ยูโดที่กำเนิดขึ้นในญี่ปุ่นคืออะไร? วิธีการตัดสินแพ้ชนะซึ่งพิจารณาจากท่าทุ่มอย่างท่าล้มตัวทุ่ม และวิธีการพิจารณาสีของสายคาดเอวในยูโดคือ?

  • 28 พฤศจิกายน 2019
  • 2 ธันวาคม 2019
  • 横山 ゆかり/ Yukari Yokoyama

ยูโดที่กำเนิดขึ้นในญี่ปุ่นคืออะไร? วิธีการตัดสินแพ้ชนะซึ่งพิจารณาจากเทคนิคการทุ่มอย่างท่าทุ่มโทโมเอะ และวิธีการพิจารณาสีเข็มขัดยูโดคือ?

ในยูโด (柔道 / Jūdō ในภาษาญี่ปุ่นออกเสียงว่า จูโด) นั้นมีเทคนิคต่าง ๆ เช่นการทุ่มและการฟันด้วยมือ รวมถึงท่าล้มตัวทุ่ม สีของสายคาดเอวจะถูกกำหนดตามระดับขั้นค่ะ นอกจากนี้ยังเป็นกีฬาที่ได้รับการยอมรับไปทั่วโลกจนถูกบรรจุลงเป็นหนึ่งในชนิดกีฬาของการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกด้วยค่ะ เราจะมาแนะนำที่มาที่ไปและประวัติของยูโดที่มีต้นกำเนิดในญี่ปุ่นกันค่ะ

โคโดคังซึ่งเปิดขึ้นโดยผู้ก่อตั้งยูโดและประวัติความเป็นมาของยูโด

โคโดคังซึ่งเปิดขึ้นโดยผู้ประดิษฐ์ยูโด และประวัติความเป็นมาของยูโด

คาโน จิโกโร่ (嘉納治五郎 / Kanō Jigorō) ผู้เป็นอาจารย์สอนในศาสตร์ยิวยิตสู (柔術 / Jū-jutsu ในภาษาญี่ปุ่นออกเสียงว่า จูจุตสึ) ได้นำเอายิวยิตสูซึ่งเป็นวิธีการต่อสู้มาปรับเปลี่ยนด้วยจุดประสงค์ไม่เพียงเพื่อการเอาชนะเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังเพื่อเป้นการฝึกฝนจิตใจและเสริมสร้างบุคลิกภาพ ซึ่งได้กลายเป็นยูโดนั่นเองค่ะ นอกจากนี้ เขายังได้รวบรวมจุดเด่นของทักษะยิวยิตสูของแต่ละสำนักเข้าเป็นหนึ่งเดียวภายใต้ยูโด และได้ก่อตั้งโคโดคัง (講道館 / Kōdōkan) ขึ้นเพื่อเป็นโดโจ (道場 / Dōjō โรงฝึก) จากนั้นเขายังได้พยายามเผยแพร่ยูโดออกไป ไม่เพียงแค่ในญี่ปุ่นเทื่านั้น แต่ยังเผยแพร่ไปถึงในยุโรป ซึ่งช่วยส่งเสริมความเป็นสากลของยูโด เป็นผลให้ปัจจุบันนี้มีประเทศสมาชิกในสหพันธ์ยูโดถึง 199 ประเทศเลยค่ะ

ปรัชญาแห่งยูโดที่โคโดคังซึ่งเขียนโดยผู้ก่อตั้งยูโด

ปรัชญาแห่งยูโดที่โคโดคังซึ่งเขียนโดยผู้ก่อตั้งยูโด

ปรัชญาที่ คาโน จิโกโร่ ได้พร่ำสอนก็คือ "เซเรียวคุเซ็นโย" (精力善用 / Seiryoku Zen'yō) และ "จิตะเคียวเอ" (自他共栄 / Jita Kyōei) เซเรียวคุเซ็นโยหมายถึงการใช้พลังใจ กล่าวคือการใช้จิตใจและร่างกายอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อจุดประสงค์อันดี ส่วนในแง่เทคนิคการทุ่มก็คือ การใช้ประโยชน์จากกำลังของอีกฝ่ายให้กำลังของตนเกิดผลที่ดีที่สุด ส่วน จิตะเคียวเอ หมายถึง การพึ่งตนเองและเกื้อกูลผู้อื่น กล่าวถึงความสำคัญของการร่วมมือซึ่งกันและกันระหว่างตนและคนอื่นเพื่อให้เกิดความเจริญรุ่งเรืองของสังคมโดยรวม

วิธีการตัดสินแพ้ชนะซึ่งพิจารณาจากท่าทุ่มอย่างท่าล้มตัวทุ่มหรือท่าทุ่มข้ามไหล่ เป็นเช่นไร?

