【ซีรีย์ปราสาทขึ้นชื่อของญี่ปุ่น】หอคอยปราสาทไม้ที่ได้รับการบูรณะอย่างสมบูรณ์! ปราสาทมหัศจรรย์แห่งจังหวัดเอฮิเมะ "ปราสาทโอซุ"

  • 7 กุมภาพันธ์ 2023
  • 下町貴族(Shitamachi Kizoku)
  • Mon

【ซีรีย์ปราสาทขึ้นชื่อของญี่ปุ่น】หอคอยปราสาทไม้ที่ได้รับการบูรณะอย่างสมบูรณ์! ปราสาทมหัศจรรย์แห่งจังหวัดเอฮิเมะ ปราสาทโอซุ

ในจังหวัดเอฮิเมะมีปราสาท 5 แห่งที่ติดอันดับ 100 ปราสาทขึ้นชื่อแห่งญี่ปุ่น ซึ่งปราสาท 4 แห่งจากปราสาทที่ว่านั้น ก็ได้แก่ ปราสาทมัตสึยามะและปราสาทอุวาจิมะซึ่งนับเป็นหนึ่งใน 12 หอปราการปราสาทที่ยังคงสภาพเดิมอยู่ในญี่ปุ่น ปราสาทอิมาบาริซึ่งเป็นหนึ่งในสามปราสาทน้ำขึ้นชื่อ (*1) และปราสาทยุซึกิซึ่งเป็นโบราณสถานแห่งชาติ เมื่อเทียบกับปราสาททั้ง 4 นี้ ปราสาทโอซุ (大洲城 / Ozu-jo) ซึ่งเป็นโบราณสถานที่แต่งตั้งโดยจังหวัดเอฮิเมะ อาจดูธรรมดาไปหน่อย แต่จริง ๆ แล้วก็มีจุดเด่นที่ไม่ควรมองข้ามมากมายเช่นกันค่ะ!

*1: ปราสาทน้ำ (水城 / mizujiro) คือปราสาทที่ตั้งอยู่ติดกับทะเลซึ่งมีน้ำทะเลไหลเข้าสู่คูปราสาท ปราสาทอิมาบาริได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในปราสาทน้ำชั้นนำของญี่ปุ่น

ปราสาทโอซุ สร้างโดยโทโด ทาคาโทระ ปรมาจารย์ด้านการก่อสร้างปราสาท

ปราสาทโอซุ สร้างโดยโทโด ทาคาโทระ ปรมาจารย์ด้านการก่อสร้างปราสาท

อำเภอโอซุ (大洲市 / Ozu-shi) ซึ่งเป็นที่ตั้งของปราสาทโอซุ เรียกกันอีกชื่อว่า "เกียวโตน้อยแห่งอิโยะ" (อิโยะ 伊予 / Iyo เป็นชื่อเดิมของเอฮิเมะ) ตั้งอยู่ในลุ่มน้ำทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจังหวัดเอฮิเมะ ได้รับการยกย่องว่าเป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งที่สำคัญมาช้านาน เนื่องจากน้ำใสของแม่น้ำฮิจิคาวะเชื่อมต่อกับทะเลในเซโตะนั่นเองค่ะ

ปราสาทโอซุ สร้างโดยโทโด ทาคาโทระ ปรมาจารย์ด้านการก่อสร้างปราสาท

โอซุเคยถูกเรียกว่า "โอสึ" (大津 / Ootsu) โดยใช้คันจิ "津 / tsu" ซึ่งแปลว่า "ท่าเรือ" ปราสาทโอซุมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า 'ปราสาทโอสึ' (大津城 / Otsu-jo) หรือ 'ปราสาทจิโซงาดาเกะ' (地蔵ヶ嶽城 / Jizogadake-jo) เนื่องจากชื่อเก่าของเมืองและถูกสร้างขึ้นบนเนินเขาที่เรียกว่าภูเขาจิโซงาดาเกะ (地蔵岳 / Jizogadake) ปราสาทแห่งนี้เดิมสร้างขึ้นในปี 1331 ในช่วงปลายยุคคามาคุระโดย อุสึโนะมิยะ โทโยฟุสะ (宇都宮豊房 / UTSUNOMIYA Toyofusa) แต่หลังจากการเปลี่ยนแปลงอำนาจ โทโด ทาคาโทระ (藤堂高虎 / TODO Takatora) ได้กลายมาเป็นผู้ครองปราสาทในปี 1595 หลังจากที่ปรมาจารย์ด้านการก่อสร้างปราสาทผู้เลื่องชื่อได้เข้ายึดครองปราสาทโอซุ ตัวปราสาทก็ได้รับการปรับปรุงให้เป็นปราสาทสมัยใหม่ (ปราสาทที่มีสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ เช่น หอปราการปราสาท กำแพงหิน และคูปราสาท) และเมืองในอาณัติปราสาทก็ถือกำเนิดขึ้นไล่เรียงกันทีละเมือง กล่าวคือ ต้นแบบของปราสาทโอซุที่เรารู้จักในปัจจุบันนั้น ถูกสร้างโดย โทโด ทาคาโทระ ปรมาจารย์ผู้นี้นั้นเองค่ะ

