[บทความสำหรับสมาชิกเท่านั้น] เรื่องราวลี้ลับและสยองขวัญ ตอนที่ 23: วิธีตรวจสอบว่าในบ้านมีผีหรือไม่? แบบญี่ปุ่น!

  • 14 ธันวาคม 2018
  • 11 มิถุนายน 2020
  • Mon
  • Mon

เรื่องราวลี้ลับและสยองขวัญ ตอนที่ 23: วิธีตรวจสอบว่าในบ้านมีผีหรือไม่? แบบญี่ปุ่น!

ช่วงหลังมานี่ผมรู้สึกจะเจอเหตุการณ์แปลกๆในบ้านบ่อยครั้ง สัปดาห์ที่แล้วก็มีแสงวาบกับกลิ่นเหม็นไหม้ในห้องตอนกำลังจะหลับ เล่นเอาไม่ให้ได้นอนเลยครับ เลยลองค้นหาวิธีที่จะรู้ว่ามีผีอยู่ในบ้านหรือไม่ดู... บทความในครั้งนี้จึงขอนำเสนอเรื่อง วิธีการดูว่าใกล้ๆตัวคุณมีผีหรือไม่แบบญี่ปุ่น! ลองนำไปลองทำแล้วมาเล่าประสบการณ์ที่พบดูกันได้นะครับ!

คำเตือน: กรุณาใช้ความระมัดระวัง

หากไม่พร้อม กลับหลังหันแล้วหนีไปดีกว่าครับ

อย่างที่เคยบอกไปตั้งแต่ตอนแรกสุดครับ ที่ญี่ปุ่น เหตุการณ์ลี้ลับต่างๆอาจเกิดจากน้ำมือของสิ่งต่างๆได้หลายสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นเทพที่เปี่ยมด้วยความกรุณาหรืออสูรมารวิญญาณร้าย หรือแม้แต่การถอดวิญญาณของคนที่แอบคลั่งไคล้คุยอยู่อย่างลับๆ หากคุณลองทำตามวิธีการที่จะพูดถึงดู คุณอาจจะเผชิญความน่ากลัวที่จะตามหลอกหลอนคุณหรือมีอันตรายเอาได้ แต่หากอยากจะลองให้แน่ใจว่าอะไรแปลกๆในห้องที่คุณเจอนั้นไม่ได้ตาฝาดหรือคิดไปเอง ก็ลองทำตามดูได้เลยครับ แต่หากเจอของจริงเข้า อาจจะต้องให้ผู้เชี่ยวชาญจัดการให้ครับ (ปล. ที่ญี่ปุ่นจะใช้การปัดรังควานไล่ผีแทนการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้) โปรดใช้วิจารณญาณในการทำตาม ไม่เหมาะกับผู้ที่ใจไม่แข็งหรือแตกตื่นได้ง่าย การวิ่งในที่มืดอาจจะเกิดอันตรายต่อตัวคุณและข้าวของได้

ลับสัมผัสให้ไว

อย่างที่ได้เล่าไปในตอนที่แล้วครับ สัมผัสพิเศษไม่ได้มีเพียงรูปแบบเดียว สำหรับคนไม่"เห็น"ผี ก็อาจจะ"ได้ยิน" "ได้กลิ่น" หรือ"รู้สึก"มีจิตสัมผัสถึงบางสิ่งที่มองไม่เห็นก็เป็นได้ เพราะงั้นแม้ว่าคุณจะไม่ใช่คนเห็นผี คุณก็ใช่ว่าจะไม่มีประสาทสัมผัสด้านนี้เลยเสียทีเดียว คุณอาจจะมีประสาทสัมผัสพิเศษด้านเสียง กลิ่น หรือสัมผัสแทนก็ได้

ความหวาดผวาอาจจะช่วยให้คุณมีสัมผัสไว...

หากคุณเคยได้ยินเสียงกระซิบจากที่ที่ไม่มีคนหรือเสียงผู้หญิงในห้องที่มีแต่ผู้ชาย หรือตื่นจากเสียงละเมอของตัวเอง คุณอาจจะถูกตามหลอกหลอนหรือมีผีเข้าสิงบางส่วน (เข้ามาใช้เสียงของคุณเพื่อสื่อสาร) กลิ่นธูป กลิ่นควัน กลิ่นคาวปลา กลิ่นไข่เน่าหรือกลิ่นโลหะ (คล้ายๆสนิมหรือเลือด) ก็อาจจะแยกแยะประเภทของวิญญาณหรือผู้มาเยือนที่อยู่ในบ้านคุณได้ และหากคุณรู้สึกหนาววูบขึ้นมาหรือรู้สึกหวาดกลัวโดยไม่มีสาเหตุหรือรู้สึกเหมือนถูกจ้องมอง อีกฝ่ายคงต้องการให้คุณรับรู้ถึงตัวตนของเขาเป็นแน่แล้วแหล่ะครับ

