นัดชิงชนะเลิศของ “J.League YBC Levain CUP” การแข่งขันฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของวงการฟุตบอลญี่ปุ่น จะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 1 พฤศจิกายน ค.ศ. 2025 ณ สนามกีฬาแห่งชาติที่เคยใช้เป็นสนามหลักในโอลิมปิกโตเกียวที่ผ่านมา โดยศึกนี้จะจัดขึ้นเพียงปีละครั้งเท่านั้น!
นอกจากจะได้ชมเกมที่มีสโมสรเข้าร่วมชิงความเป็นที่หนึ่งถึง 60 สโมสรแล้ว คุณยังจะได้สัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษ เช่น การรับประทานอาหารและเครื่องดื่มในเลานจ์ ชมถ้วยรางวัล และพบปะกับอดีตนักเตะเจลีก ล้วนเป็นประสบการณ์ที่ไม่ได้มีโอกาสสัมผัสได้ง่าย ๆ มาสัมผัสแก่นแท้ของวัฒนธรรมฟุตบอลญี่ปุ่นไปด้วยกันเถอะ
J.League คืออะไร ? ลีกฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นที่มีนักเตะชาวไทยอยู่ในวงการด้วย
J.League คือ ลีกฟุตบอลอาชีพของญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นลีกสูงสุดระดับชาติ
ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1993 ด้วยเป้าหมายในการเสริมสร้างสังคมที่สมบูรณ์ผ่านการเล่นฟุตบอล และยังมุ่งมั่นให้สโมสรมีความเข้าถึงท้องถิ่นนั้น ๆ ดังนั้น ชื่อสโมสรจะตั้งเป็น “ชื่อภูมิภาค + ชื่อเล่น” เสมอ
ส่วนลีกก็แบ่งเป็น 3 ระดับ ได้แก่ J1, J2 และ J3 แต่ละทีมแข่งขันทั้งเหย้าและเยือน เก็บแต้มจากผลการแข่งขัน (ชนะ 3 แต้ม เสมอ 1 แต้ม แพ้ 0 แต้ม) และจัดอันดับตามคะแนนสะสม
โดยทีมที่มีคะแนนสูงสุดตลอดทั้งฤดูกาลแข่งขันกัน 38 นัดจะคว้าแชมป์ในฤดูกาลนั้นไป
นอกจากนี้ ในตอนสุดท้ายของฤดูกาลยังมีการเลื่อนชั้น-ตกชั้นระหว่างสโมสร J1 กับ J2 และ J2 กับ J3 ของแต่ละหมวดหมู่อีกด้วย
ทำให้ทุกปีเต็มไปด้วยการแข่งขันที่ดุเดือดเพื่อเป้าหมายในการขึ้นสู่ลีกสูงสุด J1! ยิ่งไปกว่านั้น ตั้งแต่เจลีกเริ่มจัดการแข่งขันมา ทางเจลีกยังมองถึงการพัฒนาฟุตบอลเอเชียในระดับภูมิภาค เช่น ในปี 2012 ได้ทำข้อตกลงร่วมมือกับไทยพรีเมียร์ลีก มีการถ่ายทอดสด J1 จัดคลาสสอนฟุตบอล อบรมโค้ช และจัดแมตช์กระชับมิตรกับสโมสรญี่ปุ่นอีกด้วย
ตั้งแต่ปี 2019 เป็นต้นมา เจลีกยังได้เพิ่มโควตาพิเศษสำหรับผู้เล่นจากประเทศในภูมิภาคอาเซียน ทำให้นักเตะไทยมีโอกาสมาค้าแข้งได้ง่ายมากขึ้น ปัจจุบันมีนักเตะไทย อาทิ สุภโชค (ซัปโปโร) และ ปรเมศย์ อาจวิไล (อิวาตะ) ที่กำลังลงเล่นในเจลีก
Levain CUP คืออะไร ? การแข่งขันฟุตบอลที่ดุเดือดของ 60 สโมสรทั่วญี่ปุ่น
Levain CUP (ลูวานคัพ) คือการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยที่มีประวัติยาวนานกว่า 32 ปี นับเป็นหนึ่งใน “3 การแข่งขันใหญ่ในประเทศ” ควบคู่กับลีก J1 และการแข่งขันถ้วยพระราชทานพระจักรพรรดิ
ทีมยักษ์ใหญ่อย่างเวอร์ดี้ คาวะซากิ (ในปัจจุบันเป็น โตเกียว V) และคาชิม่า แอนท์เลอร์ส เคยครองความยิ่งใหญ่ในทศวรรษ 1990 แต่ปัจจุบันทีมหน้าใหม่ เช่น โชนัน เบลมาเร่ และอวิสปา ฟุกุโอกะ ต่างก็คว้าแชมป์เป็นครั้งแรก สร้างปรากฏการณ์ “ล้มยักษ์” ได้เช่นกัน