ตำนานเสาหลักมนุษย์: เรื่องราวที่น่าเศร้าในการก่อสร้างปราสาทโอซุ

ตำนานเสาหลักมนุษย์: เรื่องราวที่น่าเศร้าในการก่อสร้างปราสาทโอซุ

ปราสาทโอซุนั้น นอกจากจะมีชื่อเรียกว่า 'ปราสาทโอสึ' และ 'ปราสาทจิดซงาดาเกะ' แล้ว ก็ยังมีชื่ออีกชื่อว่า 'ปราสาทฮิชิ' (比志城 / Hishi-jo) โดยตั้งจากแม่น้ำฮิจิคาวะ (肱川 / Hijikawa มีชื่อเรียกอีกชื่อว่า '比志川 / Hishikawa') ซึ่งไหลอยู่เบื้องล่างของปราสาท ชื่อแม่น้ำนี้ว่ากันว่ามาจากเรื่องเศร้าค่ะ

ตอนที่อุสึโนะมิยะกำลังสร้างปราสาทโอซุ เขาได้สร้างกำแพงหินสูงที่อยู่ติดกับแม่น้ำ แต่ก็สร้างไม่สำเร็จซ้ำแล้วซ้ำเล่า ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจทำฮิโตบาชิระ (人柱 / hito-bashira - 'เสาหลักมนุษย์' ซึ่งเป็นการสังเวยชีวิตมนุษย์เพื่อให้การก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์) เพราะเชื่อว่าความล้มเหลวเหล่านั้นเกิดจากวิญญาณชั่วร้ายและจำเป็นต้องทำฮิโตบาชิระถวายเพื่อขับไล่ ตัวเลือกสุดท้ายคือเด็กสาวอายุ 16 ปีชื่อโอฮิจิ (おひじ / Ohiji) ผู้ฝากความปรารถนาสุดท้ายไว้ว่า "ให้ตั้งชื่อแม่น้ำตามชื่อของเธอ เพื่อคนรุ่นหลังจะได้จดจำเธอตลอดไป" และอุทิตชีวิตให้กับแม่น้ำ ในที่สุดกำแพงก็สร้างสำเร็จ ความปรารถนาของหญิงสาวก็ได้เป็นจริง และแม่น้ำแห่งนี้ได้รับการตั้งชื่อว่า "แม่น้ำฮิชิคาวะ" ค่ะ

การบริจาคจากผู้คนในท้องถิ่นทำให้ปราสาทโอซุ กลับมามีชีวิตอีกครั้ง! หอปราการปราสาทไม้ได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ทั้งหมด

การบริจาคจากผู้คนในท้องถิ่นทำให้ปราสาทโอซุ กลับมามีชีวิตอีกครั้ง! หอปราการปราสาทไม้ได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ทั้งหมด

หลังการฟื้นฟูอำนาจแห่งสมัยเมจิ อาคารต่าง ๆ ในปราสาทโอซุได้ถูกรื้อถอนทำลายลงทีละหลัง แต่ด้วยความพยายามของคนในท้องถิ่น หอปราการปราสาทในวงล้อมกำแพงหลักและป้อมธนูก็ยังได้รับการอนุรักษ์สภาพไว้ แต่หอคอยปราสาทได้รับความเสียหายเนื่องจากความทรุดโทรมตามกาลเวลาของตัวอาคารเอง และถูกบังคับให้รื้อถอนในปี ค.ศ. 1888 อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านในท้องถิ่นที่ยังคงให้ความสำคัญและรักปราสาทโอซุที่ไม่สามารถถูกแทนที่ได้ก็ได้รวมตัวกันอีกครั้งด้วยจุดประสงค์ใหม่ หลังจากบริจาคเงินเป็นจำนวนมาก ในที่สุดหอปราการปราสาทโอซุก็ถูกสร้างขึ้นใหม่ในปี 2004 ค่ะ

