<<ชวนมาทำ>> สปองจ์เค้ก เค้กฟองน้ำเนื้อนุ่ม ฟู ฟู ೭೭೭੧(❛▿❛✿)੭೨

สปองจ์เค้กหรือสปันจ์เค้ก (sponge cake) เป็นเค้กเนื้อนุ่ม ฟู โดยใช้ส่วนผสมหลักเพียงแค่ไข่ไก่, แป้ง, เนยและน้ำตาลก็ทำให้เค้กขึ้นฟูได้แล้ว เป็นขั้นเริ่มแรกสำหรับการทำเค้กหลายๆชนิด เนื้อเค้กมีรสชาติหวาน หอมกำลังพอดี เป็นที่ชื่นชอบของคนญี่ปุ่น

สปองจ์เค้กจะมีไข่ไก่เป็นส่วนผสมหลัก การจะทำให้เค้กฟูขึ้นมาต้องขยันตีไข่ให้เข้ากับเนื้อแป้ง ตีจนเข้ากันให้ขึ้นเป็นฟองละเอียดเงา หากตีมากฟองอากาศจะเข้าไปภายในตัวเนื้อเค้กมาก เนื้อจะเบา นุ่ม แป้งเค้กจะมีรูพรุนมากคล้ายฟองน้ำ เนื่องจากการขยายตัวของฟองอากาศเวลาที่ตีไข่

: ‡ : ส่วนผสมและเครื่องปรุง : ‡ :

• น้ำตาลทรายขาว 80 กรัม
  
• เกลือ 1/5 ช้อนชา
  
• กลิ่นวนิลา 1 ช้อนชา
  
• ไข่ไก่สด 3 ฟอง
  
• สารฟู SP 15 กรัม
  
• นมข้นจืด 40 กรัม
  
• น้ำ 35 กรัม
  
• แป้งเค้ก 100 กรัม
  
• ผงฟู 1 ช้อนชา
  
• เนยละลาย 80 กรัม
  

: ‡ : วิธีทำ : ‡ :

1. ร่อนแป้งเค้กด้วยกระชอน เตรียมไว้สัก 2 ครั้ง เพื่อให้ได้ผงแป้งละเอียด

2. เตรียมแม่พิมพ์วงกลมเพื่อเป็นแบบพิมพ์ชิ้นเค้ก ปูกระดาษไขรองพื้นไว้ ไม่ต้องทาไขมัน

3. วอร์มเตาอบที่ 180 องศาเซลเซียส ทั้งไฟบนและล่าง เพื่อให้อุณหภูมินิ่งเสมอกันเวลานำส่วนผสมเข้าเตาอบ ไม่ต้องเปิดพัดลมกระจายความร้อน

4. นำไข่ไก่, น้ำตาล, เกลือ, น้ำ, นมข้นจืดและ SP ใส่ชามผสม ใช้หัวตีตะกร้อค่อยๆคนให้เป็นเนื้อเดียวกัน ไม่แยกตัวเป็นก้อน

5. เปิดเครื่องตีจากความเร็วต่ำไล่ไปความเร็วสูง ตีจนส่วนผสมขึ้นฟู ลองตักเนื้อแป้งขึ้นมา เนื้อจะไม่ย้อยหยด

6. ใส่แป้งและผงฟู เปิดเครื่องตีความเร็วต่ำ ตีให้ส่วนผสมเข้ากันพอประมาณ

7. ปรับเครื่องตีเป็นความเร็วปานกลางสักพัก จนส่วนผสมยุบตัวลงแต่ยังข้น ไม่เหลว

8. ใส่กลิ่นวนิลา ปรับเครื่องตีเป็นความเร็วต่ำเพื่อลดฟองอากาศใหญ่

9. เก็บความเรียบร้อยที่ขอบชาม นำเนยที่ละลายไว้มาอุ่นให้พออุ่นไปทางร้อน แต่ ไม่ต้องร้อนจนเดือด

10. ค่อยๆเทเนยใส่ลงไปในชามช้าๆ เพื่อลดฟองอากาศใหญ่ ใช้เครื่องตีความเร็วต่ำ ค่อยๆเทเนยใส่เรื่อยๆ ให้เนยกับแป้งเป็นเนื้อเดียวกัน อย่าให้เนยนอนก้น จนเนื้อแป้งมีความเนียนนุ่ม จะช่วยให้เค้กไม่เป็นไต

