ชิบูย่าและฮาราจูกุในโตเกียวเป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมและเทรนด์ของเยาวชนญี่ปุ่น วัฒนธรรมคาวาอิ แฟชั่นมือสอง สไตล์โกธิคและโลลิต้า ฯลฯ เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในชื่อ "Cool Japan" ไล่เรียงไปกับมังงะและเกมค่ะ
เหตุการณ์สำคัญอีกประการหนึ่งเมื่อพูดถึงประวัติศาสตร์และกระแสของชิบูย่าและฮาราจูกุคือ "กระแสบูมโคะแกล" ค่ะ!
ในบทความนี้ เราจะมาแนะนำเทรนด์สตรีทแฟชั่นของญี่ปุ่นในช่วงทศวรรษ 1990 ที่ไม่เป็นที่รู้จักในต่างประเทศ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา นิตยสารสำหรับแกล ได้รับการนำกลับมาตีพิมพ์ใหม่ และสินค้าแฟชั่นก็กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง ลองอ่านบทความและเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมแฟชั่นอันเป็นเอกลักษณ์ของญี่ปุ่นกันนะคะ♪
แกลคืออะไร? ที่มาของชื่อคือ?
ก่อนอื่นเลย คำว่า "แกล" มีความหมายว่าอย่างไรกันแน่?
โดยทั่วไป คำนี้มาจากคำสแลงภาษาอังกฤษที่แปลว่าเด็กผู้หญิง "gal" และในภาษาญี่ปุ่นมีความหมายกว้างๆ ถึง "หญิงสาวที่พยายามแบ่งปันความรู้สึกของตัวเองให้กับเพื่อนและเพื่อนร่วมงานผ่านการกระทำ เช่น การนำแฟชั่นอินเทรนด์มาใช้'' คำว่า "gal" ต้นฉบับจากภาษาอังกฤษนั้นถูกใช้กันทั่วไปในสหรัฐอเมริกาในช่วงทศวรรษ 1970 และว่ากันว่ามีต้นกำเนิดในปี 1972 เมื่อผู้ผลิตกางเกงยีนส์ Wrangler เริ่มขายกางเกงยีนส์ผู้หญิงภายใต้ชื่อ "GALS"
ในญี่ปุ่น เมื่อเรานึกถึงแกล เรานึกถึงสาวผิวสีแทนผมสีบลอนด์และไฮไลท์ปอยผม เครื่องแบบนักเรียนที่มีกระโปรงสั้นกว่าปกติและถุงเท้ายาวที่เรียกว่า loose socks ที่ย่นลงไปกองอยู่ติดเท้า อนึ่ง คำว่าแกลจะใช้หมายถึงผู้หญิงค่ะ แต่ผู้ชายที่แต่งสไตล์นี้จะเรียกกันว่า แกลโอะ (ギャル男 / Gyaru-o) ค่ะ
แฟชั่นสาวแกลและของจำเป็น
![วัฒนธรรมแกลจากยุคปี 1990 คืออะไร? มาย้อนรอยวัฒนธรรมญี่ปุ่นอันเป็นเอกลักษณ์ที่สร้างความตื่นเต้นให้กับชิบูย่าและฮาราจูกุ](https://content.fun-japan.jp/renewal-prod/cms/articles/content/shutterstock11266843Rjpg_2021-09-13-09-15-23.jpg)
แฟชั่นแกลเริ่มได้รับความนิยมราวปี 1979 และถึงจุดสูงสุดด้วยความเจริญรุ่งเรืองของโคะแกลในช่วงทศวรรษที่ 1990 ค่ะ
