ถ้าคุณกำลังวางแผนจะมาเที่ยวภาคตะวันตกของประเทศญี่ปุ่นอย่างจังหวัดนางาซากิ และคุมาโมโตะ คุณน่าจะลองเดินทางเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อยเพื่อมายังปราสาทชิมาบาระ ปราสาทชิมาบาระคือแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ทางทิศตะวันออกสุดของจังหวัดนางาซากิ ซึ่งจะต้องใช้เวลาเดินทางจากตัวเมืองนางาซากิถึง 2 ชั่วโมงด้วยรถไฟ และหากคุณมาจากจังหวัดคุมาโมโตะ คุณสามารถใช้เรือข้ามฟากได้ ซึ่งใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น แม้คุณจะสามารถเดินทางมายังปราสาทนี้ด้วยเส้นทางบนบกได้ แต่เราอยากแนะนำให้คุณลองนั่งเรือข้ามฟากมาเพราะใช้เวลาไม่นาน และราคาก็ไม่แพง นอกจากนี้หากคุณนั่งเรือข้ามฟากมาคุณจะได้ชื่นชมกับวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม รวมถึงโอกาสที่จะได้เห็นฝูงนกนางนวล ซึ่งคุณสามารถให้อาหารพวกมันจากบนเรือได้อีกด้วย



เกี่ยวกับปราสาทชิมาบาระ

ปราสาทชิมาบาระสร้างขึ้นเมื่อประมาณปี ค.ศ. 1618 โดยท่าน Matsukura Shigemasa ซึ่งเป็นขุนพลในยุคที่มีการสู้รบกับสหรัฐ ผู้คนในจังหวัดนางาซากิและเมืองชิมาบาระต่างได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมตะวันตก ซึ่งบางคนก็เป็นผู้ที่นับถือศาสนาคริสต์ แต่ท่าน Matsukura ได้ปราบปรามพวกคริสต์ศาสนิกชนอย่างรุนแรง การปราบปรามในครั้งนั้นทำให้เกิดการจลาจลที่เมืองชิมาบาระ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1637-38 ซึ่งเป็นสงครามกลางเมืองที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของผู้ที่นับถือศาสนาคริสต์ในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น

ปราสาทแห่งนี้มีหอคอยทั้งหมด 5 ชั้น ซึ่งสูง 33 เมตร และกว้าง 1,320 เมตร ปราสาทหลังเดิมถูกทำลายลงหลังจากที่ยุคเมจิกลับมาสู่สภาพปกติในปี ค.ศ.1868 ซึ่งมีเพียงแค่กำแพงหินที่หลงเหลือเท่านั้น และปราสาทหลังใหม่ได้เริ่มสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1963

คุณสามารถลองใส่เสื้อเกราะนักรบญี่ปุ่นได้ฟรี

เมื่อคุณมายังปราสาทแห่งนี้ พนักงานที่นี่จะคอยต้อนรับคุณด้วยชุดขุนนางดั้งเดิมและเสียงดนตรีบรรเลง พนักงานทุกคนที่นี่น่ารักและยินดีที่จะช่วยถ่ายรูปให้กับคุณ ฉันเดินทางไปเยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวมามากมายในโลกนี้ แต่ก็ไม่เคยเจอที่ไหนที่ให้บริการด้วยใจเช่นนี้มาก่อน และคุณยังสามารถสวมเสื้อเกราะญี่ปุ่น และถ่ายรูปคู่กับปราสาทได้ฟรี ซึ่งไม่เหมือนสถานที่ท่องเที่ยวที่อื่น อีกทั้งที่นี่ยังมีชุดนินจาให้กับเด็กๆ ไว้สวมใส่อีกด้วย

ภายในปราสาท



ภายในปราสาทจะเป็นพิพิธภัณฑ์ทางประวัติศาสตร์ ที่มีการจัดแสดงสิ่งของทางประวัติศาสตร์ตั้งแต่สมัยที่เกิดการจลาจลที่เมืองชิมาบาระ และ Kakure Kirishitan หรือที่เรียกว่าวัฒนธรรมของ ”คริสตชนที่ซ่อนอยู่” แม้ว่าพิพิธภัณฑ์จะไม่ได้ใหญ่โตมาก แต่งานแสดงที่นี่น่าสนใจยิ่งนัก มีงานแสดงหลายชิ้นที่คุณไม่สามารถไปพบเจอที่อื่น อย่างเช่น รูปปั้นของพระแม่มารีที่คล้ายกับรูปปั้นของพุทธศาสนาเพื่อซ่อนเร้นความจริงที่ว่าพวกเขาเป็น
คริสเตียน ที่ชั้น 5 ของปราสาท คุณจะสามารถชมวิวของเมืองชิมาบาระได้ถึง 360 องศา และจะได้เห็นทะเล Ariake รวมถึง ภูเขา Unzen ซึ่งเป็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามมากเหมาะแก่การถ่ายรูป

อาหารชื่อดังของที่นี่ เมนู Guzoni ที่ร้าน Himematsuya



หากคุณหิว เราก็มีร้านอาหารมาแนะนำคุณค่ะ ร้าน Himematsuya เป็นร้านอาหารเก่าแก่ที่อยู่ใกล้ๆ กับปราสาท คุณสามารถลองทานเมนูพื้นบ้านชื่อดังอย่าง gu-zoni ได้ที่นี่ เมนู gu-zoni คือซุปที่ปรุงมาจากซีอิ๊วขาวมี rice cake และส่วนประกอบอื่นๆ ผสมอยู่ คำว่า“Gu” หมายถึงส่วนประกอบนานาชนิด และคำว่า “zoni” หมายถึงน้ำซุปที่มี rice cake ผสมอยู่ คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะรับประทาน zoni ในวันปีใหม่ แต่สำหรับที่เมืองชิมาบาระ เหล่าซามูไรจะทาน zoni กับวัตถุดิบอื่นๆ อีกมากมาย เพื่อเป็นการเพิ่มพลังเตรียมความพร้อมสำหรับการต่อสู้ ด้วยเหตุนี้เมนูนี้จึงกลายมาเป็นเมนูท้องถิ่นชื่อดัง คุณสามารถทาน gu-zoni ได้ทุกฤดูกาลตลอดปี

แม้ว่าปราสาทชิมาบาระจะไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยวที่นิยมนัก แต่มันก็เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ควรค่าแก่การมาเยี่ยมชม ที่นี่มีคนไม่มาก ซึ่งถือเป็นข้อดีที่คุณจะได้เพลิดเพลินไปกับการชื่นชมปราสาท และไม่ต้องรีบร้อน อีกทั้งยังมีงานแสดงทางประวัติศาสตร์อีกด้วย หากคุณอยู่ที่จังหวัดคุมาโมโตะและต้องการเดินทางมายังนางาซากิ คุณน่าจะต้องผ่านเมืองชิมาบาระ ปราสาทชิมาบาระอยู่ห่างจากท่าเรือข้ามฟากเพียง 8 นาทีโดยรถยนต์เท่านั้น ดังนั้นถ้าคุณมีเวลาว่างพอ การมาเที่ยวที่ปราสาทแห่งนี้ก็น่าจะเป็นความคิดที่ดีนะคะ