สวนไคราคุเอ็นแห่งมิโตะ จังหวัดอิบารากิ ช่วงที่น่าไปชมดอกบ๊วยคือช่วงไหนกัน?

  • 1 พฤศจิกายน 2019
  • 29 พฤศจิกายน 2019
  • 小口 拓也/Takuya Koguchi

สวนไคราคุเอ็นแห่งมิโตะ จังหวัดอิบารากิ ช่วงที่น่าไปชมดอกบ๊วยคือช่วงไหนกัน?

ไคราคุเอ็น (偕楽園 / Kairakuen) เป็นสวนญี่ปุ่นในอำเภอเมืองมิโตะจังหวัดอิบารากิ ถูกเรียกรวมกับสวนเค็นโรคุเอ็นแห่งคานาซาว่าและสวนโคราคุเอ็นแห่งโอคายาม่าในฐานะสามสวนขึ้นชื่อแห่งญี่ปุ่น (日本三名園 / Nihon San-Meien) ค่ะ นอกจากนี้ยังมีชื่อเสียงในฐานะจุดชมดอกบ๊วยอันเลื่องชื่อ ซึ่งเมื่อย่างเข้าฤดูใบไม้ผลิ ต้นบ๊วยต้นเหมยประมาณ 100 สายพันธุ์ 3,000 ต้นก็จะออกดอกบานสะพรั่งภายในสวนอย่างงดงามค่ะ

เกี่ยวกับสวนไคราคุเอ็น

เกี่ยวกับสวนไคราคุเอ็น

ไคราคุเอ็นเป็นสวนที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ สร้างขึ้นเมื่อปี 1842 สวนอันกว้างใหญ่นี้แบ่งออกเป็นสวนหลัก (本園 / Hon-en) และส่วนต่อขยาย (拡張部 / Kakucho-bu) ค่ะ สวนหลักมีอาคารเก่าแก่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และส่วนต่อขยายdHมีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์8jt

สิ่งน่าสนใจในไคราคุเอ็น

สิ่งน่าสนใจในไคราคุเอ็น

จุดเด่นหลักของสวนไคราคุเอ็นก็คือดอกบ๊วยค่ะ แต่ที่นี่ก็ยังมีสิ่งอื่น ๆ อีกมากมายที่คุณไม่ควรพลาด ตัวอย่างเช่น บริเวณรอบ ๆ สึกิอิเกะ (月池 / Tsuki-ike) ที่ซึ่งธรรมชาติยังคงอยู่อย่างอุดมสมบูรณ์ และทาโร่สุกิ (太郎杉 / Taro Cedar) ซึ่งว่ากันว่ามีอายุประมาณ 800 ปี แถมวิวที่มองเห็นได้จากเซ็นเอคิได (仙奕台 / Sen-ekidai) นั้นยอดเยี่ยมเช่นกัน ต่อไปนี้เป็นจุดที่แนะนำและวิธีการไปใช้เวลาเที่ยวชมภายในสวนค่ะ

อาคารอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์อย่างโคบุนเตและประตูนากามง

สิ่งน่าสนใจในไคราคุเอ็น

อาคารเก่าแก่อันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ต่าง ๆ ยังคงอยู่ในสภาพดีให้ชมได้ภายในสวนค่ะ ตัวอย่างเช่น อาคารอันเป็นหน้าเป็นตาของสวน โคบุนเต (好文亭 / Koubuntei) เป็นอาคารอันน่าพิสมัยที่ได้รับการออกแบบโดยโทคุงาวะ นาริอากิ (徳川斉昭 / Tokugawa Nariaki) ผู้ครองแคว้นมิโตะ สร้างบนภูมิประเทศที่ถูกปรับสภาพให้เป็นสวน ส่วนอาคารที่เห็นในปัจจุบันนั้นเป็นอาคารที่ได้รับการบูรณะในปี 1958 ภาพวาดเคลือบสีอันใหม่ก็ถูกวาดขึ้นระหว่างการบูรณะและภายในได้รับการตกแต่งอย่างงดงาม จากชั้น 3 ของหอราคุจุโร (楽寿楼 / Rakujuro) คุณยังสามารถมองเห็นทิวทัศน์อันกว้างใหญ่ได้ค่ะ