ปรากฏการณ์อันเป็นรูปธรรม

หากสัตว์เลี้ยงจ้องมองไปที่จุดใดจุดหนึ่งนานๆ มันคงเห็นอะไรเข้าแล้ว

ผีอาจจะแกล้งคุณเพื่อความสนุกหรือเพื่อล้างแค้นหรือขับไล่คุณก็ได้ มีตั้งแต่ระดับที่ชัดเจนอย่างของในบ้านเคลื่อนย้ายด้วยตัวเอง หรือแบบเนียนๆเล็กๆน้อยๆอย่างเครื่องใช้ไฟฟ้าทำงานขัดข้อง ไฟหรี่ลงหรือดับเฉพาะตอนที่คุณเดินผ่าน โทรศัพท์เลื่อนหน้าจอเองโดยไม่มีใครแตะหรือมีคลื่นรบกวน มีมากมายหลายแบบครับ สัตว์เลี้ยงบางทีก็สามารถช่วยได้เพราะสัตว์มีประสาทสัมผัสที่ไวกว่ามนุษย์ หากสัตว์เลี้ยงจ้องหรือขู่ที่กำแพงทั้งๆที่ไม่มีแมลงหรืออะไรที่ตรงนั้น พวกมันอาจจะเห็นอะไรที่คุณมองไม่เห็นอยู่ก็ได้ แน่นอนว่าการโดนผีอำเวลานอนหรืออาการอัมพาตชั่วขณะระหว่างที่นั่งหรือยืนก็เป็นอะไรที่น่ากลัวไม่น้อยเลย แต่ใครที่เคยเจอบ่อยๆจนเริ่มจำความรู้สึกได้ จะรู้ตัวก่อนโดนอำเลยครับ แทบจะบอกได้เลยว่ารู้สึกเหมือนมีอะไรน่ากลัวกำลังจะเข้ามาหาคุณ ลองพลิกตัวหรือตบไปก็อาจจะรู้สึกเหมือนแตะโดนอะไรเลยทีเดียวครับ

เช็คประวัติบ้านดู

ที่ญี่ปุ่นมีคำว่า 事故物件 (จิโคบุคเค็น) หรือ "อาคารที่เคยเกิดเหตุ" ไว้ใช้เรียกสถานที่ที่มีประวัติการตายภายในบริเวณ ไม่ว่าจะจากการฆ่าตัวตาย ฆาตกรรม อาการป่วยเฉียบพลัน อุบัติเหตุ และอื่นๆ แถมยังมีเว็บให้บริการค้นหาจิโคบุคเค็นในพื้นที่ได้ฟรีอีกด้วย (ลองหาคำว่า oshimaland หรือ 大島てる ดู) ตัวเว็บยังไม่ได้มีแค่ที่ญี่ปุ่นนะครับ มีบันทึกจิโคบุคเค็นที่เป็นข่าวในต่างประเทศด้วย ที่กรุงเทพก็มีบันทึกในเว็บถึง 53 แห่งเลยครับ ใกล้บ้านใครก็ระวังนะครับ หึหึหึ น่าเสียดายที่รายละเอียดเหตุการณ์เขียนเป็นภาษาญี่ปุ่น แต่คนที่อ่านภาษาญี่ปุ่นออก ลองดูไว้เป็นความรู้ก็ได้ครับ

อาคารที่เคยเกิดเหตุ

แต่ถึงว่าบ้านนั้นจะไม่ได้เป็นจิโคบุคเค็น ก็อาจจะสร้างทับที่หรือสุสานเก่า หรือตั้งอยู่บน 霊道 (เรโด ทางผ่านวิญญาณ) หรือที่บ้านเราจะเรียกว่า "ทางผีผ่าน" หรือ "ทางสามแพร่ง" ก็เป็นได้ ซึ่งเรื่องแบบนี้จะไม่ถูกบันทึกลงในเว็บโอชิมะเทรุครับ จนกว่าจะมีคนตายขึ้นมา... ซึ่งในกรณีนี้ คงต้องหันไปพึ่งวิธีที่ชัดเจนกว่านี้ครับ

วิธีแบบดั้งเดิม: การถอดจิตเดินสำรวจบ้าน

ถึงบ้านเราจะมีการมองลอดหว่างขา แต่ที่ญี่ปุ่นมีวิธีที่ต่างออกไปครับ อันนี้เคยออกทางรายการโทรทัศน์เรื่องลี้ลับในญี่ปุ่นด้วย แรกสุด ให้หลับตาแล้วจินตนาการว่ายืนอยู่นอกบ้านหน้าประตูทางเข้าบ้าน จากนั้นให้จินตนาการต่อไปเรื่อยๆโดยไม่ลืมตาว่า เปิดประตูแล้วเดินเข้าบ้านไป จากนั้นจินตนาการว่าเดินสำรวจบ้านเปิดประตูทุกบานตรวจสอบให้ทั่วทั้งบ้าน พยายามคิดให้แม่นยำว่าข้าวของเครื่องใช้ต่างๆวางไว้ตรงไหน จากนั้นกลับมาที่หน้าประตูเข้าบ้านแล้วจึงลืมตาขึ้น ไม่ว่าคุณจะพบหรือเจออะไรในระหว่างที่จินตนาการ อย่าได้ลืมตาจนกว่าคุณจะกลับออกมานอกบ้านเป็นอันขาด

ถอดจิตไปสำรวจสถานที่ดู...