ในช่วงต้นทศวรรษ 2000 นิตยสารสำหรับแกล เช่น "egg" และ "koakuma ageha" ได้ทยอยกันหยุดการตีพิมพ์ไปทีละฉบับ และปิดกิจการไปครั้งหนึ่ง แต่ในปี 2018 นิตยสาร "egg" ได้รับการฟื้นฟูขึ้นมาใหม่ในรูปแบบเว็บ เวอร์ชันเน้นวัฒนธรรมยุค 90 ด้วยการเปิดตัวภาพยนตร์ใหม่และกระแสแฟชั่นที่ฟื้นตัวก็กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งอย่างช้าๆ ค่ะ
ในส่วนนี้เราจะรวบรวมคอลเลกชั่นแฟชั่นแกลและสิ่งของยอดนิยมของแกลกันค่ะ
ผมบลอนด์ฟอกขาว การทำสีผม การทำไฮไลท์เป็นปอยผม และการต่อผมก็กำลังได้รับความนิยมเช่นกัน
![วัฒนธรรมแกลจากยุคปี 1990 คืออะไร? มาย้อนรอยวัฒนธรรมญี่ปุ่นอันเป็นเอกลักษณ์ที่สร้างความตื่นเต้นให้กับชิบูย่าและฮาราจูกุ](https://content.fun-japan.jp/renewal-prod/cms/articles/content/de496a37724acdf6b301114f150681f4jpg_2022-02-25-10-38-17.jpg)
แกลมีความเป็นเอกลักษณ์ในเรื่องทรงผมไม่แพ้เรื่องแฟชั่นการแต่งตัวเลยค่ะ เช่นมีการฟอกสีผมเพื่อขจัดเม็ดสีและทำให้ผมเป็นสีบลอนด์ หรือแม้แต่การเปลี่นสีผมค่ะ การดัดผมให้หยิกและติดกิ๊บใหญ่หรือต่อผมก็กลายเป็นกระแสแฟชั่นเช่นกันค่ะ
แต่เมื่อกระแสอามุร่า*ได้รับความนิยม ผมยาวตรงก็กลายเป็นเทรนด์แทนค่ะ! การทำผมสีน้ำตาลและให้ผมด้านหน้ายาวเท่ากันโดยแหวกกลางก็กลายเป็นกระแสหลักแทนค่ะ
*(アムラー / Amuraa) ลอกเลียนแบบสไตล์แฟชั่นของนักร้องดัง อามุโระ นามิเอะ
ต้องสั้นไว้ก่อน! ดัดแปลงชุดนักเรียนให้เป็นกระโปรงสั้นยาวไม่ถึงเข่า
พื้นฐานของแฟชั่นแกลคือกระโปรงยาวไม่คลุมเข่าที่สั้นจนแทบจะมองเห็นกางเกงใน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สไตล์โคะแกลที่มักจะสวมกระโปรงจีบสั้นโดยการพับส่วนเอวขึ้นเพื่อทำให้ชุดเครื่องแบบดูเข้าเทรนด์และน่ารักยิ่งขึ้นก็ได้รับความนิยมมากค่ะ เพียงใส่กระโปรงสั้นจับจีบกับคาร์ดิแกนตัวยาวโอเวอร์ไซส์ คุณก็อาจเป็นสาวแกลได้เช่นกันนะคะเนี่ย...
ถุงเท้าหลวม loose socks
ไอเท็มที่ขาดไม่ได้สำหรับแกล ซึ่งกลับมาฮิตอีกครั้งพร้อมกระแสการฟื้นฟูวัฒนธรรมยุคเฮเซที่มาแรงในปี 2021 ความยาวจะยาวกว่าถุงเท้ายาวทั่วไปอย่างมาก ในช่วงทศวรรษที่ 1990 ความยาวถุงเท้าทั่วไปคือ 34 ซม. ส่วน loose socks นั้นมาตรฐานจะอยู่ที่ 75 ซม. การสวมถุงเท้าที่มีเนื้อผ้ายืดหยุ่นแบบนี้ก็เพื่อให้ถุงเท้าย่นลงไปกองที่ข้อเท้านั่นเองค่ะ อนึ่ง คนดังคนหนึ่งที่เป็นนางแบบสายแกลในรายการทีวีตอนนั้นเคยบอกว่าถุงเท้า loose socks ที่เธอใส่ในยุค 90 นั้นยาวกว่า 2 เมตรเลยค่ะ!
