เชิญทุกท่านก้าวขึ้นรถไฟท่องเที่ยวเพื่อท่องเที่ยวในญี่ปุ่นกันเถอะ

หากคุณเป็นนักท่องเที่ยวทั่วไป สิ่งแรกที่จะนึกถึงเมื่อพูดเกี่ยวกับรถไฟในญี่ปุ่นนั้นมีความน่าตื่นเต้นและกังวลใจไปพร้อมกับสายรถไฟอันมหาศาล ซึ่งมีโครงข่ายกระจายอยู่ทุกหนแห่งทั่วประเทศ อีกด้านหนึ่งก็นึกถึงเส้นทางที่ตัดผ่านภูมิประเทศอันสวยงามและหลากหลายของญี่ปุ่นแบบที่ไม่เหมือนใครบนโลกใบนี้

ประวัติความเป็นมาของระบบรถไฟในญี่ปุ่นนั้นมีความยาวนานเป็นอย่างยิ่ง ทว่ารถไฟที่ทำให้ทุกคนทั่วโลกรู้จักญี่ปุ่นก็คือรถไฟฟ้าความเร็วสูงซินคันเซ็น หรือเรียกอีกชื่อว่ารถไฟหัวกระสุน ซึ่งมันเริ่มใช้งานในปี 1964 และได้เปลี่ยนแปลงการเดินทางด้วยรถไฟของญี่ปุ่นและทั้งโลกไปตลอดกาล

ณ ปัจจุบัน ซินคันเซ็นกลายเป็นหนึ่งตัวเลือกการเดินทางด้วยรถไฟที่ดีที่สุดของญี่ปุ่น เพราะมันมีสถานีหลักที่เชื่อมต่อกับสถานีรถไฟท้องถิ่นเกือบทุกหัวเมืองใหญ่ มิหนำซ้ำยังสามารถเลือกรถไฟในการเดินทางเชื่อมต่อได้หลายรูปแบบ อาทิ รถไฟท้องถิ่นที่แล่นช้าๆ ผ่านตัวเมืองชนบทหรือท้องทุ่งนาเขียวขจี หรือจะเร่งรีบนั่งรถไฟความเร็วปานกลางที่มีรูปแบบเฉพาะตัวต่างกัน

โดยหากเริ่มเดินทางจากสถานีกลางโตเกียวไปยังเมืองใหญ่เช่นโอซาก้าหรือเกียวโต ด้วยการใช้เวลาไม่ไม่กี่นาทีพร้อมนั่งชมภาพบ้านเรือน ทิวเขา แม่น้ำ และบรรยากาศท้องทุ่งนาอันถูกแต่งแต้มเป็นพื้นหลังให้ผู้โดยสารรถไฟได้พบเห็น เมื่อคุณไปถึงยังจุดหมายก็ยังเลือกรถไฟอันแสนพิเศษเพื่อเติมเต็มรสชาติให้แก่การเดินทางได้อย่างต่อเนื่องแถมมากด้วยความประทับใจ

โดยรายชื่อขบวนรถฟ้าด้านนี้ล้วนเป็นอันดับยอดนิยมทั้งสิ้น

1. Kurobe Gorge Railway



ทางรถไฟสายนี้แรกเริ่มไม่ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อขนส่งผู้โดยสารทั่วไป ทว่ามีจุดประสงค์เพื่อขนส่งคนงานและวัสดุต่างๆ ไปยังไซต์ก่อสร้างเขื่อนคุโรเบะ แต่ตอนนี้มันถูกปรับเปลี่ยนให้รับหน้าที่พาผู้คนไปเยี่ยมชมวิวทิวทัศน์ระหว่างเส้นทางที่สวยงามราวกับเทือกเขาแอลป์ของญี่ปุ่น การขึ้นรถไฟขบวนนี้ใช้เวลาเดินทางทั้งสิ้น 80 นาที แล่นผ่านสะพานทั้งสิ้น 20 แห่ง 40 อุโมงค์ และใช้ระยะทาง 20 กิโลเมตร ซึ่งการเดินทางครั้งนี้จะแล่นผ่านความคดเคี้ยวไปตามหุบเขาที่ถูกแซมด้วยแม่น้ำเบื้องล่าง

