เรื่องราวลี้ลับและสยองขวัญ ตอนที่ 3: เหตุการณ์ประหลาดในช่วงโอบง

  • 28 มิถุนายน 2018
  • 11 มิถุนายน 2020
  • Mon
  • Mon

Horror & Mystery Series Vol. 3

ขอต้อนรับกลับเข้าสู่ตอนที่สามของเรื่องราวลี้ลับและสยองขวัญครับ ในตอนที่แล้ว เราได้นำเรื่องราวเบื้องลึกตั้งแต่ต้นกำเนิดไปจนถึงธรรมเนียมปฏิบัติของงานบงมาแนะนำให้ทราบกันแล้ว แต่เมื่อเข้าช่วงที่ดวงวิญญาณจากต่างภพภูมิอื่นมาเยือนโลกมนุษย์ เรื่องแปลกต่างๆก็เกิดขึ้นมากมาย งั้นอย่าได้รอช้า มาฟังเรื่องเล่ากันเลยดีกว่าครับ!

บทความก่อนๆ

อย่าลืมจุดไฟต้อนรับดวงวิญญาณ

Don’t forget to light the welcoming fire

นี่เป็นเรื่องที่ชั้นได้ฟังมาจากเพื่อนร่วมงานพาร์ทไทม์ค่ะ ขอใช้นามสมมุติว่า Aจัง นะคะ

ในช่วงงานบงปีหนึ่ง จู่ๆก็มีโทรศัพท์จากสถานีตำรวจมาที่บ้านของ Aจังค่ะ

"คุณยายท่านบอกว่าหลงทางและจำบ้านไม่ได้ ทางเราเลยพาไปส่งที่บ้านคุณA ไม่ได้ครับ ช่วยมารับท่านที่สถานีหน่อยได้มั้ยครับ" เจ้าหน้าที่ที่ปลายสายกล่าว

ได้ฟังดังนั้น Aจังก็แปลกใจและตกใจในคราเดียวกัน เพราะคุณยายของเธอนั้น ท่านเสียไปแล้วเมื่อปีก่อน เธอนำเรื่องไปบอกครอบครัว ทุกคนก็ตกอกตกใจไม่แพ้กัน แต่กระนั้นเรื่องราวก็คลี่คลายเมื่อมีญาติคนหนึ่งนึกขึ้นได้ว่า พวกเขายังไม่ได้จุดไฟต้อนรับวิญญาณ มุคาเอบิ (迎え火) พวกเขาจึงรีบจุดไฟเสียโดยพลัน

ครั้นเมื่อลองโทรกลับไปที่สถานีตำรวจ ปลายสายก็กล่าวว่า "อ๋อ เห็นคุณยายท่านบอกว่าจำที่อยู่ได้แล้ว เลยเดินกลับไปคนเดียวแล้วครับ"

นับแต่นั้นมา ครอบครัวของ Aจัง ก็จุดไฟรับวิญญาณในช่วงโอบงทุกปีไม่มีขาด

อาจจะไม่น่ากลัวเท่าไหร่ แต่ก็น่าแปลกไม่น้อยเลยค่ะ

เรื่องจาก ชิกาโตโมะ (ちかとも)

---------------------------------

ทั้งนี้ คุณยายท่านเพิ่งเสียไปปีก่อน อาจจะเป็นงานบงแรกของท่าน สงสัยจะลืมประดับโคมไฟกระดาษสีขาวด้วยกระมั้งครับ

มาต่อกันที่เรื่องต่อไปเลยครับ

เหตุการณ์ประหลาดที่ภูเขา

ผมขอเล่า"เหตุการณ์ประหลาดในช่วงโอบง"ที่ย่าทวดของผมท่านได้พบเจอที่บ้านเกิดของท่านที่ตั้งอยู่ตีนเขาครับ กลางดึกคืนหนึ่ง ท่านเกิดอยากเข้าห้องน้ำขึ้นมา ท่านจึงออกไปที่หน้าบ้าน (ในสมัยก่อนห้องน้ำอยู่นอกบ้าน) เนื่องจากเป็นยุคที่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ ทุกอย่างจึงมืดสนิท ท่านต้องรอให้สายตาปรับให้ชินกับความมืด ระหว่างนั้นเอง ท่านมองไปทางภูเขา ท่านเห็นดวงไฟดวงหนึ่ง ราวกับจะลอยหรือกลิ้งลงมาจากภูเขา ระหว่างที่สงสัยอยู่ ท่านรีบทำกิจให้เสร็จ ขากลับก็มองไปที่ภูเขาอีกที... คราวนี้แหล่ะครับ ท่านเห็นลูกไฟมากมายเหนือคนานับลอยกลิ้งลงจากเขามา ตอนนั้นแหล่ะครับที่ท่านรู้สึกได้ว่า ดวงไฟเหล่านั้นคือลูกไฟวิญญาณ ฮิโตะดามะ (人魂)