การชิงไหวพริบชั่ววินาทีทำให้ไม่สามารถคาดเดาเกมได้ง่ายๆ เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของการแข่งขันชิงถ้วยรางวัล
นับตั้งแต่ฤดูกาลปี 2024 เป็นต้นมา มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบให้ทุกสโมสรตั้งแต่ J1 ถึง J3 รวม 60 ทีม เข้าร่วมแข่งขันชิงชัยชนะด้วยกัน
ทุกสโมสรจาก J1–J3 รวมทั้งหมด 60 ทีม จะเข้าร่วมแข่งขันในระบบแพ้คัดออก ยิ่งทำให้เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและดราม่าอีกด้วย
ในบรรดาการแข่งขันรอบต่างๆ การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศเพื่อชิงตำแหน่งยอดของทั้ง 60 สโมสร ถือเป็นการแข่งขันสุดพิเศษที่ไม่มีโอกาสเห็นในลีกทั่วไปได้อีกด้วย โดยการแข่งขันจะจัดขึ้น ณ “สนามกีฬาแห่งชาติ” ซึ่งเป็นเวทีประลองอันศักดิ์สิทธิ์ของการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกโตเกียวที่เพิ่งสร้างเสร็จในปี 2019 ที่ผ่านมา ที่นี่ออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดังระดับโลก คุมะ เคนโกะ ผู้ออกแบบสถานที่ที่มีชื่อเสียงมานักต่อนักแล้ว เนื่องจากที่นี่รองรับผู้ชมได้ถึง 68,000 ที่นั่ง ทำให้เป็นหนึ่งในสนามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น
ศึกชี้ชะตาแชมป์ที่ 2 สโมสรฝ่าฟันกันขึ้นมาในทัวร์นาเม้นจะเต็มไปด้วยบรรยากาศตื่นเต้นเร้าใจ ทั้งจากแฟนบอล ขบวนพาเหรดแชมป์ และการฉลองชัยระดับจังหวัดที่จัดหวัดต้นสังกัดก็ถือเป็นอีเว้นท์ที่สุดอลังการอีเว้นท์หนี่งด้วย
อีกหนึ่งไฮไลต์ที่น่าชม คือ “โครีโอกราฟี” ที่แฟนบอลและกองเชียร์ที่ยืนอยู่ด้านหลังประตูของแต่ละทีมทั้งสองจะร่วมกันสร้างลวดลายรูปด้วยกระดาษและอุปกรณ์อื่น ๆ เมื่อผู้เล่นทั้งสองทีมเดินลงสนามซึ่งเป็นภาพสุดอลังการเพื่อให้กำลังใจนักเตะก่อนเกมเริ่ม
เสน่ห์ของการชมแบบ VIP: ประสบการณ์พิเศษจากที่นั่งแบบ Hospitality Seat
4 เสน่ห์ของสิทธิพิเศษจากที่นั่งแบบ Hospitality Seat
- บุฟเฟต์อาหารและเครื่องดื่มไม่อั้นในเลานจ์พิเศษของสนามกีฬาแห่งชาติ
- เก้าอี้พิเศษพร้อมเบาะรองนั่งในโซนที่ดีที่สุด
- พบปะพูดคุยกับอดีตนักเตะเจลีก
- ชมถ้วยแชมป์ และรับของที่ระลึกพิเศษที่ไม่มีจำหน่ายทั่วไป
ไหน ๆ ก็ได้มาชมศึกนัดชิงชนะเลิศแล้ว ขอแนะนำให้มาชมเกมชิงชนะเลิศแบบเต็มอิ่มด้วยที่นั่งแบบ Hospitality Seat ที่รวมอาหาร เครื่องดื่ม และกิจกรรมสุดพิเศษภายในเลานจ์พิเศษในสนามกีฬาแห่งชาติเอาไว้แล้ว
เก้าอี้พร้อมเบาะรองนั่งพิเศษใกล้กับพื้นที่สนามในอัฒจันทร์หลักจะทำให้คุณสามารถชมการแข่งขีนในมุมที่โปร่งโล่งเปิดกว้างและสามารถสัมผัสบรรยากาศการแข่งขันอันเร่าร้อนได้ นอกจากนี้ ต้องห้ามพลาดชมพิธีฉลองแชมป์หลังจบเกมด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น ยังจะได้รับสิทธิพิเศษอย่างการเข้าชมถ้วยแชมป์ และรับของที่ระลึกพิเศษที่ไม่มีจำหน่ายทั่วไป รวมไปถึงการพบปะพูดคุยกับอดีตนักเตะเจลีกอีกด้วย!
