วันที่3ที่ญี่ปุ่น เราออกเดินทางกันแต่เช้าโดยเราจะไปกันที่พิพิธภัณฑ์ cup noodle ของนิสชิน ซึ่งผู้อ่านคงจะคุ้นเคยและรู้จักชื่อนี้เป็นอย่างดี เป็นบริษัทผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปค่ะ เด็กๆเยอะมาก ได้ฟังประวัติความเป็นมา ผู้ก่อตั้ง และเดินดูผลิตภัณฑ์ต่างๆ รวมถึงมีการจำลองบ้านที่ผู้ก่อตั้งได้ทำการทดลองทำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปครั้งแรก
นอกจากนั้นที่นี่จะเปิดโอกาสให้ผู้เข้าชมสามารถผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตั้งแต่กระบวนการแรกคือนวดแป้งจนกระทั่งทอดเสร็จกลายเป็นบะหมี่ดังที่เราเห็นในปัจจุบันเลยค่ะ ทั้งยังสามารถออกแบบบรรจุภัณฑ์ได้เองอีกด้วย เรียกได้ว่าเราสามารถสร้างบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นของตนเองโดยที่มีชิ้นเดียวในโลกเลยก็ว่าได้ ชอบที่นี่มากๆเลยค่ะ โดยส่วนตัวคิดว่าเป็นการส่งเสริมการเรียนรู้ของเด็กอย่างหนึ่ง ทำให้เด็กมีพัฒนากจินตนาการ เป็นที่ที่ดีมากๆค่ะ
ถึงเวลาทานอาหารกลางวันแล้วค่ะ ซึ่งนอกจากที่พิพิธภัณฑ์จะมีการให้ผู้เยี่ยมชมได้ลองทำและออกแบบบะหมี่เองแล้ว ภายในยังมีร้านอาหารซึ่งแบ่งเป็นหลายๆประเทศให้ผู้เยี่ยมชมได้เลือกซื้อเลือกทานอีกด้วยค่ะ มีประเทศไทยของเราด้วยค่ะโดยเมนูของประเทศไทยเราไม่พ้นเมนูต้มยำกุ้งอันเป็นเมนูยอดฮิตของคนไทยและชาวต่างชาติ
หลังจากเยี่ยมชมและรับประทานอาหารกลางวันที่พิพิธภัณฑ์ของนิสชินแล้ว สถานีต่อไปคือเมืองคามาคุระ (Kamakura) เป็นเมืองหลวงเก่า เมืองหนึ่ง ของประเทศญี่ปุ่นค่ะ
เมื่อถึงสถานี Kamakura แล้ว เป้าหมายแรกของเราคือ วัดพระใหญ่ ไดบุตสึ (The Great Buddha of Kamamura) อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟ HASE(KANAGAWA) ซื้อตั๋วจากสถานี คามามุระ ราคา 190 เยน ภายในมีสวนแบบญี่ปุ่น และเราได้พบกับซากุระทีนี่เป็นครั้งแรกหลังจากได้มาญี่ปุ่นครั้งนี้ค่ะ
จุดหมายต่อไปของเราคือ Tsurugaoka Hachimangu เป็นศาลเจ้าเก่าแก่แห่งเมือง Kamakura โดยเริ่มต้นจากสถานีKamakura และระหว่างทางจะมีร้านค้าต่างๆให้เราได้เลือกซื้อและชมมากมายค่ะ
และแล้วเราก็มาถึง Tsurugaoka Hachimangu เป็นสถานที่ค่อนข้างเงียบสงบ ซึ่งศาลเจ้านี้ยังเป็นที่จัดงาน และพิธีสำคัญต่างๆ ของเมืองคามาคุระ อีกด้วย
Find more similar articles! > Click Here!
Comments