FUN! JAPAN PR

【ภาคแรก】ขับรถเที่ยวเองง่ายๆในภูมิภาคชูบุ (Chubu)และโฮคุริคุ(Hokuriku) 4 วัน

  • 19 สิงหาคม 2019
  • 1 พฤศจิกายน 2018
  • FUN! JAPAN Team

ขับรถเที่ยวเองภาคแรก

ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีอันดับหนึ่งของโลกแต่ในความล้ำหน้าทางเทคโนโลยีที่เสมือนเป็นโลกในอนาคตนั้น สถานที่ท่องเที่ยวในภูมิภาคอื่นก็ยังคงความเป็นญี่ปุ่นสมัยโบราณที่สวยงามและน่าสนใจอีกหลายแห่งด้วยค่ะ ทางเราขอบอกได้เลยว่าเที่ยวญี่ปุ่นนั้นง่ายมาก ไม่ต้องรู้ภาษาญี่ปุ่นก็เที่ยวเองได้แบบสบาย

โดยครั้งนี้เราจะแนะนำเส้นทางท่องเที่ยวในภูมิภาคชูบุ (Chubu) และภูมิภาคโฮคุริคุ(Hokuriku)จำนวน 4 วันด้วยการขับรถเที่ยวเองแบบง่ายๆค่ะ การขับรถเที่ยวเองนั้นสามารถไปยังสถานที่ที่รถไฟหรือรถบัสไปไม่ถึง ไม่ต้องกังวลกับตารางเวลารถไฟหรือรถบัส ไปไหนเองก็ได้ตามสบายและก็ยังไม่ต้องลากกระเป๋าเดินทางไปมาให้เมื่อยอีก

สักการะศาลเจ้าอิเสะ(Ise Jingu Naiku) พบกับนักดำน้ำอามะจังและชมการจัดแสดงไฟที่Nabana no Sato

วันแรก สนามบิน Chubu Centrair International Airport⇒ศาลเจ้าอิเสะ(Ise Jingu Naiku)⇒กระท่อมอามะจัง(Ama Hut HACHIMAN)⇒Nabana no Sato⇒พักโรงแรมในKuwana

9:00น. สนามบิน Chubu Centrair International Airport

สนามบินนานาชาติขนาดใหญ่แห่งภูมิภาคชูบุของเมืองนาโกย่า เป็นสนามบินที่ได้รับความนิยมสูงเพราะสามารถเดินทางต่อไปยังจังหวัดอื่นๆได้อย่างสะดวกสบาย

สำหรับสายการบินที่มีเที่ยวบินตรงจากไทยจะมี 2 สายการบิน คือ การบินไทยกับเจแปนแอร์ไลน์ค่ะและในวันที่30ตุลาคมปี2018เป็นต้นไป ทางสายการบินแอร์เอเชียจะเปิดเส้นทางบินใหม่บินตรงระหว่างสนามบินดอนเมืองมายังสนามบิน Chubu Centrair

พูดถึงร้านอาหารกันบ้าง ร้านอาหารเป็นร้านที่มีชื่อเสียงและโด่งดังจากเมืองต่าง ๆ ของภูมิภาคนี้มีทั้งข้าวหน้าปลาไหลข้าวหน้าหมูทอดราดมิโสะแดง กุ้งทอดชื่อดังและเมนูอื่น ๆ อีกเพียบ

บริษัทรถเช่าTOYOTA Rental a Car

บริษัทรถเช่าTOYOTA Rental a Carมีสาขาทั่วประเทศจำนวนมากที่สุดบริษัทหนึ่ง ถ้าคุณเช่ารถที่สาขาสนามบินชูบุก็สามารถนำรถไปคืนที่สาขาอื่นได้ไม่จำเป็นต้องกลับมาคืนที่เดิม และที่พิเศษเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเท่านั้นคือมีเซ็ทแคมเปญสำหรับรถเช่าของTOYOTA Rental a Carกับบัตรทางด่วนที่ใช้ได้ไม่จำกัดครั้งในเขตพื้นที่ภูมิภาคชูบุ「Central Nippon Expressway Passหรือเรียกสั้นๆว่าCEP」บัตรนี้จะเป็นแพคเกจค่าทางด่วนตามจำนวนวันที่ได้เช่ารถ  ส่วนเส้นทางที่สามารถใช้บริการทางด่วนในแพคเกจได้ก็เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติไปกันบ่อยเช่น ชิราคาวาโกะ คานาซาวะ ภูเขาไฟฟูจิเป็นต้น