*สำหรับการพบปะพูดคุยกับอดีตนักเตะ และของที่ระลึกพิเศษที่ไม่มีจำหน่ายทั่วไป จะเป็นการพบปะพูดคุยกับอดีตนักเตะจากสโมสรฝั่งเหนือ (แชมป์สโมสร คาชิว่า เรย์โซล และ สโมสร คาวาซากิ ฟรอนตาเล่) และสโมสรฝั่งใต้ (แชมป์สโมสรซานเฟรซเซ่ ฮิโรชิม่า และ โยโกฮาม่า เอฟซี) ส่วนของที่ระลึกพิเศษจะมีรูปแบบและใช้สีประจำของสโมสร
・ดูรายละเอียดแพ็กเกจ Hospitality ได้ที่นี่!
ชมการแข่งขันอย่างเดียวไม่พอ! JTB ชวนคุณมาท่องเที่ยวญี่ปุ่นอย่างเต็มอิ่มด้วยแพ็กเกจทัวร์สุดพิเศษ
JTB จัดทัวร์สุดพิเศษซึ่งรวมที่นั่งแบบ Hospitality Seat สำหรับรอบชิง Levain CUP พร้อมโปรแกรมท่องเที่ยวเกี่ยวกับฟุตบอลญี่ปุ่น
หลังชมการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศเสร็จแล้ว ก็ไปดื่มด่ำกับมื้อค่ำที่ JFA Football Culture Center "blue-ing!" และในวันถัดไปก็สามารถไปสนุกสนานกับการชมเกมลีก J2 ระหว่างสโมสร "เจฟ ยูไนเต็ด อิจิฮาระ ชิบะ vs ฮอกไกโด คอนซาโดเล่ ซัปโปโร" ได้อีกด้วย
・ดูรายละเอียดแพ็กเกจทัวร์ Hospitality ได้ที่นี่!
รายละเอียดการแข่งขันชิงแชมป์ Levain CUP 2025 และวิธีการจอง
สามารถดูรายละเอียดและวิธีการจองได้ที่นี่ มาเพลิดเพลินไปกับชมการแข่งขันอันดุเดือดของทั้ง 60 สโมสรที่ต่างมุ่งหมายชิงตำแหน่งอันดับ 1 อย่างเต็มที่บนที่นั่ง VIP กันเถอะ
● วันแข่งขัน: วันเสาร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2025
(1) Hospitality Package
- ราคา: 50,000 เยน / 1 ท่าน
- สิ่งที่รวมอยู่ในแพ็กเกจ
ตั๋วที่นั่ง Hospitality Seat สำหรับชมรอบชิง J.League YBC Levain CUP 2025
(2) Hospitality Tour Package
- ราคา: 115,000 เยน / 1 ท่าน
- สิ่งที่รวมอยู่ในแพ็กเกจ:
ตั๋วที่นั่ง Hospitality Seat สำหรับชมรอบชิง J.League YBC Levain CUP 2025
บัตรเข้าพื้นที่ DISCOVERY ที่ blue-ing! + อาหารมื้อค่ำที่ JFA Football Culture Center
เหมารถบัสบริการรับส่ง (1 พ.ย. สนามกีฬาแห่งชาติ → blue-ing! / 2 พ.ย. ทั้งวัน *ตามกำหนดการ)
ตั๋วชมเกมลีก J2 เมจิยาซึดะ ระหว่างสโมสรเจฟ ยูไนเต็ด อิจิฮาระ ชิบะ vs ฮอกไกโด คอนซาโดเล่ ซัปโปโร
*มีไกด์ทัวร์ติดตามไปด้วย (รองรับภาษาญี่ปุ่น/อังกฤษ)
*ไม่รวมค่าที่พัก ผู้เข้าร่วมต้องจองสถานที่พักเอง
- เมื่อทำการสมัคร กรุณาตรวจสอบข้อควรระวังที่ระบุอยู่ในแต่ละหน้าให้เรียบร้อย
- การเดินทางสู่สนามกีฬาแห่งชาติ
┗ ที่อยู่: 10-1 คาสุมิกาโอกะมาจิ เขตชินจูกุ โตเกียว
จากรถไฟ JR สาย Sobu: เดิน 5 นาทีจากสถานี Sendagaya หรือ สถานี Shinanomachi
จากรถไฟสาย Toei-Oedo: เดิน 1 นาที จากสถานี “Kokuritsu-Kyogijo” (ทางออก A2)
จากรถไฟใต้ดินสาย Tokyo Metro Ginza: เดิน 9 นาที จากสถานี “Gaien-mae” (ทางออก 3)
Comments