11. เมื่อแป้งและเนยเป็นเนื้อเดียวกันแล้ว จึงค่อยๆเทใส่พิมพ์ที่เตรียม อย่ายกสูงเกินไป ระหว่างเทแป้งจะเป็นริ้วๆซ้อนกันคล้ายพับผ้า กระแทกพิมพ์เบาๆไล่ฟองอากาศ หมุนพิมพ์ให้เนื้อเค้กเรียบ จากนั้นใช้ไม้จิ้มฟันจิ้มไล่ฟองอากาศอีกที

12. นำเค้กเข้าอบประมาณ 25-30 นาที เช็คความสุกของเค้กเรื่อยๆ โดยการใช้นิ้วมือกดเบา ๆ ที่ผิวหน้าเค้ก หากผิวหน้าเค้กสปริงตัวกลับนิ้วมือดี ไม่ทิ้งรอยบุ๋ม จึงนำเค้กออกจากเตา

13. กระเทาะแม่พิมพ์ 2-3 ครั้งก่อนนำเค้กออกจากแม่พิมพ์ แล้วจึงจัดตกแต่งตามชอบใจ

: ‡ : Baking Tips : ‡ :

• ใช้ไข่ไก่สดเสมอ เพราะไข่ไก่สดจะไล่ฟองอากาศได้ดีกว่าไข่ไก่ไม่สด จะทำให้เนื้อเค้กนุ่ม เนียน
  
• เมื่ออบเสร็จให้พักเค้กทิ้งไว้สักครู่ เมื่อเค้กชนิดนี้เย็นตัวลง เนื้อเค้กจะหดลงเล็กน้อย ขอบเค้กจะเริ่มร่อนหลุดออกจากพิมพ์ จึงค่อยแซะขอบพิมพ์โดยรอบ แล้วนำออกจากพิมพ์
  
• ไม่ควรทิ้งเค้กไว้ในพิมพ์นานเกินไปเพราะจะทำให้แป้งนอนก้น กระดาษรองจะติดกันตัวเค้ก ฐานเค้กจะแฉะเพราะเค้กมีความชื้นอยู่
  
• หากระหว่างอบเค้ก หน้าเค้กเกิดมีรอยแตกก่อน ให้หยุดการอบ เปิดฝาเตาอบออก ไล่ความร้อน แล้วปิดฝาเตาอบ เปลี่ยนเป็นการอบด้วยไฟบนอย่างเดียวด้วยอุณหภูมิเดิม
  
• หากต้องการนำมาตกแต่ง ให้รอเค้กเย็นประมาณครึ่งวัน แล้วจึงนำมาตกแต่ง
  
• หากอยากได้สปอง์เค้กรสชาเขียว ให้ใส่ผงชาเขียวมัทฉะลงไป 2 ช้อนชาในขั้นตอนหลังจากใส่กลิ่นวนิลา
  

: ‡ : วิธีเลือกไข่ไก่ : ‡ :

1. ให้สังเกตุที่เปลือกไข่ต้องหนา หยาบ ขรุขระ ไม่ลื่นมือ เพราะไข่สดจะมีผงมันๆ คล้ายแป้งฉาบติดอยู่ สีนวลตา ไข่เก่าเปลือกจะลื่นมัน
   
2. ไข่เก่าที่ใกล้จะเสียจะมีลักษณะจุดสีขาวดำอยู่ที่เปลือก หรือมีสีคล้ำ
   
3. ลองเขย่าไข่เบาๆ ดูว่ามีการเคลื่อนไหวอยู่ข้างในหรือไม่ หากไข่สด เนื้อจะแน่นติดเปลือก ไข่ขาวยังเกาะรวมกันเป็นกลุ่ม มีน้ำหนัก ไม่เหลว
   
4. ดูที่ขนาดของไข่ ให้เลือกซื้อไข่ที่มีลักษณะรูปร่างกลม เพราะจะมีน้ำหนักเนื้อมากกว่าไข่รูปยาวๆ
   
5. นำไข่ไปแช่น้ำ ไข่สดจะจม และไข่เก่าจะลอยอยู่ใต้ผิวน้ำ ถ้าเป็นไข่เก่าหรือเสียจะลอยเหนือน้ำ