ขั้นตอนการเช่ารถ

  • ขั้นตอนที่ 1 จองและทำสัญญา : เตรียมใบอนุญาตขับขี่รถยนต์สากลและบัตรเครดิตและจ่ายค่าเช่าหลังเซ็นต์สัญญา
  • ขั้นตอนที่ 2 ก่อนออกเดินทาง : ก่อนออกเดินทางให้ตรวจสภาพรถด้านนอกทั้งรอยบุบรอยแผลและตรวจสอบการทำงานของเนวิเกชั่นและเครื่องปรับอากาศ
  • ขั้นตอนที่ 3 เติมน้ำมัน : เติมน้ำมันให้เต็มถังก่อนคืนรถ ไม่เช่นนั้นจะถูกปรับค่าน้ำมันได้
  • ขั้นตอนที่ 4 ขั้นตอนการคืนรถ : ตรวจดูให้เรียบร้อยว่าลืมของหรือไม่ ถ้ารถมีรอยบุบเพิ่มเติมหรือคืนรถเกินเวลาหรือลืมเติมน้ำมันก็จะถูกปรับเพิ่มขึ้น

ตารางค่าบัตรผ่านทางด่วน Central Nippon Expressway Pass (CEP) (ยังไม่รวมราคาค่ารถเช่า)

Central Nippon Expressway Pass (CEP)

※สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับแพคเกจบัตรCEPดูได้ที่นี่ค่ะ→http://hayatabi.c-nexco.co.jp/cep/en/

12:30น. กินอุด้งร้านดัง fukusuke ต่อด้วยของหวานร้านคาเฟ่สนูปปี้(SNOOPYTM CHAYA ISE)ที่โอฮาระอิมะจิ (Oharai-machi)และเดินถนนโอคาเกะโยโคะโจ (Okage-yokocho)

มื้อแรกของวันไปที่ร้าน fukusuke อุด้งขึ้นชื่อของอิเสะ เส้นอวบใหญ่เหนียวนุ่มรับประทานกับน้ำซอส เมนูยอดนิยมได้แก่อุด้งอิเสะแกงกระหรี่และอุด้งอิเสะหน้าเท็มปุระ

ร้าน SNOOPYTM CHAYA ISE

สาวกสนูปปี้เป็นต้องกรี๊ดดดดกับร้านกาแฟสไตล์ญี่ปุ่นที่ใช้ธีมจากหนังสือการ์ตูนเรื่องพีนัตส์ (PEANUTS) ที่โด่งดังทั่วโลกซึ่งตั้งอยู่ที่โอฮาไรมาจิที่เป็นถนนเชื่อมต่อกับศาลเจ้าชั้นในของศาลเจ้าอิเสะ ตั้งแต่ป้ายหน้าร้านเมนูอาหาร ร้านขายของที่ระลึกและแม้แต่ในห้องน้ำก็มีสนูปปี้เต็มไปหมดอดไม่ได้กับความน่ารักเลยตัดสินใจสั่งแพนเค้กไอศกรีมชาเขียวมาลองชิม

13:30น. สักการะศาลเจ้าอิเสะ(Ise Jingu Naiku)

เมื่อข้ามพ้นสะพานอุจิไป ท่านจะถูกห้อมล้อมไว้ด้วยบรรยากาศอันศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นส่วนของศาลเจ้าชั้นในที่เรียกกันว่าไนคู(Naiku) ถูกสร้างขึ้นเมื่อราว 2000 ปีก่อน จะมีพิธีสร้างศาลเจ้าและอัญเชิญเทพเจ้า ซึ่งจัดขึ้นทุกๆ 20 ปี

15:30น. กระท่อมอามะจัง(Ama Hut HACHIMAN)

อามะจังเป็นผู้หญิงที่ทำการประมงแบบดั้งเดิมด้วยการดำน้ำแบบโดยไม่มีอุปกรณ์ดำน้ำติดตัวเพื่อทำการงมหอยรวมทั้งเก็บสาหร่ายจากท้องทะเลซึ่งเป็นอาชีพที่สืบต่อกันมาเป็นเวลาหลายร้อยปีค่ะ อามะจังจะย่างอาหารทะเลสดๆ มีหอยต่างชนิด เช่นหอยซะซะเอะ (sazae) หอยเชลล์ กุ้งอิเสะ อาหารทะเลทุกอย่างจับขึ้นมาสดๆ จากทะเลวยน้ำมือของนักดำน้ำอามะ หลังจากที่ย่างอาหารทะเลเสร็จแล้วนักดำน้ำอามะก็ได้บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตและการงานของพวกเธอและได้แสดงการรำสไตล์อามะจังให้ชม 