ผมได้ฟังมาว่า ท่านคิดว่านั่นเป็นวิญญาณบรรพชนที่ล่วงลับไปแล้ว ท่านจึงพนมมือด้วยความเคารพครับ

ที่มา เรื่องสยองจากภูเขา (山の怖い話)

---------------------------------

ส่วนสมัยนี้ ถ้าเห็นลูกไฟ คงต้องนึกไว้ก่อนว่าเป็นโดรนที่มีคนบังคับไปถ่ายรูปสินะครับ หึหึหึ

ที่ไม่ควรเข้าใกล้ไม่ใช่แค่น้ำ ภูเขาก็ควรหลีกเลี่ยงด้วย!!

ในช่วงงานบง มีชายคนหนึ่งไปเดินป่าเดินเขาคลายร้อนที่ภูเขาโชไคซัง (鳥海山) เขาเดินผ่านนักเดินเขาสองคน ณ เวลานั้นเอง จู่ๆก็มีกลิ่นเหม็นเน่ารุนแรงมาเตะจมูกเขา ด้วยความตกใจ เขาหันกลับไปข้างหลัง แต่ก็ไม่พบเจอใครสักคน ทั้งๆที่นักเดินเขาสองคนนั้นเพิ่งเดินผ่านเขาไปไม่ถึง 2 วินาทีก่อน ทั้งจุดที่เขาเพิ่งเดินผ่านหรือบนเส้นทางที่มองเห็นได้จากจุดนั้น ก็หาได้มีร่องรอยหรือเงาคน

เขานึกขึ้นได้ว่ามีอะไรผิดปกติ... ตอนเขาเดินนั้นเป็นหน้าร้อน แต่คนที่เดินผ่านเขากลับใส่ชุดปีนเขากันหนาวราวกับอยู่ในฤดูหนาว... แล้วเขาก็นึกได้ว่า ที่นี่ เคยมีคนหลงป่าและเสียชีวิตไปในหน้าหนาว!!

เขาล้มลุกคลุกคลาน วิ่งสุดชีวิตลงจากภูเขาด้วยสีหน้าซีดเซียว แต่ถึงกระนั้นก็ตาม นับตั้งแต่คืนวันนั้น เขาก็ไข้ขึ้นสูงจนต้องนอนโรงพยาบาลถึง 3 วัน...

เรื่องจากกระทู้ 2ch (2ちゃねる)

---------------------------------

รู้หรือไม่ คำบอกที่ว่า”เดือนบง อย่าไปใกล้น้ำ” แท้จริงแล้วเพื่อป้องกันการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิฉับพลันจนป่วยไข้หรือเป็นลม และที่ทะเลก็มีแมงกระพรุนไฟโผล่ออกมาในช่วงนี้ด้วย

เยือนบ้านเก่า

ผมไม่เชื่อว่าผีมีจริงหรอกครับ แต่ผมก็เคยพบเจอเหตุการณ์แปลกๆเมือนกัน

เรื่องเกิดขึ้นเมื่อ 4 ปีก่อน

ช่วงที่ผมยังอยู่แถวโกเบ ผมทำงานพิเศษที่บริษัทรักษาความปลอดภัย เป็น รปภ. ชั่วคราว

ระหว่างที่ผมอยู่กะดึกในช่วงงานบง มีโทรศัพท์ร้องเรียนเข้ามา บอกประมาณว่า “ประตูหน้าแบบออโต้ล็อคของอพาร์ทเม้นท์ที่ปรับปรุงใหม่มันแปลกๆ” ผมจึงออกไปดูกับรุ่นพี่ที่ทำงานที่เฝ้ายามด้วยกัน

