นอกจากทัศนียภาพที่งดงามและอาหารรสเลิศแล้ว อย่าลืมว่าฟุกุโอกะก็มีน้ำพุร้อนเหมือนกัน หลังจากที่ทำงานเหนื่อยล้าทั้งกายทั้งใจแล้ว คงไม่มีอะไรผ่อนคลายเท่ากับการได้นอนแช่นิ่งๆ ในบ่อน้ำพุร้อน วันนี้เราขอแนะนำทริปนอนแผ่แช่ออนเซ็นแบบสบายๆ 1 วันที่รับรองว่าเมื่อถึงเวลาจะต้องกลับบ้านแล้ว คุณก็จะขอร้องเป็นเพลงว่า...อยู่ต่อเลยได้มั๊ย

ครั้งก่อนเราได้พาคุณไปออนเซ็นเล็กที่ Funagoya เป็นเมืองน่ารักที่อยู่ใกล้ Yanagawa ไปทางตอนใต้ของ Fukuoka ในครั้งนี้เราจะพาคุณไปรุ้จักกันออนเซ็นที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้กัน

ออนเซ็น

มีน้ำพุร้อนชื่อดังหลายแห่งแถบ Chikogo โดยเฉพาะบริเวณที่อยู่ใกล้แม่น้ำ Chiguwa ซึ่งน้ำพุร้อนที่คนทั่วไปรู้จักดีที่สุดคือน้ำพุร้อน Tsuruhara ออนเซ้นของที่นี่มีชื่อเสียงในเรื่องของการบำรุงผิวพรรณ ในญี่ปุ่นจะมีออนเซ็นอยู่ 2 ประเภทคือ แบบที่เป็นด่างมากและด่างน้อย ซึ่งจะให้ผลลัพธ์ที่ต่างกัน แบบที่มี pH 8.5 ถือว่ามีความเป็นด่างมาก ออนเซ็นประเภทนี้จะช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วช่วยให้ผิวของเราสดใสขึ้น ส่วนออนเซ็นแบบด่างน้อยจะมีสรรคุณช่วยรักษาโรคผิวหนัง แผลจากมีดบาด และบรรเทาอาการปวดตามข้อ

นอกจากจะได้แช่ในออนเซ็นของโรงแรมที่คุณพักแล้ว คุณยังสามารถซื้อคูปอง “onsen pass” หรือ Yu-meguri Chō, 湯巡り帳, or Hot Spring Touring Ticket ที่จะมีคูปอง 7 ใบให้คุณสามารถไปแช่น้ำพุร้อนได้อีก 2-3 แห่งที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง

การเดินทาง

ทางโรงแรมจะแนะนำวิธีการเดินทางให้ 2 วิธี ดังนี้ (i) ขึ้น highway bus ไป Haki (杷木) Interchange จากนั้นนั่งแท็กซี่ต่อไปอีก 5 นาที หรือ (ii) ขึ้นรถไฟ JR จาก Hakata ไปสถานี Chikugo-Yoshii จากนั้นต่อแท็กซี่ไปอีก 10 นาที

อย่างไรก็ตามเรายังมีอีกวิธีที่ประหยัดกว่านั้น เพราะการนั่งแท็กซี่อาจจะมีราคาที่ค่อนข้างสูง ดังนั้นเราจึงเสนอให้ขึ้นรถบัสที่จะพาเราวิ่งตรงไปส่งถึง Tsuruharaออนเซ็นเลยทีเดียว โดยคุณจะจะต้องไปขึ้นรถไฟ JR แล้วไปลงที่สถานี Futsukaichi หรือที่สถานี Nishitetsu Asakura Gaido

จากทั้งสองสถานีนี้ ให้คุณขึ้นรถบัส Nishitetsu No. 41 อย่าลืมว่าต้องเช็คเวลาให้ดีก่อน เพื่อที่ว่าพอลงรถไฟคุณจะได้ขึ้นรสบัสได้ทัน ตอนที่เราไปเราถึง รถสาย 41 ออกไปก่อนแล้ว พวกเราจึงขึ้นสาย 40 ไปลงที่ Tsusuhara แทน ซึ่งเราก็จะต้องเดินต่อไปที่ออนเซ็นอีกประมาณ 10 นาที ค่าโดยสารของรสบัสจะมีราคา 950 เยน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 65 นาที

ที่พัก

พวกเราพักกันที่โรงแรม Hanamizuki Onsen (http://www.harazuru-hanamizuki.jp/) ที่โรงแรมนี้ห้องพักทุกห้องจะเป็นวิวติดแม่น้ำ ซึ่งสวยงามมากๆ

ห้องพักถือว่าประทับใจมาก เพราะเมื่อเปิดหน้าต่างออกไปก็จะเป็นวิวสดชื่นของแม่น้ำ Chikugogawa แต่น่าเสียดายที่วันที่พวกเราไปกันหมอกลงจัด และมืดไว้ไปหน่อย



ภาพนี้คือห้องที่พวกเราพักกัน

คืนนั้นเราสั่งอาหารแบบฟิวชั่นญี่ปุ่นผสมผสานกับตะวันตก รสชาติก็พอใช้ได้แต่ไม่ถึงกับดีมาก













การตกปลาแบบใช้นกกาน้ำ (Cormorant Fishing)


By Kentaro Ohno from flickr

แม้ว่าการแสดงดอกไม้ไฟ (Hanabi Taikai) จะไม่ใช่การแสดงที่หาชมได้ยากนักในฤดูร้อนที่ญี่ปุ่น แต่ความสำคัญอยู่ที่ว่าไม่ค่อยมีงานแสดงดอกไม้ไฟจัดขึ้นในเดือนพฤษภาคม เพราะฉะนั้นหากคุณได้อ่านบทความนี้ก่อนเดือนพฤษภาคมแล้วหละก็ ถือว่าเป็นโชคดีที่คุณกำลังพอมีเวลาที่จะแพลนการมาเที่ยว Tsuruhara ในเดือนที่ 5 ที่จะมาถึง เพราะนอกจากจะมีดอกไม้ไฟสวยๆแล้ว เดือนนี้ยังเป็นช่วงเริ่มต้นของเทศกาลตกปลาใน Chikogogawa แม่น้ำที่อยู่ใกล้กับออนเซ็น Tsuhara ที่เราได้กล่าวไป

การตกปลาของที่นี่ไม่ธรรมดา เพราะเป็นการตกปลาแบบโบราณที่สืบทอดมาหลายชั่วอายุ มีชื่อเรียกว่า Ukai (鵜飼い) ฤดูของการตกปลาแบบนี้จะอยู่ในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคม ซึ่งเราสามารถเห็นการตกปลาแบบนี้ได้ทางตอนใต้ของประเทศจีน เช่น จังหวัดกุ้ยหลินและยูนาน

นอกจากจะชมการตกปลาแบบโบราณที่ริมแม่น้ำแล้ว ที่Tsuruhara คุณยังสามารถลงเรือลำเล็กไปร่วมตกปลากับชาวบ้านได้ด้วย (ผู้ใหญ่: ¥2,100, เด็ก: ¥1,050) โดยเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 20:30น.-21:30น.

คุณสามารถโทรไปสำรองที่นั่งโดยตรงที่โรงแรมที่คุณพักอยู่หรือโทรสายด่วนของเครือโรงแรมออนเซ็นได้ที่เบอร์นี้ 0946-62-0001