้นอยู่กับคอรส์ที่เลือกและเวลาที่ต้องการเล่นค่ะ ราคานี้รวมการฝึกซ้อมด้วยแล้วค่ะ

สามารถเช็ครายละเอียดได้ที่เว็บไซต์

http:// www.net-noboribetsu.com/price/price.html

การขับรถบักกี้นั้นไม่ได้มีแค่ในฤดูหนาวเท่านั้นนะคะ ในฤดูร้อนก็สามารถใช้บริการได้เหมือนกันค่ะ เป็นกิจกรรมที่อยากจะขอแนะนำให้กับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบกีฬาและการขับรถค่ะ

Noboribetsu Offroad Park
Noboribetsu Offroad Park


UPOPOY อุโปะโปย พิพิธภัณฑ์และศูนย์การฟื้นฟูวัฒนธรรมชนเผ่าพื้นเมือง “ไอนุ”

UPOPOY

คุณเคยได้ยินคำว่า “ไอนุ” ไหมคะ คำนี้เป็นภาษาพื้นเมืองแปลว่า “มนุษย์” ค่ะ ชาวไอนุคือชนพื้นเมืองในฮอกไกโดซึ่งอาศัยอยู่ทางภาคเหนือของประเทศญี่ปุ่น จริงๆ แล้วมีชาวไอนุอาศัยอยู่ในหลากหลายพื้นที่ทั่วโลกค่ะ โดยฮอกไกโดก็เป็นอีกหนึ่งในพื้นที่ที่ชาวไอนุเคยอาศัยอยู่ ชาวไอนุมีวัฒนธรรมเกี่ยวกับความเชื่อและมีภาษาของตัวเองด้วยค่ะ  

UPOPOY

พิพิธภัณฑ์อุโปะโปยมีบริเวณกว้างขวาง โดยแบ่งออกเป็นโซนของพิพิธภัณฑ์ อาคารเวิร์คช้อป และอาคารเรียนรู้สัมผัสประสบการณ์ ฯลฯ

จากที่จอดรถเข้ามาถึงภายในอาคารจะมีกำแพงรูปสัตว์และต้นไม้ และยังมีเสียงของสรรพสัตว์จากลำโพงผ่านเข้ามาทำให้เราได้รู้สึกเหมือนเข้ามาอยู่ในวิถีชีวิตของชาวไอนุอย่างแท้จริงเลยค่ะ 

UPOPOY

เมื่อเดินเข้าไปด้านในจะพบกับพิพิธภัณฑ์ก่อนค่ะ ตัวอาคารมี 2 ชั้น โดยชั้นล่างจะเป็นโรงหนังที่ฉายหนังเกี่ยวกับวัฒนธรรมต่างๆ ของชาวไอนุค่ะ โดยด้านหลังจะเป็นร้านขายสินค้าที่ระลึกและยังมีห้องสมุดอีกด้วยค่ะ เมื่อเราขึ้นไปชั้นบนก็จะพบกับล็อบบี้ที่ด้านหน้าเป็นกระจกขนาดใหญ่แบบพาโนรามา ทำให้สามารถมองเห็นทะเลสาบที่อยู่ด้านหน้าและศูนย์อุโปะโปยได้ทั้งหมดเลยค่ะ

UPOPOY

เมื่อเราเดินตามทางเข้าไปด้านในของพิพิธภัณฑ์ ก็จะมีวีดีโอต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยหลากหลายภาษา โดยมีภาษาไทยด้วยค่ะ เมื่อเราเข้าไปด้านในก็จะพบกับอุปกรณ์, เสื้อผ้า, เครื่องดนตรี, จานชาม และสิ่งของอีกมากมายที่เกี่ยวกับชาวไอนุค่ะ โดยจะแบ่งเป็นโซนจัดแสดง 6 หัวข้อ ได้แก่ “ภาษาของเรา” “โลกของเรา” “การดำเนินชีวิตของเรา” “ประวัติศาสตร์ของเรา” “งานของเรา” และ “การแลกเปลี่ยนของเรา” ค่ะ

UPOPOY

หากคุณสนใจจะไปเยี่ยมชม แต่กังวลในเรื่องของภาษาที่อาจจะยากเกินไป ทางอุโปะโปยก็มีแอปพลิเคชั่นให้เราสามารถโหลดมาใช้ได้ฟรีค่ะ ซึ่งในแอปพลิเคชันนี้จะมีภาษาไทยให้เราได้อ่านและฟังตามจุดต่างๆ โดยจะมีเลขรหัสอยู่ที่ตู้จัดแสดงเมื่อเราเข้าไปด้านใน เมื่อใส่เลขรหัสลงในแอปพลิเคชันแล้วก็จะมีข้อความขึ้นมาให้เราได้อ่าน หรือหากใครถนัดในการฟังมากกว่าก็มีเสียงอ่านภาษาไทยให้เราได้ฟังอีกด้วยค่ะ ดังนั้นถึงแม้ว่าเราจะมากับเด็กหรือคนสูงวัยก็สามารถที่จะเรียนรู้และเข้าใจวัฒนธรรมของชาวไอนุได้อย่างลึกซึ้งค่ะ

UPOPOY
UPOPOY
UPOPOY

เมื่อออกมาด้านนอกก็จะมีอาคารแสดงโชว์ เราสามารถเข้าไปชมได้ตามรอบการแสดงซึ่งสามารถตรวจสอบตารางเวลาได้จากเว็บไซต์ค่ะ