ผมก็คิดนะ จะมีขโมยเข้าหรือเปล่า? แต่เท่าที่ดูก็ไม่มีอะไรผิดวิสัย

คนที่อยู่ที่นี่กันเขาบอกว่า บางทีประตูก็เปิดเอง

หรือระบบออโต้ล็อคจะขัดข้อง? ผมกับรุ่นพี่จึงลองตรวจสอบดู

แต่ก็ไม่มีอะไรผิดปกติเลยสักนิด

ระหว่างที่ผมกับรุ่นพี่กำลังปรึกษากันว่าจะลองโทรไปที่บริษัทเครื่องไฟฟ้าดีมั้ย เราก็ได้ยินเสียง ตึง ดังมาจากด้านหลัง

ด้านหลังของเรามีประตูธรรมดา ไม่ใช่แบบออโต้ล็อค แต่ก็ไม่มีใครอยู่ที่นั่น แต่เราทั้งคู่มั่นใจว่า ต้นเสียงมาจากทางนี้

ระหว่างกำลังแปลกใจกับที่มาของเสียงแปลกๆ ครั้งนี้ มีเสียง ปี๊บ คล้ายๆเสียงอุปกรณ์ไฟฟ้า ดังขึ้นสามครั้ง

เฮ่ย ดูนั่นดิ!” รุ่นพี่แกหลุดปากมาเสียงดัง พอเราหันไปดูที่ประตูแบบออโต้ล็อค ที่หน้าจอตรงแป้นกดปรากฏข้อความ “302” ราวกับมีคนกดปุ่มเรียกคนรู้จักตามห้องเบอร์นั้นให้ปลดล็อคให้ แล้วประตูก็เปิดขึ้นเอง...

ณ จุดนั้นเอง ผมรู้สึกหนาววูบจนขนลุกวาบทั้งตัว

ในตอนนั้น ผมยืนยันได้เลยว่าไม่มีใครนอกจากผมกับรุ่นพี่

วันถัดมา ผมยังติดใจสงสัยว่าใครอาศัยอยู่ที่ห้อง “302” ผมจึงลองดูข้อมูล

ในตอนนั้น ไม่มีใครเช่าห้องนั้นอยู่ ไม่มีใครอาศัยอยู่ที่ห้องนั้นเลย ไม่มีผู้เช่าสักราย

ถัดไปหลายวันนับจากเกิดเหตุการณ์ รุ่นพี่ก็มาบอกกับผม

พี่แกบอกว่า เขารู้ว่าใครอยู่ที่ห้องปริศนา “302” นั้น

คนคนนั้นเขาตายตอนที่ไฟไหม้ตึก ที่ทำให้ต้องปรับปรุงอาคารขึ้นใหม่น่ะ

หรือว่าดวงวิญญาณเขาจะรู้สึกคิดถึงที่เก่าตอนที่มาเยี่ยมโลกมนุษย์ อยากมาดูบ้านหลังเก่าที่เคยอยู่... ก็ไม่รู้นะ... 

จากเว็บเรื่องสยอง โควาบานะ โนะ ยากาตะ (怖話ノ館)

---------------------------------

เกร็ดความรู้: ระบบแมนชั่นให้เช่าของญี่ปุ่น ผู้อาศัยจะมีคีย์การ์ดไว้ปลดล็อค ส่วนคนที่มาเยี่ยมสามารถกดเบอร์ห้องเพื่อโทรเรียกผู้อยู่อาศัยแบบมีกล้องแสดงว่าเป็นใคร (เพื่อน คนส่งพิซซ่า ฯลฯ) เพื่อให้คนในห้องนั้นอนุญาตให้เข้าแมนชั่นโดยกดปลดล็อกจากที่ห้องได้โดยไม่ต้องลงไปรับด้วยตัวเอง

แต่ถ้าลองคิดดูดีๆ ในเรื่องนี้ ใครเป็นคนมาที่ประตูหน้า...แล้วใครเป็นคนปลดล็อกจากในห้องล่ะ...

แล้วเจอกันคราวหน้า…

คิดว่าเรื่องสยองที่นำมาเล่าคงพอคลายร้อนกันไปได้สักพักนะครับ แต่ถ้ายังอยากฟังเพิ่ม กลับมารอเรื่องใหม่ได้ในสัปดาห์หน้าครับ ส่วนคราวหน้า ถ้าหาข้อมูลเขียนทัน เราจะนำท่านไปรู้จักกับ ป่าอาโอคิกาฮาระ ป่าลึกลับที่คนไปจบชีวิตกันมากมายครับ

หัวข้อเรื่อง

Survey[แบบสอบถาม] กรุณาบอกเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในญี่ปุ่น







Recommend