★★Visit Japan Campaign Winner Report ★★ Day1 : Transit in Osaka

  • 1 พฤษภาคม 2017
  • FUN! JAPAN Team

ไดอารี [เที่ยวสุดมันกับ Fun! Japan] =DAY1= บินเดี่ยวเที่ยวโอซาก้า

สวัสดีครับ Konnichiwa! ผมชื่อ “อัลเบอท” (เรียกสั้น ๆ ว่า “เบิร์ต”)
เป็นผู้โชคดีจากแคมเปญลุ้นทริปเที่ยวญี่ปุ่นฟรี ครั้งที่ 7

วันแรกที่ได้ข่าวดีก็อึ้งไปเหมือนกัน ตื่นเช้ามาเห็นอีเมลจากทีมงาน Fun! Japan ที่ญี่ปุ่น ก็ยังนึกว่าตัวเองฝันไปหรือเปล่า? ก่อนเดินทางได้อ่านโปรแกรมคร่าว ๆ ในทริปนี้ ผมและผู้โชคดีอีก 3 ประเทศจะได้เที่ยวข้ามฟากจากใต้ไปเหนือ ในเมืองต่าง ๆ ได้แก่ “ฟุกุโอกะ” “เบปปุ” และ “ซัปโปโร” 

TH_20170501-01-15-winner
ช่วงที่ไปสนามบินคันไซกำลังมีนิทรรศการ
POKEMON พอดีเลย

แต่วันแรกสุด ผมต้องไปต่อเครื่องบินที่โอซาก้าก่อน และเนื่องจากมีเวลาเหลือเฟือ 8 โมงเช้า ถึง 5 โมงเย็น ก็เลยทำการบ้านปักหมุดวางแผนไว้ว่า 1) จะไปดูเครื่องบินที่ Sky View 2) ไปเดินเล่นในย่านโดทมโบริ และ 3) ไปชมความงามของปราสาทโอซาก้า 

จากประเทศไทย ผมเดินทางไปกับสายการบินไทย ในคืนวันเสาร์ที่ 1 เม.ย. เวลา 23.30 น. ไปถึงสนามบินนานาชาติคันไซ (KIX) ตรงเวลาเช้าตรู่เวลา 7.00 น. #ไม่ได้นอนเลยจ้า!! เพราะว่าหนังบนเครื่องสนุกมาก 55 ถึงญี่ปุ่น ผ่านด่าน ตม. ด้วยดี ที่สนามบินเขากำลังมีนิทรรศการ Pokemon 2 Special Weeks In KiX เลยเดินไปดูสักหน่อย มีตุ๊กตาปิกาจูยักษ์ขนาดเท่าตึก 2 ชั้น (ข้างในเปิดให้เด็ก ๆ เข้าไปเล่นได้) ซุ้มถ่ายรูป และที่นี่จะมีช็อปของโปเกม่อนโดยเฉพาะเลยด้วย

TH_20170501-02-15-winner
นิทรรศการ
POKEMON ที่สนามบินคันไซ

สำหรับใครที่มีเวลาเหลือเฟือ ที่สนามบินคันไซจะมีหอชมเครื่องบิน Sky View ซึ่งเราสามารถขึ้นรถเมล์ฟรีได้จากตรงด้านหน้า Terminal 1 เลย ที่นี่จะมีพิพิธภัณฑ์เครื่องบิน ภัตตาคาร และจุดชมวิวที่ชั้น 5 (Sky Deck) อยู่ที่นี่แล้วเพลินดีครับ มีตากล้องหลายสิบคนมารัวชัตเตอร์เก็บภาพเครื่องบินที่กำลัง-เทกออฟหรือแลนดิ้งกันอย่างเมามัน นี่ถ้าไม่มีโปรแกรมเที่ยวต่อ ผมคงจะปักหลักอยู่ที่นี่สัก 2 ชั่วโมง

TH_20170501-03-15-winner
Observation Floor
(ดาดฟ้าสำหรับชมเครื่องบิน)

TH_20170501-04-15-winner
บรรยากาศที่ Sky View

จากสนามบินคันไซ ไปสะพาน “โดทมโบริ” (Dotonbori) ที่คนไทยนิยมชมชอบ ผมเลือกใช้บริการรถไฟด่วน Nankai Rapi:t ไปลงที่สถานีนัมบะ (Namba) ใช้เวลาเพียง 40 นาทีก็ไปถึงย่านใจกลางเมืองโอซาก้า

TH_20170501-05-15-winner
รถไฟ
Rapid สีน้ำเงินเข้ม ดีไซน์เก๋ไก๋เหมือนหุ่นเหล็ก

พอมาถึงย่านนัมบะแล้ว อะดรีนาลีนก็ยิ่งพุ่งพล่าน บรรยากาศครึกครื้นของที่นี่ทำให้ผมหายสลึมสลือเป็นปลิดทิ้ง ผมเดินลัดเลาะไปตามตรอกซอกซอย ผ่านร้านรวงต่าง ๆ จนเจอสะพานโดทมโบริที่ตั้งเด่นอยู่บนแม่น้ำ ผู้คนขวักไขว่พากันมาถ่ายรูปคู่กับป้าย Glico Man และแลนด์มาร์กต่าง ๆ สำหรับใครที่มีเวลาสามารถล่องเรือ Tombori River Cruise จากตรงหน้าห้างดองกิโฮเต้ (Don Quijote) ที่มีจุดสังเกตคือรูปแป๊ะยิ้มขนาดใหญ่ (หรือเทพเจ้าแห่งโชคลาภ “เอบิสึ”) ได้

