เรื่องราวลี้ลับและสยองขวัญ ตอนที่ 39: เรื่องสยองเกี่ยวกับ "โอมาจิไน"

  • 6 พฤศจิกายน 2020
  • Mon
  • Mon

นี่เป็นเรื่องเกี่ยวกับโอมาจิไนที่ผมฟังมาจากลูกสาววัยประถมตอนที่พาลูกสาวอาบน้ำเพราะภรรยาของผมต้องกลับบ้านช้าเนื่องจากรถไฟที่เธอขึ้นดันประสบอุบัติเหตุรถไฟชนคนจนหยุดวิ่งครับ

จากที่ลูกสาวเล่าให้ฟัง มันเป็นโอมาจิไนสำหรับเวลาที่อยากให้เด็กผู้ชายที่แอบชอบหันมาชอบเราด้วยครับ
วิธีการทำก็ยุ่งยากหน่อย อย่างแรก ให้เขียนชื่อของตัวเองและเด็กผู้ชายที่แอบชอบด้วยปากกาเมจิกสีแดงลงบนกระดาษ นำไปใส่ในแก้วที่มีน้ำอยู่ แล้วละลายกระดาษในน้ำ
พอละลายกระดาษเสร็จแล้วก็ให้นำแก้วนั้นไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง จากนั้นก็ทำการร่ายคาถา
คาถาก็มีเพียงแค่ นึกชื่อของตัวเองและคนที่อยากจะให้หันมาชอบตัวเองในใจ โดยนึกสลับกันไปมาสามครั้ง
จากนั้นให้เอาปลายนิ้วก้อยจุ่มลงในแก้วน้ำ แล้วใช้ปลายนิ้วที่เปียกมาแตะที่หว่างคิ้ว ใต้จมูก และปลายคาง เป็นอันเสร็จสิ้น
ส่วนแก้วน้ำก็ให้วางไว้ที่สถานที่แห่งหนึ่ง หลังจากวางทิ้งไว้ ภายใน 5 วัน ถ้าฝนตกจนแก้วน้ำล้น ก็ถือว่า เทพเจ้าจะดลบันดาลให้ความปรารถนาเป็นจริง

ผมก็ฟังเป็นเรื่องตามประสาเด็ก แต่พอลูกเล่าให้ฟังถึงสถานที่ดังกล่าว ผมก็เสียวสันหลังวาบทั้ง ๆ ที่แช่อยู่ในอ่างน้ำอุ่นเลยครับ

ผมใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านเกิดมาตลอด ไม่เคยได้ย้ายไปไหน ผมจึงรู้เรื่องราวเกี่ยวกับสถานที่นั้นนั้นดีครับ
แต่ก็ไม่เคยนึกเคยฝันว่าเรื่องราวนั้นจะเปลี่ยนแปลงไปในทางนี้ครับ
สถานที่ที่ว่านี้ก็คือ จุดตัดทางรถไฟที่อยู่ตรงบริเวณกึ่งกลางระหว่างสถานีแถวบ้านเกิดของผมกับสถานีในอำเภอข้างเคียงครับ
ดูเผิน ๆ ก็เป็นแค่จุดตัดทางรถไฟเล็ก ๆ ธรรมดา ๆ แห่งหนึ่ง แต่ตอนที่พวกผมอยู่ป. 4 มันเป็นจุดตัดทางรถไฟชื่อดังที่เคยคร่าชีวิตคนถึง 4 คนภายในเวลา 2 เดือนจากอุบัติเหตุรถไฟชนคนครับ
อุบัติเหตุรถไฟชนคนที่ว่านั้นเกิดขึ้นเดือนละครั้ง ทุกครั้งมีผู้เสียชีวิตเป็นคู่ และที่สำคัญ ผู้เสียชีวิตแต่ละคู่นั้นก็เป็นคู่รักกันครับ
ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะอยู่ระหว่าง 2 สถานีจึงวิ่งด้วยความเร็วสูงหรือเปล่า แต่ว่ากันว่า ศพของแต่ละคู่ถูกรถไฟทับร่าง บดละเอียดเป็นชิ้น ๆ จนแทบจะแยกไม่ออกว่าชิ้นไหนเป็นของศพไหนครับ

