แนะนำรถไฟพาเที่ยวในคิวชู ตอนที่ 6

  • 20 กันยายน 2017
  • 4 สิงหาคม 2019
  • FUN! JAPAN Team

ตอนที่ 6: รถไฟ Yufuin no Mori

และแล้วเราก็เดินทางมาถึงตอนสุดท้ายของการเดินทางท่องเที่ยวรอบเกาะคิวชูด้วยรถไฟ D&S กันแล้ว

ก่อนหน้านี้เราเคยได้เขียนบทความเกี่ยวกับกิจกรรมที่น่าสนใจใน Yufuin ไปแล้ว สำหรับการเดินทางไปที่นี่นั้นนอกจากจะขึ้นรถไฟ JR ไปได้แล้ว ยังมีอีกตัวเลือกที่ประหยัดกว่า นั่นคือ การใช้บริการรถไฟ Yufuin no Mori ซึ่งเป็นรถไฟเก่าแก่ที่ยังคงเป็นที่นิยมอยู่จนถึงปัจจุบัน หากใครที่กำลังวางแผนจะไปเที่ยวที่ Yufuin อยู่หละก็ บทความนี้อาจจะช่วยเป็นไกด์ให้คุณได้ 

ห้องควบคุมรถไฟ


รถไฟ

รถไฟขบวนนี้ด้านนอกทาด้วยสีเขียว เป็นสีเขียวที่คล้ายกันกับรถไฟชินคันเซ็นสาย Tohoku/Hokkaido แต่จะอ่อนกว่านิดหนึ่ง รถไฟขบวนนี้มีตู้รถไฟ 3 ตู้ โดยตู้สุดท้ายจะออกแบบให้เป็นห้องกระจก

ดีไซน์ของรถไฟ

ด้วยความที่มีอายุมากแล้ว รถไฟขบวนนี้จึงแตกต่างจากรถไฟ D&S ขบวนอื่นที่เราเคยเล่าให้ฟังในบทความก่อนหน้า อย่างไรก็ตามรถไฟขบวนนี้จะมีบริการอาหารบุฟเฟต์ (อยู่ระหว่างตู้ที่ 2 และ 3) และที่นั่งแบบ gallery seat ใกล้ๆตู้ที่ 3 ซึ่งที่นั่งจะเป็นเหมือนในรถไฟทั่วไป (เหมือนรถไฟ Kyushu Odan, Tokkyu)


แผนที่

สามารถดูภาพจริงได้ที่ Google Map:


ทัศนียภาพ

รถไฟขบวนนี้จะแล่นผ่านจุดเด่นหลักๆ 2 จุด คือ Jion Waterfall (慈恩の滝) และ Mount Kirikabu (伐株山) พนักงานบนรถไฟได้เล่าถึงตำนานของทั้งสองที่นี่ให้เราฟังด้วยค่ะ

น้ำตก Jionl(慈恩の滝)

ตำนานของน้ำตก Jion ว่ากันว่า มีงูยักษ์ตัวหนึ่งทนทุกข์ทรมานจากการมีเนื้องอกอยู่ที่ตัว จึงมักระบายความทุกข์และความเจ็บปวดด้วยการออกทำร้ายชาวบ้านในหมู่บ้าน จนกระทั่งวันหนึ่งมีพระสงฆ์เดินทางผ่านมาและได้รับรู้ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น จึงเจรจากับงูใหญ่ เพื่อแลกกับการรักษาอาการที่เป็นอยู่งูยักษ์จะต้องสัญญาว่าจะไม่ทำร้ายชาวบ้านอีก นั่งจึงเป็นที่มาของชื่อน้ำตกที่มีความหมายว่า การนิรโทษกรรม

แผนที่

ภูเขา Kirikabu (伐株山)

ว่ากันว่าสมัยก่อนพื้นที่แห่งนี้เต็มไปด้วยต้นการบูร (camphor trees) ซึ่งขึ้นปกคลุมจนชาวบ้านไม่สามารถเพาะปลูกพืชใดๆได้เลย ชาวบ้านจึงตกลงกันว่าจ้างชายหนุ่มที่มีร่างกายกำยำมาตัดต้นการบูรออกทั้งหมด จึงเป็นที่มาของชื่อ Kirikabu อันแปลว่า การตัดไม้

แผนที่

ทัศนียภาพ

การเดินทางครั้งนี้คุณควรจะเตรียมกล้องของคุณให้พร้อม เพราะคุณจะได้เพลินกับรวงข้าวสีทองอร่าม แม่น้ำ และบึงน้อยใหญ่ตลอดสองข้างทาง รวมไปถึงท้องฟ้าที่สวยงามถูกแต่งแต้มสลับสี


ตำแหน่งที่นั่ง

ถ้าเป็นไปได้ เราขอแนะนำให้คุณเลือกโดยสารรถไฟเที่ยวสุดท้ายที่จะกลับ Hakata ซึ่งจะตรงกับเวลาพระอาทิตย์ตกพอดี คุณจะได้ชมความงามของท้องฟ้าที่กำลังเปลี่ยนจากสีฟ้าสดใส เป็นสีส้มอมแดง กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกต


เตรียมตัวพบกับมวลมหาประชาชน

อย่างที่เราบอกไปแล้วนั้น ว่ารถไฟขบวนนี้เป็นรถไฟสายที่เป็นที่นิยมที่สุด คุณจึงควรสำรองที่นั่งล่วงหน้า ในวันที่เราไปนั้นเป็นวันจันทร์ เราก็ยังต้องยืนเข้าแถวรอเลยค่ะ สำหรับผู้โดยสารที่เข้าไปในรถไฟโดยที่ไม่ได้สำรองที่นั่งล่วงหน้า เมื่อขึ้นไปแล้วก็จะต้องยืนรอในพื้นที่ระหว่างตู้รถไฟ เพื่อซื้อตั๋วจากพนักงานรถไฟด้านบนค่ะ

การจองเบ็นโต๊ะ

สำหรับการจองล่วงหน้านั้น หมายถึง การจองทั้งที่นั่งและเบ็นโตะ ถึงแม้ว่าด้านบนรถไฟจะมีบริการขายอาหารด้านบน แต่ผู้คนก็จะเข้าแถวรอซื้ออาหารยาวเหยียดและเบียดเสียดกันในตู้รถไฟ เพื่อความสะดวกเราจึงขอแนะนำให้สั่งอาหารไว้ล่วงหน้าค่ะ

รถไฟทางเลือก: Local Diesel Train/the Yufu

นอกจากรถไฟที่เราได้แนะนำไปแล้วนั้น อีกทางเลือกหนึ่งคือการขึ้นรถไฟดีเซลของเมือง

รถไฟ Yellow One Man Diesel

คุณจะเห็นตัวย่อ Y-DC ซึ่งมาจาก Yellow One Man Diesel Car อยู่หน้ารถไฟขบวนสีเหลือง รถไฟขบวนนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งล้ำค่าของเมือง ซึ่งเหมือนกับบทความเกี่ยวกับ Ibuki ที่เราเคยเล่าไปนั้น ถึงแม้ว่าจะต่างจากรถไฟ D&S โดยสิ้นเชิง แต่ก็สร้างความสนุกสนานและประสบการณ์ที่ดีให้คุณได้ไม่แพ้กัน หากคุณกำลังวางแผนว่าจะไปเที่ยว Hakata แล้วอย่าลืมลองเดินทางด้วยรถไฟของเมืองและรถไฟ D&S ดูนะคะ


หัวข้อเรื่อง

Survey[แบบสอบถาม] กรุณาบอกเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในญี่ปุ่น







Recommend