ถุงช้อปปิ้งแบรนด์ยอดนิยม
สำหรับเด็กผู้หญิงมัธยมปลายในสมัยนั้น การมีถุงช้อปปิ้ง*1ของแบรนด์ยอดนิยมสำหรับแกลนั้นก็ถือเป็นหน้าตาทางสังคมอย่างหนึ่งเลยค่ะ
ดังนั้นสาวๆ ในช่วงทศวรรษที่ 1990 จึงใช้ถุงช้อปปิ้งจากแบรนด์อย่าง me Jane, LOVE BOAT, CECIL McBEE และ ALBA ROSA ไปจนกว่าถุงกระดาษจะหมดสภาพเกินใช้งานเลยค่ะ
นอกจากนี้ ในยุคนั้น แบรนด์สำหรับสาว ๆ เช่น Moussy, SLY และ ANAP ก็ได้รับความนิยมอย่างมาก ที่ชิบูย่า 109 ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในนามแดนศักดิ์สิทธิ์สำหรับสาวแกล ก็มีพนักงานประจำร้านที่มีเสน่ห์จำนวนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นและไปปรากฏอยู่ตามนิตยสารและสื่อต่างๆ นอกจากถุงช้อปปิ้งของแบรนด์และพนักงานขายที่มีเสน่ห์แล้ว ผลิตภัณฑ์แต่งหน้า เช่น ร้านฮิซาลอน*2 คอนแทคเลนส์แบบสี และขนตาปลอม ก็เคยได้รับความนิยมเช่นกันค่ะ
*1 ถุงกระดาษที่แต่ละแบรนด์มอบให้ผู้ซื้อผลิตภัณฑ์
*2 ตัวย่อของร้านทำผิวสีแทน (日焼けサロン / Hiyake Salon)
![วิธีสร้างลุคแบบแกล - แกล (Gal / Gyaru) : ทำความรู้จักกับวัฒนธรรม 'Gal' ของญี่ปุ่น](https://content.fun-japan.jp/renewal-prod/cms/articles/content/shutterstock1896668074Rjpg_2021-09-13-09-16-17.jpg)
แกลมีหลายประเภทจริงหรือ?
แม้จะเรียกรวมๆ กันว่าแกลคำเดียว แต่จริงๆ แล้วแกลนั้นก็มีหลายประเภทค่ะ ในที่นี่เราจะแนะนำศัพท์ที่ขึ้นชื่อและสไตล์ที่ไม่ธรรมดากันค่ะ
- โคะแกล (コギャル / Kogyaru): ตัวย่อของแกลมัธยมปลาย (高校生のギャル / Kokosei no Gyaru) รูปแบบพื้นฐานคือการดัดแปลงชุดนักเรียน จนถึงช่วงทศวรรษ 1980 นั้น นักศึกษาหญิงเคยถูกเรียกว่าแกลมาก่อน แต่ด้วยการมาถึงของกระแสโคะแกลที่บูมในช่วงทศวรรษ 1990 คำนี้จึงกลายเป็นศูนย์กลางของแฟชั่นไปแทนค่ะ
- LA แกล (LAギャル / LA Gyaru): ตามชื่อเลยค่ะ เป็นสไตล์แฟชั่นป๊อปที่คำนึงถึงแฟชั่นในแอลเอ การประสานกันอย่างมีสีสันโดยใช้ผิวสีแทนแบบข้าวสาลีและสีหลักนั้นก็เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวค่ะ
- แกลโอะ (ギャル男 / Gyaru-o): ผู้ชายที่แต่งตัวสายแกล มีความพิถีพิถันเรื่องทรงผม ผิวสีแทน และมีสไตล์แฟชั่นเฉพาะตัวค่ะ
- กังกุโระ (ガングロ / Ganguro): สไตล์ที่ผิวสีแทนเข้มที่ไปทำมาจากร้านฮิซาลอนหรืออื่นๆ พร้อมใบหน้าดูเข้มขึ้นด้วยการแรเงาหรืออายแชโดว์สีน้ำตาล บางครั้งก็เรียกว่าคุโรแกล (黒ギャル / Kurogyaru)
- ยามัมบะ (ヤマンバ / Yamanba): วิวัฒนาการแยกมาจากกังกุโระ สไตล์นี้ทำให้ผิวสีเข้มของเธอดูโดดเด่นยิ่งขึ้นโดยการเปลี่ยนผมเป็นสีเงินและใช้สีขาวในการแต่งตาและลิปสติก อนึ่ง ยามัมบะเป็นชื่อโยไคตามภูเขาที่มักปรากฏตัวเป็นยายแก่