นอกจากนี้ ประตูนากามง (中門 / Nakamon) ที่ทางเข้าของโคบุนเตนั้นเป็นอาคารที่คงสภาพเดิมมานับตั้งแต่สมัยการเปิดสวนครั้งแรกสุด โครงสร้างที่เรียบง่ายหลังคาแบบมุงจาก (茅葺 / Kayabuki) หล่อหลอมเข้ากันได้ดีกับบรรยากาศของสวน และยังมีประตูชิบะซากิมง (芝前門 / Shibasakimon) ตั้งอยู่ถัดจากนากามง เป็นประตูที่ให้บรรยากาศเงียบสงบ เชื่อมต่อระหว่างโคบุนเตกับสวนบ๊วยค่ะ

อนึ่ง ประตูหลักของโคบุนเตทางฝั่งทิศเหนือของสวนนั้นเป็นประตูหลักที่คงสภาพเดิมมารับตั้งแต่สมัยเปิดสวนครั้งแรก ในปัจจุบันมันได้ยืนหยัดอยู่หลังสร้างเสร็จเป็นเวลารวมประมาณ 170 ปีแล้วค่ะ มันเป็นประตูแห่งความประทับใจด้วยสีดำอันดูหนักแน่นค่ะ

ต้นไม้และดอกไม้ต่าง ๆ ที่แต่งแต้มสีสันตามฤดูกาลอย่างดงไผ่ ซากุระ และบ๊วย

สิ่งน่าสนใจในไคราคุเอ็น

ในสวนคุณจะเห็นต้นไม้มากมายที่แต่งแต้มสีสันให้กับแต่ละฤดูกาลค่ะ

ไฮไลท์ที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาดอกไม้ในสวนไคโรคุเอ็นก็คือบ๊วย (ดอกเหมย) ค่ะ ตั้งแต่กลางเดือนธันวาคมถึงเดือนมีนาคม ต้นบ๊วยประมาณ 100 ชนิดจะค่อย ๆ บานตามลำดับ ตั้งแต่สายพันธุ์โตจิ (冬至 / Toji ดอกบ๊วยกลางฤดูหนาว) และพันธุ์โตไบ (唐梅 / Tobai ดอกเหมยแผ่นดินถัง) เป็นต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเทศกาลดอกบ๊วย (梅まつり / Ume Matsuri) ซึ่งจะจัดขึ้นตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนมีนาคม จะมีดอกบ๊วยในสวนบานกันเต็มไปทั่วเลยค่ะ

ในช่วงปลายเดือนเมษายนมีดอกสึสึจิ (ツツジ / Azalea) สายพันธุ์คิริชิมะ (キリシマツツジ / Kirishima Azalea) ดอกสีแดง และสายพันธุ์โดัน (ドウダンツツジ / Dodan Azalea) ดอกสีขาว 2 สายพันธุ์รวม 380 ช่อ บานให้ชมอยู่ตรงหน้าค่ะ

ในฤดูร้อนต้นไผ่โมโซ (孟宗竹 / Moso Chiku) และต้นซีดาร์จะออกใบเขียวชอุ่ม สร้างร่มเงาแสนเย็นให้กับสวนท่ามกลางฤดูร้อนค่ะ