การสร้างปราสาทขึ้นใหม่นั้นก็ไม่ใช่เรื่องแปลก อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้หอปราการปราสาทโอซุมีคุณค่ามากก็คือมันเป็นหอปราการไม้ 4 ชั้นที่มีหลังคาภายนอก 4 ชั้นหลังแรกที่ได้รับการบูรณะหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 และรูปลักษณ์ของมันได้รับการจำลองแบบอย่างสมบูรณ์ด้วยวิธีการก่อสร้างที่ถูกใช้ในตอนที่หอปราการนี้ถูกสร้างขึ้นครั้งแรก นอกจากภาพถ่ายจำนวนมากที่ถ่ายในสมัยเมจิแล้ว ยังมีการค้นพบแบบจำลองไม้ที่แสดงโครงสร้างของหอปราการที่บ้านของช่างฝีมือที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างหอปราการ การบูรณะปฏิสังขรณ์จึงสำเร็จได้อย่างน่าอัศจรรย์ค่ะ

ประสบการณ์ “การพักในปราสาท” ที่แรกของญี่ปุ่น

ประสบการณ์พักในปราสาทที่แรกของญี่ปุ่น

ในปี 2020 "NIPPONIA HOTEL Ozu Castle Town" ถือกำเนิดขึ้นโดยความร่วมมือของอำเภอโอซุและบริษัทพันธมิตร เช่น NOTE Co., Ltd. ตามแนวคิดของ "โรงแรมแบบกระจายอำนาจ" พื้นที่ที่พัก ร้านอาหาร สถานที่จัดงาน ฯลฯ ก็ถูกกระจัดกระจายอยู่ทั่วเมืองในอาณัติปราสาทโอซุ และบริเวณโดยรอบปราสาทโอซุและเมืองในอาณัติปราสาททั้งหมดก็ได้กลายเป็นที่พักย่อย ๆ หลายแห่ง แน่นอนว่าตัวปราสาทโอซุเองก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกันค่ะ

ปราสาทโอซุเป็นปราสาทแห่งแรกในญี่ปุ่นที่ให้บริการ Castle Stay (城泊 / shirohaku - การพักในปราสาท) ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถพักค้างคืนภายในตัวปราสาทได้ รวมถึงหอปราการปราสาทและป้อมธนูด้วยค่ะ แผนการพักในปราสาทโอซุ “Ozu Castle Castle Stay” จะเริ่มต้นทันทีที่แขกมาถึงสนามบินมัตสึยามะในจังหวัดเอฮิเมะ หลังจากได้รับการต้อนรับที่สนามบิน ผู้ชายจะเปลี่ยนเป็นชุดเกราะออกศึก ผู้หญิงจะเปลี่ยนเป็นกิโมโน และนำกองทหารเข้าไปในปราสาทโอซุ เมื่อคุณเข้าไปในปราสาท คุณจะได้รับการต้อนรับจากเจ้าหน้าที่ที่แต่งตัวเป็นซามูไรและข้ารับใช้ มีการยิงปืนสลุตต้อนรับ และการเป่าแตรหอยสังข์ที่ดังกึกก้อง เป็นประสบการณ์ที่ไม่เพียงแต่ให้คุณเข้าพักเหมือนกับเป็นผู้ครองปราสาทเท่านั้น แต่ยังให้คุณได้เป็นผู้ครองปราสาทได้เต็มตัวอีกด้วยค่ะ

ประสบการณ์พักในปราสาทที่แรกของญี่ปุ่น

สำหรับส่วนที่สำคัญที่สุดซึ่งก็คือเรื่องค่าที่พักนั้น แผนพื้นฐานพร้อมอาหารเช้าและอาหารเย็นสำหรับ 2 คน 2 วัน 1 คืนนั้นมีราคามากกว่า 1 ล้านเยน จำกัดเพียง 30 กลุ่มต่อปี และเปิดจองเฉพาะบางฤดูกาลเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ผู้ที่เคยได้ไปสัมผัสได้กล่าวไว้ว่า "1 ล้านเยนนั้นยังถือว่าถูกเกินไปสำหรับแผนนี้!" คุณอาจจะเข้าใจถึงมูลค่าที่แท้จริงก็ต่อเมื่อคุณได้ไปลองพักที่นั่นด้วยตัวคุณเองค่ะ!

ข้อมูลสถานที่

  • ชื่อ: ปราสาทโอซุ (大洲城 / Oozu-jou)
  • ที่ตั้ง: 903 Ozu, Ozu-shi, Ehime
  • เวลาทำการ: 9:00-17:00 น. (เข้าได้ช้าสุดถึง 16:30 น.)
  • วันหยุดประจำ: ไม่มี
  • ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 550 เยน / นักเรียนมัธยมต้นหรือต่ำกว่า 220 เยน / เด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ ฟรี
  • การเดินทาง: จากสถานี JR Iyo-Ozu ขึ้นรถบัสวนรอบเมือง "Gururin Ozu" ประมาณ 10 นาที จากนั้นเดินต่อประมาณ 5 นาที

บทความที่เกี่ยวข้อง

หัวข้อเรื่อง

Survey[แบบสอบถาม] กรุณาบอกเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในญี่ปุ่น







Recommend