เมื่อเจอเหตุการณ์เช่นนี้ต่อเนื่องกัน ก็ย่อมจะมีข่าวลือแปลก ๆ เกิดขึ้นครับ

ข่าวลือเล่าว่า มีผู้หญิงที่ถูกคนรักปฏิเสธไม่รับรักเคยมาฆ่าตัวตายที่นี่ในวันที่ฝนตก กลายเป็นวิญญาณร้าย พอเห็นคู่รักที่กระหนุงกระหนิงกันในวันที่ฝนตก ก็จะลากทั้งคู่ไปที่รางรถไฟเพื่อให้รถไฟชนตายครับ
ฟังแค่นี้ก็จะคิดว่าเป็นแค่ตำนานเมืองที่อาจจะเคยได้ยินกันบ่อย ๆ แต่แท้จริงแล้ว เพื่อนของผมก็รู้ดีว่า มันไม่ใช่ข่าวลือที่ไม่มีมูลแต่อย่างใด
เพราะผู้หญิงที่ลือกันว่าถูกคนรักปฏิเสธจนฆ่าตัวตายนั้น เป็นพี่สาวที่อายุห่างกันมากของเพื่อนร่วมชั้นของผมนั่นเองครับ
ทั้งผมที่อาศัยอยู่ในห้องเช่าตึกเดียวกัน และเพื่อนร่วมชั้นหลายคน ต่างก็เคยไปร่วมพิธีเฝ้าศพข้ามคืน (通夜 / tsuya) กันครับ

ตอนที่ผมไปร่วมเฝ้าศพผมก็ได้ฟังพวกผู้ใหญ่คุยกันจนรู้เรื่องรู้ราวมาครับ
ทั้งเรื่องที่พี่สาวของเพื่อนคนนั้นไปฆ่าตัวตายที่จุดตัดทางรถไฟ
และเรื่องที่ในจดหมายฆ่าตัวตาย เขียนไว้ว่า เห็นผู้ชายที่เคยชอบเดินใต้ร่มเดียวกันกับแฟนสาว รู้สึกเศร้าใจมาก จนไม่อาจจะอยู่ต่อไปได้

แต่พอกลายมาเป็นข่าวลือ ก็มีจุดที่เปลี่ยนแปลงไปบ้าง เช่น เรื่องกลายเป็นว่าถูกคนรักปฏิเสธบ้าง พี่สาวของเพื่อนที่เสียชีวิตไปเป็นคนที่สวยมาก ๆ เอาบ้าง
แต่เรื่องพื้นฐานต่าง ๆ ก็ยังถูกต้องตามความเดิม เช่น สถานที่ที่เป็นจุดตัดทางรถไฟ เวลาที่เสียชีวิต และเรื่องที่เสียชีวิตในวันที่ฝนตก เป็นต้น

แล้วเพราะข่าวลือโด่งดังจนถึงระดับหนึ่ง ก็เริ่มมีเรื่องราวแปลก ๆ แถมตามมา
นั่นก็คือ ถ้าคนที่แอบชอบมีมารหัวใจซึ่งเป็นคู่แข่งเรื่องความรักของตน ก็ให้เขียนชื่อของมารหัวใจคนนั้นลงในกระดาษ แล้วนำไปใส่ในแจกันดอกไม้ของที่วางดอกไม้ไว้อาลัยที่จุดตัดทางรถไฟดังกล่าว วิญญาณร้ายจะลงทัณฑ์มารหัวใจให้ เป็นเรื่องที่โหดเหี้ยมมากเลยครับ
แม้จะเป็นโอมาจิไนเรื่องการสาปแช่งที่เติมแต่งขึ้นมาจากเรื่องข่าวลือที่ไม่ค่อยเข้าทีเท่าไหร่ แต่หลังจากที่พี่สาวของเพื่อนได้เสียชีวิตไป ก็ได้มีผู้เสียชีวิตเป็นคู่ชายหญิงเพิ่มถึง 4 รายขึ้นมาจริง ๆ แล้ว จนเป็นที่เชื่อกันจริงจังในหมู่นักเรียนหญิงบางส่วน

จนกระทั่งข่าวลือเริ่มดังจนอิ่มตัว ไม่รู้ว่าด้วยเหตุผลกลใด เรื่องโอมาจิไนดังกล่าวก็ไปถึงหูของแม่ของผู้เสียชีวิต หรือแม่ของเพื่อนร่วมชั้นของผมนั่นเองครับ