TH_20170501-06-15-winner
ป้ายนักวิ่งกูลิโกะ ที่ใคร ๆ ต้องแวะมาแชะ-แชะ-แชะ

TH_20170501-07-15-winner
ร้านขึ้นชื่อ คานิ โดราคุ
(Kani Douraku) ที่มีเจ้าปูยักษ์ดึงดูดสายตานักท่องเที่ยว

TH_20170501-08-15-winner
เรือล่องแม่น้ำ
Tombori River Cruise

ภารกิจต่อไป ผมต้องรีบบึ่งไปที่ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle) โดยขึ้นรถไฟใต้ดินสาย Chuo Line ไปที่สถานี Tanimachi 4-chome เมื่อขึ้นบันไดมาแล้วจะเจอกับอาคาร NHK Osaka Hall พอดี มองไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือก็จะเห็นปราสาทโอซาก้าอยู่ลิบ ๆ

ก่อนเข้าไปชมปราสาท ผมแวะไปดูซากุระที่สวนด้านข้างคูเมือง น่าเสียดายที่ปีนี้ซากุระบานช้ากว่ากำหนด แต่บรรยากาศของที่นี่ก็คึกคักดี ผู้คนมานั่งปูเสื่อสังสรรค์และทำกิจกรรมกันอย่างครึกครื้น ที่น่าสนใจก็คือมีรถขายอาหารไทยซะด้วยสิ แสดงว่าชาวโอซาก้าน่าจะชื่นชอบอาหารไทยกันไม่น้อยเลย

TH_20170501-09-15-winner
ปีนี้ซากุระบานช้า

TH_20170501-10-15-winner
บรรยากาศการปิกนิกแสนครึกครื้น

ปราสาทโอซาก้า ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในปราสาทที่งดงามที่สุดของญี่ปุ่น มันถูกก่อสร้างขึ้นในยุคเซนโกคุเมื่อ 400 กว่าปีที่แล้ว ตามดำริของยอดขุนพลผู้โด่งดัง โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ นอกจากตัวปราสาทที่สูงเด่นเป็นสง่ากว่า 55 เมตรแล้ว จุดเด่นของมันอยู่ที่กำแพงเมืองที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ซึ่งประกอบสร้างขึ้นจากหินขนาดยักษ์นับล้านก้อน และมีความยาวล้อมรอบปราสาทถึง 12 กิโลเมตร

TH_20170501-11-15-winner
ปราสาทโอซาก้าสีขาวเด่น ตั้งตระหง่านตัดกับท้องฟ้าสีคราม

TH_20170501-12-15-winner
ดูความอลังการของกำแพงเมืองสิ คนยืนเรียงต่อกันบนแนวกำแพงได้เป็นร้อยคนเลย
!

TH_20170501-15-15-winner
ถ่ายรูปคู่กับปราสาทโอซาก้าสักหน่อย

OSAKA MISSIONS COMPLETED!

โอซาก้าเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา และมีที่เที่ยวสนุก ๆ มากมาย แค่ 1 วันผมก็แบกเป้เที่ยวจนเกินคุ้มแล้ว

ผมย้อนกลับไปที่สถานี Namba เพื่อนั่งรถ Limousine Bus ไปขึ้นเครื่องที่สนามบิน Osaka (Itami) ไปฟุกุโอกะ เครื่องออกเวลา 19.55 น. มีเวลาพอจะแวะกินราเม็งเติมพลัง และซื้อของฝาก อาหารที่สนามบิน-อิตามินี้น่ากิน ๆ ทั้งนั้นเลย แต่ละร้านคนเข้าคิวยาวเหยียด แถมกลิ่นหอมหวนทะลวงไส้ยิ่งนัก

TH_20170501-13-15-winner
กินข้าวชาร์จพลัง และชาร์จแบตมือถือ ที่สนามบินโอซาก้า

นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้นั่งเครื่องบินของ JAL และบินภายในประเทศญี่ปุ่น ไปถึงสนามบินฟุกุโอกะอย่างปลอดภัย อากาศตอนกลางคืน 4 องศา หนาวบรื๋ออออ

และนี่เป็นครั้งที่สองที่ผมมาเยือนเมืองฟุกุโอกะ จึงคุ้นเคยกับเส้นทางที่นี่เป็นอย่างดี แต่ก็ไม่วายหลงทางซะได้! ตอนถึงสถานี Hakata ระหว่างเดินหาโรงแรม Hakata Green No.1 #สมงสมองไปหมดแล้ว คงเพราะไม่ได้นอนเลยตั้งแต่เมื่อวาน 555 ขณะที่กำลังเดินมะงุมมะงาหราอยู่ เฮียคนหนึ่งแกขี่จักรยานผ่านมาแล้วหยุดทัก แม้จะพูดอังกฤษไม่ได้ แต่แกก็พยายามจะช่วยเหลือเราอย่างเต็มที่ (นับถือใจพี่มาก) นี่โชคดีนะที่ผมฟังพูดภาษาญี่ปุ่นได้บ้าง แกดูแผนที่สักพักแล้วก็ชี้มือบอกว่า “มุโค่...” (ฝั่งตรงข้าม) แสดงว่าตอนนั้นข้าพเจ้าเบลอมาก เดินหลงไปคนละฝั่งเลย 555

มาฟุกุโอกะคราวที่แล้ว ผมได้เจอแต่คนดี ๆ น่ารัก ๆ พอได้รับการหยิบยื่นน้ำใจจากคนท้องถิ่นเช่นนี้ ความประทับใจที่มีต่อฟุกุโอกะก็เลยยิ่งทวีคูณ ^ ^

TH_20170501-14-15-winner
ถึงที่พัก โรงแรม
Hakata Green 1 ในย่านฮากาตะโดยสวัสดิภาพ

Recommend