ราคาอาหารกลางวันขึ้นอยู่กับขนาดของกลุ่มและสิ่งที่คุณต้องการกิน โดยเริ่มต้นที่ 3,500 เยนนอกจากนี้ยังมีเมนูtea-timeที่ราคาเริ่มต้น 2,000 เยน (กลุ่มตั้งแต่ 4 คนขึ้นไป)

ใส่ชุดดำน้ำของนักดำน้ำอามะ

ลองใส่ชุดดำน้ำของนักดำน้ำอามะและถ่ายรวมกับอามะจังคนอื่นๆ

※สิทธิพิเศษสำหรับบัตรเครดิตJCB:

แสดงบัตรเครดิต JCB และแผ่นพับGood Luck CHUBUหน้าที่แสดงสถานที่นี้สำหรับการซื้อเครื่องราง“อามะ เรโกะ ผู้แข็งแรง” พร้อมส่วนลด 20% ซึ่งเครื่องรางนี้ทำขึ้นมาด้วยแรงบันดาลใจจาก คุณ อามะ เรโกะ ที่ทำการประมงต่อเนื่องมาจนถึงอายุ 80 ปี

18:30น. ชมการจัดแสดงไฟอันยิ่งใหญ่อลังการที่สุดแห่งญี่ปุ่นที่Nabana no Sato

Nabana no Sato

Nabana no Satoเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม สถานที่ที่ซึ่งมีสวนดอกไม้ตามแต่ละฤดูกาลพร้อมประดับไฟในฤดูหนาวซึ่งที่นี่ถือได้ว่าเป็นสถานที่จัดงานประดับไฟที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น มีทั้งการประดับไฟในอุโมงค์ยาว 200 เมตรและการประดับไฟอันงดงามบนบ่อน้ำซึ่งทั้งสองจุดนี้เป็นจุดที่ผู้คนนิยมมาถ่ายรูปกันอย่างมาก

นอกจากนี้ในแต่ละปีก็จะมีการเปลี่ยนการจัดธีมแสดงไฟไปไม่ซ้ำกัน ถือได้ว่าเป็นสถานที่จัดงานประดับไฟที่ทั้งโลกต้องจับตามอง

Nabana no Sato

นอกจากนี้ภายในสวน Nabana no Sato ยังมีออนเซ็นธรรมชาติและร้านอาหารไว้คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวอีกด้วยและติดกับที่นี่ ก็ยังมีNagashima Resort ซึ่งมีทั้งสวนสนุกและเอาท์เล็ตมอลล์ให้ได้ใช้เวลาทั้งช้อปทั้งเที่ยวได้ไม่เบื่อตลอดทั้งวันเลยทีเดียว

ชมหมู่บ้านมรดกโลกชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go)สวนที่สวยที่สุดหนึ่งในสามของประเทศญี่ปุ่นสวน Kenroku-enที่เมืองคานาซาว่า(Kanazawa)

วันที่สอง กุโจฮะจิมัง(Gujohachiman)⇒ชิราคาวาโกะ(Shirakawa-go)⇒คานาซาว่า(Kanazawa)⇒สวนKenroku-en⇒พักโรงแรมใน Kanazawa

10:30น.กุโจฮะจิมัง(Gujohachiman)

ออกจากโรงแรมตอนเช้าและแวะไปยังที่กุโจฮะจิมัง(Gujohachiman)เป็นเมืองเล็กๆในจังหวัดกิฟุซึ่งเมืองนี้เป็นเมืองที่เก่าแห่งหนึ่ง จะเห็นได้ว่าบ้านเรือนสองข้างทางยังคงความเป็นเมืองเก่าและจุดเด่นของเมืองนี้ก็คือน้ำที่ใสและสะอาดมาก เดินเล่นชมบรรยากาศก็ทำให้รู้สึกว่าจิตใจสงบสุขขึ้นมาทันที

ร้านโซบะมัสซึอิ(Soba Matsui)

วันนี้มากินอาหารกลางวันโซบะกันค่ะ เส้นโซบะนั้นทางร้านทำขึ้นมาเอง เส้นนุ่มเหนียวกำลังดี รสชาติยอดเยี่ยมและสั่งมาพร้อมกับเทมปุระรวม มีทั้งกุ้งเทมปุระ ผักเทมปุระต่างๆ อร่อยมากจริงๆ เทมปุระกรอบและรสชาติกำลังดี

พิพิธภัณฑ์กุโจฮะจิมัง ฮาคุรันคัง(Gujo Hachiman Hakurankan)

พิพิธภัณฑ์กุโจฮะจิมัง ฮาคุรันคัง(Gujo Hachiman Hakurankan)

พิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมเสน่ห์ของเมืองกุโจฮะจิมังเอาไว้ นักท่องเที่ยวสามารถเรียนรู้วิธีการร่ายรำกุโจโอโดริซึ่งเป็นการร่ายรำประจำเมืองที่ในทุกช่วงฤดูร้อนจะมีการจัดเทศกาลการร่ายรำสุดยิ่งใหญ่ 1 ใน 3 ของญี่ปุ่น

ประสบการณ์ทำตัวอย่างโมเดลอาหาร

ทำตัวอย่างโมเดลอาหาร

ไม่เคยคิดว่ามาเที่ยวที่เมืองกุโจฮะจิมังแล้วจะมีร้านทำตัวอย่างอาหารด้วยแต่ความจริงแล้ว ที่กุโจฮะจิมังเป็นเมืองที่มีการผลิตตัวอย่างอาหารอันดับหนึ่งของญี่ปุ่นเลยทีเดียว ในครั้งนี้ พวกเราทีมงานได้ลองทำตัวอย่างอาหารได้แก่ กุ้งเทมปุระ เทมปุระผักและผักกาดขาว ดูสต๊าฟทำให้ดูเป็นตัวอย่างก็คิดว่าง่ายๆนะ แต่พอลองทำจริงก็ยากอยู่เหมือนกัน

14:00น.หมู่บ้านชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go)

หมู่บ้านชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go)

ถึงแล้วหมู่บ้านชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go) จุดแรกขึ้นไปชมวิวหมู่บ้านที่จุดชมวิวเท็นชุคาคุ(TENSHUKAKU)จุดนี้เป็นจุดที่คุณจะมองเห็นหมู่บ้านชิราคาวาโกะทั้งหมด 

หมู่บ้านชิราคาวาโกะได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมโดยยูเนสโกเมื่อปี คศ.1995 ภายในหมู่บ้านจะเห็นสัญลักษณ์บ้านโบราณสไตล์ Gassho-Zukuriถึงแม้หลายคนจะนึกถึงแต่ฤดูหนาวที่หิมะชาวโพลนดั่งบ้านในเทพนิยายแต่จริงๆแล้วที่หมู่บ้านนี้ไม่ว่าจะฤดูไหนก็สวยงามและมีเสน่ห์แต่ละฤดูที่แตกต่างกันเป็นจุดหมายปลายทางที่ถ้าได้มาญี่ปุ่นต้องไปเยือนให้ได้สักครั้งนะคะ

15:20น.หมู่บ้านชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go) ⇒คานาซาว่า(Kanazawa)

คานาซาว่า(Kanazawa)

เดินเพลินกันไปเลย ดูเวลาอีกทีต้องรีบออกเดินทางแล้วเพราะเราจะไปค้างคืนกันที่คานาซาว่าใช้เวลาเดินทางประมาณชั่วโมงกว่าๆก็มาถึงยังเมืองคานาซาว่าเรียบร้อยแล้วค่ะ

16:40น.สวน Kenroku-en

สวน Kenroku-enเป็นสวนที่สวยที่สุดหนึ่งในสามของประเทศญี่ปุ่น มีสระน้ำขนาดใหญ่ตรงกลาง มีโคมไฟหินชื่อKotojitoroออกแบบคล้ายกับลักษณะพิณญี่ปุ่นอยู่ข้างสระน้ำซึ่งกลายเป็นสัญลักษณ์สวนแห่งนี้ ในฤดูใบไม้ผลิจะเห็นซากุระบาน ฤดูร้อนก็เป็นต้นไม้เขียวขจี ฤดูใบไม้ร่วงก็จะได้ชมกับใบไม้ที่เปลี่ยนเป็นสีแดงและสีเหลือง ส่วนในฤดูหนาวทั้งต้นไม้และพื้นดินก็จะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ ไม่ว่าจะฤดูไหนก็เดินเล่นชมความงามได้ตลอดค่ะ

เวลาเปิดบริการ

  • ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคมถึงวันที่ 15 ตุลาคม เวลา 7:00น. – 18:00น.
  • ตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคมจนถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ เวลา 8:00น. – 17:00น.

เป็นยังไงกันบ้างคะ นี่เป็นเพียงแค่การเดินทาง 2 วันเท่านั้นนะคะ ส่วนการเดินทางในวันที่ 3 กับวันที่ 4 ทางทีมงานจะขับรถไปเที่ยวที่ไหนบ้างนั้น อย่าลืมติดตามกันนะคะ ไว้พบกันนะคะ

★อ่านภาคสองได้ที่นี่ค่ะ:【ภาคสอง】ขับรถเที่ยวเองง่ายๆในภูมิภาคชูบุ (Chubu)และโฮคุริคุ(Hokuriku) 4 วัน

หัวข้อเรื่อง

Recommend