หลังจากนั้น แม่ของเพื่อนร่วมชั้นของผม ก็อยากเจอลูกสาวมาก มีคนพบเห็นแม่ของเพื่อนร่วมชั้นในชุดนอนไปเยี่ยมเยือนที่วางดอกไม้ไว้อาลัยในยามค่ำคืนหลายครั้ง จนสุดท้ายก็เสียสติ ฆ่าตัวตาย ณ จุดตัดทางรถไฟแห่งเดียวกับลูกสาวไปครับ
จากการร่วมในพิธีเฝ้าศพข้ามคืนรอบแม่ของเพื่อนร่วมชั้น ผมก็ได้ฟังเรื่องราวต่อไปนี้มาจากพวกผู้ใหญ่ครับ
มีการพบกระดาษที่เขียนชื่อของแม่ของเพื่อนร่วมชั้นอยู่ภายในเจอกันดอกไม้ ณ ที่วางดอกไม้ไว้อาลัยครับ
สุดท้ายแล้ว ด้วยเรื่องราวโศกนาฏกรรมต่อเนื่อง พอมีข่าวลือที่ไม่สู้ดีมากเกินไป สุดท้ายแล้ว ข่าวลือเองก็เริ่มซาลงไปครับ

เพื่อนร่วมชั้นที่เสียทั้งพี่สาวและแม่ไป หลังจากนั้นไม่นานก็ย้ายไปที่อื่น หลังจากนั้น ผมก็ไม่รู้เลยว่า เกิดอะไรขึ้นกับเขาบ้างครับ
เนื่องจากพบผมได้เห็นเพื่อนร่วมชั้นคนนั้นนั่งเหม่อลอยไม่ร้องไห้สักแอะในพิธีเฝ้าศพข้ามคืน ทุกคนต่างก็คิดกันว่า เขาควรจะออกห่างจากชุมชนนี้ไปเสียจะดีกว่า ในวันที่เลี้ยงส่งในชั้นเรียน ก็ไม่มีใครพูดถึงเหตุผลในการย้ายเลยครับ

และในช่วงที่ผมกำลังลืมเรื่องเหตุการณ์ในครั้งนั้นไปเสียจนจะหมดแล้ว คำพูดของลูกสาวก็ทำให้ความทรงจำที่ผมไม่อยากแม้แต่จะนึกถึงได้หวนกลับมาอีกครั้ง

ระหว่างที่เช็ดผมลูกสาวให้แห้ง ผมก็อธิบายเรื่องราวในอดีตให้ฟังโดยพยายามไม่ลงรายละเอียดมากนัก
ผมเตือนลูกสาวไปว่า เมื่อก่อน ที่นั่นเคยมีโศกนาฏกรรมเกิดขึ้น ดังนั้นอย่าไปทำอะไรแบบนั้นเล่นนะ

แต่ทว่า สำหรับผมแล้ว แม้มันอาจจะเป็นเหตุการณ์เมื่อสมัยก่อนนานมาแล้ว แต่ด้วยความอยากรู้อยากเห็น ผมจึงถามลูกสาวไปว่า “เอ้อ แล้ว เทพเจ้าใช้อำนาจทำให้คนสองคนชอบพอกันด้วยวิธีไหนเหรอ?

อืม หนูก็ไม่ค่อยรู้หรอกค่ะ” ลูกสาวตอบเกริ่นนำ

เห็นว่า จะช่วยทำให้ไม่มีวันพลัดพรากจากกันค่ะ

ผมคิดในใจ

ก็แหงแหละ กลายเป็นเนื้อบดเละผสมปนกันอย่างนั้น คงไม่มีใครแยกชิ้นส่วนออจากกันได้หรอก

ผมพูดเตือนให้ลูกสาวฟังอีกครั้งว่า อย่าเข้าไปใกล้ที่นั่นเป็นอันขาด

แปลมาจากเรื่อง “おまじない

---------------------------

ก็ไม่รู้นะครับว่า ถ้าทำตามโอมาจิไนนี้ไป จะกลายเป็นก่อนเนื้อตัดติดกันขนไม่มีวันพลัดพรากจากกันได้จริงรึเปล่า แถมที่ภรรยากลับบ้านช้าเพราะรถไฟชนคนนี่ จะเป็นเพราะมีใครไปลองแล้วเจออุบัติเหตุรึเปล่าก็ไม่แน่นะครับ...

คราวหน้าไปดูเรื่องสยองเกี่ยวกับโยไคกันบ้างดีกว่าครับ

อ่านบทความอื่นได้ที่นี่>>>เรื่องราวลี้ลับและสยองขวัญ

Survey[แบบสอบถาม] กรุณาบอกเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในญี่ปุ่น







Recommend