- ฮิเมะแกล (姫ギャル / Himegyaru): แกลที่ชอบผิวขาวและการแต่งตัวสไตล์เหมือนเจ้าหญิง เช่น ผ้าจีบ ผ้าลูกไม้ และผมดัดฟูที่ดูมีวอลุมค่ะ
- ชิโรแกล (白ギャル / Shirogyaru): แกลประเภทหนึ่งที่ไม่ทำผิวให้เป็นสีแทน ตรงข้ามกันกับคุโรแกล
- อามุร่า (アムラー / Amuraa): แกลที่เลียนแบบแฟชั่นและการแต่งหน้าของนักร้องชื่อดังอย่าง อามุโระ นามิเอะ ในราวปี 1995 รองเท้าบูทยาวและผมยาวตรงก็เคยกลายเป็นกระแสนิยมค่ะ
จากโคะแกล สาววัยใส สู่อาเกะโจ สาววัยทอง
ในช่วงปลายทศวรรษ 1990 เมื่อกระแสอามุร่าได้รับความนิยม นิตยสารสำหรับแกล เช่น "egg" ได้จุดประกายความเจริญ และโคะแกล เหล่าเด็กผู้หญิงในโรงเรียนมัธยมต้นและมัธยมปลายที่อายุน้อยกว่าแกลทั่วไปก็กลายเป็นปรากฏการณ์ทางสังคมค่ะ
นอกจากนี้ นิตยสารสำหรับแกลก็ทยอยกันออกวางจำหน่ายไล่ตามกันมาอีกด้วยค่ะ ในช่วงทศวรรษ 2000 นางแบบนิตยสารได้รับความนิยมอย่างมาก และการเป็นนางแบบพิเศษสำหรับนิตยสารสำหรับแกลอย่าง "Popteen", "Ranzuki" และ "BLENDA" ก็ได้รับความนิยมมากค่ะ ส่งให้เสื้อผ้าและเครื่องประดับที่นางแบบใช้สวมใส่ตอนปรากฏในบนนิตยสาร และผลิตภัณฑ์ที่ทางนิตยสารผลิตขึ้นก็มียอดขายเพิ่มมากขึ้น มีผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างมากถึงขนาดเรียกกันว่าเป็น "การขายเอบิ" (จากนางแบบ เอบิฮาระ ยูริ) เอย "การขายสึบาสะ" (จากนางแบบ มาสุวากะ สึบาสะ) เอยเลยค่ะ นอกจากนี้ สาวๆ ที่ถูกเรียกว่า "อาเกะโจ" (アゲ嬢 / Age-jo คุณหนูอาเกะ) นั้นก็เกิดจากนิตยสาร "小悪魔ageha" (Koakuma ageha) ที่ตั้งกลุ่มเป้าหมายไปที่ "อาเนแกล" (姉ギャル / Ane-gyaru) และ "ฮิเมะแกล" ตามย่านราตรีค่ะ
วัฒนธรรมแกลในปัจจุบัน
![แกลในปัจจุบัน - แกล (Gal / Gyaru) : ทำความรู้จักกับวัฒนธรรม 'Gal' ของญี่ปุ่น](https://content.fun-japan.jp/renewal-prod/cms/articles/content/shutterstock666197236Rjpg_2021-09-13-09-17-11.jpg)
นับตั้งแต่ช่วงปลายทศวรรษ 2000 วัฒนธรรมแกลได้เสื่อมถอยลงเนื่องจากปัจจัยต่างๆ เช่น การประกาศจบการศึกษาของนางแบบยอดนิยม อัตราการเกิดที่ลดลง การเลิกผลิตนิตยสาร และการเพิ่มขึ้นของโซเชียลมีเดียค่ะ
อย่างไรก็ตาม ในปี 2018 นิตยสาร "egg" ได้รับการฟื้นคืนชีพในรูปแบบเว็บ รองเท้าส้นตึกได้รับการฟื้นคืนชีพที่ SHIBUYA109 และถุงเท้าหลวม loose sock ก็ได้รับความนิยมอีกครั้งในปี 2021 และวัฒนธรรมแกลก็กลับมาเป็นที่สนใจกันอีกครั้งค่ะ
ว่ากันว่าเทรนด์แฟชั่นเกิดขึ้นซ้ำทุกๆ 25 ถึง 32 ปี อีกไม่นานเราคงอาจจะได้เห็นกระแสแฟชั่นญี่ปุ่นที่มีเอกลักษณ์และน่าสนใจเหมือนที่กระแสโคะแกลเคยสร้างไว้กันก็เป็นได้นะคะ
Comments