ในรายการกล่าวว่า หากคุณรู้สึกเหมือนเดินผ่านใครหรือเห็นเงาดำอะไรระหว่างที่จินตนาการ ลองนับดูแล้วก็จะเป็นจำนวนผีหรือสิ่งลี้ลับที่มีอยู่ในบ้านคุณจริงๆครับ ว่ากันว่าวิธีการนี้จะได้ผลดีขึ้นหากทำยามค่ำคืนตามสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อย่างที่วัดหรือศาลเจ้าญี่ปุ่น ที่สำคัญคือควรอยู่นอกตัวบ้านที่ต้องการสำรวจครับ ซึ่งวิธีการนี้อาจจะได้ผลกับคนญี่ปุ่นเพราะมีหลายกรณีศึกษาที่อาจสังเกตได้ว่า ชาวญี่ปุ่นสามารถถอดจิตได้ง่ายโดยไม่รู้ตัว เช่น อิคิเรียว (生霊 วิญญาณคนเป็น) โรคุโรคุบิ (ろくろ首 ผีคอยาว) หรือการสาปแช่งซึ่งเป็นการถอดจิตตัวเองจำแลงเป็นอสูรเพื่อไปทำคุณไสยให้ศัตรู (ว่ากันว่าผู้ที่เคยทำคุณไสยญี่ปุ่นจะถอดจิตเป็นอิคิเรียวได้ง่ายด้วย)

วิธีแบบสมัยใหม่ใช้เทคโนโลยีช่วย

นี่เป็นวิธีการบางส่วนที่หาพบได้ตามกระทู้ของเว็บญี่ปุ่นครับ

ใช้กล้องวิดีโอหรือโทรศัพท์สมาร์ทโฟน

เป็นคุณก็อาจจะประหลาดใจได้เช่นกัน...

ไปยังห้องที่คุณรู้สึกแปลกๆหรือมีเหตุการณ์ประหลาด หันกล้องออกจากตัว เริ่มการอัดวิดีโอ หลับตา แล้วค่อยๆหมุนตัวหนึ่งรอบ ลืมตาแล้วหยุดการอัด ทำซ้ำอีกครั้งโดยหันกล้องมาถ่ายตัวคุณเองแทนในรอบนี้ จากนั้นลองมาดูวิดืโอที่ถ่าย พยายามอย่าแตกตื่นหากคุณพบเห็นอะไรในวิดีโอ... วิธีการนี้อาจจะใช้ไม่ได้ผลกับผีที่ไม่ต้องการให้คุณรู้ว่าเขามีตัวตนอยู่ เช่นเทพประจำตัวหรือวิญญาณคนเป็นของคนที่แอบติดตามคุณอย่างลับๆ... เว้นเสียแต่ว่าเขาต้องการจะเตือนอะไรบางอย่างกับคุณ

แอพตรวจจับหน้า

ถ้ามีช่องจับหน้าในบริเวณที่ไม่มีหน้าคนก็ระวังไว้...

กล้องสมัยใหม่ แอพบนโทรศัพท์สมาร์ทโฟน หรือเว็บแคมต่างก็มีฟังค์ชั่นการตรวจจับหน้าคน บางแอพก็ยังใส่ลูกเล่นอย่างหูแมวหูกระต่ายหรือใส่ดาวที่แก้มให้ด้วย แต่ถ้าเกิดแอพพวกนี้ใส่ลูกเล่นในจุดที่ไม่มีหน้าคนที่คุณสามารถมองเห็นได้ คงต้องเตรียมเรียกหมอผีหรือนิมนต์พระแล้วแหล่ะครับ… ลองหยิบกล้องมือถือมาดูนะครับว่ามีช่องสี่เหลี่ยมตรวจจับหน้าเวลาหันกล้องไปที่คนหรือเปล่า ถ้ามีก็ลองเอาไปตามล่าผีได้เลยครับ

รอบนี้ขอไว้แค่นี้ก่อนนะครับ ระหว่างที่รอรอบหน้า ลองไปหาประสบการณ์ลี้ลับด้วยตัวคุณเองตามสะดวกเลยนะครับ! หึหึหึ

บทความก่อนๆ

หัวข้อเรื่อง

Survey[แบบสอบถาม] กรุณาบอกเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในญี่ปุ่น







Recommend