2. Snow Monkey Express



ทางรถไฟสายลิงหิมะเป็นชื่อเล่นของรถไฟฟ้าสายนางาโนะ ที่มีจุดเริ่มต้นจากสถานีซินคันเซนที่ใจกลางเมืองนางาโนะก่อนเปลี่ยนเป็นสายรถไฟฟ้ามุ่งหน้าสู่บ่อน้ำพุร้อนอันลือชื่อ ซึ่งบริเวณบ่อน้ำพุร้อนจะมีบรรดาฝูงลิงหิมะมาแช่น้ำอุ่นเพื่อคลายความหนาว โดยที่นี่มีกฎอยู่ว่าห้ามนักท่องเที่ยวให้อาหารหรือสัมผัสกับลิง แต่คุณยังสามารถถ่ายรูปและเก็บภาพไว้ในความทรงจำได้

3. Sagano Scenic Railway



รถไฟขบวนซากาโนะจะเป็นตัวแทนในการเล่าเรื่องราวพร้อมถ่ายทอดภาพอันงดงามของแม่น้ำโฮชูกาวะ ซึ่งอยู่ระหว่างเมืองคาเมโอกะกับเมืองอาชิยามะ โดยทางรถไฟสายนี้จะใช้เวลาเดินทางราว 25 นาที ผ่านระยะทาง 7 กิโลเมตร ที่คุณสามารถชื่นชมดื่มด่ำไปกับวิวทางรถไฟริมแม่น้ำ ที่ประดับประดาด้วยต้นไม้ดอกไม้อันสวยงามหลากสีสัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเดินทางมาในฤดูใบไม้ร่วงมันจะยิ่งงดงามเป็นพิเศษ นอกจากนี้รถไฟขบวนดังกล่าวยังเคลื่อนช้าเป็นพิเศษเพื่อให้คุณได้สัมผัสสิ่งรอบตัวได้อย่างเต็มที่

4. Tokaido Shinkansen



ถ้าคุณชื่นชอบรถไฟฟ้าความเร็วสูงแล้วล่ะก็ การนั่งรถไฟซินคันเซ็นสายโทไคโดที่มีเส้นทางระหว่างโตเกียว เกียวโต และโอซาก้าเส้นนี้จะช่วยให้คุณตื่นตาไปกับภาพวิวสองข้างทางเป็นแน่ สำหรับการเดินทางใช้เวลาเกินกว่า 2 ชั่วโมง และที่น่าประทับใจคือมีคนกว่า 150 ล้านคนที่ใช้เส้นทางนี้ในทุกๆ ปี โดยไฮไลท์ของซินคันเซ็นสายโทไคโดอยู่ระหว่างการนั่งผ่านบริเวณที่เห็นภูเขาไฟฟูจิ ซึ่งภาพนี้เป็นดังตัวแทนของคนญี่ปุ่นที่บ่งบอกว่าใครก็ตามที่มาดินแดนอาทิตย์อุทัยจะต้องรู้จักภาพๆ นี้

5. Hakone Tozen Railway

ทางรถไฟสายฮาโกเน่ โทเซ็น เป็นที่รู้จักกันดีเพราะมันมีเส้นทางที่ตัดผ่านและลัดเลาะไปตามแนวเขา ซึ่งทำให้คุณสัมผัสกับประสบการณ์ที่มิอาจหาได้จากที่ไหนอีก เพราะมันมีเส้นทางที่แคบแถมข้ามผ่านสะพาน ลอดอุโมงค์และถูกปะทะจากสายลมอันเย็นยะเยือกของหุบเขา โดยเมื่อหลุดผ่านจากสภาพทางดังกล่าวแล้ว ภาพที่ปรากฏเบื้องหน้าก็คือทุ่งดอกไม้ป่าที่เติบโตชูดอกอยู่บริเวณสองข้างรางรถไฟ และสิ่งนี้เป็นดั่งตัวแทนที่คอยมาต้อนรับแขกจากแดนไกล สำหรับช่วงเวลาที่เหมาะต่อการมาจะอยู่ในฤดูร้อนเพื่อสัมผัสกับดอกไม้สีสดสวยอย่างเต็มที่

6. Seven Stars in Kyushu