ดอกไม้ประจำฤดูกาล: ดอกไม้ในหน้าร้อน

  • 21 กรกฎาคม 2021
  • 5 สิงหาคม 2021
  • Mon

ดอกไม้ประจำฤดูกาล: ดอกไม้แห่งฤดูร้อน

ในญี่ปุ่น ไม่ว่าในช่วงฤดูไหนก็จะมีดอกไม้บาน ณ ที่ใดที่หนึ่งเสมอ อย่างไรก็ตาม หากคุณไม่มีข้อมูลว่าเป็นดอกไม้ชนิดใดและจะบานอยู่ที่ไหน คุณก็ไม่สามารถไปหาชมความงามของดอกไม้เหล่านั้นได้ ซีรีส์นี้จึงขอสรุปข้อมูลดังกล่าวสำหรับแต่ละฤดูกาล ในคราวนี้เราจะมาแนะนำดอกไม้ที่บานตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคมในช่วง "ฤดูร้อน" กันครับ

ตารางการเริ่มบานและช่วงพีคของดอกไม้ในหน้าร้อน

ในช่วงเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคมจะมีดอกไม้ต่าง ๆ บานให้ชมมากมาย แต่โดยทั่วไปแล้ว ดอกไม้บางชนิดจะบานตามที่ต่าง ๆ ตลอดช่วงหน้าร้อนและไม่สามารถระบุช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมได้ เมื่อเทียบกับดอกไม้ที่บานตลอดทั้งช่วงหน้าร้อนแล้ว ดอกไม้ที่บานเป็นช่วงสั้น ๆ มักจะได้รับความนิยมมากกว่า และจุดที่มีดอกไม้ประเภทนี้ก็มักจะกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมไปด้วยครับ ตารางนี้สรุปเฉพาะดอกไม้ที่มีช่วงบานเต็มที่

อนึ่ง ในตารางนี้ ตอกไม้อื่น ๆ ที่ไม่ใช่ลาเวนเดอร์จะยึดช่วงเวลาบานของภูมิภาคคันโตเป็นหลัก ส่วนลาเวนเดอร์จะยึดตามช่วงเวลาบานของที่ฮอกไกโด นอกจากนี้ ตารางนี้ไม่ใช่การคาดการณ์ประจำปี แต่เป็นช่วงออกดอกเฉลี่ยและช่วงบานเต็มที่จากสภิติหลาย ๆ ปี การออกดอกและช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมในแต่ละพื้นที่จะแตกต่างกันไปตามสถานที่และสภาพอากาศในแต่ละปีครับ

:ช่วงตั้งแต่ออกดอกจนถึงร่วงโรย

:ช่วงพีค ช่วงบานเต็มที่

ดอกไม้/ช่วงต้นเดือนมิ.ย.กลางเดือนมิ.ย.
ปลายเดือนมิ.ย.
ต้นเดือนก.ค.
กลางเดือนก.ค.ปลายเดือนก.ค.
ต้นเดือนส.ค.
กลางเดือนส.ค.
ปลายเดือนส.ค.
ไฮเดรนเยีย





---
ลาเวนเดอร์※--



ถางไร่
--
บัวหลวง---





ทานตะวัน----




ดอกไม้ประจำฤดูฝน : ไฮเดรนเยีย (紫陽花 / Hydrangea)

ดอกไม้ประจำฤดูฝน : ไฮเดรนเยีย

แม้จะพูดได้ไม่เต็มปากว่าเป็นดอกไม้ประจำฤดูร้อน แต่ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมคือเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคม ดังนั้นจึงถือได้ว่าเป็นดอกไม้ที่บานในช่วงฤดูร้อน ไฮเดรนเยียเขียนในภาษาญี่ปุ่นว่า "紫陽花" และอ่านว่า "อะจิไซ" (ajisai) แต่ในสมัยก่อนเรียกว่า "อัตสึซาไอ" (atzusaai) ซึ่งแปลว่า "กระจุกดอกไม้สีคราม" หลังจากตัวคันจิเข้ามาสู่ญี่ปุ่น จึงมีการใช้ชื่อคันจิแบบอ่านไม่ตรงตามตัวอักษรคันจิว่า "紫陽花" (ดอกไม้ที่มีสีม่วงกลางแดด)