นอกจากนี้ที่นี่ยังมีเครื่องบรรยายเสียงให้เราได้ฟังค่ะ แน่นอนว่ามีภาษาไทยให้เราด้วย ไม่ต้องกังวลเลยค่ะว่าเราจะฟังไม่รู้เรื่อง ทางอุโปะโปยใส่ใจสุดๆ ไปเลยค่ะ การแสดงโชว์ก็จะมีทั้งการเต้นแบบชาวไอนุ การร้องเพลง การเล่นเครื่องดนตรีโดยนักแสดงจริงๆ ทำให้รู้สึกเหมือนได้อยู่ท่ามกลางชาวไอนุจริงๆ เลยค่ะ

https://ainu-upopoy.jp/th/program/

UPOPOY

ในส่วนของอาคารเวิร์คช็อปจะมีบ้านจำลองของชาวไอนุอยู่ค่ะ เรียกว่า “จิเสะ” แปลว่า “ที่อยู่อาศัย” ค่ะ จิเสะจะมีหลากหลายรูปแบบนะคะ จะมีทั้งแบบที่ตัวบ้านอยู่บนพื้นทั้งหมด และแบบที่ตัวบ้านถูกฝังอยู่ในดินครึ่งหนึ่งค่ะ เหตุผลที่ปลูกบ้านฝังลงไปในพื้นดินนั้น (ลักษณะคล้ายห้องใต้ดิน) ก็เพราะว่าสามารถทำให้ตัวบ้านนั้นมีความอบอุ่นมากขึ้นเนื่องจากฮอกไกโดมีอากาศที่หนาวเย็นมากค่ะ จิเสะหลังที่เราสามารถได้เข้าไปด้านในได้จะมีขนาดที่ใหญ่กว่าของจริง เพราะถูกทำมาเพื่อสำหรับการรองรับคนจำนวนมากในการทำเวิรค์ช้อปค่ะ ส่วนบ้านจิเสะที่อยู่ข้างๆ กันจะเป็นบ้านขนาดจริงของชาวไอนุค่ะ ซึ่งเราจะไม่สามารถที่จะเข้าไปด้านในได้ค่ะ

UPOPOY
UPOPOY
UPOPOY

ครั้งนี้เราได้สัมผัสประสบการณ์การเล่นเครื่องดนตรีพื้นเมืองของชาวไอนุเรียกว่า “มุคคุลิ” ซึ่งเป็นเครื่องดนตรีที่ทำมาจากไม้ไผ่ความยาวกว่า 15 ซม. โดยจะใช้เส้นด้ายดึงตัวไม้และใช้ปากเป่าลมให้มีเสียงค่ะ จะต้องใช้เทคนิคการใช้ลมและใช้ลิ้นในการเปลี่ยนเสียงของเครื่องดนตรีมุคคุลิในการที่จะเป่าให้เป็นเสียงโน้ตต่างๆ ค่ะ จะมีเจ้าหน้าที่อธิบายและสอนวิธีการใช้เป็นภาษาอังกฤษค่ะ ไม่ยากแต่ก็ไม่ง่ายค่ะ ลองฝึกอยู่สักพักก็จะเริ่มเป่าได้ค่ะ ต้องใช้ทักษะและการฝึกฝนมากๆ เลยทีเดียว คุณสามารถซื้อมุคคุลิได้ที่ชั้น 1 ของอาคารพิพิธภัณฑ์ค่ะ

UPOPOY

อาคารเรียนรู้สัมผัสประสบการณ์ก็ยังมีกิจกรรมให้เราได้ลองทำอาหารพื้นบ้านของชาวไอนุด้วยค่ะ ขอแนะนำให้ทำการจองล่วงหน้าโดยสามารถจองได้ที่พิพิธภัณฑ์ค่ะ แนะนำให้ไปจองตั้งแต่ช่วงเช้า โดยตรวจสอบโปรแกรมและตารางเวลาผ่านทางเว็บไซต์ก่อนค่ะ เพราะหากไม่ทำการจองมาก่อนอาจจะเต็มและไม่สามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้ค่ะ

วันนี้เราได้ทำขนมชื่อ “ชิโตะ” ซึ่งเป็นขนมที่ทำจากแป้งอินะคิบิค่ะ (แป้งทำจากธัญพืช) เราสามารถที่จะทดลองทำเองได้ตั้งแต่การนวดแป้ง ต้มขนม และรับประทานได้เลยด้วยค่ะ 

UPOPOY
UPOPOY
UPOPOY

นอกจากกิจกรรมที่เราจะได้ร่วมสัมผัสการใช้ชีวิตของชาวไอนุแล้ว ที่อุโปะโปยยังมีคาเฟ่ที่ชื่อว่าร้าน “ฮารุ รัน นะ” ซึ่งเสิร์ฟอาหารพื้นเมืองดั้งเดิมของชาวไอนุด้วยค่ะ ในร้านจะมีเมนูหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นอาหารชุดมื้อเที่ยง หรือสเต็กเนื้อกวางซึ่งเสิร์ฟพร้อมกับผักท้องถิ่นตามฤดูกาล นอกจากนี้ยังมีซุปผักและของว่างเสิร์ฟเป็นคอร์สอีกด้วย หากคุณมีเวลาก็อยากขอแนะนำให้มาลองมาทานอาหารที่นี่กันด้วยนะคะ

UPOPOY
UPOPOY

เว็บไซต์ของอุโปะโปย

https://ainu-upopoy.jp/th/

หัวข้อเรื่อง

Recommend