นอกจากนี้ฤดูใบไม้ร่วงซึ่งเริ่มต้นขึ้นในเดือนกันยายน ดอกไม้ต่าง ๆ รวม 750 ช่ออย่างดอกฮากิพันธุ์มิยางิโนะ (宮城野萩 / Miyagino Hagi) และฮากิพันธุ์สีขาว (白萩 / Shirahagi) ก็จะพากันบานอย่างสวยงามค่ะ หลังจากนั้นประมาณกลางเดือนพฤศจิกายน ที่หุบเขาโมมิจิดานิ (もみじ谷 / Momijidani) จะเข้าสู่ฤดูใบไม้เปลี่ยนสีค่ะ ในช่วงเวลาดังกล่าว ทั้งหุบเขาจะสว่างไสวไปด้วยไฟส่องยามค่ำคืน และใบไม้เปลี่ยนสีก็จะโดเด่นขึ้นท่ามกลางท้องฟ้ายามค่ำคืนค่ะ (ข้อมูล ณ เดือนตุลาคม 2019)

เวลาทำการและค่าเข้าชมของสวนไคราคุเอ็น

เวลาทำการของสวนไคราคุเอ็นนั้นก็จะแตกต่างกันไประหว่างสวนหลักกับสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ และยังเปลี่ยนตามฤดูกาลอีกด้วย สำหรับสวนหลักในช่วงระหว่างเดือนเมษายนถึงสิ้นเดือนกันยายนจะให้บริการตั้งแต่ 6.00 น. ถึง 19.00 น. และในช่วงระหว่างเดือนตุลาคมถึงสิ้นเดือนมีนาคมจะให้บริการตั้งแต่ 7.00 น. ถึง 18.00 น. ส่วนนี้พื้นที่ส่วนอื่น ๆ ที่ไม่ได้อยู่ในสวนหลักจะให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงค่ะ

ค่าเข้าชมสำหรับสวนหลักของสวนไคราคุเอ็นอยู่ที่ 300 เยนสำหรับผู้ใหญ่หนึ่งคน ส่วนอาคารโคบุนเตอยู่ที่ 200 เยนสำหรับผู้ใหญ่หนึ่งคน สำหรับเวลาทำการของอาคารโคบุนเต ช่วงระหว่างเดือนเมษายนถึงสิ้นเดือนกันยายนจะให้บริการตั้งแต่ 9.00 น. ถึง 17.00 น. และในช่วงระหว่างเดือนตุลาคมถึงสิ้นเดือนมีนาคมจะให้บริการตั้งแต่ 9.00 น. ถึง 16.30 น. ทั้งนี้จะปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 29 ถึง 31 ธันวาคมค่ะ (ข้อมูล ณ เดือนพฤศจิกายน 2019)

การเดินทางไปยังสวนไคราคุเอ็น

หากต้องการจะไปยังสวนไคราคุเอ็น ให้ขึ้นรถบัสจากสถานี JR Mito ซึ่งก็มีหลายเส้นทาง แต่เราจะขอแนะนำเฉพาะเส้นทางที่เข้าใจง่ายที่สุดค่ะ

จากสถานี JR Mito ที่ทางออกทิศเหนือป้ายรถประจำทางหมายเลข 6 โดยสารรถบัส Kanto Railway Bus คันที่มุ่งหน้าไปยัง Kairakuen ไปลงที่ป้ายสุดท้าย ป้าย Kairakuen ใช้เวลานั่งรถบัสประมาณ 20 นาที หลังจากลงที่ป้ายแล้วจะใช้เวลาเดิน 10 นาทีไปยังประตูทางเข้าออกทิศตะวันออกของสวนค่ะ

ข้อมูลสถานที่แนะนำ

  • ชื่อสถานที่: ไคราคุเอ็น (偕楽園 / Kairakuen)
  • ที่ตั้ง: 1-3-3 Tokiwacho, Mito-shi 〒310-0033
  • การเดินทาง: สถานี JR Mito→[รถบัส Kanto Railway Bus] ประมาณ 20 นาที→ป้ายรถเมล์ "Kairakuen"...เดินประมาณ 10 นาที
  • Wi-Fi: มีให้บริการ (IBARAKI FREE Wi-Fi)
  • ภาษา: อังกฤษ
  • เครดิต: ไม่รับชำระด้วยบัตรเครดิต

หัวข้อเรื่อง

Survey[แบบสอบถาม] กรุณาบอกเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในญี่ปุ่น







Recommend