อีกทั้งเป็นดอกไม้ที่มักพบเห็นตามวัดในช่วงฤดูฝน เหตุผลก็คือว่า ในสมัยก่อนซึ่งโรคระบาดไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้นั้น มันเคยถูกใช้เป็นดอกไม้ที่ใช้ในการไว้ทุกข์ให้แก่ผู้ที่เสียชีวิตด้วยโรคระบาด ไฮเดรนเยียหลายต้นถูกปลูกขึ้นใน "วัดไฮเดรนเยีย" ในหมู่บ้านและชุมชนที่เคยเกิดโรคระบาดขึ้น แม้หลังจากที่การแพทย์พัฒนาขึ้น ความงามของไฮเดรนเยียก็น่าหลงใหล และกลายเป็นดอกไม้ที่นิยมปลูกกันตามวัดทั่วไปในภายหลังครับ

สีของดอกไม้เปลี่ยนไปตามองค์ประกอบของดิน ในกรณีของกรดจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินจนถึงสีม่วง และในกรณีของเบส-ด่างจะเปลี่ยนเป็นสีแดง ไฮเดรนเยียมีพิษหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับแร่ธาตุที่ต้นนั้น ๆ ดูดซับจากดิน ดังนั้นโดยทั่วไปแล้วจะไม่นำมากินกัน และหลายคนไม่กล้าที่จะปลูกมันในสวนเพราะมีภาพลักษณ์ว่าเป็นดอกไม้ในวัดหรือเป็นดอกไม้แก่ผู้วายชนม์ครับ

ภาษาดอกไม้ของไฮเดรนเยียคือ "เปลี่ยนใจบ่อย", "โหดเหี้ยม", "กระจุกตัว", "เป็นมิตร", "ครอบครัว", "การเปลี่ยนแปลง", และ "เจ้าชู้"

สถานที่ชมดอกไฮเดรนเยียขึ้นชื่อที่แนะนำ

ส่วนใหญ่จะเป็นวัดทั่วประเทศ แต่วัดที่ดังเรื่องดอกไฮเดรนเยียก็คืออารามเมเก็ตสึอินและวัดฮาเสะเดระในคามาคุระ ไฮเดรนเยียที่เห็นได้บนรถไฟสายฮาโกเน่โทซังก็เป็นที่นิยมในฮาโกเน่เช่นกัน

ดอกไม้ประจำฤดูร้อนในฮอกไกโด: ลาเวนเดอร์ (ラベンダー / Lavender)

ดอกไม้ประจำฤดูร้อนในฮอกไกโด: ลาเวนเดอร์

ทุ่งลาเวนเดอร์ถือเป็นของดังในฤดูร้อนของฮอกไกโด มีภาพลักษณ์ว่าเป็นดอกไม้ฤดูร้อนในที่ที่อากาศหนาวเย็น แต่จริง ๆ แล้วมันเป็นดอกไม้ที่สามารถพบเห็นได้แม้ในภูมิภาคคันโตและภูมิภาคคิวชูด้วย ถึงแม้ตัวดอกไม้จะมีความสวยงาม แต่ลาเวนเดอร์ก็ถูกขนานนามว่า "ราชินีแห่งสมุนไพร" นอกจากชาสมุนไพรและน้ำมันหอมระเหยแล้ว ยังมีการนำไปทำเป็นเกลืออาบน้ำ ดอกไม้ประดับ ดอกไม้ปักแจกัน และดอกไม้แห้งอีกด้วย นอกจากนี้กลิ่นยังมีฤทธิ์ช่วยผ่อนคลาย กลิ่นลาเวนเดอร์จึงใช้เป็นกลิ่นหอมสำหรับอโรมาเทอราพีและไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟด้วยครับ