วิธีการตัดสินแพ้ชนะซึ่งพิจารณาจากเทคนิคการทุ่มอย่างท่าล้มตัวทุ่มหรือท่าทุ่มข้ามไหล่ เป็นเช่นไร?

ยูโดเป็นชนิดกีฬาที่บรรจุในกีฬาโอลิมปิกซึ่งมีกฎสากลทั่วโลก การต่อสู้หนึ่งยกใช้เวลา 4 นาทีสำหรับทั้งชายและหญิง เนื่องจากเป็นกีฬาที่มีความสุภาพนอบน้อม เอกลักษณะอย่างหนึ่งของยูโดก็คือการโค้งคำนับก่อนเริ่มและหลังจบการต่อสู้ค่ะ การตัดสินผลการแข่งยูโดมีอยู่สองประเภท คือ "อิปปอน" (一本 / Ippon หนึ่งแต้ม) และ "วาสะอาริ" (技あり / Waza-ari มีทักษะ หรือ ครึ่งแต้ม)

"อิปปอน" นั้น สำหรับท่าทุ่มจะได้อิปปอนเมื่อการทุ่มนั้น ๆ มีองค์ประกอบครบทั้งสี่อย่าง อันได้แก่ 1. "การควบคุมฝ่ายตรงข้าม" 2. "หลังแตะเสื่อทาทามิ" 3. "ความแรง" และ 4. "ความเร็ว" นอกจากนี้ในกรณีของการกดล็อคเช่นท่ากดนอนนั้น หากฝ่ายหนึ่งสามารถกดหลังและไหล่ทั้งสองของฝ่ายตรงข้ามไว้บนเสื่อทาทามิได้ต่อเนื่องเป็นเวลา 20 วินาที จะถือเป็นอิปปอน หากกดได้เพียง 10 วินาทีจะถือเป็นวาสะอาริ (ครึ่งแต้ม) ทั้งนี้ ในท่าทุ่ม หากสามารถทุ่มได้แต่ "มีองค์ประกอบเพียง 2 ใน 4" ก็จะถือเป็น "วาสะอาริ" ด้วยเช่นกัน ในการตัดสินแพ้ชนะนั้นจะเกิดขึ้นทันทีที่มีการให้อิปปอน หากมีวาสะอาริ 2 ครั้งก็จะเป็น "วาสะอาริ รวมเป็นอิปปอน" (技あり、合せて一本 / waza-ari, awasete ippon) และตัดสินแพ้ชนะทันทีเช่นกันค่ะ นอกจากนี้ยังมีการปรับแพ้หากมีการเล่นตุกติกผิดกติกาด้วยค่ะ

สีของสาดคาดเอวชุดยูโดนั้นตัดสินกันด้วยอะไร?

สีของสาดคาดเอวชุดยูโดนั้นตัดสินกันด้วยอะไร?

สายคาดเอวสำหรับมัดชุดยูโดนั้นจะมีได้ทั้งสีขาว สีน้ำตาล และสีดำ โดยสีนั้นจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับระดับ (級 / Kyū) และดั้ง (段位 / Dan'i) ค่ะ นอกจากนี้ เด็กและผู้ใหญ่ก็มีมาตรฐานการจัดระดับสีที่แตกต่างกันค่ะ ในส่วนของเด็ก มือใหม่จะได้สายขาว ระดับ 5 จะเป็นสายเหลือง ระดับ 4 เป็นสายส้ม ระดับ 3 เป็นสายเขียว ระดับ 2 เป็นสายม่วง และระดับ 1 เป็นสายน้ำตาล ส่วนสำหรับผู้ใหญ่ที่มีอายุตั้งแต่ 14 ปีขึ้นไปนั้น ระดับ 4 ลงไปจะเป็นสายขาว ระดับ 1 ถึง 3 เป็นสายน้ำตาล และตั้งแต่ดั้งแรก (1 ดั้ง) ถึง 5 ดั้งจะเป็นสายดำ นอกจากนี้ ผู้ที่ได้ 6-8 ดั้งยังเป็นสายขาวแดง และผู้ที่ได้ 9 ดั้งและ 10 ดั้งจะเป็นสายแดงค่ะ อนึ่ง ระดับ 5 ถึงระดับ 1 นั้น ระดับความแข็งแกร่งจะมากขึ้นเมื่อตัวเลขมีค่าน้อยลง และส่วน 1 ดั้งถึง 10 ดั้ง ระดับความแข็งแกร่งจะมากขึ้นเมื่อตัวเลขมีค่ามากขึ้น ดั้งนั้นจะถูกกำหนดโดยกฎเกณฑ์หลายอย่าง เช่น ผลการแข่ง ความสามารถที่แท้จริง อายุ และจำนวนปีที่ฝึกยูโดเป็นต้นค่ะ

หัวข้อเรื่อง

Survey[แบบสอบถาม] กรุณาบอกเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในญี่ปุ่น







Recommend