ภาษาดอกไม้ของลาเวนเดอร์คือ "เงียบ", "รอเธออยู่", "ตอบฉันมาด้วย", "คาดหวัง", และ "สงสัย"

สถานที่ชมดอกลาเวนเดอร์ขึ้นชื่อที่แนะนำ

ฟุราโนะในฮอกไกโดมีชื่อเสียงและมีทุ่งลาเวนเดอร์และฟาร์มมากมาย หากอยากลองไปชมในภูมิภาคคันโต สามารถไปที่กุมมะ ไซตามะ และชิบะได้ สำหรับการผสมผสานระหว่างภาพภูเขาไฟฟูจิและภาพทุ่งลาเวนเดอร์ ขอแนะนำให้ไปถ่ายรูปที่ทะเลสาบคาวากุจิโกะในยามานาชิ!

ตามริมน้ำในฤดูร้อน: บัวหลวง (蓮の花 / Lotus)

ตามริมน้ำในฤดูร้อน: ดอกบัวหลวง

อันที่จริงดอกบัวหลวงและดอกบัวสายมีความแตกต่างจนแยกชื่อเรียกกัน ดอกไม้ที่เบ่งบานปริ่มผิวน้ำคือ "ดอกบัวสาย" (睡蓮 suiren / Waterily) ส่วนดอกบัวที่ชูช่อตั้งขึ้นบานเหนือผิวน้ำที่ความสูงระดับหนึ่งคือ "ดอกบัวหลวง" (蓮 hasu / Lotus) ดอกบัวสายเป็นดอกไม้ที่บานตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงตุลาคม แต่ดอกบัวหลวงจะบานในเดือนกรกฎาคมถึงกันยายนเท่านั้น และเวลาที่ดีที่สุดในการชมคือตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคมถึงกลางเดือนสิงหาคม หลายคนออกไปดูดอกบัวหลวงเพราะเห็นได้เฉพาะช่วงนี้เท่านั้น และบ่อน้ำขนาดใหญ่และสวนญี่ปุ่นก็เป็นที่นิยม

ลักษณะเฉพาะของดอกบัวหลวงคือ เป็น "ดอกไม้ที่เห็นได้เฉพาะตอนเช้า" ดอกจะหุบประมาณเที่ยงวันและจะไปบานในเช้าวันรุ่งขึ้น โดยจะบาน-หุบวนไปแบบนี้ประมาณ 4 วัน หากเห็นดอกบัวที่ยังบานอยู่หลังเลยเที่ยงวันไปแล้ว แสดงว่าดอกนั้นจะบานครั้งสุดท้ายในวันนั้น

แม้ว่าจะเป็นดอกไม้ที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนาอย่างลึกซึ้ง แต่อินเดียและเวียดนามก็ใช้เป็นดอกไม้ประจำชาติ และชาดอกบัวก็ดื่มกันในประเทศเวียดนาม ส่วนต่าง ๆ ของบัวหลวงสามารถกินได้ ในญี่ปุ่น คุณสามารถซื้อ "รากบัว" ได้ที่ซูเปอร์มาร์เก็ต

ภาษาดอกไม้ของดอกบัวคือ "หัวใจอันบริสุทธิ์" และ "ศักดิ์สิทธิ์"

สถานที่ชมดอกบัวหลวงขึ้นชื่อที่แนะนำ

หากเป็นภายในโตเกียว ที่ที่นึกถึงกันมากที่สุดคือสระชิโนบาสุในสวนอุเอโนะ หรือตามสวนญี่ปุ่น เช่น สวนโคอิชิกาวะโคราคุเอ็น และสวนซังเคเอ็นในโยโกฮาม่า แม้จะอยู่ไกลจากโตเกียวไปสักหน่อยแต่เราก็ขอแนะนำวัดโทโชไดจิในนารา ย่านซาวาระในชิบะ โคราคุเอ็นในโอคายามะ และสระโมเนต์ในฟุคุอิ

ตัวแทนแห่งฤดูร้อน: ทานตะวัน (向日葵 / Sunflower)

ตัวแทนแห่งฤดูร้อน: ทานตะวัน

เมื่อพูดถึงฤดูร้อน หลายคนก็จะนึกถึงภาพดอกทานตะวัน มันเป็นดอกไม้ที่บานตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคมในช่วงกลางฤดูร้อนในญี่ปุ่น ดังนั้นจึงมีภาพลักษณ์ของคนที่ชอบแสงแดดและวันที่มีแดดจ้า ในฤดูร้อนหลายคนไปถ่ายภาพทานตะวันกัน ลักษณะเฉพาะคือ ในหนึ่งต้นจะมี "ดอกไม้" ขนาดใหญ่ดอกเดียวต่อต้น ซึ่งจะหันหน้าไปตามดวงอาทิตย์ แต่ที่จริงแล้ว มันประกอบดอกไม้เล็ก ๆ จำนวนมากรวมตัวกันเป็นกระจุกรูปทรงดอกไม้ ดอกไม้เล็ก ๆ ด้านนอกมีกลีบ และดอกไม้เล็ก ๆ ข้างในไม่มีกลีบ จึงดูเหมือนดอกไม้ขนาดใหญ่ดอกเดียว

วิธีใช้งานไม่ใช่แค่การดูเท่านั้น มี "น้ำมันดอกทานตะวัน" หรือ "Sunflower Oil" ซึ่งไม่เพียงแต่ใช้สำหรับการบริโภคเท่านั้น แต่ยังใช้เพื่อวัตถุประสงค์ที่หลากหลายด้วย เช่น เป็นน้ำมันนวด น้ำมันบำรุงผิว และน้ำมันตัวนำสำหรับการบำบัดด้วยกลิ่นหอม คุณสามารถกินเมล็ดทานตะวันได้ แต่ต้องระวังด้วยเพราะมันมีแคลอรีสูง!

ภาษาดอกไม้ของดอกทานตะวันนั้นแตกต่างกันไปตามสีและขนาด แต่โดยทั่วไปแล้ว "ความชื่นชอบประทับใจ" และ "การมองเพียงแค่คุณคนเดียว"

สถานที่ชมดอกทานตะวันขึ้นชื่อที่แนะนำ

ใกล้ ๆ โตเกียวมีสถานที่ที่มีชื่อเสียงไม่กี่แห่ง แต่ถ้าเป็นในท้องที่อื่นที่ไม่ใช่ใน 23 เขตมหานครของโตเกียว เราขอแนะนำสวนอนุสรณ์โชวะ และหากไปไกลได้ถึงจังหวัดอื่น เราขอแนะนำแถบโยโกสุกะและซามะในคานากาว่า และ Sun Pillar Park ในฮอกไกโด

ดอกไม้ในหน้าร้อนอื่น ๆ

ดอกไม้ที่ไม่ใช่ดอกบานช่วงสั้น ๆ ตามกระแสนิยมหลักนั้นก็ไม่ค่อยเป็นที่นิยมเท่าไหร่ แต่ถ้าถ่ายรูปสวย ๆ ได้ก็จะดูดีมาก ๆ บน SNS ครับ!

ดอกบัวสาย (睡蓮 / Waterlily)

ดอกบัวสาย

ลิลลี่ (百合 / Lily)

ลิลลี่

คอสมอส (コスモス/ Cosmos)

คอสมอส

ป๊อปปี้ (ポピー)

ป๊อปปี้

ฮานะโชบุ (花菖蒲 / Japanese Iris)

ฮานะโชบุ

เป็นยังไงกันบ้างครับ ยังมีดอกไม้อีกเยอะ แต่คราวนี้พอแค่นี้ก่อนนะครับ อย่าลืมรอชมดอกไม้ประจำฤดูกาลอื่น ๆ กันด้วยนะครับ!

หัวข้อเรื่อง

Survey[แบบสอบถาม] กรุณาบอกเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในญี่ปุ่น







Recommend